Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
4.9
ความคิดเห็น
864.6K
ชม
366
บท

เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา “คุณเป็นใคร?” “ฉันเป็นภรรยาของคุณ...” เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง “ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า” ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน“เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!” เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน “ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!”

บทที่ 1 แก้แค้น

ณ ห้องจัดเตรียมงานแต่งงานของโรงแรม

เย่ชิงซีในชุดแต่งงานสีขาว แต่งหน้าอย่างงดงาม กำลังนั่งอ่านเอกสารยินยอมการทำกิ๊ฟท์ และสัญการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งการทำกิ๊ฟจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้

และเจ้าของเชื้ออสุจิก็คือลูกชายคนโตของตระกูลเสิ่น เสิ่นเซียวเหยา ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวในงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษนี้

แต่น่าเสียดายที่เจ้าบ่าวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน และกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เลยไม่สามารถมาร่วมงานแต่งได้

“คุณเย่ ถ้าอ่านเสร็จแล้วกรุณาลงชื่อเร็ว ๆ ด้วยครับ นายท่านกำลังรออยู่” ทนายจางจ้องมองเย่ชิงซีด้วยสีหน้าจริงจัง และนำเสียงก็แฝงไปด้วยการเร่งเร้า

ผู้คนพากันลือว่า เสิ่นเซียวเหยาเป็นเหมือนตะเกียงที่ใกล้จะหมดน้ำมัน จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลมหาเศรษฐีเก่าแก่ ให้ความสำคัญกับทายาทที่จะมาสืบทอดทรัพย์สมบัติของตระกูลเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเสิ่นชางป๋อถึงต้องรีบร้อนไปขอเจ้าสาวให้กับลูกชาย เพื่อจะได้นำเชื้ออสุจิที่เก็บไว้เมื่อนานมาแล้ว มาทำทายาทให้กับเสิ่นเซียวเหยาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

สีหน้าของเย่ชิงซีดเผือก ใบหน้าเล็ก ๆ ดูตึงเครียด มีความตื่นตระหนกแฝงอยู่ในดวงตามใส ๆ ที่ยากจะสังเกต

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องอ่านเอกสารยินยอมนี้อย่างละเอียดก่อนค่ะ คุณออกไปก่อนได้ไหมคะ”

ทนายจางนิ่งเงียบไปหลายวินาที จากนั้นก็พยักหน้า และออกไปจากห้องจัดเตรียมการแต่งงาน

เย่ชิงซีรอให้เขาออกไปเเล้ว ก็รีบวางสัญญาข้อตกลงในมือลง และโทรหาแฟนหนุ่มของเธอด้วยความตื่นตระหนก

ใช่ เธอมีแฟนแล้ว แต่ไม่มีใครรู้

ที่บังเอิญก็คือ เสิ่นเจ๋อ แฟนของเธอคนนี้เป็นคุณชายรองของตระกูลเสิ่น น้องชายต่างมารดาของเสิ่นเซียวเหยา

และจริง ๆ แล้ว งานแต่งงานครั้งนี้ก็เป็นแผนร้ายของเสิ่นเจ๋อ

หนึ่งเดือนก่อน พ่อของเย่ชิงซีล้มป่วยจนเสียชีวิต หลินเซี่ยะ แม่เลี้ยงของเธอถือโอกาสนี้ยึดครองทรัพย์สินของตระกูล และขับไล่เย่ชิงซีออกจากบ้าน ถึงขนาดยึดทรัพย์สินของแม่ผู้ให้กำเนิดเธอไปด้วย

เย่ชิงซีถูกบีบจนหมดหนทาง และบังเอิญเสิ่นเจ๋อแฟนหนุ่มของเธอก็มาหาเธอตอนนั้นพอดี เขาเสนอให้เย่ชิงซีแต่งงานหลอก ๆ กับเสิ่นเซียวเหยา เพื่อที่จะได้หาโอกาสทำลายการทำกิ๊ฟท์ แบบนี้เมื่อเสิ่นเซียวเหยาตายไป เสิ่นเจ๋อก็จะเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเสิ่น

เสิ่นเจ๋อสัญญาว่า หลังจากทำสำเร็จจะแต่งงานกับเย่ชิงซี และจะช่วยเธอทวงทรัพย์สินของแม่เธอกลับคืนมา

