Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson

สมัยใหม่ | 1  บท/วัน
5.0
ความคิดเห็น
2.3K
ชม
41
บท

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

บทที่ 1 ฉันจะเป็นเจ้าสาวให้คุณเอง

“หยูเจ๋อ งานแต่งงานกำลังจะเริ่มแล้ว คุณจะไปไม่ได้นะ!”

เฉียวซิงเฉินที่สวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์รีบคว้าแขนเฉินหยูเจ๋อเอาไว้ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

วันนี้เป็นวันแต่งงานของเฉียวซิงเฉินกับเฉินหยูเจ๋อ

ตอนที่งานแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้น จู่ ๆ เฉินหยูเจ๋อก็ได้รับข้อความของใครบางคน แล้วประกาศยกเลิกงานแต่งงานต่อหน้าผู้คน

เฉินหยูเจ๋อขมวดคิ้วแน่น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความร้อนใจ “อย่ามาขวางผม เหมิงเหมิงได้รับบาดเจ็บ ถ้าทิ้งเธอไว้ที่โรงพยาบาลคนเดียว เธอจะต้องกลัวแน่ ๆ ผมต้องรีบไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ”

ทันใดนั้น ใบหน้าของเฉียวซิงเฉินก็ซีดเผือด

เยว่เหมิงซินคือคนรักในวัยเด็กของเฉินหยูเจ๋อ

เฉียวซิงเฉินและเฉินหยูเจ๋อคบหากันมาห้าปีแล้ว ทุกครั้งที่เป็นช่วงเวลาสำคัญของพวกเขา หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเยว่เหมิงซินเพียงนิดเดียว เฉินหยูเจ๋อก็จะยอมทิ้งเธอ เพื่อไปหาเยว่เหมิงซินในทันที.....

เฉินหยูเจ๋อบอกว่า เขามองว่าเยว่เหมิงซินเป็นเหมือนน้องสาว เขาอยากให้เธอหัดเข้าอกเข้าใจบ้าง

เพื่อให้ความสัมพันธ์ห้าปีระหว่างเธอกับเขาได้ลงเอยด้วยดี เธอจึงเลือกที่จะยอมถอยให้ทุกครั้ง

แต่ครั้งนี้ มันเป็นวันแต่งงานของเธอกับเขา

เยว่เหมิงซินต้องการให้เฉินหยูเจ๋อไปอยู่เป็นเพื่อน แล้วเธอจะต้องยอมถูกว่าที่สามีทิ้งไปโดยไม่สนใจใยดีอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?!

เสียงของเฉียวซิงเฉินมีความสั่นเครือ เธอพูดขอร้องขึ้นมาเบา ๆ ว่า “ไม่ได้ งานแต่งงานจะไม่มีคุณไม่ได้ ไม่ว่ายังไง วันนี้คุณก็ห้ามไปไหนทั้งนั้น ฉันขอร้องล่ะนะ!”

สีหน้าของเฉินหยูเจ๋อเริ่มที่จะหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อย ๆ “พอได้แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวนะ! ก็แค่งานแต่งงานเอง จะจัดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ตอนนี้เหมิงเหมิงได้รับบาดเจ็บอยู่ หากล่าช้าไปมากกว่านี้ คุณรับผิดชอบได้ไหม หลบไปซะ!”

ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ผลักเฉียวซิงเฉินออกไป

เฉียวซิงเฉินที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงล้มลงไปกับพื้นอย่างน่าเวทนา เธอได้แต่มองตามแผ่นหลังของเฉินหยูเจ๋อที่ค่อย ๆ หายลับตาไป

วินาทีต่อมา โทรศัพท์มือถือของเฉียวซิงเฉินก็ดังขึ้น

เฉียวซิงเฉินกดปุ่มรับสายโดยสัญชาตญาณ พลันได้ยินเสียงอันเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาตามปลายสายอย่างสะใจ

“เฉียวซิงเฉิน ฉันได้ยินมาว่าวันนี้เป็นวันที่เธอกับหยูเจ๋อจะแต่งงานกัน เธอชอบของขวัญที่ฉันให้รึเปล่า?”

เฉียวซิงเฉินสั่นไปทั้งตัว เธอรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

เธอกัดฟันพูดว่า “เยว่เหมิงซิน เธอจงใจเรียกหยูเจ๋อไปใช่ไหม?”

“ใช่ ฉันจงใจ แล้วไงเหรอ? ฉันก็แค่อยากให้เธอได้รู้ว่า ในใจของหยูเจ๋อ ฉันสำคัญกว่าเธอเสมอ!”

