แสนร้าย แสนรัก
ผู้เขียน:Adolf Dunne
หมวดหมู่โรแมนติก
แสนร้าย แสนรัก
ไห่เฉิง ผู้ซึ่งไม่ได้พูดอะไรกับเธอเลยตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้าประตูมา แต่ทว่า ประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอกลับเป็นการบอกให้เธอหยุดสร้างปัญหา
ชิงซูหันไปมองไห่เฉิง และทันใดนั้น เธอก็หัวเราะเยาะเย้ยออกมา
ในตอนที่เฉียนเฉียนขว้างแจกัน จากหางตางของเธอ เธอมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ไห่เฉิงต้องการยืนขึ้น เพื่อหยุดเฉียนเฉียน แต่ทว่า เมื่อกำลังจะยืนขึ้น เขากลับนั่งลงไปเหมือนเดิม
และในที่สุด แจกันก็ตกลงมาแทบเท้าของเฉียนเฉียน ด้วยความตื่นตระหนก มันจึงทำให้เธอเซ และเมื่อไปโดนชั้นวางต้นไม้จนล้มลง ไห่เฉิงกลับยืนขึ้นมาอย่างรวดเร็วกว่าใคร ๆ จากนั้นรีบวิ่งเข้าไปจับเฉียนเฉียนไว้ในอ้อมแขน และเป็นโล่กำบังกั้นขวดแก้วที่กำลังตกลงมาใส่เธอ
อันที่จริง ในระหว่างทางมาที่นี่ เธอได้หวนกลับไปนึกถึงความทรงจำทั้งหมดของเธออีกครั้ง ในวันนี้ที่เธอรีบร้อนที่จากวิลล่าไป ดังนั้น เธอจึงคิดว่า สำหรับไห่เฉิง เธออาจจะพลาดช่วงเวลาอันอบอุ่นกับเขาไป
น่าเสียดาย ในการหวนนึกถึงความทรงจำของเธอ เธอกลับไม่พบความอบอุ่นใด ๆ จากไห่เฉิงที่มีให้เธอเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นการกระทำของไห่เฉิงก่อนหน้านี้ หรือว่า จะเป็นคำพูดที่เขาพูดขึ้นมาในตอนนี้ ทั้งหมดนี้จึงเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี
“คุณพ่อ ฉันแค่อยากถามคุณตำรวจเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจเท่านั้น ทำไมพ่อถึงต้องกังวลด้วยล่ะ?”
“แก……”
หลังจากได้ฟังที่หม่านหลันพูดก่อนหน้านี้ ตำรวจจึงเพียงรู้สึกว่า ชิงซูแค่กำลังจะสร้างปัญหา เขาจึงพูดขึ้นมาอย่างไม่อดทนว่า “คุณต้องการจะถามอะไร?”
ชิงซูหันกลับมา และยิ้ม ราวกับเด็กที่เชื่อฟัง
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แสนจะน่ารัก และแววตาใสซื่อ ตำรวจจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า เธอนั้นได้ทำร้ายใครจริง ๆ หรือเปล่า?
“คุณตำรวจ เจ้าของบ้านมีสิทธิไหมว่า ให้ใครสามารถเข้ามาได้ หรือใครไม่สามารถเข้ามาได้?” เธอพูดอย่างสบาย ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานของเธอ
“แน่นอน” ตำรวจขมวดคิ้ว เขาคิดว่า คำถามนั้นไร้ประโยชน์ และเสียเวลาอย่างมาก
“งั้น ถ้าเจ้าของบ้านไม่ยินยอมที่คนอื่นเข้ามา แบบนี้จะเรียกว่าอะไร? บุกรุกบ้านใช่ไหม? การโทรหาตำรวจจะช่วยได้ไหม?” เธอกระพริบตา และด้วยขนตางอนยาว มันจึงทำให้เธอดูสวย และบริสุทธิ์
“บุกรุกบ้านงั้นเหรอ? แน่นอนว่า ถ้าโทรหาตำรวจก็จะสามารถช่วยได้ คุณกำลังถามคำถามอะไรกันแน่! เสียเวลาเปล่า!” ความอดทนของตำรวจหมดลง
ชิงซูจึงดีดนิ้ว และกล่าวขึ้นมาว่า “ขอบคุณคุณตำรวจที่ช่วยชี้แจง งั้นต่อไป ฉันก็ขอให้คุณตำรวจช่วยฉันไล่พวกเขาออกไปให้ที”
ได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างตกตะลึง
หม่านหลันเป็นคนแรกที่กลับมารู้สึกตัว เธอกระตุกรีมฝีปากขึ้น และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ “ชิงซู เธอกำลังพูดถึงอะไร! หยุดล้อเล่นได้แล้ว ฉันรู้ว่า เธอไม่ชอบฉันกับเฉียนเฉียนมาตลอด เอางี้ ถ้าหากเธอไม่พอใจอะไร เธอก็บอกฉัน ฉันจะรับปากกับเธอ ครั้งนี้…… ฉันจะให้เฉียนเฉียนขอโทษเธอ ตกลงไหม? คุณตำรวจงานยุ่ง อย่าทำให้พวกเขาต้อง.....”
