เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา
ผู้เขียน:Roana Javier
หมวดหมู่โรแมนติก
เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา
เมื่อเห็นเจ้าสาวของเขากำลังขมวดคิ้วอยู่ ลู่เหยี่ยนก็มองตามสายตาของเธอไปที่นาฬิกาของเขา เพียงครู่เดียวเขาก็รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ “ของก๊อปน่ะ เพื่อนผมมันขายอยู่แถวตลาดล่าง” เขากระซิเบา ๆ ข้างหูเธอ เพื่อคลายข้อสงสัยของเธอ “ผมก็แค่ใส่มาให้ดูเนี้ยบเฉย ๆ ไม่คิดว่าคุณจะสังเกตเห็นได้เร็วขนาดนี้”
ลู่เหยี่ยนถอดนาฬิกาออก ก่อนจะใส่มันลงในกระเป๋าเสื้อของเขา
“เหมือนของจริงจังค่ะ” ชูจี้ยิ้มให้เขา ก่อนจะถอยห่างเขาเล็กน้อย แล้วเอามือขึ้นปิดหูที่ร้อนผ่าวของเธอ
ลู่เหยี่ยนเข้ามาใกล้เธอมาก จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขา
คิดไปคิดมา คนที่หากินไปวัน ๆ อย่างเขา จะรู้จักเพื่อนพ้องที่ขายของก๊อปเกรดเอก็คงจะเป็นเรื่องปกติ
เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอตกใจแทบแย่ เธอคิดว่าลู่เหยี่ยนไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายมา ถึงได้มีเงินซื้อของหรู ๆ แบบนี้ได้
ลู่เหยี่ยนหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาได้ยินมาว่าลูกสาวตระกูลหลิน เปลี่ยนแฟนแทบจะทุกเดือน และเธอมักจะออกไปเที่ยวกลางคืนบ่อย ๆ ทั้งยังควงคนโน้นคนนี้ไม่ซ้ำหน้า ความเขินอายของหญิงสาวตรงหน้าทำให้เขารู้สึกแปลกใจกับคำบอกเล่าที่เคยได้ยินมา
“ไหน ๆ เจ้าบ่าวก็มาแล้ว ทำไมงานแต่งงานยังไม่เริ่มสักทีล่ะคะ?” เสียงหวาน ๆ ดังแว่วมาแต่ไกล
ชูเสวควงแฟนหนุ่มเดินเข้ามา แล้วยิ้มให้พวกเขา “ไหน ๆ เจ้าบ่าวก็มาถึงแล้ว ฉันขอแนะนำแฟนฉันให้รู้จักหน่อยนะคะ” เธอจงใจเน้นเสียงสูง “โจวจือหยวน ลูกชายคนโต ตระกูลโจวค่ะ เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว อนาคตถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกพวกเราได้นะคะ”
จือหยวนก้มหน้าก้มตา เขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาชูจี้เลยสักนิด
ชูจี้ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ที่เห็นจือหยวนมากับน้องสาวของเธอ เธอจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขา “ค่ะ เราควรจะรู้จักกันสักหน่อย แต่ดูเหมือนอาทิตย์ที่แล้ว น้องเขยฉันไม่ได้หน้าตาแบบนี้หนิคะ ไม่รู้ว่าอาทิตย์หน้าจะเปลี่ยนคนอีกรึเปล่านะคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของจือหยวนก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
ชูเสวยิ้มเจือน ๆ แล้วหันไปถลึงตาใส่ชูจี้ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “ถ้าไม่รังเกียจ ฉันช่วยฝากงานให้คุณลู่เหยี่ยน เข้าทำงานที่บริษัทของจือหยวนได้นะคะ ถ้าไม่ถนัดงานด้านเทคนิด ไปทำงานบริการแทนก็ได้ค่ะ อย่างงานทำความสะอาด กวาดพื้นถูพื้น อะไรประมาณนี้ ถึงยังไงซะได้ทำงานในออฟฟิศก็ยังดีกว่าออกไปตะลอน ๆ ทำงานข้างนอกนะคะ”
ชูจี้เลือบไปมองลู่เหยี่ยนอย่างเป็นห่วง น่าแปลกที่เขาไม่มีทีท่าสะทกสะท้านกับคำดูถูกเหยียดหยามพวกนี้เลย เขาเพียงแค่ยิ้มออกมาเล็กน้อย และโบกมืออย่างไม่ใส่ใจนัก “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับ แต่ผมชอบเที่ยวเล่นมากกว่า”
ชูเสวลากจือหยวนกลับไปนั่งที่ด้วยความขุ่นเคือง เพราะท่าทีของเขาไม่เป็นไปตามที่เธอหวังเอาไว้
ไม่นานนัก บาทหลวงก็เดินทางมาถึง พิธีแต่งงานจึงเริ่มขึ้น
ลู่เหยี่ยนพาชูจี้กลับไปที่บ้านหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่งในแถบชานเมือง
ที่นี่ทั้งเล็ก ทั้งเก่า และยังทรุดโทรม แต่อย่างน้อยพวกเขาก็มีบ้านให้อยู่ บ้านทั้งหลังดูว่างเปล่า มันไม่มีอะไรเลยนอกจากของใช้ที่จำเป็นเท่านั้น เธอรู้สึกว่ามันเพิ่งจะถูกนำมาจัดวางไว้ เพื่อการแต่งงานเร็ว ๆ นี้นี่เอง ลู่เหยี่ยนมีรูปร่างสูงโปร่ง อกผาย ไหล่ผึ่ง เดิมทีที่บ้านก็ไม่ได้กว้างอะไรนัก แต่พอเขาเข้ามาข้างใน บ้านหลังนี้ก็ดูแคบลงทันตา
เมื่อเห็นดังนี้ชูจิ้งก็รู้สึกว่า ลู่เหยี่ยนนั้นยากจนจริง ๆ
“นี่บ้านของผม อยู่แก้ขัดไปก่อนนะ” ลู่เหยี่ยนยักไหล่สบาย ๆ เขาดูไม่เขินอายกับบ้านตัวเองเลยสักนิด
“ค่ะ บ้านหลังเล็กแต่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี เราอยู่กันแค่สองคนก็พอดีนะคะ”
ชูจี้พูดไปตามที่รู้สึก แม้ว่าบ้านจะดูโทรมไปหน่อย แต่ลู่เหยี่ยนก็ดูแลมันอย่างดี ลานบ้านดูเรียบร้อย บ้านก็ดูสะอาดสะอ้าน แต่ถึงอย่างนั้น ที่นี่กลับไม่ทำให้มีความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านสักเท่าไร อาจเป็นเพราะลู่เหยี่ยนไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่ มันจึงดูว่างเปล่าเกินไป
ชูจี้กวาดสายตาไปรอบ ๆ บ้าน เธอเห็นว่าลู่เหยี่ยนถอดเสื้อสูทออกแล้ว เขาวางมันไว้บนเก้าอี้ไม้ เขากำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาออก เธอมองสำรวจร่างกายของเขา และเห็นกล้ามเนื้อที่กระชับภายใต้เสื้อตัวนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะออกกำลังกายเป็นประจำ
เมื่อรู้สึกถึงการจ้องมองของเธอ ลู่เหยี่ยนก็หันไปหาเธอ และเห็นแววตาที่ตื่นตกใจของเธอ เขาหยุดการกระทำของตนเอง แล้วเดินเข้ามาหาเธอ “คุณคงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปอาบน้ำก่อนไหมครับ?” เขามองไปที่เธอ ก่อนจะเอ่ยถาม