Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อดีตรักซุปตาร์

อดีตรักซุปตาร์

Enchantress01

5.0
ความคิดเห็น
4.5K
ชม
25
บท

มาร์ติน คลาร์ก อายุ 28 ปี ลูกครึ่งไทย-อเมริกา มีพี่น้อง 4 คน เป็นลูกคนที่3 มีพี่ชาย 2 คน มีน้องชาย 1 คน นักร้องชื่อดังและพ่วงตำแหน่งทายาทธุรกิจอสังหาฯหมื่นล้านและธุรกิจอื่นๆอีกมากมาย มาร์ตินเกิดและโตที่สหรัฐอเมริกา เป็นคนที่มีความสามารถรอบด้าน มีใบหน้าที่หล่อเหลาสาวๆก็ต่างเข้าหาไม่ขาดสาย แต่มาร์ตินไม่เคยแม้แต่จะสนใจใครเลยและไม่เคยคิดที่สายสัมพันธ์ทางกายกับใครเช่นกัน เพราะเขานั้นยังคงรอผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจและหวังว่าสักวันจะได้เจอเธออีกครั้งที่จากเขาไปโดยไม่แม้แต่จะมีคำล่ำลาพร้อมกับอีกหนึ่งชีวิตที่เกิดมาจากความรักของทั้งเธอและเขา เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าอะไรคือเหตุผลที่เธอไปจากเขาทั้งที่ตลอดเวลาที่คบกันมาพวกเขาทั้งสองคนแทบจำไม่เคยทะเลาะกันถึงขั้นเลิกกันแม้แต่ครั้งเดียว จะมีก็แต่ทะเลาะกันเล็กๆแต่ก็จบด้วยการปรับความเข้าใจกันและก็เหมือนจะรักกันมากขึ้นเสียด้วย นิสัย : เก่ง ขี้หึง ขี้หวง มั่นคงในความรัก “พี่จะไม่มีทางแก้มกับลูกไปไหนอีกแล้ว” แก้ม กัลย์กมล กิจวณิชกุล อายุ 23 ปี คุณแม่ลูกหนึ่งเจ้าของคาเฟ่เล็กๆ เป็นลูกคนเล็กมีพี่น้อง 2 คน มีพี่ชายหนึ่งคน หวงน้องมาก ฐานะทางบ้านปานกลาง มีเพื่อนสนิท 2 คน ทั้งสามรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กคอยช่วยเหลือกันและมาโดยตลอด มีใบหน้าน่ารักแต่ก็ไม่เคยสนใจใครหรือได้ใจเธอไปครอบครองนอกจากพ่อของลูกชายที่เป็นรักแรกและรักเดียวของเธอ เคยเป็นนักเรียนทุนไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาช่วงมหาลัยซึ่งเป็นจดเริ่มต้นที่ให้เขาและเธอได้พบกัน พร้อมกับมีพยายานรักตัวน้อยเกิดขึ้นมา แต่แล้วที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นทำให้ทั้งสองต้องจากกันโดยที่เอไม่แม้แต่จะบอกเหตุผลที่เธอเกิดออกมาจากซีวิตเขาพร้อมกับลูกน้อย นิสัย : ยิ้มเก่ง น่ารัก ขยัน มีความรักผิดชอบ เก่ง ขี้เล่น อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ “ทำไมพี่ตินไม่ป้องกันคะ ถ้าพี่ยังไม่ป้องกันแก้มจะป้องกันเอง” น้องมาร์ช พชร กิจวณิชกุล ลูกชายวัย 3 ขวบ ของแม่แก้มลูกชายที่ทุกอย่างได้พ่อมาทั้งหมดไม่มีอะไรเหมือนแม่ที่เป็นคนอุ้มท้องแม้แต่นิด เด็กชายหน้าตาน่ารักใครเห็นก็ต้องหลงถูกเลี้ยงมาด้วยคุณแม่ยังสาว เกิดที่สหรัฐอเมริกาและกลับมาอยู่ไทยหลังจากมารดาเรียนจบ นิสัย : ร่าเริง เข้ากับคนอื่นได้ง่าย รักแม่มาก เลี้ยงง่าย เรียนรู้เร็ว “มาร์ชจะปกป้องแม่แก้มเองฮะ” “ลุงทำอะไรแม่ผมนะ!! ทำไมคอแม่มีรอยเต็มไปหมดเลย” ร่างสูงที่ทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะตามหาคนรักและลูกน้อยที่เธอนั้นพาหนีจากเขามา ส่วนเธอทีคอยเอาแต่หลับซ่อนไม่ให้เขาหาเจอเพียงเพราะเหตุผลบางอย่าง แต่ใครจะไปรู้ว่าหญิงที่เป็นที่รักอยู่ใกล้เขาแค่ปลายจมูกและคนที่คอยให้ความช่วยเหลือเธอกลับเป็นคนใกล้ตัวของเขาเสียเอง ความรักของทั้งสองจะดำเนินต่อไปอย่างไรและเหตุผลอะไรกันแน่ที่ทำให้เธอหนีเขาไปพร้อมกับลูกน้อยในท้องโดยมาบอกเหตุผลและไม่มีแม้แต่คำล่ำลา โลกจะเหวียงคนทั้งสองให้ได้กลับมาพบเจอกันได้อีกหรือไม่