“น้าหม่านหลันไม่ต้องกังวล ฉันไม่มีทางลืมคำขอโทษของเธอหรอก” ชิงซูกล่าวด้วยใบหน้าที่เย็นชา
คำพูดของหม่านหลันถูกขัดขึ้นมาอย่างกระทันหัน
เห็นดังนั้น ในที่สุด เฉียนเฉียนก็อดทนต่อไปไม่ไหว เธอกัดฟันแน่น “ชิงซู! เธอมีสิทธิ์อะไรมาไล่พวกเราออกไปจากที่นี่! คนที่ต้องออกไปจากที่นี่ มันควรจะเป็นเธอมากกว่า!” หลังจากพูดจบ เฉียนเฉียนก็หันไปพูดกับตำรวจอีกครั้งว่า “เธอไม่ได้เป็นคนในครอบครัวของเรามาตั้งนานแล้ว พวกคุณเป็นตำรวจไม่ใช่เหรอ? เมื่อกี้คุณไม่ได้บอกเหรอว่า มันเป็นการบุกรุก? คนที่บุกรุกคือ เธอ! พวกคุณต้องไล่เธอออกไปเดี๋ยวนี้!”
“เฉียนเฉียน! หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว! บ้านนี้เป็นของพ่อของเธอ และนี่ก็พี่สาวของเธอ พ่อของเธอยังไม่ทันได้พูดอะไร ดังนั้น เธอไม่สามารถ.....” ดวงตาของหม่านหลันเป็นประกาย เธอรีบพูดเพื่อห้ามเฉียนเฉียน
เฉียนเฉียนหันไปมองไห่เฉิง ด้วยดวงตาสีแดงก่ำ “พ่อ หรือพ่อต้องการดูชิงซู รังแกฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ? พ่อดูแผลบนตัวของฉันสิ! เธอจะไล่เราออกไปทันทีที่เธอกลับมา เธอมีสิทธิ์อะไร!”
ใบหน้าของไห่เฉิงทั้งสับสน และโกรธ นี่เป็นเพราะตั้งแต่ที่ชิงซูกลับมา เธอก็ทำให้ทั้งครอบครัววุ่นวาย และเมื่อตอนนี้ เขาได้ยินเสียงสะอื้นของหม่านหลัน และเห็นเข้ากับบาดแผลบนร่างกายของเฉียนเฉียน เขาจึงอดโกรธเคืองไม่ได้และพูดขึ้นมาว่า
“ยูชิงซู ออกไปจากที่นี่ซะ! ที่นี่ไม่ต้อนรับเธอ!”
เธอได้ยินคำพูดนี้อย่างชัดเจน ชิงซูรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เจ็บปวด และเธอก็รู้สึกเศร้ามากขึ้น
ความรู้สึกนี้ไม่ใช่ของเธอ ชิงซูขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างคาดไม่ถึง และครุ่นคิดอยู่ในใจ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเข้าใจ เฉียนเฉียนก็เอื้อมมือมาลากเธอออกไป
ดวงตาของชิงซูทรุดลง เธอจับข้อมือของเฉียนเฉียนไว้ และเพิ่มแรงในมือของเธอ จากนั้นทำการพับหลังมือของเฉียนเฉียน
“โอ๊ย...” เฉียนเฉียนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อได้ยินเสียงกระดูกขยับที่ข้อมือของเธอ
“ยูชิงซู!” ไห่เฉิงตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธจัด
ในขณะนั้น ใบหน้าของตำรวจทั้งสองดูมืดมนมาก พวกเขาคิดไม่ถึงว่า ชิงซูจะกล้าทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าพวกเขาจริง ๆ ! และความสงสัยก่อนหน้านี้ที่พวกเขาตั้งข้อสังเกตไว้อย่างคลุมเครือก็หายไปทันที
ชิงซูปล่อยมือจากเธอ และมองดูเธออย่างเย็นชา จากนั้นหันกลับไปพูดกับตำรวจว่า “คุณตำรวจ เมื่อกี้นี้ พวกคุณก็เห็นแล้วว่า เธอกำลังจะทำร้ายฉัน และฉันก็แค่ป้องกันตัว แบบนี้ไม่น่าจะผิดใช่ไหม?”