น้ำเสียงของเยว่เหมิงซินมีความโอ้อวดอย่างเต็มเปี่ยม “เธอคงจะทุ่มเทให้กับการเตรียมงานแต่งงานนี้มากเลยสิท่า? น่าเสียดายเนอะที่ความพยายามทั้งหมดของเธอต้องสูญเปล่า ฉันล่ะสงสารเธอจริง ๆ!”

เฉียวซิงเฉินมองดูชุดแต่งงานสีขาวที่ตัวเองสวมใส่อยู่ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าความพากเพียรของเธอในช่วงห้าปีที่ผ่านมา มันดูไร้สาระสิ้นดี

เพราะเธอเกิดมาเป็นเด็กกำพร้า ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอก็คือการได้มีครอบครัวที่มีความสุขเป็นของตัวเอง

แต่สุดท้ายเธอกลับพบว่า เฉินหยูเจ๋อไม่สามารถให้ทุกสิ่งที่เธอต้องการได้

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเธอก็ควรที่จะปล่อยเขาไป

เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะออกมาก่อนจะพูดว่า “เกรงว่าเธอคงจะต้องผิดหวังแล้วล่ะ เพราะ งานแต่งงานจะยังดำเนินต่อไปตามปกติ!”

น้ำเสียงของเยว่เหมิงซินเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “เฉียวซิงเฉิน ฉันว่าเธอต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ ? ถ้าไม่มีหยูเจ๋อ แล้วงานแต่งงานของเธอจะดำเนินต่อไปได้ยังไง?”

มุมปากของเฉียวซิงเฉินโค้งขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน

ใครบอกล่ะว่า เจ้าบ่าวของเธอจะต้องเป็นเฉินหยูเจ๋อเท่านั้น?

ในเมื่อเขาทิ้งเธอไปอย่างไม่สนใจใยดี งั้นเธอก็จะไปแต่งงานกับคนอื่น แล้วก็แสวงหาความสุขที่เป็นของเธอจริง ๆ แทน!

“ยังไงฉันก็ฝากเธอบอกเฉินหยูเจ๋อด้วยนะว่า ฉันไม่ต้องการเขาแล้ว! เขาคือผู้ชายที่ฉันไม่ต้องการแล้ว ถ้าเธอจะชอบเขาขนาดนั้น งั้นฉันยกให้เธอก็แล้วกัน ชายโฉดหญิงชั่วอย่างพวกเธอ ขอให้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ล่ะ!”

น้ำเสียงของเยว่เหมิงซินเปลี่ยนไปทันที “เฉียวซิงเฉิน อย่าให้มันมากนักนะ……”

ก่อนที่เธอจะพูดจบ เฉียวซิงเฉินก็ตัดสายไปแล้ว

งานแต่งงานจะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมง เธอจะต้องหาเจ้าบ่าวมาแทนที่เฉินหยูเจ๋อให้ได้โดยเร็วที่สุด!

เธอยกชายกระโปรงขึ้นและเดินออกไปข้างนอกอย่างรีบร้อน แต่แล้วกลับพบว่าข้างนอกโบสถ์มีบอดี้การ์ดสวมชุดอยู่เป็นจำนวนมาก ดูยิ่งใหญ่อลังการ ราวกับพวกเขากำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่

แล้วก็มีชายคนหนึ่งที่สวมชุดเจ้าบ่าวกำลังนั่งอยู่บนวีลแชร์ ที่ตัวเขามีออร่าที่เย็นชาแผ่ออกมา

เขาถามลูกน้องที่อยู่ตรงหน้าว่า “งานแต่งงานกำลังจะเริ่มแล้ว เจอตัวรึยัง?”

บอดี้การ์ดที่สวมชุดสีดำพูดด้วยความลำบากใจว่า “คุณลู่ พวกเราหากันทั่วบริเวณโบสถ์แล้วครับ แต่ไม่เห็นวี่แววของคุณจางเลยครับ ดูเหมือนว่าเธอจะหนีไปแล้ว......”

“หนีงั้นเหรอ?” เสียงของผู้ชายคนนั้นทุ้มต่ำฟังดูไพเราะ แต่สายตาของเขากลับดูดุร้ายไร้ความปราณีเหมือนสัตว์ร้ายไม่มีผิด “ถ้าการแต่งงานไม่สามารถดำเนินต่อไปตามกำหนด นายรู้ใช่ไหมว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง!”

