อ้อมกอดมัจจุราช

อ้อมกอดมัจจุราช

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
94.1K
ชม
152
บท

“คุณทอร์ช คุณจะทำอะไรฉัน อย่านะ ลุกขึ้นจากตัวฉันเดี๋ยวนี้” มือที่ยังเป็นอิสระทุบไปยังอกกว้างของเขาจนดังอึกๆ เจ้าของอกแกร่งไม่มีอาการสะทกสะท้านแต่อย่างใด รู้สึกรำคาญมือน้อยๆ ของเธอจนเขาต้องจับมันรวบไว้ในมือแข็งแรง “จะทำอะไรน่ะเหรอ ถามโง่ๆ ก็จะปล้ำเธอน่ะสิ เธอยั่วยวนคนงานของฉันจนหัวปั่นเกือบทุกคน ฉันก็เลยอยากจะรู้ว่าเธอมีอะไรดี พวกมันถึงได้หลงเธอหนักหนา ถึงขนาดตามก้นเธอไปไร่ของไอ้ท๊อป สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น พิสูจน์ด้วยตัวของฉันเองนี่แหละดีแล้ว ร่านดีนักก็จะสนองให้หายอยาก จะได้ไม่ไปยั่วคนอื่นให้เขาฉิบหายเหมือนฉัน” เสียงของเขานั้นช่างเหี้ยมเกรียมจนเธอใจหล่นไปกองยังปลายเท้า และยิ่งสีหน้าของเขาด้วยแล้ว เพลงมีนาอยากจะตายเสียให้ได้ “อย่าคุณทอร์ช...อย่า ฉันไม่ใช่น้องหนู แควกๆๆๆ กรี๊ดดดดด...แควก” คำร้องห้ามของสาวใต้ร่างดูเหมือนจะไร้ผล เพราะตอนนี้อาการหน้ามืดด้วยไอแห่งแรงโทสะมันปกคลุมสมองและจิตใจของเขาจนสิ้น เสื้อผ้าของเธอจึงถูกกระชากติดมือมา แล้วเขาก็ใช้เศษผ้าที่มีความยาวมากที่สุด มัดข้อมือเล็กทั้งสองข้างเอาไว้ ล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ของตนออกจากกระเป๋ากางเกง นำผ้าผืนนั้นมาปิดปากสาวที่แผดเสียงกรีดร้องไม่หยุด มัดปมผ้าไว้ด้านหลังศีรษะสาว “อื้อ อื้อๆๆ” เธอทั้งดิ้นทั้งส่งเสียงร้อง แต่เสียงนั้นไม่อาจหลุดออกมาได้ เพราะมีผ้าผืนใหญ่ปิดปากของเธออยู่ อีกทั้งร่างกายยังถูกร่างหนาคร่อมทับ ทำให้เธอหมดสิ้นอิสรภาพอย่างสิ้นเชิง ดวงหน้าสาวตอนนี้เปื้อนสีเลือด เนื่องจากร่างกายส่วนบนของตนเองเหลือเพียงบราตัวสวยที่ห่อหุ้มดอกบัวงดงามไว้เท่านั้น และเวลานี้เขาก็ก้มมองความอวบใหญ่ตาเป็นมัน “เธอได้อิ่มแน่ เพลง...ฉันจะทำให้เธอคลานลงเตียงเลย” ปากหนาพูด มือใหญ่ค่อยๆ บรรจงถอดบราสีชมพูหวานออกจากร่างสาว ไม่กี่วินาทีบงกชคู่สล้างก็เปิดเผยต่อสายตาร้อนแรงของกวินภพ

บทที่ 1 1

1

ณ ไร่พฤกษา

“มาแล้วจ้า มาแล้ว กับข้าวอร่อยๆ ของแม่ครัวคนสวยมาให้ทุกท่านกินแล้วค่ะ วางจอบวางเสียมมากินข้าวกันก่อนนะจ๊ะ”

เสียงหวานๆ รูปร่างเซ็กซี่ของแม่ครัวคนสวยประจำไร่พฤกษา ตะโกนเรียกคนงานในไร่ทั้งชายและหญิงให้มารับประทานอาหารเที่ยงในโรงครัว หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างเดินตามเสียงเรียกเข้ามาทานอาหารรสเลิศจากแม่ครัวหัวป่า ที่ทำอาหารน่ากินยังไม่พอ คนที่ทำก็น่ากินไม่แพ้กัน

“กินข้าวเสร็จ กินน้องหนูต่อได้หรือเปล่าจ๊ะ?”

