รอรักกลับมา
ผู้เขียน:เนย
หมวดหมู่โรแมนติก
รอรักกลับมา
สามปีก่อนพ่อของซูป้านเซี่ยล้มละลาย และเป็นหนี้จำนวนมาก เจ้าหนี้หลายรายตามทวงหนี้ถึงที่บ้าน เพื่อต้องการหาเงินมาใช้หนี้ให้ได้โดยเร็ว ตระกูลซูจึงนึกถึงตระกูลมู่ โดยต้องการให้ตระกูลมู่จัดงานแต่งงานตามที่สัญญาเอาไว้เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน และบังคับให้ซูป้านเซี่ยแต่งงานกับมู่หนานจือเพื่อแลกกับสินสอดก้อนโต
ตระกูลมู่นั้นมีธุรกิจใหญ่โต มู่หนานจือนั้นหน้าตาหล่อเหลา และร่ำรวย แต่เป็นพวกเจ้าชู้ และมีเรื่องอื้อฉาวค่อนข้างเยอะ
ซูป้านเซี่ยนั้นมีคนที่เธอชอบอยู่แล้ว เธอจึงไม่ไม่ยินยอม แต่พ่อของเธอเอาอาการป่วยทางประสาทของแม่เธอมาขู่ เธอเลยจำใจต้องยอมรับ
ก่อนที่ทั้งสองตระกูลจะจัดงานแต่งงานกัน ก็นัดหมายให้ทั้งสองได้มาเจอกัน
เธอไม่ยอม แต่สุดท้ายก็โดนบังคับให้ไปที่บ้านตระกูลมู่
วันนั้นแดดค่อนข้างแรง มู่หนานจือเดินดุ่ม ๆ มาแต่ไกล เขาหลี่ตาพลางขมวดคิ้วแน่นอย่างหงุดหงิด
ทันทีที่เธอเห็นเขาเดินเข้ามา ซูป้านเซี่ยก็รู้สึกว่าใจของเธอเต้นแรง เธอไม่คิดเลยว่าคนที่ครอบครัวต้องการให้เธอแต่งงานด้วยนั้นจะเป็นคนที่เธอแอบรักมานาน
ฝ่ามือของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอพูดออกมาอย่างตื่นเต้น ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบขึ้นมาว่า “สวัสดี ฉันชื่อซูป้านเซี่ย ภรรยาในอนาคตของคุณ”
มีเพียงเสียงแสยะยิ้มอย่างเย็นชา หนานจือนั่งไขว่ห้างบนโซฟา และถามขึ้นเสียงแข็งว่า “ซูป้านเซี่ยใช่ไหม? ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่ที่ป่วยหนักติดเตียงอยากจะอุ้มหลานชายล่ะก็ ผมไม่มีทางแต่งงานกับคุณแน่นอน ตระกูลมู่จะจัดการเรื่องหนี้สินของตระกูลซูให้ แต่หลังจากแต่งงานแล้ว คุณก็อยู่ของคุณ ผมก็อยู่ของผม ผมไม่มีทางรักคุณ หน้าที่ของคุณคือให้กำเนิดทายาทตระกูลมู่ เข้าใจไหม?”
