แสนร้าย แสนรัก
ผู้เขียน:Adolf Dunne
หมวดหมู่โรแมนติก
แสนร้าย แสนรัก
เนื่องจากห้องนอนของเธอถูกเฉียนเฉียนยึดครองมาเป็นเวลานาน และถึงแม้ว่า สาวใช้จะโยนของทั้งหมดที่เคยอยู่ในห้องนี้ทิ้งไป แต่เธอก็ยังต้องการทำความสะอาดอีกครั้งก่อนจะเข้าไปอยู่ได้ ดังนั้น เธอจึงนอนในห้องรับแขกแทน
ชิงซูนอนหลับ จนถึงบ่ายสามโมงเย็น
ชิงซูค่อย ๆ ลืมตาขึ้น และเสียงที่อยู่รอบ ๆ หูเธอก็ก็ค่อย ๆ หายไป เมื่อสติของเธอที่ฟื้นขึ้น
เธอลุกขึ้นนั่ง จากนั้นยกมือขึ้นมาวางบนหน้าผาก แล้วเหงื่อก็หยดลงบนปลายนิ้ว
เธอฝัน
ไม่สิ จริง ๆ มันไม่ควรเรียกว่า ความฝัน เพราะตอนที่เธอผล็อยหลับไป เธอได้ยินเสียงอยู่ตลอดเวลา
มันเป็นน้ำเสียงที่ทั้งแหบ และเศร้า เจ้าของเสียงนั้นร้องไห้ พลางเรียกชื่อเธอไปด้วย ความรู้สึกที่ซับซ้อนนั้น มันทำให้หัวใจ และปอดของเธอพันกันบิดเบี้ยว ราวกับกำลังกระโดดข้ามคลื่นลูกหนึ่ง และทำให้เธอต้องเกือบจะจมน้ำตาย
ชิงซูหน้ามืด เธอรู้ดีว่า ที่มาของอาการเหล่านี้มาจากร่างเดิมของเธอ แต่มันแปลก ๆ ทำไมอาการมันถึงได้รุนแรงนัก?
มันรุนแรงมาก จนร่างกายของเธอรู้สึกอึดอัด
หรือจะเป็นเพราะว่า จิตวิญญาณเดิมยังคงอยู่ในร่างกายของเธองั้นเหรอ?
เมื่อคิดได้ดังนี้ ยูชิงซูก็วางมือลง แล้วมองไปที่ฝ่ามือ จากนั้น ก้มศีรษะลง และสำรวจดูตัวเองอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า ร่างกายของเธอไม่มีอะไรผิดปกติ นอกเสียจากความเศร้าที่แผ่ออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ.
“คุณชิงซู” เสียงของทนายยี่ดังมาจากนอกประตู ขัดจังหวะความคิดของเธอ
ชิงซูจึงระงับความสงสัยในใจของเธอ และลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดประตู และเมื่อเห็นกองเอกสารในมือของทนายยี่ เธอก็ขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “เราไปคุยกันที่ห้องหนังสือเถอะ”
ทนายยี่พยักหน้าตอบตกลง และตามเธอไปที่ห้องหนังสือ ทันทีที่ชิงซูนั่งลง ทนายยี่ก็วางกองเอกสารไว้ข้างหน้าเธอ เธอเหลือบมองมัน และสิ่งแรกที่เห็นคือ หนังสือรับรองความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินของตนเอง
“คุณชิงซู นี่คือ หนังสือรับรองการโอนหุ้น ใบการโอนทรัพย์สิน และหนังสือรับรองการเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้” ทนายยี่กล่าว
ชิงซูยิ้มกระตุกที่มุมปาก แล้วถามว่า “มันหมดนี่เลยเหรอ?”
“ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีบิล และเอกสารบางอย่างจากตระกูล ยู กรุ๊ป ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้อมูลพวกนี้ ฉันใช้ในนามของคุณเก็บมา” ทนายยี่กล่าวเสริมอีกว่า “ตระกูล ยู กรุ๊ปเป็นของคุณแล้ว”
ชิงซูพลิกกระดาษดูสองหน้าอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้น เธอเงยหน้าขึ้นเหลือบมองไปที่ทนายยี่ และก็ต้องพบว่า เขามีท่าทีที่ดูกังวล และประหม่า “คุณยังต้องการบอกอะไรกับฉันอีกไหม?”
“คุณชิงซู.....”
“ปัง!”
