ลัทธิวิปริต

ลัทธิวิปริต

nugkeanransawat

5.0
ความคิดเห็น
798
ชม
18
บท

หลังจากโดนสามีนอกใจราตรีก็ถูกเพื่อนพาไปลงเสน่ห์กับลัทธิที่บูชาเรื่องเพศ กว่าจะรู้ตัวว่าเรื่องราวเหล่านี้มันผิดเธอก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้น กลายเป็นว่าเธอต้องหลับนอนกับชายอื่นโดยที่สามีไม่เคยรู้เลย

บทที่ 1 ลงเสน่ห์

ลัทธิวิปริต

ตอน ลงเสน่ห์

ภายในบ้านหรูของมหาเศรษฐีนักธุรกิจส่งออกธัญพืช

ฮือ! ๆ ๆ

เสียงหญิงสาววัยยี่สิบปลายกำลังร้องไห้กระซิกๆด้วยหัวใจที่พังทลายและอ่อนล้า

ร่างอิ่มสวยทรุดลงนั่งพับเพียบกับพื้นห้องโถงอันหรูหรา สองแขนเล็กเรียวกอดรูปแต่งงานของเธอกับสามีไว้แนบอก

น้ำตาไหลพาดแก้มนูนนิ่มเป็นทางยาวทั้งสองข้างก่อนจะหยดลงบนหน้าขาที่เนียนขาวและอิ่มอวบซ่อนรูป

ทำไม ทำไมเค้าถึงนอกใจฉันทั้งๆที่บอกว่ามีฉันคนเดียว!

เสียงความคิดแว่วดังในหัวคุณนายราตรี เมียรักวัยสาวสะพรั่งของนายราเมศวร

ติ๊ง! ๆ ๆ ๆ เสียงข้อความในมือถือบนโต๊ะรับแขกดังระรัว ปรากฏข้อความจากเพื่อนในกลุ่มแม่บ้านสาวไฮโซที่ต่างก็เป็นภรรยานักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศ

นุ้ย: อย่าอยู่คนเดียวนะ! เดี๋ยวฉันไปหา

พี่หญิง: ของเล่นชั่วคราว ประเดี๋ยวเค้าเบื่อก็กลับมาหาเรา พวกเรานี่แหละตัวจริง

ร่างบางที่แอบซ่อนรูปค่อยๆพยุงตัวเองลุกยืนก่อนจะเดินโซเซมายังโต๊ะ พอหยิบมือถือขึ้นมาอ่านก็ปรากฏข้อความจากสามีรักเด้งขึ้นมาต่อ

ถ้าเรื่องแค่นี้อภัยไม่ได้ก็เลิกๆกันไปเลย

โพล๊ะ! มือน้อยที่สั่นเทาทำให้สมาร์ทโฟนราคาแพงตกลงพื้นแตกกระจุย เศษหน้าจอกลายเป็นเศษแก้วที่ทอแสงไฟบนเพดานระยิบระยับ

ฮือ! ๆ ๆ ร่างขาวโพลนในชุดเดรสลายดอกไม้ทรุดลงมานั่งกอดเข่า น้ำตาไหลหลากออกมาอีกชุดใหญ่

รู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีเศษแก้วยัดแน่นอยู่ในอก ภาพสามีจูงมือนักศึกษาสาวเดินเข้าโรงแรมยังแจ่มชัดเหมือนเช่นวันวาน

คำสอนของแม่ที่บอกว่าผู้ชายรวยจะเห็นเราเป็นเพียงแค่สิ่งของกังวาลก้องอยู่เต็มหัว สะอึกสะอื้นจนไม่รู้นานเท่าใด

แป๊น! ๆ เสียงแตรรถโรสรอยดังอยู่หน้าบ้าน มันเรียกสติของราตรีกลับมา เธอรีบจัดเผ้าผมให้เข้าที่และย่างเดินมาเปิดประตูบ้านหรู ทว่าใบหน้ายังเลอะคราบน้ำตาที่แห้งกรัง

"เลิกร้องได้แล้วยัยราตรี" เสียงนุ้ย เพื่อนสาวคนสนิทที่เพิ่งลงจากรถฝั่งคนขับ เธอสวยและสูงยาวราวกับนางแบบ