คนงานหนุ่มวัยสามสิบปีได้ทีเกี้ยวแม่ครัวสาวนามว่าน้องหนูแบบเปิดเผย พร้อมกับมองทรวดทรงองค์เอวที่สะท้านสะเทือนอารมณ์ใจชายของน้องหนูตาเป็นมัน

“เอาไว้วันหลังนะคะ ตอนนี้เก็บปากไว้กินข้าวก่อนนะจ๊ะพี่เผือกจ๋า วันนี้มีกับข้าวอร่อยๆ ทั้งนั้นเลยนะจ๊ะ”

น้องหนูทิ้งสายตา ยิ้มยั่วอีกฝ่ายจนเผือกกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ เกิดมาไม่เคยเห็นใครยั่วยวนเก่ง ไม่เคยเห็นใครน่ากินเท่าน้องหนูแม่ครัวสุดสวยคนนี้เลย

“วันหลังให้พี่ดำกินน้องน้องหนูบ้างนะจ๊ะ พี่ดำก็อยากกินน้องน้องหนูใจแทบขาด” ดำที่ยืนต่อแถวพูดขึ้นมาอีกคน

“ตกลงพวกแกจะมากินข้าวหรือว่าจะมากินยายน้องหนูกันแน่ ไป ไป ไปกินข้าวกันได้แล้วจะได้ทำงาน” เสียงของป้าพิณหัวหน้าแม่ครัวเท้าสะเอวตะโกนไล่คนงานชายที่มองแม่ครัวสาวตามันระยับ “นี่ยัยน้องหนู ตกลงแกจะมาเป็นแม่ครัวหรือว่าจะเป็นนางยั่วกันแน่ ดูสิคนงานที่นี่แทบจะไม่เป็นอันทำงานกันแล้ว จ้องจะกินแต่แก”

ก่อนจะหันมาพูดเสียงเขียวกับแม่ครัวรุ่นหลานที่หน้าตาสวยสด ผิวพรรณผุดผ่อง ไม่เหมือนแม่ครัวทั่วๆ ไป

“คนมันมีเสน่ห์ก็อย่างนี้แหละจ่ะ ฉันชินแล้วแหละ” น้องหนูทำท่าทางปลื้มอกปลื้มใจยามที่พูดประโยคนี้

“ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วเรื่องเสื้อผ้า หาซื้อที่มันมิดชิดกว่านี้ไม่ได้หรือไง ตั้งแต่แกมาทำงานที่นี่ คนงานผู้ชายเป็นกลากเป็นเกลื้อนกันหลายคน เพราะน้ำลายหกเวลาที่มองเนื้อนมไข่ของแก ฉันล่ะหน่ายกับแกจริงๆ พูดไม่รู้จักฟัง ถ้าแกไม่ได้เป็นหลานของนุ่มนะ ฉันตะเพิดแกออกไปจากไร่นี้ตั้งแต่วันแรกแล้ว”

ป้าพิณพูดไปดมยาดมไป มองเห็นการแต่งกายของน้องหนูแล้ว นางนึกอยากจะหวดก้นเด็กสาววันละหลายๆ ครั้ง นุ่งน้อยห่มน้อยเสียเหลือเกิน

“แหมป้า อินเทรนด์น่ะรู้จักหรือเปล่า เทรนด์นี้กำลังมาแรง ถ้าฉันไม่ใส่เดี๋ยวเขาจะว่าฉันตกเทรนด์”

น้องหนูแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เธอไม่คิดว่าการใส่กางเกงขาสั้นอวดเรียวขาสวยกับเสื้อยืดแบบเอวลอยโชว์หน้าท้องขาวๆ เนียนสวยจะเสียหายตรงไหน ก็แค่แฟชั่นธรรมดาที่คนทั่วๆ ไปเขาใส่กัน

