Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

Lewie Parenti

5.0
ความคิดเห็น
2.7M
ชม
418
บท

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

บทที่ 1 หยุดพล่าม หย่ากันเถอะ

กลางดึก

เซิ่งเกอนอนอย่างกระสับกระส่าย

เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกคนทับอยู่บนตัว จนเธอแทบจะหายใจไม่ออก

ข้างหูยังมีเสียงลมหายใจหนักหอบ

แล้วเธอก็รู้สึกเจ็บแสบที่ด้านล่าง

หลังจากได้สติ เซิ่งเกอก็ลืมตาขึ้นอย่างตกใจ แลเห็นเงาลาง ๆ ของผู้ชายที่อยู่บนตัวเธอ

“หยุนเหนียน ใช่..... คุณไหม?”

ชายคนนั้นส่งเสียง “อื้ม” ขึ้นมาเบา ๆ ในลำคอ บนตัวคละเคลาไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ หลังจากที่เขาจู่โจมรอบแล้วรอบเล่า ก็ไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ อีก

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เซิ่งเกอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หลังจากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ปล่อยตัวไปตามการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย แล้วก็ส่งเสียงครวญครางในลำคอออกมาโดยไม่รู้ตัว

การจู่โจมรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด ตัวเธอเหมือนกับจมดิ่งลงไปภายใต้บรรยากาศชวนรักชวนฝัน ราวกับว่าเธอกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ

หลังจากแต่งงานมาได้สามปี ในที่สุดเฟิงหยุนเหนียนก็ยอมแตะเนื้อต้องตัวเธอสักที!

เนื่องจากเธอเป็นภรรยาที่คุณท่านยัดเยียดให้เขา หลายปีที่ผ่านมานี้เฟิงหยุนเหนียนจึงไม่เคยมองเธอเต็ม ๆ ตาเลย

ครั้งนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ที่ทำให้เขาเข้ามาในห้องเธอ

นั้นก็ทำให้เธอก็มีความสุขมาก!

สองชั่วโมงต่อมา เฟิงหยุนเหนียนก็นอนลงบนตัวเธออย่างอ่อนล้าพร้อมกับเสียงครวญคราง แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างเผยให้เห็นรูปร่างที่เพอร์เฟคของเขา

เซิ่งเกอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นเร็วมาก แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แต่กลับเหมือนเป็นความฝัน

หากเป็นความฝันจริง ๆ เธอคงไม่อยากที่จะตื่นตลอดไป

เธอโอบท้ายทอยเขา ราวกับตกอยู่ในความหลงใหล พลางหอบหายใจหลังออกกำลังกายเสร็จ “หยุนเหนียน.....หยุนเหนียน จริง ๆ แล้วฉัน......”

ก่อนที่เธอจะทันได้เอ่ยคำว่า “รักคุณมาก” ออกไป อีกฝ่ายก็พึมพำขึ้นมาด้วยเสียงที่แหบพร่าว่า

“อาหนิง.......”

เซิ่งเกอแข็งเป็นหินไปในทันที

หัวใจของเธอสั่นไหวอย่างรุนแรง เหมือนเลือดทั้งตัวของเธอกำลังไหลย้อนกลับ

อาหนิงเป็นชื่อเล่นของมู่จือหนิง ธอเป็นรักแรกที่เฟิงหยุนเหนียนรักหมดหัวใจ เป็นเพราะฝีมือของคุณท่าน หลายปีมานี้เธอจึงอยู่แต่ต่างประเทศมาตลอด

แต่เมื่อวานนี้มู่จือหนิงกลับมาแล้ว

แถมยังส่งข้อความมาหาเรื่องเธออีกด้วย

“เซิ่งเกอ ฉันกลับมาแล้วนะ ไม่มีที่สำหรับเธอในตระกูลเฟิงอีกแล้ว!”

“ฉันกับอาหยุนรักกันมาตั้งแต่เด็ก เธอคิดจริง ๆ เหรอว่า แค่เธอเข้ามาไม่กี่ปีก็จะมาแทนที่ของฉันได้น่ะ?! ไปให้พ้น กลับไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซะ ที่นั่นต่างหากคือที่ที่เธอควรอยู่”

“เธอไม่รู้เหรอว่าอาหยุนรักฉันมากแค่ไหน แม้ว่าเขาจะนอนอยู่บนเตียงของเธอ แต่เขาต้องเรียกชื่อของฉันอย่างแน่นอน แล้วเธอก็เป็นได้แค่ตัวแทนของฉันเท่านั้น เซิ่งเกอ ความรู้สึกแบบนี้มันคงจะแย่มากเลยใช่ไหมล่ะ?”