ซูป้านเซี่ยมองสายตาที่เย็นชานั้นออก และรู้ว่าเขาไม่ชอบเธอ
แต่นั่นคือมู่หนานจือ
นี่เป็นวิธีเดียวที่เธอจะได้ใกล้ชิดกับเขา
เธอแต่งงานกับเขาด้วยความหวัง
เธอคิดว่าตราบใดที่เธอพยายาม เขาก็จะเห็นเธอในสายตาเข้าสักวัน
แต่ความจริงทุกอย่างได้ประจักแล้ว เธอมันโง่จริง ๆ
สามปีที่ผ่านมา เธอพยายามอย่างสุดหัวใจ เธอตื่นตั้งแต่ตีสี่ทุกวันเพื่อมาเตรียมอาหารเช้าให้เขา ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่เขากลับมีแต่ความเย็นชาให้เธอ
เขาจำวันเกิดเธอไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นวันเกิดของผู้ใหญ่ หรืองานที่ทั้งสองต้องไปด้วยกัน เขาก็ไม่เคยปรากฏตัวเลย มีครั้งนึงเธอปวดท้อง ปวดจนตัวสั่น เหงื่อออกท่วมตัว เธอโทรหาเขา แต่ก็ได้ยินเขาพูดทางโทรศัพท์ว่า “ตอนนี้ผมไม่ว่าง ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็อย่าโทรหาผม”
พูดจบเขาก็วางสายไปทันที
ครั้งนั้นเธอต้องไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง และเซ็นชื่อเข้ารับการผ่าตัดด้วยตัวเอง เธอจ้างพยาบาลมาดูแล แม้ว่าเธอจะออกจากโรงพยาบาลมาตามลำพัง แต่มู่หนานจือก็ไม่เคยถามถึงอาการของเธอเลย
แต่ทุกเรื่องของเฉินยวี่ถง มู่หนานจือกลับถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย
เฉินยวี่ถง
ตอนที่ซูป้านเซี่ยแต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่เธอก็รู้ว่า เฉินยวี่ถงเป็นพี่สะใภ้ของมู่หนานจือ เขา พี่ชายของเขา และเฉินยวี่ถงนั้นโตมาด้วยกัน
มู่หนานจือกับพี่ชายของเขาตกหลุมรักเฉินยวี่ถงด้วยกันทั้งคู่ แต่เฉินยวี่ถงเลือกพี่ชายของมู่หนานจือ ต่อมาพี่ชายของเขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ และสุขภาพไม่ดี หลังจากแต่งงาน ทั้งคู่ก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ
ไม่นานมานี้ พี่ชายของเขาเสียชีวิต เขาไปต่างประเทศเพื่อพาพี่ชายของเขากลับมา และก็ให้เฉินยวี่ถงย้ายกลับมา เขาจัดแจงทุกอย่างและให้เธออยู่ที่อาพาร์ตเมนต์ของเขา
ไม่ว่าเฉินยวี่ถงจะมีเรื่องอะไร หนานจือก็จะไปหาเธอด้วยตัวเองทุกครั้ง
พวกเขาเข้าออกพร้อมกันเหมือนคู่สามีภรรยากันจริง ๆ ในขณะที่ภรรยาจริง ๆ ของเขานั้นเป็นเหมือนคนแปลกหน้าที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย
เธอยังคงปลอบตัวเองว่าเฉินยวี่ถงเป็นแค่พี่สะใภ้ของมู่หนานจือ และพวกเขาก็ไม่มีทางมีความสัมพันธ์อะไรกัน
จนกระทั่งเธอได้รับรูปถ่ายที่เฉินยวี่ถงส่งมาให้ ในภาพมู่หนานจือสวมผ้ากันเปื้อน และกำลังทำอาหารอยู่ในครัว หนานจือแต่งงานกับเธอมาสามปีแล้ว เขาไม่เคยทำอาหารมาก่อน...
ซูป้านเซี่ยเคาะประตูด้วยความหวังสุดท้าย
มู่หนานจือที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวยืนอยู่ที่ประตู มองมาที่เธอ และถามอย่างเย็นชาว่า “ซูป้านเซี่ย เธอมาทำอะไร?”
น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจ ราวกับว่าการมาของเธอนั้นทำลายชีวิตที่สวยงามของเขา
ข้างหลังเขาคือเฉินยวี่ถงที่นุ่งผ้าเช็ดตัว ผมของเธอยังเปียกอยู่
ซูป้านเซี่ยมองภาพตรงหน้าเธอ...
พวกเขาเป็นอะไรกัน เฉินยวี่ถงถึงได้กล้าออกมาให้ผู้ชายคนนึงเห็นในสภาพแบบนี้ได้?
ตาของซูป้านเซี่ยแดงระเรื่อขึ้นมา เธอคิดว่าตัวเองจะโกรธ แต่พอเห็นภาพตรงหน้าเข้าจริง ๆ เธอกลับนิ่งเฉย
อาจเป็นเพราะว่าเธอรู้สึกผิดหวังมามากพอแล้ว และไม่มีความหวังอีกแล้ว เธอเลยตัดสินใจกลับบ้าน