มิลล์เฟย์ มอดไหม้ด้วยไฟรัก

มิลล์เฟย์ มอดไหม้ด้วยไฟรัก

ฮาลาปัญ

5.0
ความคิดเห็น
30
ชม
11
บท

เพราะปภินดาเคยช่วยชีวิตอธิกะไว้ เขาจึงกลับมาตอบแทนเธอด้วยไฟรักที่พร้อมจะมอดไหม้ทุกสิ่ง

บทที่ 1 ตอบแทนคุณ

ร้าน Born to be Cream

ใบหน้าขาวนวลที่เปรอะเปื้อนคราบแป้งขนมจาง ๆ กำลังเตรียมแพ็กขนมมิลล์เฟยนับพันชิ้นลง กล่องเพื่อเตรียมจัดส่งให้ลูกค้าเจ้าประจำที่ เธอไม่ เคยเห็นหน้าค่าตารู้เพียงแต่ว่าเขาสั่งขนมมิลล์เฟย บ่อยมาก แทบจะนับครั้งได้ที่เขาจะลองสั่งขนมแบบอื่น บางครั้งก็ฝากให้คนที่มารับขนมซึ่งคาดว่าน่าจะ เป็นลูกน้องหรือผู้ช่วยของเขาเอาโน้ตมาให้และแจงรายละเอียดยิบว่าต้องการมิลล์เฟยดีไซน์ใหม่

ผลไม้ขอเป็นองุ่นไซมันคัสบ้างล่ะราสเบอรี่บ้างล่ะ สังเกตดูแล้วเขาจะเป็นคนพิถีพิถันและเจ้าระเบียบไม่น้อย แต่ถึงกระนั้นบุคคลนิรนามผู้นี้ก็สั่งนมเธอมาร่วมสามเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยได้เจอตัว

คนสั่งอย่างจริงจังเลยสักครั้ง

จนกระทั่งวันนี้เป็นวันที่เขาสั่งขนมจากร้านของเธอเยอะที่สุด ถึงกับต้องเกณฑ์บรรดาเพื่อน ๆ เกือบสิบคนมาช่วยกันแพ็คขนมตั้งแต่ตีห้า

เพราะเขาบอกว่าจะมารับขนมก่อนเที่ยงของวัน แต่นี่ก็เที่ยงเป๊ะแล้วแท้ ๆ อิตาบ้าขนมหวานก็ ยังไม่โผล่มารับขนมสักที

"คุณครีมเขาจะเบี้ยวเราไหมคะเนี่ย ไหนจะต้องเร่งหาเงินที่เราจะซื้อที่ดินของร้านจากอิเจ๊หน้าเลือดคนนั้นอีก ถ้ามาเจอเบี้ยวอีกเรากรอบกันแน่ ๆค่ะคุณครีมขา"

หมูยองลูกน้องสาวทำหน้าเหนื่อยแล้วเอนตัวลงกับเก้าอี้ผ้าใบที่ใช้ไว้งีบหลับพักหลังจากที่ไม่มีออเดอร์เข้ามาขณะที่ปภินดาเจ้านายสาวเอาแต่เดินไป

เดินมาจนเริ่มวิตกจริตกับสิ่งที่หมูหยองเด็กสาวใน ร้านพูดขึ้น "ไม่หรอกค่ะ พี่ว่าเขาต้องมา"

กริ๊ง! กริ๊ง!

เสียงโทรศัพท์ของร้านดังขึ้นหมูหยองกดรับ

"สวัสดีค่ะพนักงานร้านชื่อหมูหยอง ยินดีให้ บริการค่ะ อ้อจะมารับขนมใช่ไหมคะเสร็จแล้วค่ะมาได้เลย"หมูหยองกดวางสายทันใดปภินดาก็รีบกระ โดดโลดเต้นดีใจ

ทว่าอยู่ดี ๆ ก็รู้สึกโลกทั้งใบเอียงขึ้นมาอย่างน่าประหลาด และทุกอย่างตรงหน้าก็ดับวูบลง

"ว๊ายคุณครีมคะ" หมูหยองรีบวิ่งไปรับร่างที่ หน้ามืดหมดสติของปภินดาขึ้นมาอย่างทุลักทุเล

"เกิดอะไรขึ้นครับ"

"เอ่อคุณมารับขนมใช่ไหมคะ ช่วยฉันหน่อย ค่ะเจ้านายฉันเขาเป็นลมค่ะ"

ขณะที่ชายในชุดเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำกำลัง รับร่างของปภินดามาจากหมูหยอง

"ฉันเอง" ชายหนุ่มหน้าตาหล่อคมเหมือนลูก ครึ่งผิวขาวราวไข่ปอกรวบร่างของปภินดาขึ้นสูง