“คุณทำให้ข้อมือของคนอื่นหัก แบบนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ!” สีหน้าของตำรวจมืดลง และทำท่าทางจะก้าวไปข้างหน้า เพื่อเข้าไปจับกุมชิงซู
ถ้าเขาไม่ทำการสั่งสอนชิงซูสักบทเรียนในเวลานี้ เขาก็คงจะไร้ประโยชน์เกินไปในฐานะที่เป็นตำรวจ!
ชิงซูเพียงยิ้มเบา ๆ และทนายยี่ก็ยื่นแขนยาวออกไป เพื่อหยุดเขา และก้าวเข้ามายืนต่อหน้าเธอ “ตามมาตราที่ 20 ของกฎหมายอาญา ว่าด้วยการป้องกันตัวโดยชอบธรรมที่เกินกว่าเหตุที่จำเป็น เห็นได้ชัดว่า คุณเฉินเฉียนเฉียนตั้งใจที่จะทำร้ายลูกความของฉัน ลูกความของฉันเพียงป้องกันตัวเอง เพราะไม่รู้ว่า อีกฝ่ายจะเคลื่อนไหวอย่างไร และจะกลับมาทำร้ายเธออีกครั้งหรือไม่ ดังนั้น เธอไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ ให้กับคุณเฉินเฉียนเฉียนเกินกว่าเหตุเลย”
ทนายยี่หยุดพูดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “ดังนั้น คุณตำรวจ สิ่งที่ลูกความของฉันทำคือ การป้องกันตัวเท่านั้น”
“คุณคือ?” ตำรวจหยุดเดิน และมองสำรวจไปที่ทนายยี่
สิ่งที่ทนายยี่พูดนั้นล้วนเป็นข้อเท็จจริงที่ว่า เฉินเฉียนเฉียนเป็นคนเริ่มทำร้ายร่างกายก่อน และแม้ว่า ชิงซูจะพับข้อมือของเฉียนเฉียน แต่มันก็มีเหตุผลที่จะกล่าวว่า นี่เป็นการป้องกันไม่ให้เฉียนเฉียนกลับมาทำร้ายเธอได้อีกครั้ง
ทนายยี่หยิบนามบัตรออกมา แล้วยื่นให้ตำรวจ “ฉันยี่เสี่ยว ฉันเป็นทนายของคุณยูชิงซู”
ตำรวจมองดูนามบัตร และถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ฉันจำได้ว่า เมื่อกี้คุณบอกว่า คุณเป็นคนโทรหาตำรวจใช่ไหม?”
“ใช่” ในเมื่อที่ตำรวจจ้องมองเขาอย่างเคร่งเครียด แต่ทนายยี่ไม่ได้แสดงความกลัวออกมาแม้แต่น้อย เขาพยักหน้า และยืนตัวตรง
“ที่คุณโทรแจ้งตำรวจเพราะจะแจ้งว่า ลูกความของคุณทำร้ายผู้อื่นงั้นเหรอ?” ตำรวจอีกคนหนึ่งถาม มันดูน่าเหลือเชื่อนิดหน่อย วันนี้มันเป็นวันอะไรทำไมทั้งสองคนถึงเจอแต่คนแปลก ๆ
ทนายความแจ้งความจับลูกความของเขางั้นเหรอ?
มุมปากของทนายยี่กระตุกขึ้นมาสองครั้ง ก่อนที่จะกล่าวปฏิเสธ “ไม่ใช่แน่นอน”
“แล้วตกลงแล้วมันเรื่องอะไรกันแน่!” ความอดทนของพวกเขาหมดลง และน้ำเสียงของพวกเขาก็แย่ลงเรื่อย ๆ หากพวกเขาไม่กลัวว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นในภายหลัง พวกเขาคงจะจากไปนานแล้ว!
ทนายยี่พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “เหตุผลที่โทรแจ้งตำรวจ เมื่อกี้นี้ ลูกความของฉันได้ชี้แจงไว้อย่างชัดเจนแล้ว”
“อะไร?”
“กรุณาช่วยไล่พวกเขาออกไปด้วย” ทนายยี่กล่าว พลางยื่นเอกสารในมือให้กับพวกเขา “เหตุผลคือ การบุกรุกบ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาต”