อนุชายาบรรณาการ(Boy Love)
### 4.2
“ทะ ท่านอ๋องมีขันทีเจียงจ้านอยู่แล้ว มิใช่หรือ?”
คุณชายเหงื่อผุดเต็มหน้าผากมน
“ข้าอยากให้ภรรยาอาบน้ำให้”
ถ้อยคำสั้นๆ ของชินอ๋อง ทำให้คุณชายไม่สามารถบิดพลิ้ว
*
*
ขันทีเจียงจ้านอายุประมาณยี่สิบแปดปี กิริยาห้าวหาญองอาจรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงบึกบึนไม่เหมือนขันทีแม้แต่นิดเดียว เขาเข้ามาช่วยถอดอาภรณ์ของชินอ๋องออก จนเหลือเพียงเสื้อและกางเกงตัวใน เท่านั้นยังไม่พอ ยังมาจัดการลอกคราบคุณชายจนเหลือเพียงเสื้อกับกางเกงตัวในที่เนื้อผ้าบางๆ สีขาวเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า
“พระชายารองจะได้ช่วยท่านอ๋องอาบน้ำได้สะดวกขอรับ”
แล้วจัดแจงดุนหลังคุณชายให้เดินตามชินอ๋องเข้าไปในห้องอาบน้ำ
ห้องอาบน้ำส่วนตัวของชินอ๋องที่อยู่ติดกับห้องนอนใหญ่มีประตูทะลุถึงกันนั้นกว้างขวางกว่าห้องอาบน้ำที่จ้าวชิงเฟิงใช้มาก อ่างอาบน้ำก็ใบใหญ่มาก ขนาดผู้ชายตัวโตๆ ลงไปนั่งแช่ได้สี่ห้าคนสบายๆ
ชินอ๋องถอดเสื้อผ้าชั้นในออกจนหมด อวดเรือนร่างแข็งแรงกล้ามเนื้อสวยงาม ร่างสูงใหญ่ทว่าไม่เทอะทะออกจะเพรียว เขาล้างเท้าแล้วก้าวเข้าไปแช่ตัวในอ่างด้วยทีท่าแสนสบาย ก่อนจะหันมาสั่งคุณชาย “เจ้าก็เข้ามาด้วยสิ”
“ข้า...” จ้าวชิงเฟิงแทบจะหาเสียงตัวเองไม่เจอ ดวงหน้างดงามอ่อนเยาว์ซีดแล้วแดง แดงแล้วซีด
“ถ้าอาย ก็ไม่ต้องถอดเสื้อ” ชินอ๋องขัดขึ้นด้วยสีหน้าว่า...ข้าใจกว้าง “ลงมาในอ่างทั้งเสื้อผ้าก็ได้ จะได้มาช่วยถูหลังให้ข้าถนัดๆ”
คุณชายจึงล้างเท้าแล้วก้าวเข้าไปแช่ตัวในอ่างอาบน้ำพร้อมเสื้อผ้า
“ฟูเหริน เจ้านั่งกางขาออกหน่อย” ชินอ๋องสั่ง
คุณชายอึ้งไปครู่หนึ่ง
“เร็วสิ” ชินอ๋องเร่ง
คุณชายเม้มปากแน่นอย่างทำใจ ก่อนจะทำตามคำสั่งอย่างไม่กล้าขัดขืน
ชินอ๋องก็ขยับมานั่งใกล้ๆ ตรงกลางหว่างขาของคุณชายโดยนั่งหันหลังให้ คุณชายลอบถอนหายใจแผ่วเบา แม้จะแผ่วเบามาก ทว่าชินอ๋องที่มีวรยุทธสูงยังคงได้ยิน ก็ลอบยกยิ้มมุมปาก “ถูหลังให้ข้า”
คุณชายเอื้อมมือเรียวงามหยิบผ้าที่โต๊ะเล็กวางของใช้ในการอาบน้ำที่ตั้งชิดขอบอ่างมาชุบน้ำแล้วถูหลังแกร่งตรงหน้าอย่างเคอะเขิน จึงเห็นว่าแผ่นหลังกว้างและแข็งแกร่งมีรอยบาดแผลจากการออกรบเป็นรอยแผลเป็นอยู่หลายแห่ง
“ท่านอ๋องเคยบาดเจ็บหลายครั้งหรือขอรับ?” คุณชายพึมพำ
“อืม” ชินอ๋องรับคำในลำคอเบาๆ ก่อนจะเล่าว่า “บางครั้งก็สาหัส บางครั้งก็ไม่กระไรนัก แต่ครั้งที่ข้าจดจำได้แม่นยำที่สุด...ก็คือครั้งที่ข้าหลบหนีการไล่ล่าของทหารเข้าไปด้านหลังของพระราชวังแคว้นเป่ยเมื่อห้าปีก่อน”
ชินอ๋องเล่าไปพลาง ใช้มือถูตัวด้านหน้าของตนเองไปพลาง
“ที่นั่น...ข้าพบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาช่วยชี้ที่ซ่อนตัวให้ข้า ข้าจดจำเขาได้อย่างแม่นยำยิ่ง เขามีไฝแดงเม็ดเล็กๆ ที่ใต้หางตาซ้าย”
คุณชายยกมือข้างหนึ่งขึ้นแตะเบาๆ ที่เม็ดไฝบนดวงหน้าของตน “ท่านอ๋องหมายถึงข้าน้อยหรือขอรับ?”