"สวัสดีครับผมเป็นคนที่สั่งขนมเองและเป็น เพื่อนเก่าของปภินดา คุณไม่ต้องเป็นห่วงเจ้านาย คุณหรอก ผมจะพาเธอไปโรงพยาบาลและดูแลให้ อย่างดีวันนี้คุณปิดร้านได้เลยพิรุณนายให้พวกที่ เหลือมาขนขนมไปที่บริษัทด้วย"

เขากำชับกับผู้ช่วยและอุ้มร่างของปภินดาขึ้นรถไป หมูหยองยิ้มแก้มปริเพราะวันนี้เธอจะได้รีบ กลับบ้าน ไปนอนดูซีรีส์ให้สบายใจเพราะทั้งอาทิตย์เหนื่อยกับการทำขนมมาแทบตาย

ใบหน้าที่ซีดเซียวในตอนแรกเริ่มอมชมพูมี เลือดฝาดขึ้น หลังจากที่ได้น้ำเกลือจากโรงพยาบาล แต่กระนั้นก็ยังไม่ฟื้นคืนสติ ดังนั้นชายหนุ่มเพื่อน เก่าผู้หวังดีจึงได้อุ้มเจ้าของร้านขนมกลับมายังคอน โดของตน

นัยน์ตากลมโตเปิดออกและเห็นแสงสว่างของเมืองทั้งเมืองพร้อมกับกับความมืดมิดรอบตัวจนน่าหวั่นใจ ผสานกับกลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่ทำให้ต้องรีบ เด้งตัวขึ้นมา มือของปภินดายกขึ้นทาบหน้าผากที่ ปวดตุ้บตุ้บ

นี่เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ แล้วตอนนี้เธอ อยู่ที่ไหน ในห้องของใครกัน

"คุณตื่นแล้วเหรอ" หุ่นสูงโปร่งที่ยืนกอดอก อยู่ที่ขอบประตูเอ่ยทัก

และเดินเข้ามาประชิดที่ข้างเตียงกดเปิดสวิสตซ์ไฟเพื่อให้ปภินดาเห็นหน้าของเขา เพื่อจะดูว่าเจ้าของร้านขนมโอเคดีแล้ว

เมื่อแสงของโคมไฟหัวเตียงส่องสว่าง ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงใครสักคนก็แว่บเข้ามาในหัว

แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี

ว่าเขาเป็นใครกันแน่ "คุณจำผมไม่ได้ใช่ไหม"

"เอ่อ...คือขอโทษด้วยนะคะฉันความจำ ไม่ค่อยดี"

"คุณความจำไม่ดีหรือผมไม่น่าจดจำกันล่ะ ปภินดา"

หน้าสลักคมดั่งรูปปั้นโน้มตัวลงมามือสอง ข้างยันที่เตียงนอน สายตาจ้องเขม็งมองเธอ

"ก็จำไม่ได้จริง ๆ ค่ะ แล้วนี่ฉันอยู่ไหนแล้วทำไมคุณถึงมาอยู่กับฉัน" ปภินดารีบตะปปกอดตัวเองอย่างหวาดระแวง

"ผมเป็นลูกค้าขนมพันชิ้นนั่น พอดีแวะไปที่ ร้านและคุณก็ดันเป็นลมหมดสติ ผมเลยพาคุณไป กินน้ำเกลือที่โรงพยาบาล แล้วก็พากลับมาคอนโด ของผม เพราะผมไม่รู้ว่าบ้านคุณอยู่ไหน"

"คุณก็ทิ้งฉันไว้ที่โรงพยาบาลก็ได้ค่ะไม่เห็น ต้องพามานี่เลย"

"ก็ผมอยากพาคุณมาที่นี่ เพื่อให้เราได้เริ่มทำความรู้จักกัน"

"ใครอยากไปรู้จักคุณกัน...ฮึ!" หญิงสาวชะงัก เพราะหันไปเห็นนิตยสารฉบับหนึ่งที่ปกเป็นใบหน้าของคนที่เธอกำลังสนทนาด้วย เธอเพ่งมองนิตยสารของผู้ชายเล่มนั้นและหันไปมองหน้าเขาอีกรอบเพื่อทดสอบว่าตนเองไม่ได้ตาลาย

"ไม่ต้องงงหรอกครับ นั่นผมเอง"

นิตยสารเล่มหนาถูกโยนลงบนเตียงนอน ใบ หน้าหวาดหวั่นรีบหยิบมันขึ้นมาตรวจดูให้แน่ชัด

"อธิกะ บุรินทร์รัตน์ นักธุรกิจด้านวิศวโยธา สุดฮอต" ปภินดาอ่านออกเสียงพึมพำแล้วเหลือบ ตามองดูเจ้าของใบหน้าหล่อดุจเทพบุตรตรงหน้า