แก๊ก! ๆ ๆ เสียงรองเท้าส้นสูงของสาวอีกนางนึงเดินย่างกรายมายืนหน้าเรือนร่างที่เล็กบางกว่า พร้อมรอยยิ้มและมือที่ยกขึ้นลูบหัวราตรีอย่างอบอุ่น

"เรื่องนี้มันแก้ได้พี่จะพาไปหาอาจารย์เอง" พี่หญิง

"ทำไมต้องไปหาอาจารย์คะ" หญิงสาวอ่อนวัยกล่าวด้วยดวงตากลมแป๋วที่แดงก่ำ

"พวกเราจะพาแกไปลงเสน่ห์ไง รับรองสามีกลับมาหลงแกจนไม่ออกจากบ้านแน่" นุ้ยรีบตอบ

"ฮริ! ๆ" พี่หญิงหัวเราะและกล่าวต่อ

"รับรองน้องจะชอบ อีกอย่างพี่จ่ายให้เอง" เสียงภรรยาของนักธุรกิจขนส่งกล่าวขณะเสยผมเหน็บหูให้เพื่อนสาวรุ่นน้อง

"แต่ ถ้ามันไม่ได้ผลล่ะคะ" ราตรี

"ไม่ได้ผลก็ไม่เห็นเป็นไร แกไม่ต้องเสียอะไรซักหน่อย" นุ้ย

"ใช่จ๊ะ พี่จะออกค่าใช้จ่ายให้เอง ถ้ามันได้ผลก็เกินคุ้มไม่ใช่เหรอ สามีก็กลับมารักมาหลงน้อง" พี่หญิง

"แต่" ราตรีอ้ำอึ้ง

"น้องจะไม่ให้อภัยราเมศวรหรือ" พี่หญิง

"ปะ เปล่าค่ะ" ราตรี

"โอเคงั้นไปกัน พี่ขับเอง นุ้ยไปนั่งหลังแต่งหน้าให้ราตรีด้วย" สาวใหญ่สั่งแล้วเดินก้าวไปเปิดประตูขึ้นรถอย่างอารมณ์ดี

ราตรีขึ้นมานั่งเบาะหลังอย่างงงๆ ขณะที่เพื่อนสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังแต่งหน้าทาปากให้เธอ

นั่งใจลอยได้เพียงชั่วครู่ก็มาถึงตึกหรูที่ตกแต่งสไตล์จีน มองจากข้างนอกแล้วเหมือนดั่งเรือสำเภาขนาดใหญ่

พี่หญิงและนุ้ยพาขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนสุด เมื่อมาถึงก็ต้องตกใจเมื่อบนชั้นนี้ตกแต่งแนวตะวันตก

มีผู้ชายร่างใหญ่ใส่สูทดำยืนคุมประตูไม้บานใหญ่ที่สลักลายไม้กางเขน พอพี่หญิงล้วงนามบัตรมาชูขึ้นชายฉกรรจ์ที่น่ากลัวทั้งสองกลับก้มโค้งคำนับหล่อนและเปิดประตูแง้มออก

แอ๊ดดด!

เดินเข้ามาภายในเห็นแสงไฟสลัวๆ กลางห้องโถงมีบัลลังก์ทองคำตั้งตระหง่านราวกับที่นั่งพระราชากรีก

มีรูปปั้นชายหญิงที่โป๊เปลือยเรียงรายจากประตูไปถึงบัลลังก์กลางห้อง มองไปรอบๆภายในกว้างขวางพอๆกับสนามฟุตบอล

มีการตกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้ราวกับป่ามนเทพนิยาย มีราวผ้ากั้นและแขวนบดบังแต่ละส่วนให้เป็นโซนเล็กๆ มีเสียงครางของชายหญิงดังแว่วมาไกลๆชนิดแทบไม่ได้ยิน

แปะ! ๆ ๆ ๆ จู่ๆก็มีเสียงปรบมือดังก้องอยู่หน้าบัลลังก์ทองคำ สามสาวหันขวับมามองก็เจอกับร่างชายสูงวัยที่แต่งชุดสูทสีขาว

"มาแล้วหรือคุณหญิง คุณนุ้ย" หนุ่มใหญ่เอ่ยและกวักมือเรียกสองสาวให้เดินเข้าไปหา

สองสาวจับมือชายสูงวัยที่ดูเหมือนบาทหลวงแล้วก้มจูบหลังมือของเค้าอย่างเคารพจนทำเอาราตรีที่ยืนมองตกใจ