ตัวแทนงั้นเหรอ?

เธอเป็นหลานสะใภ้ที่คุณท่านเป็นคนกำหนด เธอเป็นคุณนายเฟิงที่ถูกต้องตามกฎหมาย เธอคือเซิ่งเกอ! เธอไม่ใช่ที่ตัวแทนของใครทั้งนั้น!

ที่ข้าง ๆ หู เฟิงหยุนเหนียนยังพูดขึ้นมาว่า “อาหนิง อาหนิง”

ส่วนข้อความประชดประชันเหล่านั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอไม่หยุด มันแสดงให้เห็นว่าเธอหลอกตัวเองมากแค่ไหน!

ทันใดนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เซิ่งเกอกำมือแน่น พยายามควบคุมตัวที่กำลังสั่นเอาไว้

หลายปีที่ผ่านมา เธอคอยระมัดระวังทำตัวเชื่อฟัง หรือแม้กระทั่งลาออกจากงานมาเพื่อเป็นภรรยาที่ดีของเฟิงหยุนเหนียนด้วยความเต็มใจ

แต่แม่สามี และน้องสาวของสามีคิดว่าเธอเป็นคนที่ไม่มีภูมิหลังที่ดี เป็นพวกที่เกลียดคนจน รักคนรวยมาก จึงพยายามกลั่นแกล้งเธอสารพัด ทำให้เธอต้องอับอาย เธอที่ไม่อยากสร้างปัญหาให้เฟิงหยุนเหนียน จึงต้องกัดฟัน และอดทนกล้ำกลืนอยู่คนเดียว

เพื่อจะได้รับความรักจากเขา การถ่อมตนของเธอมันยังไม่พออีกเหรอ?

ทำไมเธอต้องเอาศักดิ์ศรีสุดท้ายของตัวเองมาให้คนอื่นเหยียบย่ำจนไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้ด้วย!

ค่ำคืนนี้ยาวนานเป็นพิเศษ

เซิ่งเกอยังคงลืมตาอยู่ เธอนอนไม่หลับเลยตลอดทั้งคืน

.......

ในเช้าตรู่ของวันต่อมา เฟิงหยุนเหนียนถูกแสงแดดจ้าที่ส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่างปลุกให้ตื่น

เขาเอามือนวดขมับไปมา พอเขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าเซิ่งเกอกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งโดยหันหลังให้เขาอยู่

จู่ ๆ เรื่องเมื่อคืนก็แวบเข้ามาในหัวของเขา ทำให้เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ลูกตาสีดำของเขาก็มืดมนขึ้นมาทันที อากาศรอบ ๆ ตัวเขาค่อย ๆ เย็นขึ้นมา

แม้ว่าเซิ่งเกอจะหันหลังให้เขาอยู่ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นปรปักษ์ของฝ่ายชายอย่างชัดเจน

เธอยังคงทาครีมบำรุงผิวต่อไป ราวกับไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วจู่ ๆ ข้อมือของเธอก็ถูกเขากระชากไปอย่างแรง

ทำให้ครีมบำรุงผิวในมือของเธอตกลงไปที่พื้น ขวดแก้วแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เนื้อครีมสีขาวหกกระจายเต็มพื้น

เซิ่งเกอเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองเขาด้วยความโกรธ แต่เมื่อเธอได้สบตากับลูกตาสีดำที่กำลังแสดงอารมณ์โกรธ และอารมณ์ขยะแขยงของชายคนนั้น หัวใจของเธอก็สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่

“คุณคิดว่าคุณใช้วิธีวางยาที่น่ารังเกียจแบบนี้เพื่อทำให้ผมแตะต้องคุณ แล้วคุณจะเป็นคุณนายเฟิงจริง ๆ งั้นเหรอ?”

เฟิงหยุนเหนียนที่ยืนอยู่สูงกว่าจ้องมองมาที่เธอ เขากัดฟันมองเธอตาเขม็ง ส่วนมือก็ยังไม่คลายออก แถมยังกำแน่นขึ้นด้วย

เป็นเพราะใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมา จึงทำให้ดูน่ากลัวเป็นพิเศษ

วางยางั้นเหรอ?

เซิ่งเกอยิ้มทั้งที่หน้าซีดเผือก “ในสายตาคุณ ฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นเหรอไง?”

