ฉันนี่แหละเศรษฐี
ผู้เขียน:Abelard Evans
หมวดหมู่สมัยใหม่
ฉันนี่แหละเศรษฐี
“คุณเฉิน เมื่อกี้ฉันผิดเองค่ะ ฉันไม่ควรดูถูกคนอื่น”
พนักงานต้อนรับกัดฟันแน่น พลางยกมือขึ้นตบหน้าตัวเอง “ฉันผิดเองที่ดูคุณไม่ออก ฉันสมควรโดน...”
เสียงเพี๊ยะยังคงดังก้องไปทั่ว
ทุกคนมองเธอด้วยสายตาเย็นชา และไม่มีใครเห็นใจเธอ
‘แบบนี้ก็ได้เหรอ! ?’
เฉินฝานไม่เข้าใจ แต่เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
เขามองไปที่ฝ่ามือ พลางคิดในใจว่า ‘นี่คืออำนาจที่อยู่ในกำมือของฉันงั้นเหรอ?’
ผ่านไปสักพัก หน้าของพนักงานต้อนรับคนนั้นก็แดงระเรื่อจากการถูกตบ มุมปากของเธอมีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่หยุด
เฉินฝานเริ่มใจอ่อน เขาไม่อยากจะสร้างความเดือนร้อนให้ใคร “ช่างเถอะ ทีหลังก็อย่าทำแบบนี้อีก”
“ขอบคุณค่ะ คุณเฉิน ฉันไม่กล้าแล้วล่ะค่ะ!”
พนักงานต้อนรับรู้สึกขอบคุณที่เฉินฝานให้อภัย เธอเอามือลงแล้วทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น
เฉินเสวพยักหน้าอย่างพอใจกับการจัดการของเฉินฝาน
ถ้าเฉินฝานไม่ลงโทษพนักงานต้อนรับ เธอจะลงโทษแทนเฉินฝานเอง
ในฐานะเจ้านาย ต้องทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าลูกน้อง นี่คือสิ่งที่เฉินฝานต้องเรียนรู้
หลังจากลงโทษพนักงานต้อนรับเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานต่อ
และก็ได้เวลาอาหารกลางวัน เฉินเสวเลยพาเฉินฝานไปทานข้าวเที่ยง
ทั้งสองนั่งเรือยอร์ชไปที่เกาะริมทะเลสาบของวิลเลจ
ตอนที่อยู่บนทะเลสาบนั้น เขาเห็นโลมาสองตัวกระโดดขึ้นมาจากน้ำ และตามเรือยอร์ชมาด้วย
เฉินเสวยืนอยู่บนดาดฟ้า และแนะนำเฉินฝานให้รู้จักกับอาคารต่าง ๆ ของวิลเลจ
มีฉลามในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มีเสือจากัวร์ในสวนสัตว์ และมีฝูงนกเพนกวินและหมีขั้วโลกในโซนอาร์กติกด้วย
พอได้ยินแบบนั้น เฉินฝานก็ทำหน้าตกใจ ในใจเขารู้สึกอึ้งมาก
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็มาถึงร้านอาหารฝรั่งเศสบนเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
ร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งนี้นั้น ปูด้วยกระเบื้องที่มีมูลค่ามหาศาล และเป็นหินที่ดีที่สุด
เชฟทุกคนนั้นเป็นเชฟระดับมิชลินสตาร์
วัตถุดิบที่ใช้ล้วนเป็นวัตถุดิบสดใหม่ เนื้อวัวที่ใช้คือเนื้อวัวชาร์โรเล่ส์ที่ส่งตรงมาจากจากประเทศฝรั่งเศสและคัดเลือกส่วนที่นุ่มที่สุดมา
พอเฉินฝานกับเฉินเสวก้าวเข้าไปในร้าน บรรยากาศของร้านอาหารก็เปลี่ยนไปทันที!
พนักงานทุกคนในร้านมารวมตัวกันที่กลางร้านราวกับว่าเตรียมตัวไว้แล้ว
ทุกคนยืนตรงอย่างเรียบร้อย และโค้งคำนับให้เฉินฝาน “สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ บอส !”