ใช่! ก็เขาหล่อจริงนั่นแหละ ข้อนี้ไม่ปฏิเสธ

แต่ที่เธอไม่ชอบคือไอ้การกระทำที่ดูเอาแต่ใจของเขาต่างหาก

"สรุปคุณก็ยังจำผมไม่ได้สินะ เอาล่ะผมจะ แนะนำตัวแล้วกัน ผมเคยเป็นเดือนคณวิศวะมหาลัยเดียวกับคุณซึ่งตอนนั้นคุณเป็นดาวมหาลัยอยู่ด้วย ความบังเอิญวันรับปริญญาผมก็โดนทำร้าย และคุณก็เป็นคนมาช่วยผมและพาส่งโรงพยาบาลผมก็แค่ทำแบบเดียวกับคุณในตอนนั้น ไม่ถูกต้องหรือไง"

"ก็ไม่เชิงว่าไม่ถูกต้องหรอกค่ะแต่มันจะประเจิดประเจ้อไปนิดกับการที่คุณหิ้วฉันมาคอนโดของคุณแบบนี้ใคร ๆ ก็เข้าใจผิดกันหมดแน่"

"เข้าใจผิดว่าอะไรครับ เข้าใจว่าผมพาคุณมา นอนค้างที่นี่ หรือเข้าใจว่าคุณเป็นแฟนผม คุณว่า แบบไหนดีล่ะปภินดา"

"เรียกว่าครีมเฉย ๆ เถอะค่ะ"

"งั้นคุณก็เรียกผมว่าธิเฉย ๆ อืม..นี่ก็ดึกมาก แล้วคุณนอนพักก่อนเถอะ แล้วก็ค่าขนมผมโอนเข้าบัญชีร้านคุณเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน"

เขาเดินออกไปพร้อมกับล็อคประตูห้องนอน ให้เธอเสร็จสรรพตอนนี้เธอทั้งงงและสับสน จู่ ๆ คนที่เคยช่วยเอาไว้สมัยเรียนก็โผล่มาตอบแทนพระคุณแบบปัจจุบันทันด่วนไปเสียหน่อยเป็นใครก็ตกใจกันทั้งนั้น

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

มงกุฎเลือด

มงกุฎเลือด

Tepui Frost
5.0

ในชาติก่อน นางได้ต่อสู้เพื่อประเทศชาติเป็นเวลาห้าปี แต่ความดีความชอบทางการทหารกลับถูกน้องหญิงยึดไป คู่หมั้นที่นางรักหมดใจนั้นกลับนิ่งเฉยและร่วมมือกับอีกฝ่ายผลักนางตกลงสู่ห้วงลึกจนต้องเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจในคืนที่หนาวเย็น หลังจากได้เกิดใหม่ นางสาบานว่าจะทำให้ทุกคนที่รังแกนางได้รับผลกรรมที่สาสม เมื่อเผชิญหน้ากับครอบครัวที่เสแสร้งและผู้ชายเจ้าชู้ นางยิ้มเยาะ : ความดีความชอบทางทหาร? รางวัล? คู่หมั้น? เอาไปให้หมด นางหันหลังกลับและคุกเข่าในงานเลี้ยงในวังอย่างน่าตกใจโดยชี้ตรงไปยังมุมมืดที่มีอ๋องอวี้นั่งอยู่บนรถเข็น“ขอฝ่าบาททรงโปรดพระราชทานการสมรสระหว่างหม่อมฉันกับอ๋องอวี้เพคะ” ทุกคนต่างตกตะลึง อ๋องอวี้เซียวจือ ขาทั้งสองข้างใช้การไม่ได้และมีนิสัยเย็นชา เป็นคนที่ทุกคนหลีกเลี่ยงเสมือนปีศาจที่มีชีวิต ทุกคนหัวเราะเยาะนางว่าคงบ้าไปแล้ว ถึงรนหาที่ตายเช่นนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่านางเห็นถึงความโดดเด่นและพลังที่ซ่อนอยู่ลึกในตัวชายคนนี้ นางช่วยให้เขาฟื้นฟูความแข็งแกร่งและรักษาขาที่เป็นพิการ เขาสัญญาว่าจะให้ชีวิตที่มั่นคงแก่นางและเป็นที่พึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดให้นาง เมื่อน้องหญิงที่แอบอ้างนำความดีความชอบทางทหารของนางไปอวดความเก่งกล้า และแม่แท้ ๆ ยังคงใช้กลอุบายควบคุมชะตากรรมของนาง… นางและอ๋องอวี้ร่วมมือกันวางแผนอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน เปิดโปงกลโกงและแสดงความกล้าหาญในสนามรบ! จนกระทั่งอ๋องอวี้ยืนขึ้นได้อีกครั้งและมีอำนาจครอบครองราชสำนัก จนกระทั่งนางแสดงตราประทับที่แท้จริงข และให้ทหารทั้งหลายยอมรับ ทุกคนเพิ่งรู้สึกตระหนักว่า คนที่พวกเขาเคยทิ้งไปไม่ต่างจากขยะนั้น ทั้งคู่ได้จับมือกันแล้วครองแผ่นดินไว้ด้วยแล้ว

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