จู่ ๆ ประตูก็ถูกเปิดออก และเธอก็เห็นเข้ากับชายร่างสูงสองคนบุกเข้ามา โดยมีสาวใช้วิ่งไล่ตามมาอย่างตื่นตระหนก “คุณ...คุณชิงซู จู่ ๆ พวกเขาก็บุกเข้ามา ฉันหยุดพวกเขาไม่ได้...”
ใบหน้าของทนายยี่ดูเคร่งขรึม และมองไปยังแขกที่ไม่ได้รับเชิญ แล้วถามว่า “พวกคุณเป็นใคร!”
“คุณชิงซู คุณไปกับพวกเราเถอะ” ผู้ชายหนึ่งในนั้นพูดออกมาอย่างเย็นชา และเมื่อพูดจบ พวกเขาก็ก้าวไปข้างหน้า และกระโจนข้ามทนายยี่ เพื่อไปจับยูชิงซู
ยูชิงซูพยายามหลบหลีกการจับตัวเธอ แต่อีกฝ่ายดูมีทักษะในการต่อสู้พอสมควร เมื่อเทียบกับทักษะของเธอ และร่างกายที่อ่อนแอนี้ เธอเกรงว่า อีกไม่นาน เธอไม่น่าจะสามารถหลบหลีกต่อไปได้อีก
ทนายยี่หรี่ตาลง และรีบเข้าไปยืนขวางตรงหน้าของยูชิงซู “พวกคุณต้องการจะทำอะไร!”
“หลีกไป” อีกฝ่ายหนึ่งพูดเตือนขึ้นมาอย่างเย็นชา
“พวกคุณกำลังทำการบุกรุก มันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย! คุณเชื่อหรือไม่ว่า ฉัน.....” ก่อนที่เขาจะพูดจบ ทนายยี่ก็รู้สึกถึงความเย็นที่หน้าผาก มันมีบางอย่างกระทบกับหน้าผากของเขา
หลังจากที่เขาเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย ใบหน้าของเขาก็ซีดขึ้นมาทันที
มันคือ ปืน
ภายใต้แสงแดดที่ส่องเข้ามา มีแสงสีเงินส่องสว่างขึ้น แต่ดวงตาของยูชิงซูกลับมืดลง “ฉันจะไปกับคุณ ปล่อยเขาไป”
ทนายยี่มองชายชุดดำสองคนที่ดูอันตราย และขมวดคิ้วอย่างกังวลใจ “คุณชิงซู...”
ยูชิงซูรู้ว่า เขากำลังกังวลเรื่องอะไร เธอจึงพยักหน้าเล็กน้อย เพื่อให้เขามั่นใจ “ไม่ต้องกังวล พวกเขาไม่มีทางทำร้ายฉันหรอก”
สิ้นสุดคำพูด สายตาของเธอก็จับจ้องไปที่เข็มกลัดที่หน้าอกของชายชุดดำสองคน
มันคือ เข็มกลัดรูปหยดน้ำที่ทำมาจากหินออบซิเดียน มันเป็นสัญลักษณ์โลโก้ของบริษัทรักษาความปลอดภัยภายใต้ตระกูล จ่าน กรุ๊ป
และคงไม่มีใครอื่นนอกจาก จ่านซือซั่ว ที่จะสามารถสั่งการพวกเขาได้
ทนายยี่ถูกปืนจ่ออยู่ที่หน้าผากของเขา เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่เรียบเฉยของยูชิงซู เขาจึงต้องระงับความกังวล และมองดูชิงซูออกไปพร้อมกับพวกเขา
......
ด้านนอกประตู มีรถโรลส์รอยซ์สีดำจอดอยู่ที่นั่น และยูชิงซูก็เข้าไปนั่งในรถอย่างใจเย็น
ชายชุดดำสองคนนั่งอยู่ที่เบาะคนขับคนหนึ่ง และที่นั่งผู้โดยสารข้าง ๆ คนขับ คนหนึ่ง
รถค่อย ๆ ขับออกไปอย่างช้า ๆ และยูชิงซูก็หันไปมองทิวทัศน์ข้างนอก จากทางด้านข้างหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาในรถ
ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงเบาะผู้โดยสารข้างคนขับ เขาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่น้ำเสียงของเขาดูมีความอ่อนน้อม ในการตอบคำถามของคนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์
“คุณผู้ช่วยเฟินฉี ฉันได้ตัวคุณยูมาแล้ว”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
ผู้ช่วยเฟินฉีเหรอ?
