ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@

5.0
ความคิดเห็น
71.3K
ชม
72
บท

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บทที่ 1 เป็นเพียงเด็กทารก

ซูเจินตื่นขึ้นอีกครั้ง เพราะเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดของผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อเธอลืมตาขึ้น จึงคิดจะเอ่ยปลอบคนที่ร้องไห้อยู่ คงไม่มีใครนอกจากเสี่ยวชิง

เพราะตัวเธอสูญเสียคุณพ่อคุณแม่ไปตั้งแต่ยังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษา แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หัวคิ้วของซูเจินก็ขมวดเข้าหากันแน่น

ไม่ ไม่ถูกต้อง ทำไมเธอจึงรู้สึกเหมือนถูกกอดรัดไว้อย่างแน่น ความรู้สึกที่เริ่มจะหายใจไม่ออกทำให้ ซูเจินร้องประท้วงออกมา

“อุแว้” ซูเจินเงียบเสียงลง พร้อมทั้งเสียงของสตรีที่ร้องคร่ำครวญเมื่อครู่ก็หยุดลงเช่นกัน ซูเจินร้องใหม่อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อครู่ไม่ใช่เสียงของเธอ

“อุแว้” ดวงตาของซูเจินเบิกกว้าง เธอรู้แล้วว่าเสียงร้องของเด็กน้อยเมื่อครู่เป็นเสียงร้องของเธอเอง

มันเหมือนจะยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีก เมื่อสตรีตรงหน้าเปลี่ยนท่าทางที่กอดเธออยู่ เป็นอุ้มออกดูเพื่อจะดูว่าให้แน่ใจเช่นกัน

สิ่งที่ซูเจินเห็นทำให้นางกรีดร้องออกมาเสียงดัง แข่งกับสตรีที่อุ้มเธออยู่

ในความรู้สึกของเธอ เหมือนเธอกำลังโวยวายอย่างบ้าคลั่ง แต่เสียงที่เปล่งออกมาเป็นเพียงเสียงของเด็กน้อยที่ร้องลั่นปานจะขาดใจ

“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วลูก” เสียงของสตรีตรงหน้าตบห่อผ้าในอ้อมกอด พร้อมทั้งร้องบอกไม่ขาดปาก

แม้ไม่เห็นภาพตรงหน้าแต่ก็พอจะรู้ว่ามีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่ยื่นล้อมรอบตัวสองแม่ลูกอยู่ เพราะฟังจากเสียงที่พูดคุยกระซิบกระซาบไม่ขาดสาย

“ต้าหลาง เจ้าก็เห็นด้วยกับภรรยาของเจ้ารึ!!!” เสียงของชายวัยกลางคนตวาดออกมาเสียงดัง

“ท่านผู้นำหมู่บ้าน ข้า ข้า” บุรุษที่ชื่อต้าหลางพูดไม่ออก ได้แต่พูดตะกุกตะกักฟังไม่รู้เรื่อง

“ข้าเองท่านพี่ ข้าแต่งนางให้อาเต๋อ ไม่คิดว่าเมื่อสามีไปรบนางจะขี้เกียจไม่ทำงานในเรือน ในไร่ แล้วผู้ใดจะเลี้ยงนางได้เล่า”

“เหอะ เจ้าลืมที่รับปากอาเต๋อไว้อย่างนั้นหรือ”

“รับปากอันใด ข้ามิได้รับปาก อย่างไรในเรือนก็ต้องมีบุรุษไปร่วมรบ เป็นอาเต๋อก็ถูกต้องแล้ว หรือท่านต้องการให้ต้าหลางไปแทนบุตรชายของเขาเล่า”

ซูเจินอยากจะยกมือขึ้นปิดหู เพราะรำคาญเสียงแหลมของสตรีที่พูดขึ้นไม่น้อย แต่ก็ไม่อาจจะทำได้ เพราะมือที่เล็กแล้วยังถูกห่อไว้แน่นอีกด้วย

“ไร้เหตุผลสิ้นดี ตอนที่อาเต๋อลงชื่อ สินเดิมของมารดาเขายังมีอยู่มาก พวกเจ้าก็หน้าหนา ไม่ยอมนำมาให้เขาใช้จ่ายให้ทางการ เพื่อจะได้ไม่ต้องเข้าร่วมกองทัพ มาตอนนี้เจ้าจะบอกรึว่าได้พูด” ผู้นำหมู่บ้านยกนิ้วชี้ไปที่ต้าหลาง ที่หลบอยู่ด้านหลังของนางไห่ซื่อ

“หากพวกเจ้าจะไล่อาเม่ยออกจากเรือนก็ย่อมได้ แต่สินเดิมของมารดาอาเต๋อต้องให้นางติดตัวไปด้วย”

