เจ้านายคนใหม่อย่าง“ฟีนิกซ์” ที่แสนจะบ้าอำนาจสุดๆ แถมยังเอาแต่ใจ หื่น บ้ากามสารพัด ตีค่าทุกอย่างด้วยเงิน แม้แต่ความรัก ซึ่งเธอจะไม่ยอมเขาเด็ดขาด เธอจึงทำทุกอย่างเพื่อต่อต้านเขา ไม่ให้มามีสิทธิ์เหนือเธอ ในเวลางานยังพอทน แต่ถ้านอกเวลางานคนอย่าง“แพรพิรยา” จะไม่ยอมทนเด็ดขาด แล้วเขาถือสิทธิ์อะไรเข้ามาอยู่ร่วมใต้ชายคาเดียวกันกับเธอ อย่างหน้าด้านๆ เวลาไม่พอใจอะไรเธอหรือโกรธเธอ เป็นอันต้องใช้กำลัง ด้วยการจูบเธอบ้างล่ะ จับกดลงกับเตียงแล้ว….!? เธอบ้างล่ะ อย่างกับฉากละครในทีวีที่พระเอกกับนางเอกทะเลาะกันยังไงยังงั้นเลย คนเรามันต้องมีเหตุผลกันทั้งนั้น แล้วเหตุผลของเขาล่ะคืออะไรกัน บางครั้งเขาก็เป็นผู้ชายที่แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยน และอะไรกันที่ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และร้ายกาจได้ขนาดนี้กัน
รถเก๋งฮอนด้าสีขาวจอดลงตรงหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง สุดาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อกดโทรหาแพรพิรยาแต่คนที่เธอจะโทรหาดันลงมาพอดี
“แพรขอโทษนะดา รอนานมั้ยพอดีตื่นสายน่ะ” แพรพิรยารีบขอโทษสุดาผู้เป็นเพื่อน พร้อมกับเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งข้างคนขับ
“ไม่เป็นไร ดาเพิ่งมาถึงเองว่ากำลังจะโทรตามแพรพอดีเลยแต่แพรลงมาซะก่อน”
“เหรอ แพรนึกว่าดารอนานแล้วซะอีก เลยรีบลงมาเนี่ยยังไม่ได้กินอะไรเลยด้วย ช่วยแวะหาอะไรกินกันก่อนระหว่างทางได้มั้ย”
“ได้สิ ว่าแต่แพรเอาของไปแค่นี้เองเหรอ” สุดาก้มลงมองกระเป๋าเดินทางของแพรพิรยาที่เธอชวนไปเที่ยวภูเก็ตด้วยกัน
“แค่นี้ก็พอแล้วที่เหลือค่อยไปหาซื้อเอาข้างหน้าก็ได้”
“ดาชวนแพรไปเที่ยวนะ ไปส่องผู้กันน่ะต้องแต่งสวยหน่อยสิ”
“แพรรู้ไงว่าดามีอุปกรณ์แต่งสวยครบแน่นอน เลยไม่พาไปกะจะใช้ของดาเอา ฮ่าๆ”
“งกตลอดเลยแกนี่”
“เขาเรียกว่าประหยัดต่างหากเล่า”
“จ้า! ว่าแต่เมื่อคืนนอนดึกเหรอเนี่ยขอบตาดำเชียว”
“จริงเหรอ รีบออกมาแพรเลยไม่ทันสังเกต เมื่อคืนแพรโทรคุยกับแม่น่ะเลยนอนดึกไปหน่อย เพราะไม่ได้คุยกันหลายวันแล้ว” แพรพิรยาพูดไป แต่งหน้าแต้มที่ขอบตาเพิ่มไปด้วย
“หวังว่าแม่แพรไปอยู่ที่โน่นคงจะมีความสุขดีนะ”
“แพรก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นแหละดา แม่จะได้มีความสุขกับเขาสักที”
แม่ของแพรพิรยาแต่งงานใหม่จึงย้ายไปอยู่ต่างประเทศ สุดาจึงอดคิดไม่ได้เพราะว่าเรื่องของแม่แพรพิรยาที่ต้องเลิกราไปกับพ่อของแพรพิรยาไปและต่างคนต่างไปมีครอบครัวใหม่กันหมด จึงทำให้แพรพิรยามีโลกส่วนตัวสูงและค่อนข้างที่จะกลัวความรักหรือเปล่า ทำให้เธอนั้นไม่กล้าคบหากับใครสักที ทั้งที่มีคนมาจีบออกเยอะแยะ แพรพิรยาเป็นคนที่สวยมากเพียงแต่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเองเท่านั้น