เฉียวซิงเฉินได้ยินบทสนทนาของพวกเขาทุกอย่าง ไม่คาดคิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะถูกคู่รักทิ้งในวันแต่งงานเหมือนกันกับเธอเลย

เธอรีบยกชายกระโปรงขึ้น และเดินไปหาเขาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด

บอดี้การ์ดชุดดำเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ตั้งท่าระวัง แล้วก็ยื่นมือออกมากันเธอไว้ตามสัญชาตญาณ

“คุณผู้หญิงจะทำอะไรครับ?”

ผู้ชายที่นั่งอยู่บนวีลแชร์มองมาที่เธอ สายตาที่ทอดมองมาทำให้คนรู้สึกกดดัน

แต่เฉียวซิงเฉินกลับไม่ได้หวาดกลัวเลยสักนิด เธอมองตรงเข้าไปในดวงตาของชายคนนั้นและพูดขึ้นว่า

“คุณคะ ฉันได้ยินมาว่าเจ้าสาวของคุณหนีไป งั้นสู้ให้ฉันไปเป็นเจ้าสาวของคุณดีไหมคะ?”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

คุณธิดา
5.0

นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ

พี่เขยคลั่งสวาท

พี่เขยคลั่งสวาท

กาสะลอง
5.0

“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

สนพ. อิ่มรัก
4.8

ปลัมน์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ถูกแม่สั่งให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะกัน พลอยหยก ออกไปจากชีวิตน้องชายของเขา แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงคราวของตัวเอง เขากลับกันเธอออกจากชีวิตตัวเองไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีเธอ ----------------------- “ปวดแผลจัง สงสัยต้องนอนพัก คุณล่ะทำอะไรตั้งหลายอย่างผมว่านอนพักก่อนดีกว่ามั้ย” เขาเอ่ยเมื่อพลอยหยกกลับจากเอาทุกอย่างไปล้างในทะเลเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่คุณนอนก็ดี เดินไกลกว่าทุกวันแล้วค่ะ” พลอยหยกเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยเดินมาคอยประคองให้เขานอนลงได้อย่างสะดวก โดยมีเสื้อชูชีพสองตัววางซ้อนกันเป็นหมอนให้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้วเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขาที่หล่อเหลากว่าทุกวัน ยิ่งเขาจ้องมองมาหาด้วยแล้วก็ยิ่งเกิดอาการประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก “คุณนอนพักก่อนดีกว่านะแกว จะได้มีแรงไว้สู้กับการสอยมะพร้าวไง” มือข้างขวาของเขารั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน แถมยังออกแรงกดบังคับให้เธอโน้มกายลงไปหาพื้นข้างๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บแผลอยู่บ้างแขนข้างขวาของเขาก็ยังมีเรี่ยวแรงมาพอที่จะหยัดตัวให้นอนตะแคงไปหาเธอ ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่เขาเดาว่าคงจะแดงเพราะความอายที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นแน่ และเขาก็ช่วยให้ห้วงเวลาที่เธอคงจะอึดอัดนั้นสั้นลงด้วยการก้มลงไปหาริมฝีปากนุ่มช้าๆ มอบจุมพิตอันแผ่วเบาให้เจ้าของริมฝีปากที่ไม่ได้ขัดขืนใดๆ อีกทั้งยังโอบกอดตัวเขาไว้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ใบหน้าสวยก็แหงนเงยขึ้นเพื่อให้เขาได้ดอมดมปลายคาง ลำคองามระหงอย่างสะดวก ก่อนจะกลับขึ้นไปดูดดื่มริมฝีปากอีกวาระ แขนข้างซ้ายที่เคยเจ็บบัดนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว และใช้มันยกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะถลกบราเซียออกจากสองบัวงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่ใคร่ถนัดนักเขาเลยเลื่อนมือขวาลงมาช่วยด้วยการถลกเสื้อยืดขึ้น โดยเจ้าของเสื้อคอยให้ความร่วมมือพยุงกายขึ้นจากพื้น แล้วแอ่นอกให้กับอุ้งปากอุ่นของเขาได้ลิ้มลองอย่างไม่หวงแหน แม้ใจจะบอกตัวเองว่าต้องห้ามเขา แต่พลอยหยกก็ไม่อาจจะทำได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นสุขใจจนลืมทุกอย่างเพียงเพราะมีเขาอยู่แนบชิดขณะนี้ จนไม่อาจจะผลักไสเขาไปไหนได้นอกจากยินยอมพร้อมใจให้เขาได้เชยชมเพื่อชดเชยความสุขสมที่พึงมีด้วยกันนับตั้งแต่วันได้นอนแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ปลัมน์ก็ไม่คิดจะห้ามตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่ถุงยางอนามัยติดตัว และไม่แคร์ด้วยว่าเธอคืออดีตคนรักของหลานชาย ด้วยหัวใจไม่อาจจะหักห้ามความต้องการทั้งทางกายและทางใจได้อีกต่อไปแล้ว ผ่านมาหลายค่ำคืนที่เขามีสติล้วนแล้วแต่เป็นการกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ สำหรับเขาแล้ว แผงอกเปลือยทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันเนิ่นนานกว่าปลัมน์จะค่อยๆ เลื่อนมือขวาลงไปหาหน้าท้องแบนราบจนพานพบตะขอกางเกงยีนส์ เขาใช้เวลาปลดไม่นานพอๆ กับการรูปซิปออก แล้วส่งนิ้วเรียวเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มนวลนอกแพนตี้สีหวานที่ชวนให้หลงใหลจนเขาปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไปเลยขั้นที่เกินจะควบคุมได้อีกต่อไป ไม่แตกต่างจากพลอยหยกนักที่เป็นสุขใจเกินคณากับการมีเขามาแนบชิดอยู่อย่างนี้ สองฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขาอย่างลืมตัว ริมฝีปากนุ่มก็จูบตอบเขาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ก็ตามที แต่การถูกเขามอบจุมพิตให้บ่อยครั้งก็คือเป็นความคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับอุ้งปากอุ่นของเขาที่กำลังครอบครองปลายยอดชูช่อประหนึ่งรอให้เขามาเยี่ยมเยือนก็ไม่ปาน แผ่นหลังนุ่มแทบไม่ติดพื้นใบมะพร้าวเมื่อเธอเผลอแอ่นกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ดูดดื่มอย่างสะดวก เธอรับรู้ได้ว่ากายเขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือบางเผลอออกแรงบีบตรงหัวไหล่ซ้ายของเขาเพราะความเจ็บร้าวไปทั่วกายจากความต้องการที่จะมีเขาเข้าครอบครอง “แกว! ตัวผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเขาแหบพร่าอยู่ใกล้ๆ หู ก่อนจะซอกไซ้ปลายจมูกไปกับซอกคอระหงแล้วเลื่อนลงไปหาอกอวบอิ่ม อ้อยอิ่งอยู่กับปลายยอดอีกข้างอย่างหลงใหลอีกครั้ง พลอยหยกรับรู้ถึงความต้องการของเขาได้ตรงสะโพกผายตึงเมื่อความแข็งแกร่งของเขาส่งสัญญาณมาหาโดยไม่ต้องบอกกล่าวทางวาจาเพราะด้วยภาษาทางกายแจ้งอย่างชัดเจนกว่าเรียบร้อยแล้ว “คุณปลัมน์คะ!” พลอยหยกส่งเสียงติดๆ ขัดๆ ไปหาเขา สองมือบางก็พยายามจะดันอกเขาออกอย่างยากลำบาก “แกว! อย่าห้ามผมเลยนะ เราต่างก็ต้องการกันและกัน อย่าสนใจอะไรอีกเลยนะ” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอนมาให้ขณะพรมจูบไปตามผิวกายขาวและกำลังเลื่อนต่ำลง พลอยหยกต้องพยายามสะกัดกลั้นความรู้สึกวาบหวานเอาไว้และพยายามใช้สองแขนหยัดกายให้ลุกขึ้น “คุณปลัมน์คะ! ฟังสิคะ” “บนเกาะนี้มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า และไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องติดอยู่นี่ไปเป็นปีๆ ก็ได้ ถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงไม่พ้นต้องทำเรื่องนี้ด้วยกันอยู่ดี แล้วจะให้ผมรออะไรอีกแกวคุณอยากให้ผมลงแดงตายเพราะต้องการคุณหรือไง” แต่ก็ถูกกายกำยำเขาทาบทับไว้ ส่วนมือขวาที่ใช้การได้ก็กำลังเลื่อนขอบกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกผายตึง “แต่เสียงนั่นค่ะ คุณฟังสิคะ” แม้จะเป็นเสียงแห่งความช่วยเหลือกำลังมาถึง แต่ปลัมน์ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และอยากฆ่าคนที่กำลังมาด้วย เพราะมันไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย “คุณหูฝาดไปเอง ผมไม่เห็นได้ยินอะไรสักนิด” เขางับยอดบัวงามไว้ในอุ้งปากแล้วดูดดื่มอย่างหิวกระหายและควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ “คุณปลัมน์คะ แต่เสียงนั่นใช่เสียงเครื่องบินหรือเปล่าคะ ฉันได้ยินค่ะ คุณฟังสิคะ”