“ใครว่าแกตกเทรนด์หะ!!...ยายน้องหนู แกลองแหกตาดูสิว่าผู้หญิงในไร่มีใครเขาแต่งตัวแบบแกบ้าง เขาปิดมิดชิดกันทั้งนั้นแหละ มีแต่แกเท่านั้นที่เปิดเผย เนื้อนมไข่แทบจะหกออกมาแล้ว แกรู้มั้ยว่าการที่แกแต่งตัวแบบนี้คนงานชายแก่คราวพ่อคราวน้าหัวใจจะวายวันละหลายๆ รอบ” นางยังไม่หยุดต่อว่า ยิ่งเห็นยิ่งขัดใจ

“แหม!!...ป้าพิณก็ ฉันน่ะทำให้ไร่นี้เจริญหูเจริญตาขึ้นตั้งเยอะ หนุ่มๆ แก่ๆ พากันกระชุ่มกระชวย ไม่ได้มองไปทางไหนก็ส่ายหน้าดิก อีกอย่างป้าไม่ต้องกลัวว่าลุงๆน้าๆ ทั้งหลายเขาจะหัวใจวายตายเพราะการแต่งตัวของฉัน เพราะเดี๋ยวฉันก็ไปแล้ว” น้องหนูโต้กลับหน้าตาเฉยไม่สะทกสะท้านกับคำต่อว่าของอีกฝ่าย

“แกจะไปไหนนังน้องหนู?” ป้าพิณถามกลับด้วยความสงสัย

“แถวนี้แหละ ป้าอย่ารู้เลย ตักกับข้าวไปเถอะน่า ฉันก็จะไปทำงานของฉันเหมือนกัน” ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปจากโรงครัว

“นังน้องหนูแกจะไปไหน มานี่นะ แกมีหน้าที่ตักกับข้าวนะโว้ย” ป้าพิณตะโกนไล่หลังสาวร่างสวยที่เดินนวดนาดออกไปจากโรงครัว แต่ทว่าสาวนางนั้นไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ ยังคงก้าวเดินต่อไป “คุณทอร์ชกลับมาเมื่อไหร่ ฉันจะให้คุณทอร์ชไล่แกออก วันๆ เอาแต่ยั่วผู้ชาย”

นางเข่นเขี้ยวต่อว่าน้องหนูอย่างเดือดดาล งานนี้นางไม่ปล่อยเอาไว้แน่ หากปล่อยไว้มีหวังเกิดเรื่องชู้สาวขึ้นมาอย่างแน่นอน

คนที่กำลังถูกต่อว่าเดินมายังต้นหูกวางต้นใหญ่ที่อยู่ติดกับบ้านพักของหัวหน้าคนงานไร่พฤกษา เธอขยับเสื้อเอวลอยแบบคอวีคว้านลึกอวดเนินอกสาวให้หมิ่นเหม่มากยิ่งขึ้น พับกางเกงยีนส์ขาสั้นให้สั้นขึ้นไปอีก เพื่ออวดเรียวขาขาวน่าลูบไล้ ก่อนจะเดินนวดนาดไปหาประยงค์ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่

“พี่ยงค์จ๋าคนดีของน้องหนูกินข้าวอร่อยหรือเปล่าจ๊ะ?”

เสียงหวานๆ มาพร้อมกับร่างอวบอิ่มที่ทรุดตัวลงนั่งบนแคร่ ทำเอาเจ้าของชื่อถึงกับสำลักข้าวที่อยู่ในปาก เพราะเธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แถมยังโน้มร่างกายมาหาเขาเล็กน้อย ทำให้เสื้อคอวีร่นลงเล็กน้อย มองเห็นเนินอกขาวรำไรน่าฟัด

“แคกๆๆ” เขาสำลักข้าวทันที ก่อนจะคว้าขันที่ใส่น้ำเย็นมาดื่มกินดับอาการสำลักข้าวและอาการรุ่มร้อน “กับข้าวของน้องหนูอร่อยอยู่แล้วจ๊ะ”

ประยงค์ไม่ได้เยินยอ เขาพูดจากใจจริง ฝีมือทำกับข้าวของน้องหนูอร่อยกว่าป้าพิณ แม่ครัวใหญ่ของที่นี่เสียอีก

“แกงเขียวหวานวันนี้น้องหนูตั้งใจทำเต็มที่เลยนะคะ ใส่ทั้งกะทิ ใส่ทั้งนม รับรองหวานมันไม่เหมือนใครเลยจ้ะ”

