สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson

5.0
ความคิดเห็น
530.5K
ชม
401
บท

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

บทที่ 1 ฉันจะเป็นเจ้าสาวให้คุณเอง

“หยูเจ๋อ งานแต่งงานกำลังจะเริ่มแล้ว คุณจะไปไม่ได้นะ!”

เฉียวซิงเฉินที่สวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์รีบคว้าแขนเฉินหยูเจ๋อเอาไว้ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

วันนี้เป็นวันแต่งงานของเฉียวซิงเฉินกับเฉินหยูเจ๋อ

ตอนที่งานแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้น จู่ ๆ เฉินหยูเจ๋อก็ได้รับข้อความของใครบางคน แล้วประกาศยกเลิกงานแต่งงานต่อหน้าผู้คน

เฉินหยูเจ๋อขมวดคิ้วแน่น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความร้อนใจ “อย่ามาขวางผม เหมิงเหมิงได้รับบาดเจ็บ ถ้าทิ้งเธอไว้ที่โรงพยาบาลคนเดียว เธอจะต้องกลัวแน่ ๆ ผมต้องรีบไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ”

ทันใดนั้น ใบหน้าของเฉียวซิงเฉินก็ซีดเผือด

เยว่เหมิงซินคือคนรักในวัยเด็กของเฉินหยูเจ๋อ

เฉียวซิงเฉินและเฉินหยูเจ๋อคบหากันมาห้าปีแล้ว ทุกครั้งที่เป็นช่วงเวลาสำคัญของพวกเขา หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเยว่เหมิงซินเพียงนิดเดียว เฉินหยูเจ๋อก็จะยอมทิ้งเธอ เพื่อไปหาเยว่เหมิงซินในทันที.....

เฉินหยูเจ๋อบอกว่า เขามองว่าเยว่เหมิงซินเป็นเหมือนน้องสาว เขาอยากให้เธอหัดเข้าอกเข้าใจบ้าง

เพื่อให้ความสัมพันธ์ห้าปีระหว่างเธอกับเขาได้ลงเอยด้วยดี เธอจึงเลือกที่จะยอมถอยให้ทุกครั้ง

แต่ครั้งนี้ มันเป็นวันแต่งงานของเธอกับเขา

เยว่เหมิงซินต้องการให้เฉินหยูเจ๋อไปอยู่เป็นเพื่อน แล้วเธอจะต้องยอมถูกว่าที่สามีทิ้งไปโดยไม่สนใจใยดีอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?!

เสียงของเฉียวซิงเฉินมีความสั่นเครือ เธอพูดขอร้องขึ้นมาเบา ๆ ว่า “ไม่ได้ งานแต่งงานจะไม่มีคุณไม่ได้ ไม่ว่ายังไง วันนี้คุณก็ห้ามไปไหนทั้งนั้น ฉันขอร้องล่ะนะ!”

สีหน้าของเฉินหยูเจ๋อเริ่มที่จะหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อย ๆ “พอได้แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวนะ! ก็แค่งานแต่งงานเอง จะจัดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ตอนนี้เหมิงเหมิงได้รับบาดเจ็บอยู่ หากล่าช้าไปมากกว่านี้ คุณรับผิดชอบได้ไหม หลบไปซะ!”

ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ผลักเฉียวซิงเฉินออกไป

เฉียวซิงเฉินที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงล้มลงไปกับพื้นอย่างน่าเวทนา เธอได้แต่มองตามแผ่นหลังของเฉินหยูเจ๋อที่ค่อย ๆ หายลับตาไป

วินาทีต่อมา โทรศัพท์มือถือของเฉียวซิงเฉินก็ดังขึ้น

เฉียวซิงเฉินกดปุ่มรับสายโดยสัญชาตญาณ พลันได้ยินเสียงอันเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาตามปลายสายอย่างสะใจ

“เฉียวซิงเฉิน ฉันได้ยินมาว่าวันนี้เป็นวันที่เธอกับหยูเจ๋อจะแต่งงานกัน เธอชอบของขวัญที่ฉันให้รึเปล่า?”

เฉียวซิงเฉินสั่นไปทั้งตัว เธอรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

เธอกัดฟันพูดว่า “เยว่เหมิงซิน เธอจงใจเรียกหยูเจ๋อไปใช่ไหม?”

“ใช่ ฉันจงใจ แล้วไงเหรอ? ฉันก็แค่อยากให้เธอได้รู้ว่า ในใจของหยูเจ๋อ ฉันสำคัญกว่าเธอเสมอ!”

น้ำเสียงของเยว่เหมิงซินมีความโอ้อวดอย่างเต็มเปี่ยม “เธอคงจะทุ่มเทให้กับการเตรียมงานแต่งงานนี้มากเลยสิท่า? น่าเสียดายเนอะที่ความพยายามทั้งหมดของเธอต้องสูญเปล่า ฉันล่ะสงสารเธอจริง ๆ!”