ด้วยการรบเร้าอย่างไม่ลดละของเสิ่นเจ๋อ เย่ชิงซีก็ใจอ่อนตอบตกลง แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงตอนนี้ เธอก็รู้สึกเสียใจ เธอพบว่าตัวเธอไม่สามารถทำเรื่องแบบนั้นได้

เมื่อโทรไปไม่ติด เย่ชิงซีก็กระวนกระวายใจขึ้นมา เธอเดินไปเดินมาในห้อง สุดท้ายก็แอบออกไปตามหาเสิ่นเจ๋อ

เย่ชิงซีร้อนใจเป็นอย่างมาก เธอกลัวว่าจะมีคนอื่นพบเข้า แม้แต่ลิฟต์ก็ไม่กล้าขึ้น เธอจึงตัดสินใจถอดรองเท้าส้นสูง แล้วเดินลงบันไดไป

เมื่อเดินผ่านห้องรับรองที่อยู่ในสุดของทางเดิน ฝีเท้าของเย่ชิงซีก็หยุดชะงักทันที

ประตูห้องรับรองไม่ได้ปิดสนิท มีเสียงหัวเราะออดอ้อนที่คุ้นเคยดังออกมาจากช่องว่างของประตู

“เสิ่นเจ๋อ อยู่กับฉันอีกหน่อยนะ ยังไงตอนนี้เย่ชิงซีก็ไม่มีเวลามาหาคุณหรอก”

เย่ชิงซีรู้สึกจุกอกขึ้นมาทันที เธอเดินย่องเบา ๆ เข้ามาใกล้ ๆ และมองผ่านช่องว่างระหว่างประตูเข้าไปข้างใน

เห็นเพียงชายหญิงคู่หนึ่งเสื้อผ้ายับยู่ยี่ กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่กันบนโซฟา และผู้หญิงที่นอนอยู่ด้านบนก็คือเย่หว่านหว่าน น้องสาวที่เป็นลูกติดของเเม่เลี้ยงเธอ และผู้ชายที่อยู่ด้านล่างของเธอก็คือ เสิ่นเจ๋อ แฟนหนุ่มที่เย่ชิงซีกำลังตามหา

“ผมกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ หนีการแต่งงาน ไม่จับตาดูไว้ ก็วางใจไม่ได้” น้ำเสียงของเสิ่นเจ๋อค่อนข้างหงุดหงิด เขาผลักเย่หว่านหว่านออกไป เพื่อจะลุกขึ้น

เย่หว่านหว่านกลับไม่ยอม เธอก้มหน้าลงจูบเสิ่นเจ๋ออย่างเร่าร้อน “ไม่หรอกน่ะ นังนั่นมันฟังคุณมาแต่ไหนแต่ไร อีกอย่างสมบัติของแม่มัน ก็ยังอยู่ในมือของเรา มันจะกล้าได้ยังไง”

“ก็ใช่” เมื่อเสิ่นเจ๋อได้ยินอย่างนั้นก็คลายความกังวลลง แล้วกลับไปนอนลงอีกครั้ง มือก็ล้วงเข้าไปในชายเสื้อผ้าของเย่หว่านหว่าน “พอเย่ซานตาย มันก็ไม่มีที่พึ่ง มันไม่มีทางเลือก...”

“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณแอบใส่อะไรลงไปในยาของเย่ซานเพื่อให้มันตายเร็วขึ้น เรื่องก็คงจะไม่ราบรื่นแบบนี้” เย่หว่านหว่านส่งเสียงครางออกมาตามการเคลื่อนไหวของมือเสิ่นเจ๋อ และร่างกายของเธอก็อ่อนระทวยลงในอ้อมแขนของเสิ่นเจ๋อ เธอหัวเราะเบา ๆ พลางเอ่ยขึ้นว่า “พี่สาวหน้าโง่ของฉันยังเฝ้ารอคุณไปขอมันแต่งงานอยู่เลย ต่อให้มันคิดยังไงก็คงจะคิดไม่ถึงว่าคุณเป็นคนทำร้ายพ่อที่มันรักมากที่สุด คุณนี่มันเลวจริง ๆ ”