จุ๊บ! ๆ

"วันนี้มีเรื่องอะไร ทำไมสองสาวถึงมาหาพ่อได้" หนุ่มใหญ่เอ่ยและบีบคางงอนสวยของสองสาวก่อนจะเชิ่ดหน้าพวกหล่อนขึ้นมามองตาประสานใจ

ราตรีถึงกับอึ้งเมื่อเห็นเพื่อนสาวปล่อยให้ชายหนุ่มที่ไม่ใช่สามีคีบคางลูบแก้มอย่างย่ามใจ

"อ้อ อยากให้อาจารย์ช่วยราตรีค่ะ" พี่หญิง

"ผัวเธอนอกใจไปคบเด็กค่ะอาจารย์" นุ้ยรีบเสริม

"หิ! ๆ ๆ เรื่องเเค่นี้เอง มานี่ซิหนู มานั่งบนเก้าอี้นี่มา" อาจารย์หันมาหัวเราะและแสยะยิ้มก่อนจะมองเรือนร่างที่ขาวโพลนซ่อนรูปอยู่ภายใต้ผ้าเดรสสีฟ้าบาง

"รีบมาเร็วๆสิแก" นุ้ยกวักมือเมื่อเห็นราตรีอ้ำอึ้ง

"ไม่ต้องกลัว พวกเราก็เคยทำแล้ว" พี่หญิงพยักหน้าและส่งยิ้ม

"ขึ้นไปนั่งบนนั้นเลย" หนุ่มใหญ่เอ่ยย้ำและหันกลับไปพูดคุยจู๋จี๋กับสองสาว เค้าส่งสายตาเจ้าชู้ใส่พวกหล่อนซึ่งมองยังไงๆก็ไม่มีความน่าเคารพเอาเสียเลย

ราตรีหันหลังให้บัลลังก์สีทองที่สูงสง่าก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นมานั่งอย่างสำรวม สองมือกุมตักและหนีบขาแน่น

"เอาหละ ๆ ขอเวลาแป๊บ" หนุ่มใหญ่เอ่ยกับสองสาวแล้วเดินมายืนหน้าราตรี เค้าคุกเข่าลงกับพื้นและก้มถอดรองเท้าของเธอออกอย่างใจเย็น

"ไม่เป็นไรค่ะ อาจารย์" หญิงสาวรีบก้มดึงรองเท้าตัวเองออก ทว่าไม่ทัน สองมือใหญ่ได้โยนรองเท้าลงพื้นเสียแล้ว

"อื่ม เป็นคนที่งามมาก งามทั้งผิวพรรณ ทรวดทรงและกระดูก" หนุ่มใหญ่เอ่ยขณะกุมสองเท้าเล็กขาวไว้แน่น ตาก้มมองตั้งแต่น่องขาวไล่ขึ้นมายังขาอ่อน

ราตรีเบือนหน้าหนีเมื่อรู้สึกว่ากำลังโดนชายอื่นกำลังจ้องเข้ามายังชายชุดเดรส ขณะเดียวกันมือที่หยาบโลนของเค้าก็บีบข้อเท้าสองข้างและค่อยๆฉีกขาเธอแยกออก

"อย่าค่ะ" ราตรีร้องห้ามและพยายามหนีบขากลับมาแนบกัน

"ราตรี" นุ้ยตะคอกดัง

"อย่าไปกลัว ปล่อยใจสบายๆ พวกเราดูอยู่" พี่หญิงกล่าวแล้วเดินมายืนข้างๆบัลลังก์ พร้อมทั้งดึงมือราตรีไปจับ

หิ! ๆ หนุ่มใหญ่หัวเราะและบีบข้อเท้าสองข้างฉีกออกในสภาพแดงคามือ ทำให้สองขาที่ขาวโพลนซ่อนรูปถ่างอ้าจนเห็นกางเกงในสีขายภายใต้ชายชุดเดรสสีฟ้าคราม

จู่ๆผู้ชายคนนึงก็เดินดุ่มๆมาจากม่านกั้นด้านข้างห้องโถง ในมือเค้ามีคฑาสั้นและขันน้ำอีกหนึ่งใบ

