แด๊ดดี้หนูเป็นซีอีโอ
“ที่รัก คุณมารอนานหรือยัง?”
จ่านโป๋โอบเธออย่างไหลลื่น แล้วเรียกเธอ “ที่รัก” ได้อย่างไม่ระคายปาก เด็กชายตัวน้อยที่อยู่ข้าง ๆ ก็เข้ามากอดขาของเขาพร้อมเรียกเขาด้วยเสียงน่ารักน่าชัง
“พ่อครับ! ซีเจ๋คิดถึงคุณพ่อมากเลยครับ! ทำไมคุณพ่อถึงมารอพวกเราตรงนี้ล่ะครับ? ตัวเหม็นหึ่งสุด ๆ เลย!”
บรรดาสาว ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขา ต่างแกล้งทำเป็นไอเสียงเบา ๆ เเล้วเดินเตลิดหนีไป จ่านโป๋ฉีกยิ้มกว้างแล้วให้ซีเจ๋มานั่งบนกระเป๋า ก่อนที่เขาจะลากมันไปพร้อมมืออีกข้างที่กุมมือเฉี่ยนซีไว้ ทันทีที่เดินมาถึงรถ หญิงสาวก็หยิกแก้มเขาอย่างแรง
“ฉันสาบานเลยว่า นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะเป็นไม้กันหมาให้กับเหล่าเเฟนคลับของนาย!”
“เดี๋ยวก่อนสิ เฉี่ยนซี! เป็นเพื่อนเก่าแสนดีเหมือนตอนที่อยู่แมนฮัตตันเถอะนะ นอกจากเธอแล้วจะมีใครช่วยฉันได้อีกเล่า?”
เขามองไปยังกระเป๋าเดินทางที่อยู่ข้างหลังซีเจ๋ก่อนเลิกคิ้วขึ้น “จริงเหรอเนี่ย? เธอกับลูกไม่ได้กลับบ้านตั้งหกปี เอาของมาแค่นี้เนี่ยนะ?”
“แม่บอกว่า เดี๋ยวกลับมาซื้อที่นี่ก็ได้ ผมคิดว่า เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน” ซีเจ๋พูดขึ้น
“ใช่ ทิ้งของที่ไม่จำเป็น ทำให้เราประหยัดแรง ประหยัดพื้นขึ้นเยอะเลย นั่นแหละที่เขาเรียกว่า มีประสิทธิภาพ”
เฉี่ยนซีเห็นด้วยกับลูกชายตัวเอง แต่จ่านโป๋กลับดูไม่พอใจสักเท่าไหร่
“นี่ ซีเจ๋แค่หกขวบเองนะ ถึงเขาจะเป็นอัจฉริยะ แต่เธอก็ไม่ควรสอนเขาให้เย็นชาขนาดนี้นะ! ในสายตาของฉัน เด็กซื่อบื้อน่ารักที่สุดนะ” จ่านโป๋เอื้อมมือไปจั๊กจี้ขาซีเจ๋
หากแต่เด็กน้อยกลับหลบขาหนีแล้วปัดมือจ่านโป๋อย่างรังเกียจ เเละมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา
“ตรงนี้เป็นที่ที่ปลอดภัยแล้ว ไม่มีผู้หญิงคนไหนมายุ่งกับคุณลุงเเล้วครับ ผมไม่จำเป็นต้องแกล้งเป็นลูกชายของคุณลุงแล้วนะครับ คุณลุงจ่านโป๋”
“โอ๊ย เฉี่ยนซี! นี่เธอเลี้ยงลูกแบบไหนกันเนี่ยะ?”
ขณะฟางจ่านโป๋ทำเสียงหมดอาลัยตายอยากอยู่นั้น เฉี่ยนซียิ้มพร้อมทั้งยกนิ้วโป้งให้ซีเจ๋ เเล้วเธอก็มองทิวทัศน์ที่อยู่นอกหน้าต่างด้วยความคุ้นเคย
เธออายุยังไม่ถึงสิบเเปดปีเลย ตอนที่ไปอยู่แมนฮัตตันเมื่อเจ็ดปีก่อน พออยู่ด้วยตัวเองเพียงลำพังก็ทำเอาเธอรู้สึกหดหู่อยู่ไม่น้อย แต่แล้วชีวิตของเธอก็พลิกเปลี่ยนไป เพียงเพราะคืนบ้า ๆ นั่นที่ทำให้ฟ้าประทานซีเจ๋มาเป็นของขวัญให้กับชีวิตของเธอ ดีที่เธอมีเพื่อนสนิทอย่างจ่านโป๋ มันกลับทำให้เธอโชคดีอยู่บ้าง
บางที เธอก็นึกสงสัยว่า ตอนนี้ชายคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่นะ
แม้ว่าจะจำใบหน้าของอีกฝ่ายได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่เธอก็มั่นใจว่า เขาเป็นหนุ่มหล่อใช้ได้ทีเดียว ถ้าเขารู้ว่า หญิงแปลกหน้าคนนี้ดันมีลูกชายของเขาเข้า เขาคงตกใจน่าดู!
ก่อนกลับมาบ้าน เฉี่ยนซีก็รู้สึกเป็นห่วงซีเจ๋อยู่เหมือนกัน เเม้ว่าเขาจะเป็นเด็กฉลาดดูโตกว่าวัยและยอมรับความจริงที่ว่า เขาไม่มีพ่ออยู่ก่อนเเล้ว เเต่การขาดความรักจากพ่อ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเอาอะไรมาทดเเเทนได้ ‘ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก ถ้าฉันหาผู้ชายคนนั้นเจอ แล้วเขายอมรับซีเจ๋เป็นลูก แต่ถ้าฉันหาไม่เจอ หรือเขาแต่งงานแล้ว ฉันควรทำยังไงดีล่ะ?’
พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เฉี่ยนซีเริ่มขมวดคิ้วด้วยความกังวล ซีเจ๋เข้าใจเธอเป็นอย่างดี จึงหันไปลูบไหล่ปลอบเธอ
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ แม่ซื่อบื้อ ผมว่านะ มันคงจะดีถ้ามีพ่อ แต่ว่าไม่เป็นไรหรอก ถ้าผมจะไม่มีพ่อ!”