ฉันนี่แหละเศรษฐี
ผู้เขียน:Abelard Evans
หมวดหมู่สมัยใหม่
ฉันนี่แหละเศรษฐี
พนักงานต้องรับก็มองไปรอบ ๆ อยู่ห้านาทีแต่ก็หาไม่เจอเช่นกัน
‘คนจนนี่มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? แม้แต่ที่ยืนยังไม่มี’
เฉินฝานคิดในใจ พอเขาเห็นว่าทุกคนมองเขาเป็นอากาศ เขาก็ถอนหายใจออกมา
เขาไม่สนใจสายตาแปลก ๆ ของคนรอบข้าง ก่อนจะตรงเข้าไปหาเฉินเสวแล้วพูดว่า “พี่ พ่อบอกให้ผมมาหาพี่เพื่อเซ็นสัญญา”
ทันทีที่พูดจบ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็เงียบกริบ และพากันจ้องไปที่เฉินฝาน
“ไอ้คนจนนี่ประสาทรึป่าว มาหาญาติอะไรที่นี่”
“ใช่ นักศึกษาจน ๆ ที่สวมเสื้อผ้าราคาไม่ถึงร้อยจะเป็นน้องชายของคุณเฉินได้ยังไงกัน”
ทุกคนต่างพาบ่นพึมพำ และมองเฉินฝานด้วยสายตาที่ดูถูก
แต่ที่นี่ก็มีแค่เฉินฝานที่เป็นคนนอกไม่ใช่รึไง?
พอคิดอย่างงั้น ทุกคนก็กลั้นหายใจและเงี่ยหูรอฟังคำตอบ
“ฝาน มาแล้วทำไมไม่โทรหาพี่ล่ะ?”
สีหน้าเย็นชาของเฉินเสวนั้นยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น
มันทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกเย็น ๆ แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่หนาววาบไปทั้งตัว สีหน้าของเขาดูตกใจอย่างเห็นได้ชัด
“นี่... จะเป็นไปได้ยังไงกัน?” อ้าวเสวียนถึงกับอึ้ง
เฉินฝานไม่ได้หันไปมองอ้าวเสวียน เขาหันไปถามพี่สาวของเขาว่า “พี่ นี่คือคนที่จะมาจีบพี่เหรอ? ตะกี้เขาจะลงไม้ลงมือกับผม ผมไม่ชอบเขา”
“คุณเฉิน ผม...” พออ้าวเสวียนได้ยินแบบนั้น เขาก็รีบอธิบายทันที
เฉินเสวพูดอย่างเย็นชา “พอได้แล้ว! คุณหลิน ฉันไม่ใช่คนไร้เหตุผล ถ้าอยากจะร่วมมือกันต่อก็พอจะได้ แต่ต้องทำให้ฉันพอใจก่อน!”
“คุณเฉิน สั่งมาได้เลยครับ” อ้าวเสวียนพูดพลางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
เฉินเสวยิ้มที่มุมปาก ออร่าราชินีพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที
เธอชี้ไปที่รถเทสล่าซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล แล้วพูดเบา ๆ ว่า “รถของนายจอดอยู่ที่ประตู เมื่อกี้มันขวางทางที่ฉันจะมาหาน้องชายฉัน”
สีหน้าของอ้าวเสวียนเปลี่ยนไป หลังจากลังเลอยู่นาน เขาก็กัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “ในเมื่อคุณเฉินไม่ชอบ งั้นผมจะทุบมันทิ้งซะ!”
เขาเดินไปที่รถของเขา ก่อนจะหยิบไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างทางมา
แล้วฟาดลงไปที่กระจกรถจนแตก
แล้วอ้าวเสวียนก็หันกลับมามอง และเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้มีท่าทีจะห้ามเขาเลย
เขาเลยเหวี่ยงแรง ๆ อีกครั้ง!
สิบห้านาทีต่อมา รถยนต์เทสล่าที่หรูหรา และล้ำสมัยนั้นถูกทุบจนไม่เหลือชิ้นดี
อ้าวเสวียนที่เหงื่อโชกไปทั้งตัวเดินกลับไปที่ห้องโถงพลางพูดกับเสวว่า “คุณเฉิน คุณพอใจรึยังครับ?”
“ไม่พอ! เมื่อกี้ขาขวาของนายเกือบจะเตะน้องชายฉัน” สีหน้าของเฉินเสวยังคงนิ่ง น้ำเสียงของเธอนั้นยังคงเย็นชาเช่นเดิม
“ผม... เข้าใจแล้วครับ”
อ้าวเสวียนหน้าซีด และหลับตาลง
ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
พลางเหวี่ยงไม้ในมือไปที่ขาขวาของตัวเองอย่างแรง!
และก็มีเสียงร้องดังลั่น!
ทุกอย่างเงียบกริบ!
ทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างพากันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
“พอไหมครับ?” อ้าวเสวียนเหงื่อออกเพราะความเจ็บปวด และพูดด้วยเสียงสั่น ๆ
เฉินเสวไม่ตอบ แต่มองไปที่เฉินฝานและถามว่า “ว่าไงน้องชาย พอใจยัง?”
เฉินฝานกลืนน้ำลายลงคอ และตกใจกับท่าทางของพี่สาว
พี่สาวที่ปกติแล้วมักจะเป็นคนเงียบ ๆ ที่แท้ก็โหดใช่เล่น
เฉินฝานรีบพูดขึ้นมาทันทีว่า “พอแล้วล่ะ”
พอได้ยินอย่างนั้น เฉินเสวก็ยิ้มพลางหยิบเช็คออกมาจากกระเป๋าใบนึง
“นี่คือเช็คสิบล้าน เป็นค่าเปลี่ยนรถใหม่ให้คุณ”
พอพูดจบ เธอก็หันกลับมา และพูดกับยามว่า “ให้คนพาคุณหลินไปส่งที่บ้านที ส่วนเรื่องความร่วมมือนั้น รอให้ขาของคุณหลินหายดีก่อนแล้วค่อยมาคุยกับน้องชายฉัน!”