บทที่ 1 ชายแปลกหน้า

ชายแปลกหน้า

แก้ม กัลย์กมล กิจวณิชกุล อายุ 23 ปี สาวน้อยร่างบางพ่วงตำแหน่งคุณแม่ลูกหนึ่งเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆข้างบริษัทส่งออกอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เป็นบริษัทส่งออกอุปกรณ์ทางการแพทย์อันดับต้นๆ ของประเทศ แก้มกลับมาเปิดร้านกาแฟหลังจากเรียนจบจากสหรัฐอเมริกาได้ 1 ปี ซึ่งเธอใช้เวลาเรียนทั้งหมด 3 ปี และในขณะเดียวกันเธอก็ทำงานและเลี้ยงลูกชายตัวน้อยไปด้วยในเวลาเดียวกัน

ซึ่งเกิดจากชายคนรักที่เป็นรักแรกและรักเดียวของเธอเมื่อครั้งเธอไปเป็นนักเรียนทุกเมื่อ4ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นเวลาที่หนักหน่วงมากที่สุดสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวในต่างแดนแบบเธอแต่ก็ยังดีที่มีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่คอยช่วยเหลือเธอตลอดซึ่งคนที่ช่วยเธอก็เป็นน้องชายของอดีตคนรักของเธอแต่ก็ต้องแลกเปลี่ยนกับที่เธอต้องบอกความจริงและเหตุผลถึงแม้แม้จะเป็นเหตุผลที่ฟังดูแล้วเห็นแก่ตัวก็ตาม ที่เลือกเดินออกมาจากชีวิตพี่ชายของเพื่อนชายคนนี้ ถึงแม้ในตอนแรกเพื่อนชายคนนี้จะมีท่าทีคัดค้านอยู่บ้างแต่สุดท้ายก็ยอมช่วยซึ่งเรื่องที่เธอท้องจะมีเพียงแค่ครอบครัวเธอและพ่อแม่เพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่รู้ เธอก็ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนเพื่อไม่ให้ชายคนรักรู้ว่าเธออยู่ไหนโดยได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ของอดีตคนรัก และมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักเพราะเธอยังต้องเรียนอยู่ที่เดิมและอาศัยอยู่ใกล้มหาลัยที่เธอเรียนและที่ทำงานที่เธอทำงานช่วงเลิกเรียนและวันหยุดเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปเรียนและทำงานแต่เพราะเอมีพ่อแม่ของชายหนุ่มคอยให้ความช่วยเหลือจึงทำให้เขาหาเธอไม่เจอ

มันไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่ท่านทั้งสองต้องช่วยคนที่ทิ้งลูกชายพวกท่านเพราะเหตุผลที่ฟังแล้วเห็นแก่ตัว แต่ที่ท่านช่วยอาจจะเพราะในท้องคือหลานของท่านในตอนแรกที่เพราะพาไปที่บ้านเพื่อบอกว่าเอท้องก็แอบกลัวว่าจะโดยท่านดุด่าที่เลือกตัดสินใจแบบนี้แต่สุแล้วท่านทั้งสองก็เลิกที่จะเคารพการตัดสินใจของเธอ และคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆโดยไม่ให้อดีตคนรักของเธอรู้

