คนทั้งโลกกำลังตกหลุมรักภรรยาผม
ผู้เขียน:กฤษฎิ์ แสนชล
หมวดหมู่โรแมนติก
คนทั้งโลกกำลังตกหลุมรักภรรยาผม
ก่อนหน้านี้ หลิงเซียวเตี้ยนเคยมีสายลับลอบเข้ามา ดังนั้นเหล่าแฮกเกอร์จึงระมัดระวังอย่างยิ่งในการคบหาเพื่อนในเครือข่ายสังคม
และหยุนซีก็ไม่มีเพื่อนเลยสักคน
นอกจากคนรู้จักที่เคยติดต่อกันเรื่องงานสองสามคน หยุนซีก็เคยคุยกับเย่แค่เพียงไม่กี่คำในบางครั้งเท่านั้น
เนื้อหาของเรื่องที่ทั้งสองคนคุยกันนั้น โดยทั่วไปคือหัวข้อทางเทคนิค อาจจะมีหัวข้ออื่นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวบ้างแต่ก็พูดคุยกันแค่พอเป็นพิธี
“ที่จริงฉันก็อาศัยอยู่ที่เมือง s เหมือนกัน คุณเชื่อไหม?”
หยุนซีเห็นเย่ส่งข้อความมาหาเธออีก เธอก็ยิ้มออกมา
“บังเอิญขนาดนั้น? ฉันเชื่อ”
หยุนซีมักจะรู้สึกว่า ตัวของเธอและเทพเย่มีอะไรบางอย่างคล้าย ๆ กัน สไตล์การพูดคุยก็เหมือนกันมาก
“ราตรีสวัสดิ์”
หยุนซีดูเวลา ใกล้จะถึงเวลาที่ควรกลับบ้านแล้ว
ตอนที่จ้องมองไปที่คำว่า ‘ราตรีสวัสดิ์’ บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ณ เมือง sบ้านตระกูลกู้ ชายหนุ่มรูปงามหล่อเหลาเหมือนเทพบุตรที่นั่งอยู่บนรถเข็นวีลแชร์ยิ้มออกมาขณะลบข้อความที่แก้ไขไปแล้วครึ่งหนึ่ง
“บังเอิญขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นวันหลังมานัดเวลา....”
เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ หยุนซีที่มองเห็นรถบีเอ็มดับเบิลยูคันนั้นจอดอยู่ก็รู้ว่าครอบครัวของหยุนหลงซานกลับมาแล้ว
“นี่เราออกไปข้างนอกนานขนาดนี้เลยหรอ?”
คุณน้าหลี่ยืนขวางอยู่ที่ประตู เมื่อมองเห็นหยุนซีก็ทำหน้าบึ้งทันที
“คุณท่าน คุณนาย และคุณหนูกลับมาจากคอนเสิร์ตกันหมดแล้ว คุณกลับออกไปทำตัวเหลวไหลอยู่ข้างนอกคนเดียว? ตระกูลหวินมีกฎระเบียบ คราวหน้าคุณต้องปฏิบัติตามและระวังด้วย!”
เมื่อกี้นี้แค่ถามเรื่องบะหมี่ไม่สำเร็จ แม่บ้านหลี่ ถึงกับต้องโมโหขนาดนี้เลย
ใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็ต้องใช้ไม้แข็ง เธอเห็นหยุนซีเป็นแค่เด็กสาววัยรุ่น ขู่นิดขู่หน่อยบางทีอาจจะยอมบอกสูตรลับของตัวเองก็ได้
หยุนซีกลับยังคงมีท่าทีสงบนิ่ง แม้จะต้องเผชิญหน้ากับเสียงดังเต็มไปด้วยอำนาจของแม่บ้าน ก็ไม่แม้แต่จะสนใจเธอเลย
“ที่แท้การเดินเล่นในหมู่บ้านก็ถือว่าเป็นการทำตัวเหลวไหล ถ้าเป็นการค้างคืนจะเรียกว่าอะไร?”