มุมปากของเฟิงหยุนเหนียนโค้งขึ้นอย่างเย้ยหยัน แววตาของเขาแสดงความรังเกียจออกมาอย่างแรง “ตอนแรกคุณก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมกับคุณปู่ไม่ใช่เหรอ คุณถึงทำให้ผมแต่งงานกับคุณได้ แล้วตอนนี้จะมาแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาอะไร”

“ผู้หญิงที่น่ารังเกียจอย่างคุณ เทียบไม่ได้แม้แต่นิ้วเท้าสักนิ้วของอาหนิงเลยด้วยซ้ำ!”

น่ารังเกียจ แสร้งทำเป็นไร้เดียงสา.....

ที่แท้ในความคิดของเขา เธอดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ

ส่วนเรื่องการวางยาอะไรแบบนี้ หากเธอคิดจะทำจริง ๆ เธอคงทำไปตั้งนานแล้ว ทำไมต้องทนทุกข์ใจรอมาจนถึงตอนนี้ด้วย? เฟิงหยุนเหนียนไม่รู้จักเธอเลยจริง ๆ!

มันน่าตลกตรงที่ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเธอพยายามที่จะทุ่มเทสุดแรงกายแรงใจ แต่ผลที่ได้กลับย่ำแย่สุด ๆ!

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องฝืนทนอีกต่อไปแล้ว

เซิ่งเกออดทนต่อความเจ็บปวดที่ถูกเขาจับข้อมือไว้แน่น เธอกัดฟัน แล้วก็ออกแรงสุดกำลัง เพื่อสะบัดมือเขาออก

จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น และพูดอย่างหนักแน่นว่า

“เฟิงหยุนเหนียน เราหย่ากันเถอะ”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