4 ที่แล้ว ประเทศสหรัฐอเมริกา

“สวัสดีค่ะ เอ้ย!! Hello” ร่างบางเดินเข้าไปทักชายแปลกหน้าที่ยืนเหม่อลอยราวกับคนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดดังคนถูกมนต์สะกด เพื่อจะถามทางแต่กลับหลุดพูดภาษาไทยออกไปด้วยความเคยชินจึงรีบเปลี่ยนภาษาใหม่

“เอ่อ สวัสดีครับ” ร่างสูงที่ยืนตกตะลึงกับความน่ารักเป็นธรรมชาติบนใบหน้าของร่างบางตรงหน้าที่ไม่ได้ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางสีฉูดฉาดแต่กลับมีใบหน้าที่ขาวนวล แก้มใสแดงระเรื่อของเลือดฝาดทำให้ดูน่ามอง ก่อนจะหลุดจากภวังค์เมื่อเสียงหวานทักขึ้นก่อนจะทักทายร่างบางกลับไปเป็นภาษาไทยเช่นกันพร้อมกับส่งยิ้มที่หาดูได้ยากส่งไปให้เธอ

“อะ..อ้าว แก้ม เอ้ย ฉันนึกว่าคุณเป็น...” ร่างบางที่เกือบหลุดสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวเองเวลาอยู่กับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวออกไปกับชายแปลกหน้า

“เป็นอะไรครับ คุณคิดว่าผมเป็นอะไรครับ อย่าตัดสินคนที่ภายนอกสิครับ” ร่างสูงถามกลับพูดน้ำเสียงหยอกเย้ายียวน แต่ก็ยังคงเรียบนิ่งตามนิสัยของตนพร้อมยิ้มให้กับท่าทางน่ารักของร่างบางตรงหน้าที่ดูจะเหวอเมื่อเขาพูดขึ้นเป็นภาษาไทย

“ก็ใครจะไปรู้ล่ะคะ หน้าคุณไม่เหมือนคนไทยหรือคนเอเชียสักนิด มองจากทางเข้าสนามบินยังรู้เลยว่าไม่ใช่คนไทย” ร่างบางตอบกลับตามความคิดของตัวเองในครั้งแรกที่ได้พบชายแปลกหน้า แต่ประโยคหลังเธอเพียงแค่พูดเบากับตัวเองเท่านั้นแต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เธอพูดกับตัวเองนั้นคนตรงหน้าเธอนั้นได้ยินชัดเจนทุกคำเช่นกัน

“ผมเป็นลูกครึ่ง แม่เป็นคนไทยสอนพูดตั้งแต่เด็กเลยพูดได้ ว่าแต่คุณมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ เหมือนคุณกำลังต้องการความ ช่วยเหลือนะครับ” ร่างสูงไขข้อสงสัยให้สาวน้อยน่ารักตรงหน้าได้รู้ว่าทำไมเขาถึงพูดภาษาไทยได้ก่อนจะถามเหตุผลที่เธอเดินเข้ามาทักเขา แต่ก็มิวายหลุดขำออกมาเมื่อได้ยินสาวน้อยตรงหน้าพึมพำกับตัวเองโดยที่ไม่ทันไห้เธอได้สังเกตได้ว่าเขาได้ยินที่เอพูดกับตัวเอง

“เอ่อ คือฉันจะถามคุณว่าที่พัก......จากสนามบินต้องไปยังไงคะ คือฉันพึ่งเคยมาเป็นครั้งแรกไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหน” ร่างบางพึมพากับตัวเองเสร็จจึงหันมาสนใจคำถามของชายตรงหน้าและตอบคำถามเขา

“อืม คุณเดินตรงไปนะมันจะมีประตูทางออก ตรงนั้นจะมีแท็กซี่จอดคอยรับคนอยู่คุณก็บอกที่ที่คุณจะไปกับคนขับ ไม่ไกลหรอก” ร่างสูงอธิบายเส้นทางตามที่ร่างบางถามแต่สายตาก็ไม่ละจากการมองใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มไม่หยุดจนอธิบายเสร็จเส้นทางที่เธอต้องไปเรียบร้อยก็ยัคงไม่ละสายตาจากเธอเช่นเดิม

“ขอบคุณนะคะที่ช่วยบอกทาง งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” ร่างบางเอ่ยขอบคุณที่ร่างสูงบอกทางไปที่พักให้เธอและยิ้มหวานจนตาหยีส่งไปให้ร่างสูงหนึ่งทีและเดินจากไปตามทางที่ร่างสูงอธิบายให้เธอฟังเมื่อครู่