“คุณก็ชอบที่ผมเลวไม่ใช่เหรอ...” เสิ่นเจ๋อพลิกตัวและกดเย่หว่านหว่านให้อยู่ใต้ร่าง และจูบอย่างอดรนทนไม่ไหว “ไม่ต้องห่วงน่ะ ใครจะไปแต่งงานกับผู้หญิงที่มีตำหนิ ผ่านการแต่งานมาแล้วล่ะ ผมต้องการแค่คุณเท่านั้น…”

ฉากต่อไปยิ่งไม่น่ามองมากขึ้น เหลือเพียงเสียงลมหายใจเร่าร้อนแผ่ซ่านอยู่ในห้อง

เย่ชิงซีพยุงร่างกายไว้ไม่ไหว เซไปด้านหลังสองสามก้าว

ที่แท้เสิ่นเจ๋อก็ทรยศเธอมานานแล้ว! คำว่ารักที่เขาพูดออกมาทั้งหมด ก็คือการหลอกใช้และหลอกลวง! ยิ่งไปกว่านั้น เขายังทำร้ายพ่อของเธอจนตาย!

น้ำตาหยดออกมาจากดวงตา ความจริงอันโหดร้ายทำให้เย่ชิงซีหายใจไม่ออก

เธอจับชายกระโปรงแน่น ฟังเสียงความเคลื่อนไหวจากในห้อง โกรธแค้นจนกัดฟันแน่น

ในเมื่อพวกเขาต้องการครอบครองตระกูลเสิ่น งั้นเธอก็จะทำให้พวกเขาไม่สมปรารถนา!

เย่ชิงซีเช็ดน้ำตาจนแห้ง สวมรองเท้าส้นสูง เดินกลับไปยังห้องจัดเตรียมงานแต่งงาน และเซ็นชื่อในสัญญาข้อตกลงโดยไม่ลังเล

เธอต้องเป็นนายหญิงใหญ่ที่แท้จริงของตระกูลเสิ่น และคอยดูหญิงร้ายชายชั่วคู่นี้ลงนรกด้วยตาของเธอเอง!

ยามค่ำคืน ณ คฤหาสน์ตระกูลเสิ่นเต็มไปด้วยแสงไฟที่สว่างไสว

ทันทีที่งานแต่งงานสิ้นสุดลง เย่ชิงซีก็ถูกส่งมาที่นี่ และมาถึงห้องของเสิ่นเซียวเหยาด้วยการนำทางของแม่บ้าน

นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ชิงซีได้เห็นสามีของเธอ

จากปากของเสิ่นเจ๋อนั้น เสิ่นเซียวเหยามีอารมณ์ร้าย นิสัยวิปริต ไร้ความปรานี แม้แต่อยู่ต่อหน้าญาติสนิทของเขาเอง เขาก็ยังใจดำไร้ความปรานี คำคุณศัพท์ที่แย่ที่สุดที่ถูกเสิ่นเจ๋อใช้ออกมาทั้งหมด รวมถึงคำว่า “อัปลักษณ์” ด้วย

เย่ชิงซีเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เธอได้เตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับสามีอัปลักษณ์ไว้แล้ว ทว่าเธอไม่คาดคิดเลยว่าผู้ชายตรงหน้านี้จะหล่อมาก แม้ว่าเขาจะป่วยอยู่ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความสง่างามที่มีมาตั้งแต่เกิดของเขาได้

เธอยืนเหม่อลอยอยู่ข้างเตียง มองใบหน้าที่งดงามได้รูปของเสิ่นเซียวเหยาจนตกอยู่ในห้วงของความสงสัย

ดังนั้นสิ่งที่เสิ่นเจ๋อพูดเป็นเรื่องเพ้อเจ้อทั้งหมดงั้นสิ?

