Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เรือนนารีสกุล

เรือนนารีสกุล

วรดร

5.0
ความคิดเห็น
14.4K
ชม
52
บท

ณ.ดินแดนเสี่วยเป้ย ท่ามกลางขุนเขาล้อมรอบด้วยป่าสน สายลมรุนแรงพัดผ่านทุกช่วงเวลา เกล็ดหิมะสีขาวปกคลุมดินแดนแห่งนี้ขาวโพลนทุกหย่อมหญ้า จนพื้นดินมีแต่ความหนาวเย็น ‘เรือนนารี’ เป็นสถานที่ที่ผู้คนด้านนอกอยากเข้ามาชมความงาม แต่เรือนนารีปิดตัวตายมานับสิบปี นับตั้งแต่เจ้าของเรือนตายแบบปริศนา ผ่านมาสิบปี ...ต้นวสันต์ฤดู ใบไม้เริ่มผลิบานหลังหิมะที่ปกคลุมมาหลายเดือนเริ่มละลาย ด้านนอกไม่มีใครสักคนรู้ ภายในเรือนที่ปิดตายหลังนี้ ยังหลงเหลือสายเลือดของสกุลเจียว เจียวเจี๋ย (เจี๋ยเอ๋อ) พี่สาวคนโต อายุยี่สิบห้าปี ตอนนี้นางคือผู้สืบทอดที่คอยดูแลสมาชิกสกุลเจียวที่ยังมีชีวิตรอด สตรีงามสะคราญโฉมเหล่านี้ ต้องซ่อนตัวจากสายตาผู้คน เพื่อให้ปริศนาการตายของเจ้าของเรือนนารี ลบเลือนไปตามกาลเวลา แต่ทว่า...ความแค้นที่สะสมอยู่ในใจบุตรหลานสกุลเจียวไม่มีทางลบเลือน เจียวลู่ (ลู่เอ๋อ) น้องคนสุดท้องที่เพิ่งมีอายุล่วงเข้าปีที่สิบห้า ตามธรรมดาแล้ว บุตรสาวสกุลเจียวจะถูกส่งเข้าวัง หลังมีอายุครบสิบห้าปี แต่เมื่อสิบปีก่อน ก่อนที่เจียวเจี๋ยจะถูกส่งเข้าวัง มีมือสังหารชายชุดดำบุกมาเข่นฆ่าคนสกุลเจียวจนหมดสิ้น เหมือนฟ้าไม่อยากให้ลมหายใจที่ถูกพรากอย่างไม่เป็นธรรมจบสิ้นลงแค่วันนั้น สองพี่น้องที่สมควรตาย เลยยังมีชีวิตรอด อยู่จนถึงวันนี้

บทที่ 1 1

1.

“ลู่เอ๋อ ตื่นได้แล้ว”

เสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนที่ได้ยินทุกวันดังอยู่ข้างหู จากนั้นประตูไม้กรุกระดาษสีซีดก็ถูกผลัก แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านเงาร่างอรชรที่ยืนเท้าเอวอยู่ด้านหน้าประตูห้องนอนนั่นเอง

เจียวลู่บิดขี้เกียจแล้วค่อยๆ ปรือเปลือกตามอง

เจียวเจี๋ยถอนใจ เดินผ่านประตูเข้ามา “ได้เวลาฝึกชงชาแล้วนะ เจ้าจะเกียจคร้านถึงเมื่อไหร่กัน” นับตั้งแต่เหลือกันแค่สองพี่น้อง จากผู้หญิงอ่อนแอก็ต้องปรับตัวให้เข้มแข็ง เพราะหลังจากเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นที่เรือนหลังนี้ หญิงอ่อนแอก็ต้องรีบลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง

“เจียเจี่ย ขอข้านอนต่ออีกสักสองก้านธูปได้หรือไม่” วงหน้าขาวดังไข่ปอก ดวงตาเรียวรีเหมือนหยดน้ำค้าง ริมฝีปากสีระเรื่อยิ่งกว่าสีดอกกุหลาบแรกแย้ม

เจียวเจี๋ยส่ายหน้า “เห็นจะมิได้”

เสียงเย็นชาเช่นนั้นของพี่สาว เจียวลู่ถึงรู้ว่ามารยาครั้งนี้ของนางไม่เป็นผล นางทรงตัวนั่ง กำลังจะอ้าปากต่อรอง เจียวเจี๋ยก็พูดสำทับมาอีกครั้ง

“จำได้หรือไม่ ว่าเจ้ามีภาระที่ต้องทำหลังจากนี้อีกสามวัน”

เจียวลู่เบี่ยงปลายเท้าลงจากเตียง ฉวยอ่างน้ำอุ่นที่ใครสักคนนำมาวางไว้ให้ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นล้างคราบขี้ตา เจียวเจี๋ยเดินเลยไปรินน้ำชาจากกาใส่จอกดินเผา และเดินมายื่นส่งให้น้องสาวที่ยังพยายามโอ้เอ้รั้งเวลาอยู่

เจียวลู่ที่กระหายน้ำอยู่พอดีจึงรับจอกน้ำชาจากพี่สาว พลางมองเจียวเจี๋ยด้วยแววตาซาบซึ้ง

“ถ้าข้าไม่มีเจียเจี่ย วันนั้นข้าคงตายไปแล้ว”