เฉียวซิงเฉินมองดูชุดแต่งงานสีขาวที่ตัวเองสวมใส่อยู่ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าความพากเพียรของเธอในช่วงห้าปีที่ผ่านมา มันดูไร้สาระสิ้นดี

เพราะเธอเกิดมาเป็นเด็กกำพร้า ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอก็คือการได้มีครอบครัวที่มีความสุขเป็นของตัวเอง

แต่สุดท้ายเธอกลับพบว่า เฉินหยูเจ๋อไม่สามารถให้ทุกสิ่งที่เธอต้องการได้

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเธอก็ควรที่จะปล่อยเขาไป

เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะออกมาก่อนจะพูดว่า “เกรงว่าเธอคงจะต้องผิดหวังแล้วล่ะ เพราะ งานแต่งงานจะยังดำเนินต่อไปตามปกติ!”

น้ำเสียงของเยว่เหมิงซินเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “เฉียวซิงเฉิน ฉันว่าเธอต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ ? ถ้าไม่มีหยูเจ๋อ แล้วงานแต่งงานของเธอจะดำเนินต่อไปได้ยังไง?”

มุมปากของเฉียวซิงเฉินโค้งขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน

ใครบอกล่ะว่า เจ้าบ่าวของเธอจะต้องเป็นเฉินหยูเจ๋อเท่านั้น?

ในเมื่อเขาทิ้งเธอไปอย่างไม่สนใจใยดี งั้นเธอก็จะไปแต่งงานกับคนอื่น แล้วก็แสวงหาความสุขที่เป็นของเธอจริง ๆ แทน!

“ยังไงฉันก็ฝากเธอบอกเฉินหยูเจ๋อด้วยนะว่า ฉันไม่ต้องการเขาแล้ว! เขาคือผู้ชายที่ฉันไม่ต้องการแล้ว ถ้าเธอจะชอบเขาขนาดนั้น งั้นฉันยกให้เธอก็แล้วกัน ชายโฉดหญิงชั่วอย่างพวกเธอ ขอให้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ล่ะ!”

น้ำเสียงของเยว่เหมิงซินเปลี่ยนไปทันที “เฉียวซิงเฉิน อย่าให้มันมากนักนะ……”

ก่อนที่เธอจะพูดจบ เฉียวซิงเฉินก็ตัดสายไปแล้ว

งานแต่งงานจะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมง เธอจะต้องหาเจ้าบ่าวมาแทนที่เฉินหยูเจ๋อให้ได้โดยเร็วที่สุด!

เธอยกชายกระโปรงขึ้นและเดินออกไปข้างนอกอย่างรีบร้อน แต่แล้วกลับพบว่าข้างนอกโบสถ์มีบอดี้การ์ดสวมชุดอยู่เป็นจำนวนมาก ดูยิ่งใหญ่อลังการ ราวกับพวกเขากำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่

แล้วก็มีชายคนหนึ่งที่สวมชุดเจ้าบ่าวกำลังนั่งอยู่บนวีลแชร์ ที่ตัวเขามีออร่าที่เย็นชาแผ่ออกมา

เขาถามลูกน้องที่อยู่ตรงหน้าว่า “งานแต่งงานกำลังจะเริ่มแล้ว เจอตัวรึยัง?”

บอดี้การ์ดที่สวมชุดสีดำพูดด้วยความลำบากใจว่า “คุณลู่ พวกเราหากันทั่วบริเวณโบสถ์แล้วครับ แต่ไม่เห็นวี่แววของคุณจางเลยครับ ดูเหมือนว่าเธอจะหนีไปแล้ว......”

“หนีงั้นเหรอ?” เสียงของผู้ชายคนนั้นทุ้มต่ำฟังดูไพเราะ แต่สายตาของเขากลับดูดุร้ายไร้ความปราณีเหมือนสัตว์ร้ายไม่มีผิด “ถ้าการแต่งงานไม่สามารถดำเนินต่อไปตามกำหนด นายรู้ใช่ไหมว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง!”

เฉียวซิงเฉินได้ยินบทสนทนาของพวกเขาทุกอย่าง ไม่คาดคิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะถูกคู่รักทิ้งในวันแต่งงานเหมือนกันกับเธอเลย

เธอรีบยกชายกระโปรงขึ้น และเดินไปหาเขาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด

บอดี้การ์ดชุดดำเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ตั้งท่าระวัง แล้วก็ยื่นมือออกมากันเธอไว้ตามสัญชาตญาณ

“คุณผู้หญิงจะทำอะไรครับ?”