ข้ามภพมามีสามีพิการ

ข้ามภพมามีสามีพิการ

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง
5.0

จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน
1

บทที่ 1 ฉันจะเป็นเจ้าสาวให้คุณเอง

21/04/2025

2

บทที่ 2 ถ้าคุณกล้าแต่ง ฉันก็กล้าแต่งเหมือนกัน

22/04/2025

3

บทที่ 3 อยากจะขอโทษงั้นเหรอ

22/04/2025

4

บทที่ 4 ชายโฉดหญิงชั่ว

22/04/2025

5

บทที่ 5 คืนนี้นอนด้วยกัน

22/04/2025

6

บทที่ 6 อาบน้ำให้ผมหน่อย

22/04/2025

7

บทที่ 7 ยอมรับความพ่ายแพ้

22/04/2025

8

บทที่ 8 เพราะเธอคือข้อยกเว้น

22/04/2025

9

บทที่ 9 ฉันจะรับผิดชอบคุณเอง

22/04/2025

10

บทที่ 10 ผู้ก่อตั้งที่แสนลึกลับ

22/04/2025

11

บทที่ 11 โทษที ฉันกับสามีของฉันรักกันมาก

22/04/2025

12

บทที่ 12 ฉันไม่สนเรื่องของเธอ

22/04/2025

13

บทที่ 13 โฉมหน้าที่แท้จริงของผู้ชายคนนั้น

22/04/2025

14

บทที่ 14 ไม่พอใจงั้นเหรอ

22/04/2025

15

บทที่ 15 คิดจะหาเรื่องเธองั้นเหรอ เล่นผิดคนแล้ว!

22/04/2025

16

บทที่ 16 ขอแสดงความยินดีที่ได้เข้าทำงาน!

22/04/2025

17

บทที่ 17 เซอร์ไพรส์เขาสักหน่อย

22/04/2025

18

บทที่ 18 ดินเนอร์ใต้แสงเทียน

22/04/2025

19

บทที่ 19 คุณแอบซ่อนอะไรเอาไว้ในกางเกง

22/04/2025

20

บทที่ 20 คุณทำฉันเจ็บนะ

22/04/2025

21

บทที่ 21 โดนเธอปั่นหัวซะแล้ว!

22/04/2025

22

บทที่ 22 เป็นเธอได้ยังไง

22/04/2025

23

บทที่ 23 นี่มันไม่ยุติธรรม

22/04/2025

24

บทที่ 24 กาแฟรดหัวเธอ

22/04/2025

25

บทที่ 25 ฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน

22/04/2025

26

บทที่ 26 นั่นคือลู่ถิงเซียวหนิ

22/04/2025

27

บทที่ 27 หรือว่าเธอมองผิดแล้วเหรอ

22/04/2025

28

บทที่ 28 ผมรอคุณกลับบ้าน

22/04/2025

29

บทที่ 29 เจอกับหญิงร้อยชายเลว

22/04/2025

30

บทที่ 30 ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไป

22/04/2025

31

บทที่ 31 ใครบอกว่าสามีของฉันคือคุณ

22/04/2025

32

บทที่ 32 ความอดทนของผมมีจำกัด

22/04/2025

33

บทที่ 33 ไล่พวกเขาออกจากห้าง

22/04/2025

34

บทที่ 34 เดี๋ยวผมไปรับคุณ

22/04/2025

35

บทที่ 35 คุณจ้องผมทำไม

22/04/2025

36

บทที่ 36 เขาไม่มีทางยอมแพ้อย่างแน่นอน

22/04/2025

37

บทที่ 37 ตรวจสอบตัวตนของเขา

22/04/2025

38

บทที่ 38 คุณเคยเมาต่อหน้าใครอีกบ้าง

22/04/2025

39

บทที่ 39 ทำยังไงเขาถึงจะพอใจ

22/04/2025

40

บทที่ 40 คุณตั้งใจจะดูผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเหรอ

22/04/2025