เสน่ห์รักเซี่ยชิงเหยา

เสน่ห์รักเซี่ยชิงเหยา

KAOMM

5.0
ความคิดเห็น
2.5K
ชม
25
บท

เมื่อข้าคือพระชายาของอ๋องผู้โหดเหี้ยม และเป็นหมากอันยอดเยี่ยมในมือของไทเฮา ข้าก็แค่อยากใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นอยากให้ข้าใช้ชีวิตแบบที่คนอื่นให้เป็น

บทที่ 1 เซี่ยชิงเหยา 1 1

จวนใหญ่โตที่ถูกประดับตกแต่งด้วยสีแดงมงคลบ่งบอกได้ว่าวันนี้จะมีงานมงคลของคนที่อยู่ในจวน

หญิงสาวที่มีใบหน้างดงามตราตรึงใจดูเย้ายวนราวกับนางจิ้งจอกนั่งอยู่ในห้องไม่มีความทุกข์ร้อนใดๆทั้งสิ้น

แต่งงานก็ดีไม่แต่งงานก็ดี ถึงยังไงคนที่นางรักก็ไม่ได้ขัดขวางการแต่งงานครั้งนี้ นั่นถือว่าเป็นการยินยอมที่ไม่ถามความเห็นจากนาง

หญิงสาวสวมชุดมงคลสีแดงกำลังเม้มปากสีแดงอวบอิ่มด้วยสีหน้าสดใสผิดกับบ่าวไพร่ที่อยู่รอบข้างโดยชัดเจนที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

ถ้าถามถึงความไม่พอใจของคนรอบข้างของหญิงสาวก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อน

หญิงสาวนางนี้มาจากสกุลเซี่ย มีนามว่าชิงเหยา

ชิงเหยาหมั่นหมายกับท่านอ๋องตั้งแต่เด็กเพราะอำนาจทางการเมือง

ในวัยที่ทั้งคู่ยังไม่ทันจะเข้าใจอะไร พอเติบโตขึ้นมาก็แทบจะไม่ได้พบหน้ากัน ทั้งสองคนต่างใช้ชีวิตอย่างอิสระจนกระทั่งการหมั้นหมายถูกเอ่ยขึ้นโดยไทเฮา

“ อ๋องหลางหยา” น้ำเสียงของไทเฮาเอ่ยขึ้นด้วยความราบเรียบ ไร้ความอบอุ่นอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อพูดกับลูกชายของตัวเอง

“ ขอรับ ไทเฮา”

“ เจ้าอายุอานามก็มากแล้ว ตอนนี้หลานสาวเสนาบดีคู่หมั้นของเจ้าก็เลยช่วงเวลาที่ดีของการแต่งงานมาแล้วถึงสามปี เจ้าปฏิเสธกำหนดการมาถึงสามครั้ง ครั้งนี้เจ้าไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้อีก”

“…..” อ๋องหลางหยายังคงนิ่งเงียบ

ราวกับไม่ได้ยินน้ำเสียงของไทเฮา

อ๋องหลางหยา ผู้สำเร็จราชการแทนฮ่องเต้ตัวน้อยมีนามว่าหลัวจ้าน อ๋องหลางหยาหลัวจ้านมีนิสัยโหดร้ายไม่ฟังใคร แม้แต่ฮองเฮาก็ตาม

อ๋องหลางหยามีหญิงในดวงใจแล้ว ชื่อของนางคือฟางอี้เหยียน

เวลานี้อ๋องหลางหยารักหญิงในดวงใจมาก แต่ท่านอ๋องก็รู้ว่าไม่สามารถที่จะล้มงานแต่งครั้งนี้ได้ เพราะงานแต่งครั้งนี้คือราชโองการจากฮ่องเต้องค์ก่อน

ไทเฮาเองก็ต้องการที่จะทำให้งานแต่งครั้งนี้เป็นกระดานหมากของนางให้ได้ ซึ่งอ๋องหลางหยาก็เป็นตัวหมากอันล้ำค่าในมือนางเหมือนกัน

ถึงแม้อ๋องหลางหยามีความสามารถมากแค่ไหนแต่ก็มีสิ่งที่ขาด คือความกตัญญู

เมื่อไม่เชื่อฟังไทเฮาเองก็ได้แต่ตัดใจใช้วิธีของตัวเองทำให้อ๋องหลางหยาเชื่อฟังก็เท่านั้น ‘ แล้วลูกจะเข้าใจในความหวังดีของแม่ ลูกรัก’

“ ข้าเข้าใจว่าเจ้ามีคนรักแล้ว แต่การที่เจ้าปฏิเสธท่านเสนาบดีถึงสามครั้ง เจ้าไม่กลัวว่าการกระทำของเจ้าจะทำให้เสนาบดีโกรธแค้นหรืออย่างไร เจ้าก็รู้ดีถึงอำนาจของเสนาบดี ”