“ลู่เอ๋อ!!” เจียวเจี๋ยตวาดเสียงแหลม

เจียวลู่สีหน้าสลดลง ความทรงจำที่ยังติดตรึงอยู่ในใจ กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งอยู่เหนือศีรษะ นางมองลอดรอยแตกของฝาไม้ปากบ่อน้ำแห้ง บุรุษและสตรีที่เคยอาศัยอยู่ในเรือนแห่งนี้นอนเกยก่ายสูงท่วมศีรษะ ลำคอบางคนขาดห้อยร่องแร่งเพราะคมกระบี่ เศษเนื้อ ลิ่มเลือดแผ่กระจายเป็นวงกว้าง กลิ่นควันไฟ เสียงแตกปะทุของไม้ดังสนั่นเต็มสองหู เจียวเจี๋ยกอดน้องสาวแน่น ทั้งที่ตนเองก็หวาดกลัวจนตัวสั่น

สองพี่น้องที่หลบอยู่ก้นบ่อน้ำแห้ง เลยรอดตายหวุดหวิด

ดวงตางดงามหลุบลง ริมฝีปากหุบสนิท

เจียวเจี๋ยทิ้งตัวนั่งบนขอบเตียง พลางมองหน้าน้องสาวแล้วก็ถอนใจแรงๆ

“จำไว้ให้ขึ้นใจนะลู่เอ๋อ จากนี้อีกสามวัน เจ้ามีภารกิจต้องทำ”

คนสองร้อยกว่าชีวิตถูกสังหารหมู่ จวบจนทุกวันนี้มือสังหารยังไม่ได้รับโทษทัณฑ์ คนเป็นที่ยังมีชีวิตรอดจะนอนหลับสนิทได้อย่างไร แม้จะเป็นแค่หญิง แต่การแก้แค้นให้คนสกุลเจียว ก็ถือเป็นหน้าที่

ความแค้นเลือดครั้งนี้ คนบงการต้องชดใช้

“เจี่ย ข้าสัญญา” กลีบปากสีระเรื่อย้ำคำสัญญา

“กินข้าวก่อนดีหรือไม่ ข้าทำเกี๊ยวน้ำของโปรดเจ้าไว้ให้” ถึงจะเข้มงวดกับน้องสาวทุกชั่วยาม แต่เจียวเจี๋ยก็ยังไม่วายลดความเข้มงวดในบางครั้ง

“พี่ใหญ่ หากวันนี้ข้าอยากทำอย่างอื่นก่อนการฝึกชงชา พี่สาวคิดว่าข้าจะทำได้ไหมเจ้าคะ”

แววตาเจ็บปวดรวดร้าวของเจียวเจี๋ยผุดขึ้นมา เจียวลู่สัมผัสได้ถึงความโศกสลดในใจพี่สาว พลันนั้นแผ่นหลังบอบบางก็รู้สึกถึงความเย็นเยียบที่แผ่ไปทั่วห้องนอน

“เจ้าลืมคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่แล้วเหรอลู่เอ๋อ”

เป็นคำถามสั้นๆ แต่กระแทกเข้ามากลางใจ เจียวลู่สูดลมหายใจลึกๆ สลัดความกระหายตามประสาสาวแรกแย้มทิ้ง

“พี่ใหญ่ ลู่เอ๋อขอโทษ หลังกินมื้อเช้าอิ่ม ข้าจะไปฝึกชงชา ต่อด้วยการท่องบทกวี” คุณสมบัติของสตรีในวัง ต้องมีความรู้ อ่านออกเขียนได้ กิริยานุ่มลื่นประณีตตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สตรีสกุลเจียวเป็นต้นแบบของความงดงามทั้งสิบประการนั่น

นับร้อยปี ที่สกุลเจียวฝึกสาวแรกแย้ม และส่งเข้าวังหลัง เพื่อรับใช้บรรดาสนมและกุ้ยเฟย รวมทั้งฮองเอาหรือตัวไทเฮาเอง

ดังนั้นไม่แปลกเลย ที่บิดา มารดายากจนจะส่งลูกสาวของตัวเองมาฝึกมารยาทที่สกุลเจียว ปะเหมาะเคราะห์ดี จับพลัดจับผลูได้ถวายตัวรับใช้ฮ่องเต้ขึ้นมา สุกลนั้นๆ ก็จะพลอยสบาย ได้มีโอกาสเสวยอำนาจผ่านตำแหน่งของบุตรสาว

ตัวบุตรหลานสกุลเจียวเองก็มีวาสนาดี ได้ครองตำแหน่งกุ้ยเฟยก็หลายคน บางคนบารมีสูงส่ง ไปไกลถึงตำแหน่งหวงกุ้ยเฟยก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

“ลำบากเจ้าแล้ว” เจียวเจี๋ยวางมือบนแผ่นหลังน้องสาว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ วรดร

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียรักสวมรอยแค้น

เมียรักสวมรอยแค้น

ผจญภัย

5.0

ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...

จแมารลงทะเบียนรัก

จแมารลงทะเบียนรัก

โรแมนติก

5.0

คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน

ความลับความรัก

ความลับความรัก

โรแมนติก

5.0

เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?

ทัณฑ์รักรอยน้ำตา

ทัณฑ์รักรอยน้ำตา

โรแมนติก

5.0

เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

Amye Hochschild
5.0

ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

พิษรักร้าย Toxic Love

พิษรักร้าย Toxic Love

Kim Nayeol
5.0

"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