องค์หญิงสามของท่านแม่ทัพจาง

องค์หญิงสามของท่านแม่ทัพจาง

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
76.8K
ชม
78
บท

หลี่เยี่ยนถิงคือองค์หญิงสามที่ไร้ซึ่งความรักและคนรักนางอย่างแท้จริง แต่แล้วคืนหนึ่งนางก็ถูกท่านแม่ทัพจางกล่าวหาว่านางก่อกบฏ แล้วอุ้มนางกลับไปที่จวนของเขา หลังจากนั้นชีวิตขององค์หญิงสามก็เปลี่ยนไป เมื่อจางซงหยวนทูลขออภิเษกสมรสกับนาง

บทที่ 1 1

ร่างเล็กเดินไปตามทางลาดของด้านหลังของวังที่ซึ่งเป็นเส้นทางห้ามสัญจรแต่นางกลับหาได้สนใจไม่ ในมือเล็ก ๆ นั่นคล้ายกับมีอะไรกำแน่นที่ในนั้น มือกำเสียแน่นราวกับมันคือความลับที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของนางเสียอีก

หลี่เยี่ยนถิงเหลียวมองซ้ายแลขวาไปพลางขณะก้าวขาเดินมุ่งหน้าตรงไปยังนอกพระมหาราชวัง คล้ายนางกลัวว่าใครจะมาเห็นนางเข้าเสียก่อน ยามจื่อเช่นนี้ทั้งอากาศหนาวเย็นใครจะออกมาเดินที่นอกวังกัน หากแต่เป็นนาง สตรีที่แม้จะเป็นธิดาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน แต่กลับไร้เกรงใจ ไร้คนเหลียวแล

และบัดนี้นางก็กำลังลักลอบออกนอกจากตำหนัก ไม่เพียงแต่ตำหนักร้างของนาง แต่นางกำลังมุ่งหน้าไปยังเส้นทางลับหวังจะออกนอกวังด้วยซ้ำ

“กำลังไปที่ใด”

เสียงห้าวเอ่ยถาม ต้นตอดังมาจากเบื้องบน องค์หญิงหลี่เยี่ยนถิงหยุดขาที่กำลังก้าว ก่อนจะช้อนดวงตางามปนเศร้าขึ้นไปยังที่เสียงที่ดังขัดขวางการลักลอบออกนอกวังของนาง พบว่าเป็นคนโปรดขององค์ฮ่องเต้ บิดาของนางเอง หากแต่ท่านแทบไม่เคยเรียกหา พบหน้าไม่แม้แต่จะมองด้วยซ้ำ คงไม่คิดนับนางเป็นเลือดเนื้อของตนด้วยซ้ำไป

และหากนางทำเมิน ไม่ตอบคำถามนั้นก็ดูจะเป็นการเสียมารยาทจนเกินไป ที่หนักไปกว่านั้นนางอาจส่อมีพิรุธอีกด้วย

“คือ…” หลี่เยี่ยนถิงเปิดปากออกมาคำหนึ่งเพียงคำเดียวเท่านั้น เสียงถามก็ดังขึ้นอีก ทว่าคราวนี้เงาดำนั่นย้ายร่างจากด้านบนของหลังคาลงมายืนที่เบื้องหน้าของนางแล้ว

“องค์หญิงจะไปที่ใดหรือกำลังมาจากที่ใด”

ไม่เคยมีใครเอ่ยเรียกนางว่าองค์หญิงมาก่อน นั่นเพราะไม่มีผู้ใดให้ความเคารพยำเกรงนาง

ไม่เคยมีใครนับหน้าถือตานาง

จะเพราะเหตุใดก็อันเนื่องมาจากนางเป็นลูกของสนมที่ถูกกักขังในวังร้างทางทิศใต้จนสติเลอะเลือน ก่อนสิ้นลมหายใจไปตั้งแต่นางอายุเพียงสามขวบเท่านั้น

หลี่เยี่ยนถิงพยายามจะอ้าปากอีกครั้งเพื่อตอบคำถามของเขาแต่แล้วเสียงดุห้าวขรึมก็ส่งคำถามออกมาอีก

“ในมือขององค์หญิงคือสิ่งใด”

จบคำถามของเขาร่างสูงสง่าในชุดสีทึบก็เคลื่อนย้ายตัวเข้ามาใกล้นางยิ่งกว่าเดิม บุรุษผู้มีร่างกายกำยำแม้อยู่ในอาภรณ์หรูหราและแม้ว่ารอบด้านจะมืดอยู่เช่นนี้ก็ตามที

นางจำได้ว่าเขามีใบหน้าและแววตาเย็นชายิ่งนัก เคยได้ยินเหล่าเสนาบดีพูดถึงเขาว่าสามารถฆ่าคนได้ชนิดที่แทบไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น แววตาของเขาแม้สงบทว่าเยือกเย็นแต่กลับสง่างามเฉกเช่นเดียวกันกับท่าทางและอาภรณ์ที่เขาสวมใส่ในคืนนี้

เหตุใดแม่ทัพจางซงหยวนจึงออกมาจากงานเลี้ยงที่องค์ฮ่องเต้ทรงจัดให้เขา นางยังได้ยินเสียงดนตรี เสียงร้องรำ เห็นแสงแผดจ้าจากโถงงานเลี้ยงอยู่เลย และเพราะว่ารอบตำหนักของนางไร้ทหารเฝ้ายาม นางจึงได้ใช้โอกาสนี้ลอบออกจากตำหนักร้างของนาง

ไม่คิดว่า...