หลังจากที่ร่างบางเดินจากไปสายตาของร่างสูงก็เอาแต่มองตามร่างบางไปจนสุดสายตา จนแทบจะลืมธุระที่ทำให้เขาต้องมาที่สนาม ซึ่งการมาครั้งนี้ทำให้เขาได้เจอกับสาวน้อยน่ารักที่ทำให้หัวใจแกร่งเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะเอาแต่นึกถึงใบหน้าของร่างบางที่เพียงแค่เดินเข้ามาถามทาง เขาว่าเขาต้องขอบคุณเจ้าน้องชายตัวแสบที่ไหว้วานให้เขาเป็นธุระมารับที่สนามบินวันนี้เสียแล้ว จากคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องพรหมลิขิตแต่ตอนนี้เขาเริ่มจะเชื่อแล้วสิว่าพรหมลิขิตมีอยู่จริง เพราะเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนต่อจะให้มีใครเข้าหาเขาหรือยั่วยวนมากแค่ไหนเขาก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครสักคน เธอคนนี้ทำอะไรกับเขากันแน่นะและเขาเชื่อเธอและเขาจะต้องได้เจอกันอีกแน่

“Hey!! Bro ได้ยินไหมเนี้ย” มิกซ์น้องชายคนเล็กเดินตรงเข้ามาทักพี่ชายหลังจากเดินออกมาจากเกรดแต่เรียกเท่าไหร่พี่ชายเขาก็ไม่หันเอาแต่มองไปที่ประตูทางออกมิกซ์จึงทักซ้ำอีกครั้งเพื่อเรียกสติพี่ชายสุดที่รักที่กำลังหลุดลอยไม่ถึงดาวอังคารให้กลับมา และก็ได้แต่คิดว่าพี่ชายของเขากำลังมองอะไรอยู่และอะไรที่สามารถดึงดูดความสนใจพี่ชายของเขาได้ขนาดนี้จนอดที่จะมองตามไม่ได้แต่พอมองไปตามระยะสายที่พี่ชายก็ไม่เห็นจะมีอะไรให้น่าสนใจสักนิด

“Bro!! พี่มาร์ติน ได้ยินผมไหมเนี้ย ยืนเหม่ออะไรของพี่ว่ะ Hey!!!” ปากก็เรียกพี่ชายมือก็สะกิดแขนพี่ให้รู้สึกตัว มองอะไรของเขานักหนา หรือว่าพี่เขาทำงานหนักจนเบลอนะ แด๊ดต้องใช้งานพี่เขาหนักแน่ๆ

“หะ..ห๊ะ อื่ม มานานหรือยัง” ร่างสูงหลุดออกจากภวังค์เมื่อโดนน้องชายสะกิดที่แขนก่อนจะหันไปถาม

“เห้อ ผมมาตั้งนานแล้วเถอะ เรียกพี่ตั้งนานก็ไม่หัน ยืนเหม่ออยู่นั้นแหละ” มิกซ์ได้ทีก็บ่นร่างสูงที่มัวแต่มองไปที่ประตูทางออกจนไม่รู้ว่าน้องตัวเองมาถึงตั้งนานแล้ว อาการหนักแล้วพี่ชายเขา

“พูดมาก” ร่างสูงตอบกลับสั้นๆ ตามนิสัยของตัวเองที่เป็นคนพูดน้อยหรือบางครั้งแทบจะไม่พูดเลยด้วยซ้ำถ้าไม่จำเป็นบวกกับน้ำเสียงเรียบนิ่งที่ตนมักใช้ประจำ

“ชิ เย็นชาจังนะกับน้องเนี้ย ทีเมื่อกี้เห็นนะว่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนคนบ้าอยู่คนเดียว” มิกซ์พูดประชดประชันอย่างไม่ได้จริงจังนักที่โดนพี่เย็นชาใส่ตามนิสัยขี้เล่นของตนเพราะตั้งแต่จำความได้พี่ชายเขาก็พูดแบบนี้อยู่แต่ก็จะมีกับแม่ของพวกเขาเท่านั้นแหละที่พี่จะพูดอ่อนโยนด้วย

