แสนร้าย แสนรัก
ผู้เขียน:Adolf Dunne
หมวดหมู่โรแมนติก
แสนร้าย แสนรัก
เฉียนเฉียนกัดฟันกรามแน่น และจ้องมองไปที่ชิงซูอย่างโกรธแค้น
ชิงซูไม่สนใจเธอ และหันไปพูดกับทนายยี่ว่า
“ในเมื่อเฉียนเฉียนไม่ยอมโทรแจ้งตำรวจ งั้นทนายยี่ ฉันรบกวนคุณให้โทรหาตำรวจ แล้วบอกให้พวกเขามาที่นี่ที”
เมื่อหม่านหลันได้ยินดังนั้น เธอจึงรีบพูดเบา ๆ ว่า “ชิงซู เธออย่าเพิ่งโกรธสิ เฉียนเฉียนเป็นคนไม่รู้เรื่อง ถึงหยิบสร้อยคอของเธอเอาไป เราทุกคนต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกัน และเฉียนเฉียนก็เป็นน้องสาวของเธอ ถ้าถึงขนาดต้องขึ้นโรงพัก มันจะไม่ดูเป็นเรื่องตลกสำหรับคนอื่น ๆ เหรอ”
เธอก้มศีรษะลง พร้อมขมวดคิ้วต่ำ แล้วแสร้งทำทีเป็นแม่ที่ใจดี และอ่อนโยน
ชิงซูจำท่าทางแบบนี้ของหม่านได้ขึ้นใจ มันเป็นแค่ใบหน้าเสแสร้งที่น่าขยะแขยง ซึ่งนั่น มันทำให้ไห่เฉิงหลงใหล และเมินเฉยต่อเธอที่เป็นลูกสาวของเขา แล้วปล่อยให้สองแม่ลูกนั่นมาวางอำนาจต่อหน้าของเธอ
ชิงซูไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเพียงแค่นั่งเงียบ ๆ อยู่บนโซฟา
เธอรู้จักคนอย่างหม่านหลันดี เธอนั้นเป็นคนเจ้าเล่ห์ และเสแสร้งยิ่งกว่าเฉียนเฉียนเสียอีก เธอมักจะคอยพูดจายุแยงให้ไห่เฉิงฟังเสมอ มันจึงไม่ง่ายที่จะให้หม่านหลันแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ดังนั้น เธอจึงไม่รีบร้อน
เวลาผ่านไปสักพัก หม่านหลันอดทนไม่ไหวที่ชิงซูไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักที เธอจึงอดไม่ได้ที่จะกัดฟันแน่น และความดุร้ายก็ฉายแวบผ่านเข้ามาในดวงตาของเธอ เธอครุ่นคิดในใจ
‘ไม่กี่วันก่อน เฉียนเฉียนบอกว่า ชิงซูดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เดิมทีเธอก็ยังไม่เชื่อ แต่ทว่า เมื่อเห็นกับตาตัวเองในวันนี้ นังนั่นเปลี่ยนไปจริง ๆ! เธอกล้าดีกลับมาทำทีวางตัวเป็นคุณหนูใหญ่ของบ้านหลังนี้ และยังพูดจาฉะฉานแบบนั้นอีก!’
ในที่สุด ทนายยี่ก็พูดขึ้นมา และทำลายความเงียบในตอนนั้น “คุณชิงซู ฉันทำการแจ้งตำรวจเรียบร้อยแล้ว”
“ยูชิงซู! เธอกล้าเหรอ!” ดวงตาของเฉียนเฉียนเบิกกว้างขึ้น และกรีดร้องออกมาเสียงดัง
“แล้วทำไมฉันต้องไม่กล้าด้วยล่ะ?” ชิงซูเงยหน้าขึ้น สายตาของเธอเรียบเฉย
“ชิงซู...” เฉียนเฉียนโกรธมาก เธอไม่สามารถควมคุมสติได้อีกต่อไป ดวงตาของเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอกัดฟันแน่น แล้วหยิบแจกันบนโต๊ะมาขว้างใส่ชิงซู
ด้วยความรวดเร็ว หม่านหลันเอื้อมมือออกไปหยุดเธอ แต่กระนั้นมันก็ไม่ทันเสียแล้ว เธอใจคอไม่ดี เพราะถ้าเฉียนเฉียนลงมือกับชิงซู และทำให้เธอบาดเจ็บขึ้นมาจริง ๆ เมื่อตำรวจมาถึง พวกเขาคงจะหาข้อแก้ตัวอีกไม่ได้ และพวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน!