และในตอนนั้นนั่นเอง ประตูถูกผลักเปิดออกอย่างแรง เสิ่นเจ๋อที่กำลังเมาถือขวดเหล้าเดินโซเซเข้ามา และพูดเสียงดังเอะอะ โดยไม่กลัวว่าเสิ่นเซียวเหยาที่นอนเป็นผักแบบนี้จะตื่นขึ้นมา

“ซีซี ผมขอโทษนะที่ผมเพิกเฉยคุณ วันนี้ผมยุ่งมาก เลยไม่ได้รับโทรศัพท์คุณ”

ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาฉีกหน้าอีกฝ่าย เย่ชิงซีเลยทำได้เพียงอดทนกับความขยะแขยง และแสร้งทำเป็นเข้าใจ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้โทษคุณ”

เสิ่นเจ๋อยกขวดเหล้าขึ้น ดื่มเข้าไปอึกนึง จากนั้นยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ แล้วพูดว่า “ผมว่าแล้ว คุณรักผมขนาดนี้ จะต้องเข้าใจผมแน่นอน”

เย่ชิงซีกำหมัดแน่น อดทนจนเส้นเลือดตรงขมับปูดนูนขึ้น “ดึกมากแล้ว มีเรื่องอะไรไว้คุยกันวันพรุ่งนี้เถอะ...”

หลังจากพูดจบ กลับเห็นว่าเสิ่นเจ๋อล็อกประตู ปิดไฟ และเดินเข้ามาใกล้เย่ชิงซี

เย่ชิงซีถอยหลังออกไปด้วยความตื่นตระหนก “เสิ่นเจ๋อ คุณจะทำอะไรน่ะ”

“ช่วงเวลาค่ำคืนของวันแต่งงานมีค่ามาก อย่าปล่อยให้มันเสียเปล่าน่า”

มุมปากของเสิ่นเจ๋อมีรอยยิ้มชั่วร้าย กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมา ทำเอาเย่ชิงซีตกใจจนถอยหลังออกไปหลายก้าว

เขาไม่ได้เห็นเสิ่นเซียวเหยาอยู่ในสายตาเลยจริง ๆ ถึงขนาดกล้าคิดจะทำอะไรพี่สะใภ้ของตัวเองต่อหน้าเขา!

เย่ชิงซีโกรธจนตัวสั่น เธอออกแรงผลักเสิ่นเจ๋อ “มีสติหน่อย! อย่าลืมแผนของเราสิ”

ไม่คิดว่าเสิ่นเจ๋อจะทำตัวไร้ยางอายถึงเพียงนี้ “ผมเปลี่ยนใจแล้ว ขอเพียงคุณท้องลูกของผม ก็สามารถสืบทอดตระกูลเสิ่นได้เช่นกัน”

เย่ชิงซีไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ตอนที่เธอกำลังจะสู้สุดชีวิตนั้น เธอก็พบว่าเสิ่นเจ๋อไม่ขยับแล้ว

เธอเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง ก็เห็นสีหน้าของเสิ่นเจ๋อเต็มไปด้วยความกลัวราวกับเห็นผี ขณะมองไปทางด้านหลังเธอ