สนพ. อิ่มรัก
4.8

ปลัมน์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ถูกแม่สั่งให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะกัน พลอยหยก ออกไปจากชีวิตน้องชายของเขา แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงคราวของตัวเอง เขากลับกันเธอออกจากชีวิตตัวเองไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีเธอ ----------------------- “ปวดแผลจัง สงสัยต้องนอนพัก คุณล่ะทำอะไรตั้งหลายอย่างผมว่านอนพักก่อนดีกว่ามั้ย” เขาเอ่ยเมื่อพลอยหยกกลับจากเอาทุกอย่างไปล้างในทะเลเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่คุณนอนก็ดี เดินไกลกว่าทุกวันแล้วค่ะ” พลอยหยกเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยเดินมาคอยประคองให้เขานอนลงได้อย่างสะดวก โดยมีเสื้อชูชีพสองตัววางซ้อนกันเป็นหมอนให้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้วเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขาที่หล่อเหลากว่าทุกวัน ยิ่งเขาจ้องมองมาหาด้วยแล้วก็ยิ่งเกิดอาการประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก “คุณนอนพักก่อนดีกว่านะแกว จะได้มีแรงไว้สู้กับการสอยมะพร้าวไง” มือข้างขวาของเขารั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน แถมยังออกแรงกดบังคับให้เธอโน้มกายลงไปหาพื้นข้างๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บแผลอยู่บ้างแขนข้างขวาของเขาก็ยังมีเรี่ยวแรงมาพอที่จะหยัดตัวให้นอนตะแคงไปหาเธอ ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่เขาเดาว่าคงจะแดงเพราะความอายที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นแน่ และเขาก็ช่วยให้ห้วงเวลาที่เธอคงจะอึดอัดนั้นสั้นลงด้วยการก้มลงไปหาริมฝีปากนุ่มช้าๆ มอบจุมพิตอันแผ่วเบาให้เจ้าของริมฝีปากที่ไม่ได้ขัดขืนใดๆ อีกทั้งยังโอบกอดตัวเขาไว้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ใบหน้าสวยก็แหงนเงยขึ้นเพื่อให้เขาได้ดอมดมปลายคาง ลำคองามระหงอย่างสะดวก ก่อนจะกลับขึ้นไปดูดดื่มริมฝีปากอีกวาระ แขนข้างซ้ายที่เคยเจ็บบัดนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว และใช้มันยกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะถลกบราเซียออกจากสองบัวงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่ใคร่ถนัดนักเขาเลยเลื่อนมือขวาลงมาช่วยด้วยการถลกเสื้อยืดขึ้น โดยเจ้าของเสื้อคอยให้ความร่วมมือพยุงกายขึ้นจากพื้น แล้วแอ่นอกให้กับอุ้งปากอุ่นของเขาได้ลิ้มลองอย่างไม่หวงแหน แม้ใจจะบอกตัวเองว่าต้องห้ามเขา แต่พลอยหยกก็ไม่อาจจะทำได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นสุขใจจนลืมทุกอย่างเพียงเพราะมีเขาอยู่แนบชิดขณะนี้ จนไม่อาจจะผลักไสเขาไปไหนได้นอกจากยินยอมพร้อมใจให้เขาได้เชยชมเพื่อชดเชยความสุขสมที่พึงมีด้วยกันนับตั้งแต่วันได้นอนแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ปลัมน์ก็ไม่คิดจะห้ามตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่ถุงยางอนามัยติดตัว และไม่แคร์ด้วยว่าเธอคืออดีตคนรักของหลานชาย ด้วยหัวใจไม่อาจจะหักห้ามความต้องการทั้งทางกายและทางใจได้อีกต่อไปแล้ว ผ่านมาหลายค่ำคืนที่เขามีสติล้วนแล้วแต่เป็นการกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ สำหรับเขาแล้ว แผงอกเปลือยทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันเนิ่นนานกว่าปลัมน์จะค่อยๆ เลื่อนมือขวาลงไปหาหน้าท้องแบนราบจนพานพบตะขอกางเกงยีนส์ เขาใช้เวลาปลดไม่นานพอๆ กับการรูปซิปออก แล้วส่งนิ้วเรียวเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มนวลนอกแพนตี้สีหวานที่ชวนให้หลงใหลจนเขาปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไปเลยขั้นที่เกินจะควบคุมได้อีกต่อไป ไม่แตกต่างจากพลอยหยกนักที่เป็นสุขใจเกินคณากับการมีเขามาแนบชิดอยู่อย่างนี้ สองฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขาอย่างลืมตัว ริมฝีปากนุ่มก็จูบตอบเขาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ก็ตามที แต่การถูกเขามอบจุมพิตให้บ่อยครั้งก็คือเป็นความคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับอุ้งปากอุ่นของเขาที่กำลังครอบครองปลายยอดชูช่อประหนึ่งรอให้เขามาเยี่ยมเยือนก็ไม่ปาน แผ่นหลังนุ่มแทบไม่ติดพื้นใบมะพร้าวเมื่อเธอเผลอแอ่นกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ดูดดื่มอย่างสะดวก เธอรับรู้ได้ว่ากายเขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือบางเผลอออกแรงบีบตรงหัวไหล่ซ้ายของเขาเพราะความเจ็บร้าวไปทั่วกายจากความต้องการที่จะมีเขาเข้าครอบครอง “แกว! ตัวผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเขาแหบพร่าอยู่ใกล้ๆ หู ก่อนจะซอกไซ้ปลายจมูกไปกับซอกคอระหงแล้วเลื่อนลงไปหาอกอวบอิ่ม อ้อยอิ่งอยู่กับปลายยอดอีกข้างอย่างหลงใหลอีกครั้ง พลอยหยกรับรู้ถึงความต้องการของเขาได้ตรงสะโพกผายตึงเมื่อความแข็งแกร่งของเขาส่งสัญญาณมาหาโดยไม่ต้องบอกกล่าวทางวาจาเพราะด้วยภาษาทางกายแจ้งอย่างชัดเจนกว่าเรียบร้อยแล้ว “คุณปลัมน์คะ!” พลอยหยกส่งเสียงติดๆ ขัดๆ ไปหาเขา สองมือบางก็พยายามจะดันอกเขาออกอย่างยากลำบาก “แกว! อย่าห้ามผมเลยนะ เราต่างก็ต้องการกันและกัน อย่าสนใจอะไรอีกเลยนะ” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอนมาให้ขณะพรมจูบไปตามผิวกายขาวและกำลังเลื่อนต่ำลง พลอยหยกต้องพยายามสะกัดกลั้นความรู้สึกวาบหวานเอาไว้และพยายามใช้สองแขนหยัดกายให้ลุกขึ้น “คุณปลัมน์คะ! ฟังสิคะ” “บนเกาะนี้มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า และไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องติดอยู่นี่ไปเป็นปีๆ ก็ได้ ถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงไม่พ้นต้องทำเรื่องนี้ด้วยกันอยู่ดี แล้วจะให้ผมรออะไรอีกแกวคุณอยากให้ผมลงแดงตายเพราะต้องการคุณหรือไง” แต่ก็ถูกกายกำยำเขาทาบทับไว้ ส่วนมือขวาที่ใช้การได้ก็กำลังเลื่อนขอบกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกผายตึง “แต่เสียงนั่นค่ะ คุณฟังสิคะ” แม้จะเป็นเสียงแห่งความช่วยเหลือกำลังมาถึง แต่ปลัมน์ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และอยากฆ่าคนที่กำลังมาด้วย เพราะมันไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย “คุณหูฝาดไปเอง ผมไม่เห็นได้ยินอะไรสักนิด” เขางับยอดบัวงามไว้ในอุ้งปากแล้วดูดดื่มอย่างหิวกระหายและควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ “คุณปลัมน์คะ แต่เสียงนั่นใช่เสียงเครื่องบินหรือเปล่าคะ ฉันได้ยินค่ะ คุณฟังสิคะ”

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

test
3.5

เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี
1

บทที่ 1 หยุดพล่าม หย่ากันเถอะ

14/08/2023

2

บทที่ 2 เงินสามหมื่นล้านของคุณ

14/08/2023

3

บทที่ 3 แบบนี้กลายเป็นเศรษฐีแล้วไหม?