ผู้ชายที่นั่งอยู่บนวีลแชร์มองมาที่เธอ สายตาที่ทอดมองมาทำให้คนรู้สึกกดดัน

แต่เฉียวซิงเฉินกลับไม่ได้หวาดกลัวเลยสักนิด เธอมองตรงเข้าไปในดวงตาของชายคนนั้นและพูดขึ้นว่า

“คุณคะ ฉันได้ยินมาว่าเจ้าสาวของคุณหนีไป งั้นสู้ให้ฉันไปเป็นเจ้าสาวของคุณดีไหมคะ?”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ลิขิตรักนายสุดหื่น

ลิขิตรักนายสุดหื่น

รินธารา
5.0

เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

คุณหมอครับให้ผมเป็นพ่อของลูกเถอะ

คุณหมอครับให้ผมเป็นพ่อของลูกเถอะ

ระพีวีญา
5.0

'คุณหมอเกี่ยวก้อย' บุกไปตามน้องชายที่ทำตัวเกเรเป็นลูกน้อง 'พุฒิธร' นักเลงหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ แต่ตามไปตามมาดันพลาดท้องซะงั้น! ตัวอย่าง ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากร้านกาแฟ ประตูร้านถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยไม่ทันระวัง หมอเกี่ยวก้อยชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง "ขอโทษค่ะ!" เธอรีบกล่าวคำขอโทษทันทีทำให้เอกสารที่อยู่ในมือปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้น "ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเก็บ" เสียงของชายคนนั้นฟังดูสุภาพและใจดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้ เขาก้มลงช่วยเก็บเอกสาร เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากัน หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น พุฒิธร! เขาคือพ่อของลูก! คนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง ดูภูมิฐานราวกับคนละคนกับในอดีต เขาเคยเป็นนักเลงทวงหนี้แห่งบ้านดอนนาหอมแน่เหรอ "คุณ...มาที่นี่ได้ยังไง?" หมอเกี่ยวก้อยถามเสียงสั่น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน
1

บทที่ 1 ฉันจะเป็นเจ้าสาวให้คุณเอง

21/04/2025

2

บทที่ 2 ถ้าคุณกล้าแต่ง ฉันก็กล้าแต่งเหมือนกัน

22/04/2025

3

บทที่ 3 อยากจะขอโทษงั้นเหรอ

22/04/2025

4

บทที่ 4 ชายโฉดหญิงชั่ว

22/04/2025

5

บทที่ 5 คืนนี้นอนด้วยกัน

22/04/2025

6

บทที่ 6 อาบน้ำให้ผมหน่อย

22/04/2025

7

บทที่ 7 ยอมรับความพ่ายแพ้

22/04/2025

8

บทที่ 8 เพราะเธอคือข้อยกเว้น

22/04/2025

9

บทที่ 9 ฉันจะรับผิดชอบคุณเอง

22/04/2025

10

บทที่ 10 ผู้ก่อตั้งที่แสนลึกลับ

22/04/2025

11

บทที่ 11 โทษที ฉันกับสามีของฉันรักกันมาก

22/04/2025

12

บทที่ 12 ฉันไม่สนเรื่องของเธอ

22/04/2025

13

บทที่ 13 โฉมหน้าที่แท้จริงของผู้ชายคนนั้น

22/04/2025

14

บทที่ 14 ไม่พอใจงั้นเหรอ

22/04/2025

15

บทที่ 15 คิดจะหาเรื่องเธองั้นเหรอ เล่นผิดคนแล้ว!

22/04/2025

16

บทที่ 16 ขอแสดงความยินดีที่ได้เข้าทำงาน!

22/04/2025

17

บทที่ 17 เซอร์ไพรส์เขาสักหน่อย

22/04/2025

18

บทที่ 18 ดินเนอร์ใต้แสงเทียน

22/04/2025

19

บทที่ 19 คุณแอบซ่อนอะไรเอาไว้ในกางเกง

22/04/2025

20

บทที่ 20 คุณทำฉันเจ็บนะ

22/04/2025

21

บทที่ 21 โดนเธอปั่นหัวซะแล้ว!

22/04/2025

22

บทที่ 22 เป็นเธอได้ยังไง

22/04/2025

23

บทที่ 23 นี่มันไม่ยุติธรรม

22/04/2025

24

บทที่ 24 กาแฟรดหัวเธอ

22/04/2025

25

บทที่ 25 ฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน

22/04/2025

26

บทที่ 26 นั่นคือลู่ถิงเซียวหนิ

22/04/2025

27

บทที่ 27 หรือว่าเธอมองผิดแล้วเหรอ

22/04/2025

28

บทที่ 28 ผมรอคุณกลับบ้าน

22/04/2025

29

บทที่ 29 เจอกับหญิงร้อยชายเลว

22/04/2025

30

บทที่ 30 ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไป

22/04/2025

31

บทที่ 31 ใครบอกว่าสามีของฉันคือคุณ

22/04/2025

32

บทที่ 32 ความอดทนของผมมีจำกัด

22/04/2025

33

บทที่ 33 ไล่พวกเขาออกจากห้าง

22/04/2025

34

บทที่ 34 เดี๋ยวผมไปรับคุณ

22/04/2025

35

บทที่ 35 คุณจ้องผมทำไม

22/04/2025

36

บทที่ 36 เขาไม่มีทางยอมแพ้อย่างแน่นอน

22/04/2025

37

บทที่ 37 ตรวจสอบตัวตนของเขา

22/04/2025

38

บทที่ 38 คุณเคยเมาต่อหน้าใครอีกบ้าง

22/04/2025

39

บทที่ 39 ทำยังไงเขาถึงจะพอใจ

22/04/2025

40

บทที่ 40 คุณตั้งใจจะดูผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเหรอ

22/04/2025