เฉินฝานไม่คุ้นกับบรรยากาศแบบนี้ เลยทำตัวไม่ถูก
ห้านาทีผ่านไป ทุกคนก็ยืนเก้ ๆ กัง ๆ
“น้องชาย ตอนนี้นายเป็นบอสแล้ว พูดอะไรหน่อยสิ” เฉินเสวทนดูต่อไปไม่ไหวเลยเตือนเขา
พอเฉินฝานได้ยินแบบนั้น เขาก็กลืนน้ำลาย และพูดออกมาว่า “ทุกคน... กลับไปทำงานต่อเถอะ”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณค่ะ บอส”
พอได้ยินเฉินฝานพูดเช่นนั้น ทุกคนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก และกลับไปทำงานต่อ ต่างคนต่างก็ดูยุ่งขึ้นมาทันที
เฉินเสวยิ้ม พลางพูดว่า “น้องชาย นี่เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดใน วิลลาร์ด วิลล่า ถ้าไม่มีบัตรวีไอพีระดับไดมอนด์ล่ะก็ ต่อให้มีเงินก็เข้ามาทานไม่ได้ ทุกเดือนนั้น ที่นี่สามารถทำรายได้ให้หมู่บ้านอย่างน้อย ๆ ก็สิบล้าน”
ต่อมา เฉินเสวก็แนะนำระดับสมาชิกของวิลลาร์ด วิลล่า
สมาชิกแบ่งออกเป็นสี่ระดับ ได้แก่ ซิลเวอร์ โกลด์ ไดมอนด์ ซูพรีม และอื่น ๆ
บัตรซิลเวอร์ที่เบสิคที่สุดนั้น เฉพาะผู้ที่ใช้จ่ายมากกว่าห้าล้านต่อปีขึ้นไปถึงจะทำได้!
โดยทั่วไปแล้วคน ๆ นั้น ต้องมีเงินหลายร้อยล้าน!
ไม่ต้องพูดถึงบัตรโกลด์และไดมอนด์ ถ้าไม่มีเงินมากกว่าหนึ่งพันล้านก็อย่าคิดแม้แต่จะแตะมุมบัตรเลย
พอฟังที่พี่สาวแนะนำแล้ว เฉินฝานนั้นคิดว่าชีวิตแบบนี้เป็นชีวิตที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน
ใครจะไปใช้เงินมากกว่าห้าล้านต่อปีเพื่อมากินข้าวกัน!
นี่คือชีวิตของคนที่รวยจริง ๆ งั้นสินะ?
แถมสถานที่หรูหราแบบนี้ กำลังจะกลายเป็นทรัพย์สินของฉันในอนาคตงั้นเหรอ!?
พอคิดว่าจะสามารถทำเงินได้หลายสิบล้านต่อเดือน อะดรีนาลีนของเฉินฝานก็พลุ่งพล่านและตื่นเต้นขึ้นมาทันที
เฉินเสวยิ้มตาหยี พลางมองดูน้องชายของเธอที่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน สายตาของเธอไม่ได้ดูถูกแต่อย่างใดแต่กลับเต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ตอนแรกที่เธอรู้นั้น เธอรู้สึกตื่นเต้นกว่าฝานเสียอีก
ฝานสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เขาพยายามระงับอารมณ์ และเปิดเมนูที่พนักงานเสิร์ฟเอามาให้
ฟัวกราส์ ราคาสามหมื่น
เห็ดทรัฟเฟิล ราคาสี่หมื่น
ไวน์แดง ราคา...
พอดูเมนูอาหาร และราคาของมันแล้วฝานก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ ริมฝีปากของเขาสั่นเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ที่ร้านอาหารฝรั่งเศสนี้ อาหารราคาเริ่มต้นที่สามสี่หมื่น คนทั่วไปไม่มีปัญญาจ่ายแน่ ๆ ”
เฉินเสวแย่งเมนูมาแล้วพูดพลางยิ้มว่า “นี่เป็นเงินแค่เล็กน้อยเท่านั้น อีกหน่อยเดี๋ยวนายก็ชินเอง น้องชาย วันนี้พี่จะต้องดูแลนายเป็นอย่างดี!”
พอพูดจบ เธอก็มองพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดว่า “เอาอาหารราคาที่แพง และอร่อยที่สุดในร้านมา!”
พนักงานเสิร์ฟพยักหน้าด้วยความเคารพ และรีบวิ่งไปที่ห้องครัวทันที
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที พนักงานเสิร์ฟก็เริ่มเสิร์ฟอาหารทีละจาน
มีอาหารฝรั่งเศสหลายอย่าง
ทุกจานนั้นมีความประณีตมาก
หนึ่งในนั้นคือสเต็กชาโรเลส์ที่ขึ้นชื่อที่สุดของร้าน
แครอทนั้นแกะสลักเป็นดอกกุหลาบและประดับอยู่บนจาน โดยมีสเต็กชิ้นเล็ก ๆ วางอยู่ตรงกลาง
เฉินฝานถึงกับอึ้ง “พี่ เกินไปรึเปล่า จานออกจะใหญ่ แต่เนื้อชิ้นเล็กนิดเดียวเอง จะอิ่มเหรอ?”
“ไม่เป็นไร ทานหลาย ๆ อย่างก็อิ่มแล้ว” เฉินเสวยิ้มก่อนจะสอนวิธีกินสเต็กด้วยมีดและส้อมให้เฉินฝาน
เฉินฝานทานอาหารจานแล้วจานเล่า ทุกจานนั้นใบใหญ่มาก แต่อาหารชิ้นเล็กเหมือนกันหมด
หลังจากทานอาหารไปสิบกว่าจาน เฉินฝานก็ทนไม่ไหว และพูดขึ้นว่า “พี่ มีซาลาเปาไหม? ต้องทานนี่สิถึงจะอิ่ม”