“จดหมายเสนอตัวนั่น องค์หญิงต้องการนำไปถวายให้ผู้ใดอย่างนั้นหรือ”

น้ำเสียงของจางซงหยวนถามขัดความสงสัยของนางขึ้น หากนางฟังไม่ผิดคล้ายในน้ำเสียงจะมีแววหมิ่นแคลนดูถูกนางอีกด้วย นั่นเลยทำให้นางนึกฉุน แล้วเอ่ยตอบโต้ออกไปพร้อมกับเบี่ยงแขนข้างที่มีสาส์นลับไปไว้ที่เบื้องหลังของนางทันที

“ในมือข้ามีสิ่งใด ไยต้องบอกท่านด้วย”

มุมปากของแม่ทัพจางซงหยวนกระตุกเล็กน้อยดูเหมือนยิ้ม แต่แลดูอีกทีกลับมิใช่ เสียงเข้มเปล่งออกมาราวกับราชสีห์กำลังหยอกล้อหนูตัวเล็กๆ อยู่

“องค์หญิงสามพูดได้ยาวขนาดนี้ทีเดียวหรือ”

หากเขาต้องการยั่วแหย่นางก็นับว่าสำเร็จแล้ว แต่นางไม่สามารถหยุดเพื่อคุยกับเขาได้อีกต่อไป นางต้องรีบส่งสิ่งที่อยู่ในมือนี้ให้กับผู้ที่รอคอยนางอยู่ไม่อย่างนั้นอาจไม่ทันการ

แต่แล้วนางก็ถูกมือที่หนาใหญ่ของจางซงหยวนคว้าที่ไหล่ของนางออกแรงเพียงนิดหมุนร่างให้หันหลังพร้อมกับดึงเอาสาส์นนั้นออกจากนางไปได้อย่างรวดเร็วแทบไม่ทันได้กะพริบตาด้วยซ้ำ

“นั่นของข้า”

นางลองส่งเสียงขึ้นอีกนิดยื่นมือออกไปจากคว้าของคืนแต่แล้วร่างหนาใหญ่ของแม่ทัพจางซงหยวนก็เคลื่อนออกห่างนางไปสามก้าว เท่านั้นนางก็ตามเขาไม่ทันแล้ว

จางซงหยวนคลี่ม้วนไม้ในมือออก กวาดสายตาดุอ่านเนื้อความข้างในอย่างรวดเร็วก่อนจะลากสายตามามองสบตากับนาง

“ผู้ใดเขียนจดหมายนี้ รู้หรือไม่ว่าหากมีผู้อื่นพบเข้า องค์หญิงจะถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดก่อการกบฏต่อองค์ฮ่องเต้”

จบคำกล่าวของเขาใบหน้าที่ออกซีดเหลืองของหลี่เยี่ยนถิงพลันซีดลงไปอีก เหตุใดเขาถึงเอ่ยวาจากล่าวหานางเช่นนั้น และคล้ายกับว่าจางซงหยวนเองจะอ่านแววตาของนางออก เขาหันสาส์นในม้วนไม้ไผ่ม้วนนั้นมาให้นางดู

“มะ ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าไม่” หลี่เยี่ยนถิงตะกุกตะกักกล่าววาจาใดออกมาไม่ถูกเลยแม้แต่คำเดียว

“กระหม่อมให้องค์หญิงสามเลือกสองทาง” เสียงทุ้มกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ให้กระหม่อมนำสาส์นในมือกล่าวทูลต่อฮ่องเต้เดี๋ยวนี้เลยหรือ...”

เสียงห้าวหยุดชั่วขณะ หลี่เยี่ยนถิงช้อนดวงตาจากม้วนไม้ไผ่ในมือมองไปยังเขา สบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทที่อ่านแววตานั้นไม่ออกก็พลันรู้สึกราวกับกำลังถูกดูดเข้าไปในดวงตาคู่นั้นแล้ว

ความเงียบทำงานอย่างรู้หน้าที่ของมันดี นานจนนางหายใจไม่ออกจำต้องหลุดเสียงแผ่วเบาถามออกไป

“หรืออันใด”

“…ไปที่จวนของกระหม่อม”

“หนะ นี่ ทะ ท่านพูดออกมาแบบนี้หมายความว่าอย่างไร” เสียงเล็กๆ บอกอย่างแผ่วเบาทว่าเด็ดเดี่ยวในน้ำเสียงของนาง เมื่อไม่มีคำอื่นมาไขความกระจ่างในนางเพิ่ม สติของนางพลันกลับคืนมาช้าๆ อีกครั้ง

“ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

รักนี้ไม่ยอมหย่า

รักนี้ไม่ยอมหย่า

Gabbie Viana
5.0

ทุกคนคิดว่าวิลเลียมไม่ได้แต่งงานกับรีนีด้วยความเต็มใจ โดยคิดว่าเมื่อรักแท้ของเขากลับมาและตั้งครรภ์ เขาจะทิ้งรีนีโดยไม่ลังเล น่าแปลกที่รีนีพูดตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ "พูดตรงๆ นะ ฉันเป็นคนที่ขอหย่าทุกวัน ฉันรีบร้อนจะหย่ามากกว่าพวกคุณทุกคน" แต่สำหรับคนอื่น คำพูดของเธอดูเหมือนเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ในการหลอกลวงตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง วิลเลียมออกแถลงการณ์ "ไม่มีทางหย่า ใครก็ตามที่ปล่อยข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงจะต้องเผชิญกับผลทางกฎหมาย" รีนีสับสน คนบ้าคนนี้กำลังวางแผนจะทำอะไรกันแน่

บทรักมาเฟียร้าย

บทรักมาเฟียร้าย

จิรัฐติกาล
5.0

“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!

ความรักเป็นพิษ

ความรักเป็นพิษ

Rascal
5.0

เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" "จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ" "ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ"

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