พูดไปด้วยก็ส่ายร่างกายนิดๆ ส่งผลให้ทรวงอกน่ากินกระเพื่อมไหวตามแรงส่าย ประยงค์เห็นแล้วหัวใจเต้นตึกตัก อยากจะทิ้งข้าวที่อยู่ในมือ กระโจนใส่สาวร่างสวยนี้เต็มทน

“มิน่าละถึงได้อร่อยเหาะอย่างนี้ พี่น้ำหนักตัวขึ้นตั้งหลายโล”

เขาพูดตามันเป็นประกาย สองสัปดาห์ที่เธอก้าวเข้ามาทำงานที่นี่ ดูเหมือนว่าไร่แห่งนี้ดูจะเจริญหูเจริญตาขึ้นเยอะ นอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว แม่ครัวสาวคนใหม่ยังเป็นอาหารตาของคนงานชายที่นี่ด้วย ทานข้าวไปมองรูปร่างเย้ายวนของเธอไป เจริญอาหารดีแท้ๆ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
รักร้อนเพลิงปรารถนา (ภาคต่อรักร้อนเพลิงริษยา)

รักร้อนเพลิงปรารถนา (ภาคต่อรักร้อนเพลิงริษยา)

มหาเศรษฐี

5.0

ร่างของกัญติญาถูกโยนลงบนเตียงอย่างแรง มือที่ถูกไขว้ไว้ที่ด้านหลังแถมโดนมัดเสียแน่นหนา ทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนแนวขาอ่อนทั้งสองข้างก็ถูกเขาทุบเบาะๆเพื่อตัดทอนกำลัง ส่งผลให้ขาทั้งสองข้างของเธอไร้เรี่ยวแรงต่อสู้ “เธอจะต้องได้รับโทษที่เธอทำไว้กับฉัน วันนี้เธอจะต้องจดจำไปชั่วชีวิตแน่นอน” กางเกงตัวสวยของเธอถูกถอดออกจากร่างกายตามด้วยอันเดอร์แวร์ โดยกัญติญาไม่ทีทางต่อสู้ได้เลย เธอไม่รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตน “เธอเตรียมตัวรอรับโทษจากฉันได้เลย” เขาพูดจบพร้อมกับลงโทษให้เธอรู้สำนึกว่าอย่าบังอาจมาทำร้ายคนอย่างเขา ถ้าเขาเจ็บเธอจะต้องเจ็บยิ่งกว่า และมันก็เป็นอย่างที่เขาตั้งใจไว้จริงๆ “อี๊ดดดดดดดดด..” เสียงกรีดร้องที่ไม่สามารถดังออกมาได้เพราะเธอถูกเสื้อที่เขากระชากติดมือมาอุดไว้ที่ปาก ความเจ็บปวดที่แสนทุกข์ทรมานที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน น้ำตาของเธอรินไหลออกมาไม่ขาดสาย ร่างกำยำเริ่มเคลื่อนไหวหลังจากที่แทรกเข้ามาในกลีบกุหลาบของเธอ ในภาวะที่เธอยังไม่พร้อมทำให้ร่างกายของเธอเจ็บปวดอย่างที่สุด กลีบกุหลาบที่ไร้ซึ่งน้ำหวานมาชโลมให้ชุ่มฉ่ำ ร่างทั้งร่างเจ็บปวดจนไม่อาจทานทนได้ มีเพียงน้ำตาที่รินไหลออกมาบรรเทาความเจ็บปวดเท่านั้น กัญติญาร้องไห้แทบจะเป็นสายเลือดเพราะความเจ็บระบมกับสิ่งที่เกิดขึ้น บทลงโทษของเขาทำให้เธอจดจำไม่มีวันลืมจริงๆ เขายังคงเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง แรงถาโถมที่เขาสาดใส่อย่างแรงอย่างไม่กลัวเธอเจ็บปวด เขาทำตามอารมณ์และจินตนาการที่อยู่ในใจของเขา เสียงสะอื้นและกรีดร้องผ่านเสื้อที่ปิดเรียวปากของเธอ ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่เขาหาสนใจไม่ยังคงเคลื่อนไหวบนร่างของเธออย่างไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งได้ปลดปล่อยในร่างกายของเธอ รัฐศาสตร์นอนหอบหายใจแรงอยู่ข้างกายเปลือยเปล่าของเธอ หลังจากเสพสมครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้น เขาตะแคงหันร่างมาหาเธอที่นอนร้องไห้อยู่ มือหนาไต่ไปตามแนวลำแขนของเธอที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและรอยเขียวจ้ำกระจายอยู่เต็มไปทั่ว “ฉันจะไม่ฆ่าไอ้เคนจิมัน..แต่ฉันจะไล่มันลงเรือแทน และต่อไปนี้ห้ามติดต่อกับมันอีกไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ถ้าฉันรู้เธอเจอหนักกว่านี้แน่ แต่ถ้าเธอคิดหนี พ่อของไอ้เคนจิมันจะต้องหัวใจวายเพราะลูกชายมันแน่นอน” รัฐศาสตร์ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย แต่ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากเตียงเขาปลดเสื้อที่มัดข้อมือและเรียวปากของเธอให้เป็นอิสระ และดึงผ้าห่มมาปิดร่างกายให้ กัญติญานอนร้องไห้กับการกระทำของเขา ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับเธอแบบนี้ เคนจิโร่ทำร้ายเธอทั้งคำพูดและร่างกายเป็นบางครั้ง แต่เธอสามารถทนได้เพราะรักเขาและนึกถึงทางาดะบิดาของเคนจิโร่ที่มีบุญคุณกับเธออย่างใหญ่หลวง แต่สำหรับรัฐศาสตร์เธอเองไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทนและทนไปเพื่ออะไร หญิงสาวนอนร้องไห้จนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียและเจ็บปวด นอนเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเพื่อต่อสู้กับเขาในวันพรุ่งนี้ รัฐศาสตร์เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดลำลอง เขาเดินมาหยุดนิ่งที่ข้างเตียง ยืนมองร่างที่หลับใหลของเธอ ใบหน้านวลยังคงมีหยาดน้ำตาแห้งกรังติดอยู่ เสียงสะอื้นดังออกมาเป็นระยะ เขาบอกตัวเองไม่ได้ว่าสิ่งที่เขากระทำลงไปกับเธอเพราะเหตุใด แต่ที่แน่ๆ คือเขาหวง ไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ผู้ชายคนไหน ยิ่งเป็นเคนจิโร่ด้วยแล้ว ความหวงของเขามากเป็นเท่าทวีคูณ รัฐศาสตร์เดินออกไปจากห้องนอนทันที เพื่อจัดการบางอย่างให้เรียบร้อย

สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

แสงสว่าง ณ ทางแยกใหม่

แสงสว่าง ณ ทางแยกใหม่

Fritz Lagerquist
5.0

เจียงหยวนชอบเสิ่นตู้มาเป็นเวลาสี่ปี แม้จะต้องเผชิญความรังเกียจจากตระกูลเจียง แต่เธอก็ยังเลือกยืนหยัดเคียงข้างเขา กระทั่งวันหนึ่ง เสิ่นตู้เพื่อพี่สาวของเขา ยอมยกให้เธอไปมีอะไรกับคนอื่น ในที่สุด เธอถึงได้เข้าใจว่าคนที่ไม่ใช่ยังไงก็คือไม่ใช่ ในเมื่อไม่ใช่คนที่ใช่ งั้นเธอยอมตัดทิ้งแล้วกัน เธอหันไปให้ความสำคัญกับการทำงานจนกลายเป็นนางแบบระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกตะลึง ผู้ชายที่ทำร้ายเธอรู้สึกเสียใจ“หยวนหยวน โลกของฉันขาดเธอไม่ได้ กลับมานะ” ตลกสิ้นดี ผู้ชายมันจะเทียบกับอาชีพการงานได้ที่ไหน ! ** เจี่ยงเฉินโจว ผู้นำของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเฉิง เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเป็นคนแสนเย็นชา แต่อยู่ลับหลังกลับเป็นคนคลั่งรัก เขาชอบความงามของเจียงหยวน เห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่น่ารักและเชื่อง ต่อมา บนพรมแดงท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ ชายผู้ก้าวลงจากเวทีคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าสาธารณะ“ถึงแม้จะไม่มีฐานะอะไร ฉันก็ยินยอม”

คุณนายฟู่ กรุณาเซ็นต์หย่า

คุณนายฟู่ กรุณาเซ็นต์หย่า

Harper
5.0

ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