เมื่อเห็นดังนี้สีหน้าของทนายยี่ก็เปลี่ยนไปทันที เขาไม่คิดว่า เฉียนเฉียนจะกล้าทำร้ายคนอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้
เขาเกือบจะไปยืนบังอยู่ข้างหน้าของชิงซูโดยไม่รู้ตัว และทันใดนั้น เขาก็นึกถึงคำกำชับของชิงซูได้ก่อนที่พวกเขาจะเข้าประตูมา ดังนั้น เขาจึงรีบถอยหลังกลับทันที และหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
ริมฝีปากของชิงซูกระตุกขึ้น และขณะนั้น ทุกคนต่างก็กลั้นหายใจมองดูแจกันที่กำลังพุ่งเข้าหาเธอ
“เพล้ง!”
ชิงซูลุกขึ้นยืน และในขณะที่แจกันกำลังจะเข้ามาใกล้เธอ เธอรีบคว้าหมอนที่อยู่บนโซฟาที่อยู่ข้างหลังเธอขึ้นมา แล้วโยนไปที่แจกัน จากนั้น กระโดดขึ้นเตะไปที่หมอนใบนั้นทันที
การเคลื่อนไหวในครั้งเดียวนั้นมันรวดเร็วมาก ยังไม่ทันที่ทุกคนจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร แจกันใบนั้นก็ไปโดนเข้ากับเฉียนเฉียนอย่างแรง
ใบหน้าของเฉียนเฉียนซีดเผือดในทันที
“กรี๊ด...” เฉียนเฉียนยกแขนขึ้นมาปิดหน้าเธอไว้ แล้วกรีดร้องออกมา โดยไม่ทันได้สังเกต เธอเดินเซไปชนกับชั้นวางต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังเธอ
“เพล้ง!”
ชั้นวางต้นไม้ล้มลงทันที มันล้มลงมาอย่างระเนระนาดเข้าด้วยกัน ในขณะที่เสียงกระถางต้นไม้ที่แตกก็ปะปนไปกับเสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวของเฉียนเฉียน
ยังไม่ทันที่ไห่เฉิงและหม่านหลันจะมีปฏิริยาตอบโต้อะไร พวกเขาก็หันหน้าไปหาเฉียนเฉียนทันที พวกเขารีบเข้าไปหาเฉียนเฉียน และร้องเรียกคนใช้เข้าไปช่วยเหลือ
ห้องนั่งเล่นที่ก่อนหน้านั้นยังคงเงียบอยู่ ทันใดนั้น ก็มีเสียงโวกเวกวุ่ยวายขึ้นมาทันที แต่กระนั้น ชิงซูยังคงมีสีหน้าที่เรียบเฉย เธอนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง และมองขึ้นไปที่ทนายยี่ ซึ่งกำลังตกตะลึง เมื่อเห็นเข้ากับฉากที่เหมือนโดมิโนล้มนี้ผ่านทางจอโทรศัพท์มือถือของเขา และกล่าวว่า
“ทนายยี่ คุณถ่ายไว้แล้วใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินเสียงของเธอ ทนายยี่ก็รู้สึกตัวทันที แต่ยังคงมีความตกตะลึงในดวงตาของเขา เขาพยักหน้า และกล่าวว่า “มันถูกถ่ายเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว”
“คุณ...คุณท่าน คุณผู้หญิง” น้าหลิวเดินเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก “ตำรวจ...ตำรวจมาแล้ว”
เฉียนเฉียนที่ได้รับบาดเจ็บจากโหลแก้วที่ตกลงมาจากชั้นวางต้นไม้ เธอหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เมื่อเธอได้ยินดังนั้น เธอก็ลืมความเจ็บปวดนี้ทันที แล้วคว้าแขนของหม่านหลันไว้ด้วยความตื่นตระหนก
“แม่……”
สีหน้าของหม่านหลันในขณะนั้นก็ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอลูบมือของเฉียนเฉียน เบา ๆ เพื่อส่งสัญญาณให้เธอไม่ต้องกังวล
นอกประตู ชายสองคนในชุดเครื่องแบบตำรวจก็เดินเข้ามา “ในพวกคุณ ใครเป็นคนโทรแจ้งตำรวจ?”