เฟินฉีงั้นเหรอ?
สิ่งนี้ทำให้ชิงซูยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า ทั้งสองเป็นคนที่ถูกจ่านซือซั่วส่งมา
แต่ จ่านซือซั่วต้องการให้เธอทำอะไรกันแน่? ผู้ชายคนนี้รังเกียจเธอมากไม่ใช่หรือ? หรือเป็นไปได้ไหมที่เขารู้สึกว่า ในวันนั้น มันยังไม่เพียงพอที่จะระบายความเกลียดชังของเขา?
เขาต้องการจับเธอไป และทำการทุบตีเธออีกครั้งเหรอ?
ยูชิงซูขมวดคิ้วเล็กน้อย และใช้ปลายนิ้วแตะที่ต้นขาของเธอเบา ๆ เธอคิดว่า เธอจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร ถ้าจ่านซือซั่วต้องการทำอะไรกับตัวเธอจริง ๆ
เธอพยายามหวนนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างร่างเดิมกับจ่านซือซั่วอย่างรวดเร็วในช่วงสองปีที่ผ่านมาของการแต่งงาน และเธอก็พยายามที่จะหาจุดพลิกผันของมัน แต่กว่าจะรู้ตัว เธอก็มาถึงที่หมายแล้ว
รถหยุดลง ชายชุดดำลงออกจากรถมาเปิดประตูด้านหลัง แล้วพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “คุณชิงซู ถึงแล้ว”
ชิงซูลงจากรถ และเงยหน้าขึ้น
เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นัยน์ตาของเธอวาววับขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยความประหลาดใจ แต่เธอก็ตั้งสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีใครสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอ
นี่ไม่ใช่วิลล่าของจ่านซือซั่ว
จากสายตา มันเป็นอาคารสไตล์ตะวันตกขนาดเล็กสามชั้น ทั้งหมดเป็นตกแต่งด้วยโทนนอร์ดิกที่เรียบง่าย
ชิงซูจำขึ้นมาได้ได้อย่างรวดเร็วว่า สถานที่นี้คือที่ไหน
มันเป็นร้านทำผมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากสตรีชั้นสูงในเมืองหลวงจันทร์ ชื่อร้านมีเพียงคำสั้น ๆ คำเดียวคือ การ์ดีเนีย
ในความทรงจำของเธอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาที่นี่
ที่นี่เป็นที่ที่เหล่าคุณนาย และหญิงสาวต่างชื่นชอบ เพราะที่นี่มีสไตลิสต์ที่เก่งที่สุดในประเทศ และในทางกลับกัน ในหนึ่งวันจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้ใช้บริการที่แห่งนี้
ครั้งแรก และครั้งเดียวที่ยูชิงซูมาใช่บริการที่แห่งนี้คือ วันงานแต่งงานของเธอกับจ่านซือซั่ว เมื่อสองปีก่อน
แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่ควรถือเป็นงานแต่งงานสักหน่อย เพราะทั้งสองครอบครัวเพียงแค่ทานอาหารด้วยกันมื้อหนึ่ง และจัดฉากให้คุณท่านจ่านดูก็เท่านั้น
ไม่นานก็มีคนเดินออกมา
“สวัสดีค่ะ คุณชิงซู ในครั้งนี้ ฉันเป็นสไตลิสต์ของคุณ ฉันชื่อ อลิซ” หญิงสาวสวมชุดกี่เพ้าสีขาว และมีผมยาวที่ทำการม้วนขึ้นอย่างเรียบร้อย ยืนอยู่ข้างหน้าเธอด้วยรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน
เวลานี้ ยูชิงซูสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่จ่านซือซั่วจะทำ
เธอเหลือบมองอลิซ ด้วยดวงตาสว่างของเธอ และไม่ได้พูดอะไร
อลิซไม่ได้สนใจกับท่าทีเมินเฉยของเธอ และพูดว่า “คุณชิงซู เชิญตามฉันมาค่ะ”
เธอทำท่าผายมือเชิญชวน เมื่อเห็นดังนั้น ยูชิงซูลดตาลง และด้วยขนตายาวของเธอ มันจึงทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่า เธอกำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนี้
ไม่นาน ยูชิงซูก็ก้าวเข้าไปภายในอาคาร และอลิซก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว เพื่อนำทาง