“เสือก” ร่างสูงพูดจบก็เดินนำออกไปด้านนอกเพื่อที่จะกลับบ้านโดยไม่รอน้องชาย

“โห อะไรว่ะ แซวแค่นี้ทำเป็นด่าแก้เขิน เฮ้ย รอด้วยดิ ให้มารับจะมาทิ้งกันแบบนี้ได้ไง” มิกซ์บ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะรีบลากกระเป๋าวิ่งตามพี่ชายตัวเองออกไป หากช้ามีหวังได้กลับเองเป็นแน่พี่ชายเขาที่ยิ่งไม่ค่อยสนใจใครเท่าไหร่นัก

“แกจะให้ฉันไปส่งที่ไหน บ้านหรือคอนโด”ชายหนุ่มเอ่ยถามน้องชายหลังจากขึ้นรถมาแล้ว

“คอนโดก็ได้พี่ พรุ่งนี้มีเรียน เห็นว่าจะมีเด็กทุนด้วยมั้ง น่าจะเป็นคนไทยด้วยนะ”มิกซ์ตอบคำถามพี่ชายแต่ก็มิวายพูดนอกเรื่องที่ถาม

“อืม”ชายหนุ่มตอบอย่าไม่ได้สนใจมากนัก

“ชิ เย็นชาชะมัดเลยพี่ใครว่ะ”มิกซ์ได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองกับความเย็นชาของพี่ชายที่ไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้างมากนักนอกจากงานแล้วเขาเองก็ยังนึกไม่ออกว่าอะไรที่จะความสนใจจากพี่ชายเขาได้

หลังจากที่บทสนทนาจบลงภายในรถก็เงียบสนิทไร้เสียงสองหนุ่มพูดคุยกับจะมีแต่เสียงของเครื่องปรับอากาศภายในรถเท่านั้นที่ดังออกมาให้ได้ยิน รถสปอตคันหรูขับไปตามท้องถนนเพื่อไป จุดหมายปลายทางนั้นก็คือคอนโดของน้องชายซึ่งก็เป็นคอนโดเดียวกับที่ร่างสูงนั้นอยู่ซึ่งคอนโดแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เป็นของที่บ้านร่างสูงเป็นเจ้าของอยู่และชายหนุ่มก็เป็นคนดูแลธุรกิจนี้เช่นกัน เนื่องจากธุรกิจที่บ้านของเขามีหลายอย่างแด๊ดจึงแบ่งให้ลูกๆช่วยกันดูแลตามความถนัดของตน

“ลงไปได้แล้ว ฉันจะไปทำงานต่อ”เมื่อรถจอดสนิทชายหนุ่มก็เอ่ยปากบอกแต่จะไปในเชิงบังคับเสียมากกว่า

“อะไรกันครับ มาถึงก็ไล่กันเลยนะ”มิกซ์ที่ได้ยินอย่างนั้นก็โวยวายขึ้นแบบไม่ได้จริงจังมากนักเพียงแค่ต้องการกวนประสาทพี่ชายให้โมโหเล่นก็เท่านั้น

“จะลงไปดีๆ หรือจะเข้าบริษัทกับฉัน”ชายหนุ่มพูดขู่น้องชายเพราะรู้ดีว่าเจ้าน้องชายตัวแสบไม่ค่อยชอบงานบริหารสักเท่าไหร่ให้เข้าไปช่วยงานแต่ละที่ก็ต้องมีข้อแลกเปรียน

“อะๆ ผมลงก็ได้ ไม่เห็นต้องมองด้วยสายตาเหมือนจะกินหัวกันขนาดนั้นเลย”มิกซ์ยอมลงจากรถแต่โดยดีเพราะขู่ของพี่ชายนั้นช่างน่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียว

ปัง!!!

หลังจากที่น้องชายตัวแสบลงจากรถไปชายหนุ่มจึงขับรถมุ่งหน้าไปที่บริษัททันที่ซึ่งก็อยู่ไม่ใกลจากคอนโดที่ตนพักมากนัก เพราะก่อนหน้าที่เขาจะออกไปรับน้องชายเขามีงานที่ต้องจัดการค้างไว้ยังทำไม่เสร็จ แต่เพราะกลัวน้องรอนานเขาจึงเลือกที่จะออกมารับน้องชายก่อน แต่ใครจะไปรู้ว่าการที่เขาไปรับน้องชายที่สนามบินครั้งนี้จะทำให้เขาได้รู้จักคำว่าพรหมลิขิตเป็นยังไง และไม่ว่าเธอจะอยู่มุมไหนของประเทศเขาก็จะถามหาเอให้เจอให้ได้ ไม่ยากเกินความสามารถเขาหรอกแค่ตามหาผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว เธอจะมาทำให้หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะแล้วหนีไปแบบนี้ได้อย่างไร

แล้วเราจะได้เจอกันอีกแน่ แก้ม......