อ๋องหลางหยาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย เมื่อพูดถึงอำนาจของเสนาบดี ‘ เซี่ยไท่กั๋ว ขุนนางน่ารังเกียจ กล้านักที่จะใช้อำนาจมากดดันเขา เพื่องานแต่งงานที่เขาไม่ต้องการ’

“ เสนาบดีจะมีอำนาจมากน้อยเพียงใดข้าไม่สน แต่ไทเฮาก็อย่าลืมแคว้นหลางหยาเป็นของสกุลหลางหยาหาใช่ของสกุลเซี่ยไม่”

ขุนนางคือขุนนาง อำนาจแค่หยิบมือ แค่พลิกฝ่ามือเดียวเขาก็สามารถยึดอำนาจกลับมาคืนได้

“ หลัวจ้าน! เจ้าก็รู้ว่าการแต่งงานสำหรับหญิงสาวคนหนึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่ เจ้าไม่ยอมรับการแต่งงานก็หมายถึงการไม่ยอมรับนางด้วย เจ้ากำลังทำร้ายหญิงสาวคนหนึ่งเพื่อหญิงสาวอีกคนโดยที่ไม่รู้ตัว เจ้ารู้หรือไม่”

มือที่เขียนพู่กันหยุดชะงักลง เมื่อนำเสียงของไทเฮากดดันมากกว่าทุกครั้ง

“ ขอรับ ข้าจะแต่งงาน”

อ๋องหลางหยารับปาก เมื่อการป่วยของไทเฮาเริ่มไม่สู้ดีจากความโกรธ ความสัมพันธ์แม่ลูกทำให้อ๋องหลางหยาลำบากใจยิ่งนัก

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ KAOMM

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

สนพ. อิ่มรัก
5.0

ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

รักใหม่พันล้าน

รักใหม่พันล้าน

Hilarius Erikson
5.0

เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เสน่ห์รักเซี่ยชิงเหยา
1

บทที่ 1 เซี่ยชิงเหยา 1 1

22/09/2023

2

บทที่ 2 เซี่ยชิงเหยา 1 2

22/09/2023

3

บทที่ 3 ผิดแผนอย่างเหนือความคาดหมาย 2 1

22/09/2023

4

บทที่ 4 ผิดแผนอย่างเหนือความคาดหมาย 2 2

22/09/2023

5

บทที่ 5 คำว่ารอที่เจ้าให้ข้า ข้ารอไม่ไหวอีกแล้ว 3 1

22/09/2023

6

บทที่ 6 คำว่ารอที่เจ้าให้ข้า ข้ารอไม่ไหวอีกแล้ว 3 2

22/09/2023

7

บทที่ 7 การกระทำที่กดดันให้ถอยห่าง 4 1

22/09/2023

8

บทที่ 8 การกระทำที่กดดันให้ถอยห่าง 4 2

22/09/2023

9

บทที่ 9 การกระทำที่กดดันให้ถอยห่าง 4 3

22/09/2023

10

บทที่ 10 มดแดงแฝงพวงมะม่วง 5 1

22/09/2023

11

บทที่ 11 มดแดงแฝงพวงมะม่วง 5 2

27/09/2023

12

บทที่ 12 ความชะล่าใจ 6 1

28/09/2023

13

บทที่ 13 ความชะล่าใจ 6 2

29/09/2023

14

บทที่ 14 ความเปลี่ยนแปลงของอ๋องหลางหยาหลัวจ้าน 7 1

30/09/2023

15

บทที่ 15 ความเปลี่ยนแปลงของอ๋องหลางหยาหลัวจ้าน 7 2

01/10/2023

16

บทที่ 16 เจ้ายักษ์ตัวโต 8 1

02/10/2023

17

บทที่ 17 เจ้ายักษ์ตัวโต 8 2

03/10/2023

18

บทที่ 18 เจ้ายักษ์ตัวโต 8 3

04/10/2023

19

บทที่ 19 ตายแล้วฟื้น 9 1

05/10/2023

20

บทที่ 20 ตายแล้วฟื้น 9 2

06/10/2023

21

บทที่ 21 ตายแล้วฟื้น 9 3

07/10/2023

22

บทที่ 22 ปรับความเข้าใจ 10 1

08/10/2023

23

บทที่ 23 ปรับความเข้าใจ 10 2

09/10/2023

24

บทที่ 24 ปรับความเข้าใจ 10 3

10/10/2023

25

บทที่ 25 ปรับความเข้าใจ 10 4

11/10/2023