ทั้งสองมาถึงยังโรงแรมที่จ้องไว้ที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงแรมที่ราคาค่อนข้างแพงมากเมื่อเทียบกับที่อื่นแล้ว ด้วยบริษัทของสุดาต้องการรับรองลูกค้ากลุ่มนี้ให้ดีที่สุดเพราะเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ติดต่อธุรกิจกันยังจริงจัง
“ไปหาอะไรกินเถอะ หิวแล้วไม่ใช่เหรอเดี๋ยวดาพาไปร้านอร่อยๆ”
“หิวมาก จะกินช้างได้ทั้งตัวแล้วเนี่ย”
“จ้ะ แม่คนกินเท่าไรก็ไม่อ้วน” สุดาหยุดเดินกะทันหัน ทำให้แพรพิรยาที่เดินตามหลังมาชนเข้าอย่างจัง
“อ๊ะ! ดา หยุดเดินทำไมเห็นมั้ยแพรชนเลยเนี่ย” แพรพิรยาพูดเสียงดังทำให้ร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ไกลตรงหน้าเคาน์เตอร์ และพนักงานตรงนั้นอีก 2-3 คน เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกัน
“ยัยแพร แกเห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย อย่าบอกนะว่าเขาพักที่นี่ด้วยที่เดียวกันกับเรา”
สุดาดึงแพรพิรยาเข้ามาใกล้ ก่อนจะกระซิบบอกเธอและชี้ไปทางผู้ชายร่างสูงลูกครึ่ง ไหล่กว้าง ผิวสีแทน สวมเสื้อโปโลและกางเกงสแล็คสีดำที่กำลังเงยหน้าขึ้นจากเคาน์เตอร์มองมายังพวกเธอ ความสูงความหล่อเหลาของเขาโดดเด่นกว่าทุกๆ คนในตรงนั้น
“เห็นแล้วทำไมเหรอ เขาพักที่นี่ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลยนี่มันโรงแรมนะใครจะพักก็ได้”
ดวงตาคมสบตากับแพรพิรยาชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะเมินสายตานั้นไปและก้มลงเซ็นเอกสารต่ออย่างกับต้องการหลบสายตาคู่นั้นของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าโลกทั้งโลกมันกำลังหยุดหมุน เพียงแค่ได้สบตากับผู้ชายคนนั้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
ความรู้สึกต่างๆ มันถาโถมเข้ามา หัวใจของเธอเต้นแรงแทบจะไม่เป็นจังหวะ ไม่สิ เธอต้องไม่หวั่นไหวและไม่ให้ผู้ชายคนไหนมีอิทธิพลต่อจิตของเธอสิ แพรพิรยารีบดึงสติของตัวเองกลับมา
“เปล่า ฉันแค่อยากให้แกดูว่าหล่อมั้ย เขาหล่อมากใช่มั้ยแพร” เสียงกระซิบของสุดา ปลุกความคิดของแพรพิรยาให้กลับมายังปัจจุบัน
“ก็...หล่อดี แต่ดูเย็นชาไปหน่อย”
“ก็จริงนะ ถึงจะดูหน้าตาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อคนที่อยู่ใกล้ไปหน่อยก็เถอะ แต่ดูรวมๆ แล้วก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบนะ”
“ไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวเธอต้องมารับลูกค้าไม่ใช่เหรอ ไหนล่ะร้านอร่อยที่จะพาไป รีบๆ พาฉันไปสิ”
แพรพิรยาเร่งสุดาให้รีบเดินออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด จึงเปลี่ยนเรื่องคุย ก่อนจะลากเพื่อนสาวตรงออกไปยังร้านอาหารของโรงแรม
หนังสืออื่นๆ ของ S.nook
ข้อมูลเพิ่มเติม