“ฉันเอง” ทนายยี่วางโทรศัพท์ในมือ แล้วก้าวออกไปข้างหน้า
ในขณะนั้น ตำรวจก็เหลือบมองดูความยุ่งเหยิงในห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้าจริงจัง เขาขมวดคิ้ว และพูดขึ้นมาว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เฉียนเฉียนเอามือขึ้นมาจับแขนที่บาดเจ็บของเธอ และชี้ไปที่ชิงซู พลางกล่าวว่า “เป็นเธอ! คุณตำรวจ เธอตีฉันด้วยแจกัน เธอตั้งใจทำร้ายฉัน คุณดูนี่สิ บาดแผลที่อยู่บนร่างกายของฉัน เธอเป็นคนทำ!”
ในขณะนั้น ผมของเฉียนเฉียนยุ่งเหยิง สภาพของเธอแทบดูไม่ได้ แต่ในขณะที่ชิงซูกลับไม่เป็นอะไรเลย ดังนั้น เมื่อมองแวบแรก มันก็อาจจะดูเหมือนว่า สิ่งที่เฉียนเฉียนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง
สายตาของตำรวจที่มีต่อชิงซูเปลี่ยนไปในทันที ดูเหมือนว่า ทุกอย่างจะถูกสรุปได้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องฟังคำพูดของอีกฝ่าย
เมื่อทนายยี่สังเกตเห็นถึงสีหน้าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เขาก็กล่าวว่า “คุณตำรวจทั้งสอง...”
“คุณตำรวจ” จู่ ๆ หม่านหลันก็พูดขัดทนายยี่ขึ้นมา เธอเสแสร้งทำเป็นสุภาพสตรีชั้นสูงตั้งแต่แรก เธอก้าวไปข้างหน้า และยิ้มอย่างสุภาพ “ก็แค่เด็กสองทะเลาะกัน รบกวนพวกคุณแล้วที่ต้องมาไกลถึงที่นี่ ไม่งั้น ฉันให้ค่าเสียเวลากับพวกคุณดีไหม คุณสองคนกลับไปเถอะ อย่ามาเสียเวลาในการทำงานของพวกคุณอยู่ที่นี่เลย”
พูดจบ หม่านหลันก็หันไปเหลือบมองน้าหลิว น้าหลิวเองก็รู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว และส่งเงินในกระเป๋าให้ตำรวจทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองต่างมองหน้ากัน และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เราไม่สามารถรับเงินของคุณไว้ได้ เอาคืนไป!”
เขาพูดเน้นสามคำสุดท้ายอย่างเสียงดัง ทำให้น้าหลิวตกใจจนตัวสั่น
หม่านหลันรีบยิ้มขอโทษอย่างรวดเร็ว “ใช่ ๆ เป็นฉันที่ไม่คิดให้รอบคอบเอง มันรบกวนคุณสองคนจริง ๆ ที่ต้องเดินทางมาในครั้งนี้ แต่นี่เป็นเพียงการทะเลาะกันระหว่างพี่สาวน้องสาวธรรมดา ๆ ก็เท่านั้น มันไม่คุ้มเลยที่คุณสองคนจะมาเสียเวลาไปกับการจัดการเรื่องเล็กน้อยแบบนี้”
“แค่พี่น้องทะเลาะกันงั้นเหรอ?”
“ไม่...” เฉียนเฉียนได้ยินถึงเจตนาของตำรวจที่จะเข้าข้างเธอ เธอจึงต้องการหักล้างข้อกล่าวหา ในขณะเดียวกัน หม่านหลันจะไม่รู้ได้อย่างไรว่า เฉียนเฉียนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่กระนั่น ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลา! ถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่กระจายออกไป หลังจากนี้ เธอจะไปมองหน้าเหล่าคุณหญิงคุณนายคนอื่น ๆ ได้อย่างไร?
เธอจ้องเฉียนเฉียนด้วยหางตาของเธอ และใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม “ใช่ เด็กทั้งสองก็แค่ทะเลาะกันเท่านั้น”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง งั้น...” ไม่ใช่ว่า ตำรวจจะไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ แต่หม่านหลันได้พูดอย่างชัดเจนแล้วว่า เด็กทั้งสองแค่ทะเลาะกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจอีก เพราะเรื่องของครอบครัว พวกเขาคงไม่สามารถเข้าไปวุ่นวายอะไรได้
“คุณตำรวจ ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?” ชิงซูที่ไม่ได้พูดมาเป็นเวลานาน จู่ ๆ เธอก็ลุกยืนขึ้น เธอขมวดคิ้ว และจ้องไปที่พวกเขา
“ชิงซู!” ทันใดนั้น เสียงต่ำของไห่เฉิงก็ดังขึ้นมา “หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว!”