14/08/2023

4

บทที่ 4 เป็นคนตีสองหน้าเก่ง

14/08/2023

5

บทที่ 5 ของขวัญชิ้นใหญ่สำหรับคุณ!

14/08/2023

6

บทที่ 6 ถือซะว่าผมจ่ายค่าชดเชยให้คุณก็แล้วกัน

14/08/2023

7

บทที่ 7 จะรักษางานให้คงอยู่ได้ไหม

14/08/2023

8

บทที่ 8 ภรรยาของเขาที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้คือใคร?

14/08/2023

9

บทที่ 9 ถูกสวมเขางั้นเหรอ?

14/08/2023

10

บทที่ 10 โดนผู้หญิงหลอกครั้งแรก

14/08/2023

11

บทที่ 11 คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเต้นรำกับฉัน

14/08/2023

12

บทที่ 12 รับเงิน และออกไปจากเมืองฟอร์เดนตลอดไป

14/08/2023

13

บทที่ 13 ตบหน้าเธอแรงกว่าสามเท่า!

14/08/2023

14

บทที่ 14 ทำไมคุณเฟิงถึงได้หึงล่ะ

14/08/2023

15

บทที่ 15 สูงส่งกว่าพวกเธอก็แล้วกัน

14/08/2023

16

บทที่ 16 หนูอยากให้มันตาย!

14/08/2023

17

บทที่ 17 ห่วงใยอดีตภรรยาที่หย่ากันไปแล้ว

14/08/2023

18

บทที่ 18 คิดจะล้อเล่นกับเขา เดี๋ยวจะได้รู้จักกับความตาย!

14/08/2023

19

บทที่ 19 อย่างน้อยนั่งสารเลวคนนี้ก็จนกว่าเธอ

14/08/2023

20

บทที่ 20 ยั่วยุมายั่วยุกลับ

14/08/2023

21

บทที่ 21 การปะทะที่ดุเดือด

14/08/2023

22

บทที่ 22 เหมือนไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน

14/08/2023

23

บทที่ 23 ปีศาจร้ายหรือแค่เด็กเปรตคนหนึ่ง

15/08/2023

24

บทที่ 24 ใครคือผู้โชคร้ายคนนั้นกันนะ

16/08/2023

25

บทที่ 25 เป็นตัวการของเรื่องแล้วมีสิทธิ์อะไรมานิ่งเฉย

17/08/2023

26

บทที่ 26 ดูแลผู้ชายไร้ศีลธรรมของคุณให้ดี

18/08/2023

27

บทที่ 27 วันนี้มาคิดบัญชีคืน

19/08/2023

28

บทที่ 28 ทรมานคนมันสนุกกว่าจับฆ่าอีกนะ

20/08/2023

29

บทที่ 29 ครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นลูกผู้ชายตัวจริง

21/08/2023

30

บทที่ 30 คุณเหมาะที่จะเป็นพี่สะใภ้เหรอ?

21/08/2023

31

บทที่ 31 ผู้หญิงคนนี้คอแข็งมาก

21/08/2023

32

บทที่ 32 เธอจะยอมให้ตัวเองเสียเปรียบได้ยังไง

21/08/2023

33

บทที่ 33 อยากรู้จริง ๆ สุดท้ายคุณจะร้องไห้สภาพไหน!

21/08/2023

34

บทที่ 34 ที่แท้เธอก็โง่นี่เอง

21/08/2023

35

บทที่ 35 เธอก็แค่ผู้หญิงไร้ยางอาย

21/08/2023

36

บทที่ 36 ทนเห็นเธอมีความสุขไม่ได้

21/08/2023

37

บทที่ 37 ผู้สืบทอดคนเดียวของมู่ซือ กรุ๊ป

21/08/2023

38

บทที่ 38 การกระทำของมู่ซือ กรุ๊ป

21/08/2023

39

บทที่ 39 หากไปช้าจะพลาดโชว์ดี ๆ ได้

21/08/2023

40

บทที่ 40 ใครใส่ของปลอมกันแน่

21/08/2023