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Enchantress01

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

Berne Beer
4.9

หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"

คุณพ่อของหนูเป็นท่านประธาน

คุณพ่อของหนูเป็นท่านประธาน

อรนุช เทพทัต
4.9

หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า  "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย"  รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ

ยัยตัวร้ายกับนายแบดบอย NC18++

ยัยตัวร้ายกับนายแบดบอย NC18++

Me'JinJin
4.5

กาย กันต์ธีร์ พิสิฐกุลวัตรดิลก ฉายาราชาแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ หนุ่มหล่อแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์เอกคอมพิวเตอร์ ปี 4 เขาหล่อ เขาเฟียร์ส เขาเฟี้ยว เขาซ่าส์ แต่โคตรทะลึ่ง และสุดแสนจะทะเล้น จีบหญิงไม่เก่ง แต่ผมเยเก่งนะครับที่สำคัญผมโสดสนิท!!แต่อยู่ดีๆดันมาเสียหัวใจให้กับยัยตัวร้ายแบบเธอ!!!อลิส อังสุมาลิน "รักนะไอ้ต้าวลิส" อลิส อังสุมาลิน ฐิศานันตกุล นิเทศศาสตร์ ปี 2 เธอสวย เธอเซ็กซี่ เจ้าแม่แห่ง Sex appeal ปากไม่แดงไม่มีแรงเดิน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอตบ!!หลงรักกายหนุ่มหล่อแสนเจ้าเล่ห์ที่อยู่ๆก็มาจูบปากเธอ แถมเล่นเกินเบอร์เรียกเธอว่าเมีย!! น่ารักเบอร์นี้อลิสยินดีตกหลุมรักจ้ะพี่จ๋า ชาตินี้ไม่ได้พี่กายเป็นผัว อลิสจะโสดคอยดู!!ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก🥰มารยาหญิงร้อยเก้าเล่มเกวียนงัดมาให้หมด ☺️☺️ "รักนะน้อนพี่กาย"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
อดีตรักซุปตาร์
1

บทที่ 1 ชายแปลกหน้า

18/01/2023

2

บทที่ 2 แรกพบสบตา

18/01/2023

3

บทที่ 3 บังเอิญที่.....ไม่บังเอิญ

18/01/2023

4

บทที่ 4 สิ่งที่มอบให้...ในวันที่จากลา

18/01/2023

5

บทที่ 5 คุณแม่ยังสาว

18/01/2023

6

บทที่ 6 สายตาหลอกกันไม่ได้

18/01/2023

7

บทที่ 7 การรอคอย...ที่สิ้นสุด

18/01/2023

8

บทที่ 8 กังวล

18/01/2023

9

บทที่ 9 สัมผัสที่โหยหา (NC+)

18/01/2023

10

บทที่ 10 ลุงทำอะไรแม่ผม

18/01/2023

11

บทที่ 11 อ่อนโยนแค่กับเธอ

11/07/2023

12

บทที่ 12 เป็นข่าว

11/07/2023

13

บทที่ 13 อย่าต้องให้ถึงมือแม่

11/07/2023

14

บทที่ 14 เราจะก้าวผ่านไปด้วยกัน

11/07/2023

15

บทที่ 15 แถลงข่าว

11/07/2023

16

บทที่ 16 ลงโทษเด็กดื้อ (NC+)

11/07/2023

17

บทที่ 17 แด๊ดดี้น้องมาร์ช

11/07/2023

18

บทที่ 18 งอน

11/07/2023

19

บทที่ 19 ง้อ (NC+)

11/07/2023

20

บทที่ 20 ทุกคนรู้ แต่ผัวไม่รู้

11/07/2023

21

บทที่ 21 เอา ให้จำ (NC+)

11/07/2023

22

บทที่ 22 โต๊ะ เตียง ระเบียง พี่ได้หมด (NC+)

11/07/2023

23

บทที่ 23 แต่งงาน

11/07/2023

24

บทที่ 24 เข้าหอ(NC+)

11/07/2023

25

บทที่ 25 หัวใจและลมหายใจ (จบ)

11/07/2023