อาจารย์ปล่อยข้อเท้าสองข้างที่ถูกบีบจนแดงเป็นจ้ำๆก่อนจะหันไปรับไม้คฑาและจับขันน้ำวางลงพื้น

เค้าขมุบขมิบปากและค่อยๆจุ่มคฑากับน้ำในขัน จากนั้นเอาปลายไม้มาแตะที่ขาอ่อนด้านในของราตรี

พรื่ดด! ๆ ไม้แอปเปิ้ลที่เย็นและเปียกชุ่มลูบไล้ขาขาวๆไล่ขึ้นมาจนถึงขาหนีบก่อนจะทิ่มชนกับกลางเป้ากางเกงในที่นูนโหนก

อื้ออ! ราตรีเม้มกัดริมฝีปากตัวเองขณะที่หลับตาปี๋ เสียงครางกระเส่าเล็ดหลุดจากลำคอเบาๆ ขณะที่ไม้คฑาถูไถไปกับความรียาวของร่องสาว

พรื่ดด! ๆ ปลายไม้ที่ทู่โค้งแยงถูขึ้นลงจนเสียวทะลุกางเกงในตัวน้อย สำใสๆไหลเอ่อเลอะเต็มง่ามขาขณะที่รอยแยกของเรือนกายร้อนวูบๆวาบๆ

ใจเต้นดังตูมๆจนกลบเสียงเพื่อนทั้งสองที่กำลังพูดให้กำลังใจอยู่ข้างๆ สองมือจิกมือเพื่อนๆจนเป็นรอยเล็บฝังอุ้งมือพวกหล่อน

ขณะหลับตารู้สึกว่ากางเกงในกำลังโดนดึงร่นลงมาจนเจ็บตูด ฟุ่บ! ฟั่บ!

เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าชั้นในตัวจิ๋วหลุดลงมาที่เข่าเสียแล้ว ชายชุดเดรสก็โดนผู้ชายอีกคนถลกขึ้นจนหว่างขาและเนินหน่าวจ่ออยู่ตรงหน้าอาจารย์ที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น

"พี่หญิง นุ้ย หนูไม่เอาแล้ว" ราตรีเอ่ยเสียงดังทั้งๆที่หน้ายังมองผู้ชายอีกคนที่กำลังถลกชายผ้าของเธออยู่

หิ! ๆ ๆ ชายแปลกหน้าส่งยิ้มและหัวเราะกลับ ขณะเดียวกันอาจารย์ของเค้าก็ลุกขึ้นยืนและก้มหน้าซบกับร่องสาวที่ขาวโบ๊ะแทบไร้เส้นขน

รู้สึกถึงริมฝีปากที่ร้อนแดงตรงเนินหน่าว พร้อมทั้งหนวดเคราสั้นแข็งที่บาดขาอ่อนสองข้าง

แผล๊บ! ๆ ลิ้นสากยาวเลียปาดร่องสวาทจากล่างขึ้นบนสองที

อร๊า! อร๊ายยย! ราตรีกรีดร้องสุดเสียงขณะที่สะบัดแขนออกจากมือเพื่อน ก่อนจะใช้สองมือน้อยๆจิกหัวอาจารย์อย่างลืมเนื้อลืมตัว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