คำพูดเบา ๆ ของหยุนซีทำเอาคุณน้าหลี่พูดไม่ออก
แม่สาวน้อยคนนี้.... ช่างต่อปากต่อคำเก่งจริง ๆ !
หยุนซีเห็นแม่บ้านไม่พอใจถึงกับพูดอะไรไม่ออก เธอจึงก็เตรียมกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง
คุณน้าหลี่รีบขยับตัวเพื่อขวางทางหยุนซีอีกครั้ง รอยยิ้มฝืน ๆ ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า
“หยุนซี... คุณหนูคะ ที่จริงแล้วฉันอยากถามคุณว่า บะหมี่ที่คุณทำก่อนหน้านี้มีวิธีทำยังไง? ตัวน้าค่อนข้างชอบทำอาหาร คุณบอกวิธีทำให้น้าได้ไหมคะ ต่อไปถ้าอยากกินบะหมี่จะได้ไม่ต้องเข้าครัวทำเอง น้าจะช่วยทำให้?”
เธอลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้ตัวเองเอาแต่แทะเมล็ดทานตะวัน จงใจปล่อยให้หยุนซีหิวอย่างโหดร้าย
“ไม่จำเป็นค่ะ”
หยุนซีปฏิเสธอย่างไม่ลังเล เดินอ้อมคุณน้าหลี่แล้วกลับไปที่ห้องตัวเอง
แม่บ้านคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกเธอปฏิเสธต่อหน้าต่อตา แล้วใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวขึ้นมาด้วยความโกรธจัด!
แค่สาวบ้านนอกคนหนึ่ง นึกว่าตัวเองจะกลายเป็นคุณหนูได้จริง ๆ น่ะเหรอ?
คุณน้าหลี่ผู้ซึ่งเป็นแม่บ้านในบ้านคนรวยมานานหลายปีคนนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะสั่งสอนหยุนซีสักยก ให้เธอรู้ว่าแบบไหนที่เขาเรียกว่าผู้ดี
วันรุ่งขึ้น
“อ้า!!! !”
“หยกน้อยของฉันหายไปแล้ว!”
ณ เวลาอาหารเช้า จู่ ๆ หยุนเวยเวยก็ตะโกนเสียงดังอยู่ในห้องรับแขกที่ชั้นหนึ่ง
เธอถือกระเป๋าหลุยส์วิตตองใบใหม่อยู่ในมือ แต่ซิปกระเป๋ากลับเปิดอยู่ เธอเทสิ่งของที่อยู่ภายในกระเป๋าทั้งหมดออกมา เครื่องสำอาง โทรศัพท์มือถือ กระดาษทิชชู่ และหูฟัง กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะกาแฟ
หยุนหลงซานและฉินลี่หลานสองสามีภรรยาต่างตกใจ รีบวิ่งไปดูทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” หยุนหลงซานถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
คุณน้าหลี่ แม่บ้านที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ “คุณท่านคะ เหมือนว่าหยกขาวเหอเถียนที่คุณหนูชอบที่สุดจะหายไปค่ะ”
“เห็น ๆ กันอยู่หยกน้อยของฉันอยู่ในกระเป๋า!” หยุนเวยเวยทั้งร้อนรนทั้งโมโห
เธอมีหยกแสนล้ำค่าหนึ่งชิ้น ทุกวันต้องหยิบขึ้นมาถือเล่นทุกวัน เพราะว่าชอบมาก ถึงกับตั้งชื่อให้มันว่า ‘หยกน้อย’
หยุนเวยเวยจำได้อย่างแม่นยำว่าเมื่อคืนนี้เธอเก็บหยกน้อยลงในกระเป๋าหลุยส์วิตตองเองกับมือ และกระเป๋าก็ถูกวางไว้บนโซฟาในห้องรับแขก
ฉินลี่หลานผู้สง่างามและหยิ่งทะนง ในตอนนี้ถึงกับขมวดคิ้ว
“หลงซาน หยกเหอเทียนอันนี้ ใช่อันที่เมื่อครึ่งปีก่อนคุณประมูลมาด้วยเงินหนึ่งล้านสองแสนจากงานประมูลเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้เวยเวยหรือเปล่า?”