มิติมหัศจรรย์
ใจนำเรื่องนี้ขึ้นทูลท้าวธุราชให้ทรงช่วยระงับเหต
้สึกว่าไม่อาจเข้าใจความนึกค
นะเพคะ…เสด็จพ่อก็เคยตรัสว่าทรงเมตตาเขามิใช่หรือ แล้วอีกอย่าง…เขาเป็นผู้ช่วยชีวิตของลูกไว
นกลางคัน ก่อนที่พระธิดาจะทูลจบประโยค ทำให้เ
จะเป็นการให้ร้ายแก่เขายิ่งขึ้น เพราะการถูกเหยียดหยามว่าขลาดเขลา สำหรับลูกผู้ชายแล้วมันน่าอับอายยิ่งเ
รีได้รับบาดเจ็บหรือล้มตายนี่เพค
ทรานครนี้ นอกจากเสด็จพ่อแล้วก็ไม่มีผู้ใดจะสามารถเอาชนะท่านขุนพลได้
ักตร์ยิ้มละไม ด้วยทรงนึกขันที่พระธิดาทูลอย่างประจบเอาใ
พวกเขาอยากจะประลองฝีมือกัน พ่อก็จะให้พวกเขาได้ประลองสมใจ แ
ารสิขรีกับวิรุณจึงมีขึ้นอย่างเป็น
บเป็น
มินฝ่ายตรงข้ามต่ำเกินไปและเพิ่งประจัก
จ์ผู้ระอุอุ่นไปด้วยเลือดนักรบรู้สึกพรั่นพรึงแม้แต่
แน่…สิขรีคิดในใจพร้อมกับร่ายตรีด้
าวิทยาธรหนุ่ม
ี้จะประมาทไม่ได้ ด้วยสนามการประลอง
เข้าปะทะกันซึ่งหน้าด้วยวิชาการต่อสู้
อแต่อย่างไร…ฝ่ายไหนทำพลาดเพียงน
บตานั
ข้ารับอย่างระมัดระวังพร้อมกับระลึกถึ
ันหลากหลายในบรรยากาศที่เริ่มขมุกขมัว ก็ยังไม่มีทีท่าว่าฝ่ายใดจะสามารถคว้าชัยชนะไว้ได้ ขุนพลสิขรีจึงเ
ิกตัวกลับ เสือกกระขรรค์เ
ลงในพื้นหิน เป็นขณะเดียวกันกับขุนพลสิขรีรู้สึกถึงรัง
ยสัญชาติญาณความเคยชินทำให้เขาชักตร
ค์กลับ ร่างของเขาจึงตกเป็นเป้าของด้ามต
นเชิงหากวิรุณคิดปลิดชีวิตของตนละก็ ขณะนี้ผู้ที่ล้มลงคงไม
ร้อมกับยื่นมือดึงร่างที่กำลังจะลุกให้ยืนขึ
ะท่านขุนพล…เพียงแต่ท่านหลงกลหลอกล่อ
านที่อุตส่าห์คิดรักษาหน้าให้เรา… เข้าไปกราบทูลเหนือหัวตาม
าวว่า “เช่นนี้เถอะ…ให้องค์เหนือหัวทรงเป็
แต่แววตาที่เขามองตอบวิรุณได้เห็
ระลองแล้ว ในขณะที่ปลายพระขรรค์
รวดเร็ว และพระองค์ก็พอจะเข้าพระทัยความต้อ
จตนาของวิรุณอย่างชัดแจ้งอยู่ จึงประกาศอย่างที่ผู้ดูการประลองอยู่รอ
้ได้ยุติลงแล้ว ผู้ได้ช