ตำนานตาม่วง

ตำนานตาม่วง

Wald Bridges
5.0

"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

สามีข้าจะเกี้ยวท่านเอง

สามีข้าจะเกี้ยวท่านเอง

ซีไซต์
5.0

ข้าคือวิญญาณที่มาเกิดใหม่ในร่างของอันจิ่งเถียนที่ถูกคู่หมั้นถอนหมั้นอย่างไม่ไยดี ข้ารังเกียจบุรุษผู้นี้นักแต่เขากลับมีปราณมังกรที่ข้าต้องการ ดังนั้นข้าจึงต้องพยายามยั่วยวนให้เขาตกหลุมรักให้จงได้ เรื่องย่อ ข้าเป็นวิญญาณที่มาเกิดใหม่ในร่างของอันจิ่งเถียน สตรีที่น่าสงสารที่ถูกคู่หมั้นถอนหมั้น ข้ารังเกียจบุรุษผู้นั้นนักแต่เขากลับมีสิ่งที่ข้าต้องการนั่นก็คือปราณมังกรที่จะช่วยประคองวิญญาณของข้าให้อยู่รอดปลอดภัย ดังนั้นข้าจึงต้องทุ่มเทความสามารถหาทางใกล้ชิดเขาเพื่อเอาเขามาเป็นสามี แต่ปราณมังกรผู้นี้ร้ายกาจ แสดงออกอย่างชัดเจนว่ารังเกียจข้า และไม่ยินยอมแต่งกับข้าแต่โดยดี หึ หึ ไก่อ่อนเช่นเจ้าคิดจะต่อต้านเสน่ห์อันร้ายกาจของข้าหรือ หวงเจี่ยวหลงเจ้ารู้จัก เจ้ามารยาตัวแม่อย่างข้าน้อยไปเสียแล้ว! แนะนำตัวละคร อันจิ่งเถียน เดิมทีนางเป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อนความจำเสื่อมที่ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้เพราะมีห่วงผูกเอาไว้ ซึ่งนางก็ไม่รู้ว่าคือสิ่งใด กระทั่งวันหนึ่งนางได้รับรางวัลจากท่านพญายมจึงได้เกิดใหม่ในร่างของอันจิ่งเถียน สตรีที่อาภัพตายก่อนอายุไขแต่นางเป็นคนดีจึงได้ลอยขึ้นสวรรค์ไปแล้ว อันจิ่งเถียนคนใหม่ต้องตามหาว่าตนเองแท้จริงคือผู้ใด โดยต้องอาศัยปราณมังกรจากบุรุษเพื่อล่อเลี้ยงวิญญาณให้คงสภาพอยู่ในร่างนี้ให้นานที่สุด กระทั่งนางได้พบกับหวงเจี่ยวหลงอดีตคู่หมั้นของอันจิ่งเถียนที่ขอถอนหมั้นไปแล้ว อันจิ่งเถียนคนใหม่จึงพยายามยั่วยวนและใช้เล่ห์กลเพื่อให้เขาตกหลุมรักและยอมแต่งงานกับนาง แม้ว่าเขาจะปากร้ายและไม่เต็มใจก็ตาม หวงเจี่ยวหลง อดีตคู่หมั้นของอันจิ่งเถียนที่ขอถอนหมั้นกับนางเพราะชอบสตรีอื่น และเขาก็ต้องมึนงงเมื่ออันจิ่งเถียนที่เขาพบผิดแผกไปจากที่เขาได้ยินมาอย่างสิ้นเชิง นางมิใช่สตรีอ่อนหวานและเป็นคุณหนูในห้องหอ ตรงกันข้ามนางกับมารยาสาไถยยังเรียนรู้อาคมมาอย่างผิด ๆ พยายามจับเขาและใช้วิธีการอันน่ารังเกียจสารพัดเพื่อให้เขาแต่งกับนาง เขาไม่ได้ชอบนางบัดนี้ยังรังเกียจ เขาจึงไม่ยอมแต่งกับนางผู้ชั่วช้าคนนั้นเด็ดขาด ไป๋ซี วิญญาณความจำเสื่อมที่ฝากตัวรับใช้อันจิ่งเถียนเพราะนางสามารถมองเห็นเขา อีกทั้งอันจิ่งเถียนยังสัญญาว่าจะช่วยเหลือเขาเพื่อตามหาว่าตัวเขาเป็นเช่นไร ไป๋ซีจึงซื่อสัตย์และภักดีกับอันจิ่งเถียนยิ่งนัก เหรินชุน คนที่อยู่ในใจของหวงเจี่ยวหลง และยังเคยมีใจให้หวงเจี่ยวหลงอยู่ช่วงหนึ่ง เป็นบุตรสาวของผู้นำสำนักผู้บำเพ็ญเพียรที่ร่ำรวยที่สุด เป็นสำนักที่หวงเจี่ยวหลงไปร่ำเรียนและบำเพ็ํญเพียรมาตั้งแต่เด็ก นางถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจและฟุ้งเฟ้อ มองไม่เห็นหัวคนอื่น แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนจิตใจดี อ่านก่อนค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นแนวตลกขบขันสุขนิยม พล็อตเรื่องไม่หวือหวา เบาสบาย เนื้อหาจะเป็นแนวแฟนตาซี โลกของภูติผี เทพเซียน และเวทย์มนต์คาถา ทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นจริงนะคะ ขอให้อ่านอย่างสนุกสนานคลายเครียดจ้า

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