“พี่ พี่ใหญ่...”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

พิศวาสร้อนซ่อนรัก

พิศวาสร้อนซ่อนรัก

โรแมนติก

5.0

เพราะปากพล่อย พัฒน์ชนะจึงพนันขันต่อกับเพื่อนสนิทว่าจะแอ้มสาวสวยอย่างภัทรานิษฐ์ในคืนเลี้ยงรุ่นให้จงได้ โดยหารู้ไม่ว่าหากไม่ได้มีใจให้แล้วการพนันครั้งนี้หรือจะสำเร็จ เพราะแอบรัก เธอจึงยอมมอบกายให้ชายหนุ่มที่เป็นรักแรกและรักเดียวไปครอบครอง ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอนั้นจะไม่มีวันสมหวังในรักครั้งนี้ก็ตาม +++++++++++++++ ชุดเกาะอกสีฟ้าของภัทรานิษฐ์ถูกพัฒน์ชนะร่นมันลงไปกองที่เอวคอดได้รูป ก่อนจะรั้งซิลิโคลนที่หญิงสาวสวมแทนบราออกไปด้วย เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มไร้อาภรณ์ใดๆ ปิดกั้น ริมฝีปากร้อนๆ ของชายหนุ่มเฝ้าจูบ ดูดเม้มรอบฐานดอกบัวคู่สวยทั้งสองข้าง มือก็ขย้ำขยี้ฟ้อนเฟ้นจนตั้งชันก่อนที่พัฒน์ชนะจะอ้าปากรับยอดอกสีสวยเข้าไปดูดเม้มอย่างหิวกระหาย “อะ…มะ…ไม่นะ”ภัทรานิษฐ์บิดเร้าร่างกายไปมา ความรู้สึกมันเหมือนเธอถูกโยนลงจากหน้าผา บริเวณหน้าท้องบิดเกร็ง อยากผลักใสแต่อีกใจกลับอยากได้สัมผัสจากผู้ชายที่แสนร้ายกาจคนนี้ รู้ว่าเขาร้าย รู้ว่าเขาน่ากลัวแต่เธอก็ยังชอบเขาอยู่ไม่เสื่อมคลาย “สวยไปทั้งตัวเลยรู้ไหมยี่หวา แฟนเธอนี่โชคดีจริงๆ”พัฒน์ชนะบ่นพึมพำชิดหน้าอกอวบ ที่เขาสลับดูดเม้มด้วยปากและฟ้อนเฟ้นด้วยมือไปมาทั้งสองข้างไม่ได้หยุด สีหน้าของภัทรานิษฐ์แสดงออกเหมือนเธอกำลังเจ็บปวดแต่สีหน้าแบบนั้นสำหรับคนมากประสบการณ์อย่างพัฒน์ชนะมันคือความสุขที่เธออยากให้เขาสัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่าต่างหาก “ไม่นะ…ปะ…ปล่อย” แม้ร่างกายจะโอนอ่อนไปตามแรงสัมผัส แต่จิตใจของภัทรานิษฐ์ยังคงต่อต้านแม้จะเหลือความกล้าอีกไม่มากแล้วก็ตามที เพราะบางครั้งสติของเธอก็ล่องลอยไปกับสัมผัสของพัฒน์ชนะเหมือนกัน “ยี่หวา” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวในอ้อมกอดอย่างสนิทสนมทั้งๆที่ก่อนหน้าไม่เคยได้ทำความรู้จักเธอด้วยซ้ำ ภัทรานิษฐ์ส่ายหน้าให้ พยายามขอร้องให้เขาหยุดการกระทำนี้ แต่ท่าทางของเธอยิ่งกระตุ้นความต้องการของพัฒน์ชนะมากขึ้นเท่านั้น ชายหนุ่มรั้งชุดเกาะอกของภัทรานิษฐ์อีกครั้ง คราวนี้มันลงไปกองอยู่ที่หัวเข่าของเธอ โดยที่ภัทรานิษฐ์ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอเป็นคนยะสะโพกขึ้นด้วย “ พี่แพท…อย่าทำอะไรยี่หวาเลยนะ" ภัทรานิษฐ์รู้ว่าตัวเองกำลังเปลือยเปล่า แต่เธอไม่อาจป้องกันสายตาของพัฒน์ชนะไม่ให้มองรูปร่างของเธอได้เลย ตัวเธอร้อนผ่าวเพราะความกลัวและขัดเขินต่อสายตาของเขา หญิงสาวยกขาขึ้นมากันสิ่งสำคัญอย่างห่วงแหน ++++++++++ เรื่องนี้แนวโรมานซ์ร้อนแรงนะคะ มีดราม่าบ้าง โดยรวมแล้วสนุกจึงอยากให้โหลดค่า

