พระชายาสารพัดพิษ
“ไม่ หม่อมฉันไม่เชื่อ หม่อมฉันไม่เชื่อ!”
“ไม่เชื่องั้นหรือ ฮึ ๆ เจ้าต้องเชื่อ เจ้ายังไม่รู้สินะ ว่าคนที่ทูลรายงานเรื่องท่านตาเจ้าสมคบกับศัตรูและคิดกบฏ ก็คือท่านพ่อเสนาบดีที่เจ้าเทิดทูนนักหนานั่นอย่างไรเล่า” ซ่งอิงเจี๋ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอำมหิต
“ซ่งอิงเจี๋ย!” ดวงตาทั้งสองข้างของมู่หว่านซีแดงก่ำ “พวกเจ้าต้องไม่ตายดี!”
“เฮอะ เด็ก ๆ ลากตัวนังสารเลวนี่ไปให้สุนัขกินที!”
“ช้าก่อนท่านพี่ มิสู้มอบพี่หญิงให้ข้าเถิด เราสองคนพี่น้องมีเรื่องมากมายที่ต้องคุยกันสองคนนะเพคะ” มู่เสวี่ยโหรวยิ้มหยาดเยิ้มอ่อนโยน ทว่าในสายตาของมู่หว่านซีแล้ว รอยยิ้มนั้นช่างน่ารังเกียจน่าขยะแขยงยิ่งนัก
“ได้ เช่นนั้นก็มอบให้เจ้าแล้วกัน” ซ่งอิงเจี๋ยหันหลังจากไปอย่างไร้เยื่อใย โดยไม่หันกลับไปมองมู่หว่านซีแม้แต่หางตา
“เพราะเหตุใด มู่เสวี่ยโหรว เพราะเหตุใด ตั้งแต่เล็กจนโต เจ้าอยากได้อะไรข้าล้วนแต่ให้เจ้า เหตุใดเจ้าต้องทำกับข้าเช่นนี้?”
“เพราะเหตุใดงั้นหรือ ก็เพราะเจ้าแย่งทุกอย่างที่เป็นของข้าไป ทั้งตำแหน่งบุตรีภรรยาเอก ตำแหน่งพระชายาจวิ้นอ๋อง หากไม่ใช่เพราะท่านตาของเจ้า ท่านแม่ของข้าก็จะได้เป็นสตรีที่ท่านพ่อรักมากที่สุด แม่เจ้าใช้มารยาร้อยเล่มเกวียน ทำทุกอย่างเพื่อแย่งท่านพ่อไป แย่งตำแหน่งภรรยาเอกที่ได้ตบแต่งเข้าไปอย่างถูกต้องของท่านแม่ข้า ส่วนเจ้าก็แย่งตำแหน่งบุตรีภรรยาเอกไปจากข้า เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่พวกเจ้าแม่ลูกมี ล้วนเป็นสิ่งที่แย่งพวกข้าไปทั้งนั้น!” มู่เสวี่ยโหรวเข้าไปกระซิบที่ข้างหูมู่หว่านซี
“ไม่จริง เราไม่ได้มีแม่คนเดียวกันหรอกหรือ?”
“ฮ่า ๆ ๆ แม่คนเดียวกันงั้นเหรือ เจ้าฝันอยู่หรือไร แม่เจ้าถูกไฟครอกตายตั้งแต่เจ้าเข้าพิธีปักปิ่นแล้ว! เจ้าโง่ถึงขนาดนับผู้อื่นเป็นแม่ของตัวเอง ฮ่า ๆ ๆ ช่างโง่งมเสียจริง ๆ !”
มู่หว่านซีจ้องมู่เสวี่ยโหรวอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา และทันใดนั้นเองภาพความทรงจำนับไม่ถ้วนก็พลันไหลเข้ามาในหัวของนาง ท่านแม่ของนางทั้งตะโกนร้องเรียกและดิ้นรนอยู่ในกองเพลิงอย่างน่าอนาถ ทว่าท่านป้าซูกับบุตรสาวกลับยืนแสยะยิ้มอยู่ข้างกองเพลิง ชั่วขณะนั้นความทรงจำที่หายไปก็พลันฟื้นคืนกลับมา! พวกเขาโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก ท่านแม่เพิ่งตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน แต่พวกเขากลับเผาท่านแม่นางให้ตายได้ลงคอ!
“พวกเจ้า ที่ท่านแม่ข้าตาย…”
“ที่แม่เจ้าตายเป็นแผนของพวกเราเอง ที่เจ้าถูกจับได้คาเตียงว่ามีชู้ ก็เป็นเพราะข้ากับอิงเจี๋ยร่วมมือกันวางแผน ฮึ ๆ เจ้าคงไม่รู้สินะ ว่าก่อนที่เจ้าจะแต่งงานกับอิงเจี๋ย ข้าก็ผูกสมัครรักใคร่กับเขาแล้ว ทั้งยังเคยมีลูกกับเขาแล้วหนึ่งคน หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงไม่ต้องฆ่าเด็กคนนั้น เจ้าเป็นหนี้ข้า เพราะฉะนั้นข้าก็ต้องฆ่าลูกของเจ้าทิ้งเสีย!”
“มู่เสวี่ยโหรว!” มู่หว่านซีจ้องมู่หว่านซีอย่างเดือดดาล นางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจนแทบอยากจะฉีกทึ้งร่างอีกฝ่ายเป็นชิ้น ๆ
มู่เสวี่ยโหรวหรี่ตาลงเล็กน้อย และทันใดนั้นเอง นางก็ดึงปิ่นทองที่ปักผมอยู่ลงมา แล้วแทงเข้าใส่เบ้าตาของมู่หว่านซีอย่างสุดแรง
“อ๊า!” มู่หว่านซีเจ็บจนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนเตียง แทบอยากจะตายไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว
“ข้าไม่ชอบให้เจ้าใช้สายตาแบบนั้นมองข้า!” มู่เสวี่ยโหรวมองมู่หว่านซีที่ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างได้ใจ “ไม่ต้องตกใจ เจ้ายังเหลือตาอีกตั้งข้างหนึ่ง เจ้าคงไม่รู้สินะว่าข้าอยากจะทำเช่นนี้กับเจ้ามาตั้งนานแล้ว หากไม่ใช่เพราะเจ้ายังมีประโยชน์อยู่ล่ะก็ เจ้าคิดว่าข้าจะอนุญาตให้เจ้าอยู่มาจนถึงตอนนี้หรือ?”
“ซ่งอิงเจี๋ย ซูผิง มู่เสวี่ยโหรว ต่อให้ข้าตายเป็นผีก็จะไม่ละเว้นพวกเจ้า!”
มู่หว่านซีสิ้นใจทั้งที่ดวงตายังเบิกโพลง เพราะความโกรธแค้นยังคับคั่งอยู่เต็มอก นางดีกับผู้อื่นมาตลอด คิดไม่ถึงว่านางจะต้องมามีจุดจบที่น่าอนาถถึงเพียงนี้ น้ำตาที่กลายเป็นสายเลือดกับโลหิตของนางหลั่งริน นางขอสาบานว่าหากชาติหน้ามีจริง นางจะไม่ขอเป็นคนดีถึงเพียงนั้นอีกแล้ว และนางจะต้องสับร่างพวกคนที่บีบให้นางต้องตายพวกนี้เป็นหมื่น ๆ ชิ้นให้จงได้!