“อืม”
“แต่ข้าน้อยจำอะไรไม่ได้เลย” คุณชายส่ายหน้า
“ข้าจำเจ้าได้ก็พอ” ชินอ๋องเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ถึงเวลาจะผ่านไปห้าปีแล้ว แต่หน้าตาของเจ้าก็ยังคงเค้าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง...ถ้าสามปีก่อนข้ายอมพบหน้าเจ้าสักครั้ง เจ้าก็คงไม่ต้องทนทุกข์ยากลำบากอย่างนี้”
“.....”
“แต่เรื่องที่ผ่านมาแล้ว ก็คงไม่สามารถย้อนกลับคืนไปแก้ไขได้ เอาเป็นว่านับจากนี้ไปข้าจะชดเชยให้เจ้าอย่างเต็มที่ ไม่ว่าเจ้าอยากได้อะไร ข้าก็จะหามาให้ทุกอย่าง”
“สิ่งที่ข้าน้อยต้องการ...”
“ยกเว้นอิสรภาพ” ชินอ๋องกล่าวแทรกขึ้นทันที
“เพราะเหตุใดขอรับ?” คุณชายตัดสินใจถาม
“เพราะเจ้าจะมีอันตราย” น้ำเสียงที่ตอบหนักแน่นจริงจัง
“.....”
“เจ้าไม่เชื่อ?”
“.....”
แล้วข้าสมควรจะเชื่อหรือ?
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบงัน ชินอ๋องก็เปลี่ยนเรื่อง “มา...ข้าช่วยถูหลังให้เจ้าบ้าง” แล้วหันกลับมาจะถอดเสื้อของคุณชาย
คุณชายรีบกำคอเสื้อเอาไว้แน่น “มะ ไม่ต้อง เมื่อตอนสายข้าน้อยอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับ”
*
*
ที่ตำหนักพระชายา...
“ข้าเกลียดมัน!”
พระชายาตู้จินเหลียนฉีกทึ้งผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมเนื้อดีจนขาดเป็นริ้วๆ ด้วยความโกรธเกรี้ยว แท้จริงแล้วนางอยากจะฉีกเนื้อของจ้าวชิงเฟิงมากกว่า แต่บัดนี้นางทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะชินอ๋องยกย่องเขาเป็นพระชายารอง แม้จะเป็นรองนาง แต่ใกล้จะเหยียบหัวนางเต็มทีแล้ว ซ้ำยังให้อยู่ตำหนักใหญ่ จากข่าวที่สาวใช้นำมารายงาน...เขาได้ย้ายจากห้องข้างเข้าไปอยู่ในห้องนอนของชินอ๋องด้วย
“มื้อเย็นก็ได้ร่วมโต๊ะอาหารกับท่านอ๋อง ออดอ้อนออเซาะซะยิ่งกว่านางโลมในหอโคมเขียวเสียอีกเจ้าค่ะ” อาซานสาวใช้ที่คาบข่าวมาบอกนางนั้นต่อเติมเสริมแต่งทั้งๆ ที่ไม่ได้เห็นอะไรกับตา เพื่อยั่วยุให้พระชายาอารมณ์ขุ่นมัวยิ่งขึ้น
“แล้วอาการบาดเจ็บของเจ้าคนสารเลวนั่นหนักเบาแค่ไหน?” พระชายาขบฟันถามเสียงเครียด
“บาดเจ็บ...บาดเจ็บที่ไหนกันละเจ้าคะ” นางจีบปากจีบคอ “บ่าวเห็นเขาลุกขึ้นมากินอาหารชั้นเลิศ ซ้ำยังดื่มรังนกตุ๋นโสมบำรุงบำเรอกันขนานใหญ่...ที่ว่าบาดเจ็บนั้น น่าจะเป็นการเสแสร้งเรียกร้องความสนใจจากท่านอ๋องมากกว่าเจ้าค่ะ”
“มารยา!” พระชายาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างแค้นเคือง
“เจ้าค่ะ...มารยาอย่างแท้จริง” นางใส่ไฟต่อ “บ่าวเคยได้ยินแต่มารยาสตรี นี่ก็เพิ่งจะเคยพบเคยเห็นว่า บุรุษก็มารยาสาไถยได้ร้ายกาจเช่นนี้”
“เอาล่ะ...เจ้ารีบกลับไปซะ และคอยจับตาดูเอาไว้ ถ้าเขาทำอะไรผิดพลาดจงรีบมารายงานข้า” พระชายาเอ่ยพลางส่งถุงใส่เงินให้อาซาน ซึ่งนางก็รีบรับไปอย่างดีอกดีใจ
“เจ้ากลับไปได้แล้ว เดี๋ยวผู้อื่นจะสงสัยเอาได้” สาวใช้คนสนิทของพระชายากล่าว
“เจ้าค่ะ” อาซานรับคำยอบกายคารวะพระชายาแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว
_________