อสูรสองหัวใจ

อสูรสองหัวใจ

มหาเศรษฐี

5.0

“คนไม่มีค่า ไม่จำเป็นต้องถนอม เหมือนกับเธอยังไงล่ะแคท เธอมันก็แค่ก้อนกรวดเม็ดทรายไร้ค่า ไร้ราคา เป็นได้แค่ตุ๊กตามีชีวิตที่ดิ้นระริกอยู่ใต้ระหว่างขาของฉันเท่านั้น” ถ้อยคำของชายร่างใหญ่ที่คร่อมร่างเปลือยของเธอ ช่างเป็นคำพูดที่สร้างความเจ็บปวดให้กับนันท์นภัสมากเหลือเกิน หัวใจดวงน้อยเต้นเร่าด้วยความเสียใจ ร่างกายเย็นเฉียบประหนึ่งเธอฝังตัวอยู่ในหิมะขาวโพลน “คุณอูโก้...” เสียงเจ็บช้ำกล่าวออกไป “ใช่...ฉันคืออูโก้ จำชื่อเจ้าของเธอให้ขึ้นใจ แม่สัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆ ของฉัน สร้อยที่ฉันให้เธอใส่มันก็เปรียบเสมือนปอกคอที่สวมให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรด ให้คนอื่นเขารู้ว่า เธอมีเจ้าของแล้ว และฉันก็จะไม่ยอมให้ใครมาแย่งสัตว์เลี้ยงของฉันไปได้ นอกเสียจากว่า ฉันจะปล่อยมันไปเอง แล้วก็จำใส่กะโหลกกลวงๆ ของเธอเอาไว้ด้วยว่า ร่างกายของเธอทุกสัดส่วน อย่าให้ใครมาแตะต้อง ไม่อย่างนั้นเธอได้แหลกคามือฉันแน่ วันนี้ฉันจะลงโทษเธอเบาะๆ ที่ริอ่านให้ไอ้แจ็คมันจับมือ ไม่หนักไม่หนาอะไรหรอก...แค่คางเหลืองเดินลงจากเตียงไม่ได้เท่านั้นเอง”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เมียหย่ารัก
1

บทที่ 1 แก้แค้น

23/04/2023

2

บทที่ 2 ผ่าตัดทำกิ๊ฟท์

23/04/2023

3

บทที่ 3 เขาฟื้นแล้ว

23/04/2023

4

บทที่ 4 การหย่า

23/04/2023

5

บทที่ 5 สามีที่น่ากลัว

23/04/2023

6

บทที่ 6 มรดกของแม่ถูกประมูล

23/04/2023

7

บทที่ 7 กลับตระกูลเย่

23/04/2023

8

บทที่ 8 ภรรยาของผม

23/04/2023

9

บทที่ 9 แบ่งทรัพย์สิน

23/04/2023

10

บทที่ 10 หนังสือสัญญาให้ทรัพย์สิน

23/04/2023

11

บทที่ 11 ตบหน้า

23/04/2023

12

บทที่ 12 รูปคู่

23/04/2023

13

บทที่ 13 หางาน

23/04/2023

14

บทที่ 14 สัมภาษณ์งาน

23/04/2023

15

บทที่ 15 ชั้นที่เก้าสิบเก้า

23/04/2023

16

บทที่ 16 คนเร่ร่อนพเนจร

23/04/2023

17

บทที่ 17 ใช้เส้นสาย

23/04/2023

18

บทที่ 18 ถูกพรากอำนาจ

23/04/2023

19

บทที่ 19 ลูกนอกสมรส

23/04/2023

20

บทที่ 20 พนัน

23/04/2023

21

บทที่ 21 ตกลงที่จะเดิมพัน

23/04/2023

22

บทที่ 22 แม่บ้าน

23/04/2023

23

บทที่ 23 นายหญิงของท่านประธาน

24/04/2023

24

บทที่ 24 ล้อเล่น

25/04/2023

25

บทที่ 25 อ่อย

26/04/2023

26

บทที่ 26 เขากำลังทำอะไรน่ะ

27/04/2023

27

บทที่ 27 การถ่ายทำ

28/04/2023

28

บทที่ 28 ถูกเข้าใจผิด

01/05/2023

29

บทที่ 29 เข้าช่วย

01/05/2023

30

บทที่ 30 อุบายของหลัวลี่ลี่

08/05/2023

31

บทที่ 31 สู้เพื่อโอกาส

08/05/2023

32

บทที่ 32 เรื่องราวเบื้องหลัง

09/05/2023

33

บทที่ 33 จูบที่น่าอับอาย

10/05/2023

34

บทที่ 34 รถชน

11/05/2023

35

บทที่ 35 พลาสเตอร์ยา

12/05/2023

36

บทที่ 36 หญิงสาวแปลกหน้า

13/05/2023

37

บทที่ 37 ห้องในสุดบนชั้นสี่

14/05/2023

38

บทที่ 38 เตียงเดียวกัน

15/05/2023

39

บทที่ 39 ค้างคืน

16/05/2023

40

บทที่ 40 โควตาเข้างาน

17/05/2023