มนต์ไอยคุปต์
“ฮ้ายยย!! นี่พวกเจ้าทำอันใดลงไปรู้รึไม่ เกิดพระพาหา (แขน) หัก พระปฤษฎางค์ (หลัง) หัก พระศอ (คอ) หัก ขึ้นมาจะทำเยี่ยงไร” ติติเต้นแร้งเต้นกาโวยวายหนักกว่าเก่า ก่อนจะรีบเข้าไปช่วยเจ้าชายของตน เด็กทั้งสามจึงใช้โอกาสนั้นวิ่งหนีไปได้
“ไปพูดเยี่ยงนั้น ชาวบ้านก็จักกลัวข้ากันหมด บอกแล้วมิใช่รึว่าอย่าให้ใครรู้” เจ้าชายซาร์ทรงส่ายพระพักตร์เอือมระอาพระสหาย
...วันนี้ก็เป็นเหมือนเช่นหลายๆ วันในรอบปีที่เจ้าชายซาร์ทรงเสด็จประพาสนอกวังพร้อมติติ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ความเป็นอยู่ และสุขทุกข์ของราษฎรแทนองค์ฟาโรห์ โดยปลอมพระองค์เป็นนักเดินทาง ฉลองพระองค์ในชุดเสื้อคลุมกับผ้าโสร่งลักษณะคล้ายกางเกงสีขาวสะอาดแบบเรียบง่ายไร้ลวดลายใดๆ เหมือนกันกับติติ และสะพายย่ามสีขาวซึ่งภายในบรรจุเหรียญทองไว้แจกจ่ายแก่ผู้ทุกข์ยากด้วย
“ท่านทั้งสองเป็นอันใดมากรึไม่?” ใครคนหนึ่งร้องถาม ระหว่างที่เดินแกมวิ่งเข้ามาหาเจ้าชายและพระสหาย แสงแดดยามใกล้เที่ยงที่เจิดจ้าและแยงตา ทำให้ทั้งคู่มองเห็นเจ้าของคำถามไม่ถนัดตานัก กระทั่งคนคนนั้นเข้ามาคุกเข่าลงตรงใต้ต้นไม้ “เจ็บที่ใดอันใดบ้างรึไม่ ข้าจักไปพาหมอยามาให้”
ทันทีที่เจ้าชายซาร์ทรงทอดพระเนตรเห็นใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า พระองค์ก็ทรงชะงักไปด้วยพระอาการตกตะลึง เนิ่นนานจนติติต้องเป็นฝ่ายตอบคำถามของหญิงสาวแทน