“ไม่ได้ ข้าไม่ยอม เงินที่เป็นสินเดิมของนางมีมากสักเพียงใด ใช้เลี้ยงดูอาเต๋อมาจนเติบใหญ่ ทั้งยังแต่งภรรยาให้เขาก็หมดลงแล้ว” นางไห่ซื่อกรีดร้องออกมาอย่างไม่ยอม

“หึ จริงอย่างที่นางพูดหรือไม่ต้าหลาง” ผู้นำหมู่บ้านเอ่ยถามเสียงเข้ม

“จะ จริงขอรับ” ต้าหลางเอ่ยออกมาด้วยเสียงอันเบา เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองสบตาของชาวบ้านที่มองมาทางเขา

“ดีดี อาเม่ย เจ้าจะเอาอย่างไร”

“ข้า ข้า ขอเพียงสินเดิมที่ท่านแม่ยึดไว้คืนก็พอเจ้าค่ะ” นางเอ่ยออกอย่างหวาดกลัว

เพราะสูญเสียบิดามารดาไปตั้งแต่เยาว์วัย อาศัยอยู่กับท่านปู่ท่านย่า แต่ก่อนที่นางจะออกเรือนได้สามปี ทั้งคู่ก็มาสิ้นใจทิ้งนางไว้เพียงลำพัง

แต่ยังดีที่ทั้งสองทิ้งเงิน และที่นาไว้ให้นางใช้จ่ายและทำกินอย่างไม่ขัดสน ตอนที่นางแต่งเข้าเรือนตระกูลชุยมีสินเดิมติดตัวมาถึงหนึ่งร้อยตำลึงเงิน ทั้งยังที่นาอีกสิบหมู่ โฉนดเรือน ทั้งหมดล้วนถูกนางไห่ซื่อยึดไปทั้งสิ้น

ที่นาของนางที่ใช้ปลูกข้าว เงินที่ได้จากการขายผลผลิตล้วนแต่ถูกเก็บเข้ากองกลางจนหมด ทั้งที่ข้าวก็ปลูกได้มาก แต่นางกับชุยเต๋อกลับได้กินเพียงวันละสองมื้อ หากไม่ทำงานก็จะได้กินเพียงมื้อเดียว

แต่คนทั้งเรือนได้กินเต็มที่สามมื้อ นางทนทุกข์ในตระกูลชุยถึงสองปี หากไม่เป็นเพราะสามีของนางคอยปลอบใจและทำงานหนักแทนนาง นางคิดว่านางคงได้ตายตั้งแต่ในปีแรกที่แต่งเข้ามาแล้ว

ยามที่นางตั้งครรภ์ยังต้องทำทั้งงานในไร่และในเรือน สองวันมานี้ เพราะบุตรสาวที่เพิ่งคลอดได้เพียงแค่ห้าเดือนล้มป่วย นางจึงไม่ได้ไปที่นา อยู่ดูแลบุตรสาว นางไปขอเงินแม่สามีเพื่อพาบุตรสาวไปหาหมอ นางไม่ยอมให้

ที่เกิดเรื่องมาถึงขั้นตัดขาดในวันนี้ เพราะจิ่วเม่ยโวยวาย เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของนางหายใจรวยริน แต่พ่อสามีก็เพียงปรายตามอง ทั้งแม่สามียังด่าทอนางไม่ยอมให้เงินพาบุตรสาวไปหาหมอ

“ข้าไม่ได้เอาไป จะมีคืนได้อย่างไร” ไห่ซื่อเชิดหน้าขึ้น

“เหอะได้ เช่นนั้น ข้าจะไปแจ้งทางการให้จัดการเรื่องนี้”

เมื่อเห็นว่าผู้นำหมู่บ้านเอาจริงและเริ่มจะเดินกลับไปที่เรือน ต้าหลางก็ดึงแขนเสื้อของไห่ซื่อ และส่งสายตาให้นางยอมคืนไป

“ช้าก่อน ข้าจะลองไปหาดูว่ามีหรือไม่” นางไห่ซื่อรีบร้อนกลับเข้าไปในเรือนของนาง ก่อนไปยังส่งสายตาอาฆาตมามองจิ่วเม่ยอีกด้วย

แต่มีหรือที่นางจะยอมคืนทั้งหมดที่ยึดมาได้ นางไห่ซื่อนำเงินเพียงสามสิบตำลึงเงินและโฉนดเรือน โฉนดที่ดินมาโยนให้จิ่วเม่ยเท่านั้น

ป้าหวงภรรยาผู้นำหมู่บ้านเดินเข้ามาตรวจดูสินเดิมของจิ่วเม่ยก็ร้องโวยวายออกมา

“รังแกเกินไปแล้ว เจ้าคืนมาเพียงแค่สามสิบตำลึงได้อย่างไร”

“ได้ เช่นนั้นก็นำเรื่องไปแจ้งทางการเสีย” เสียงชาวบ้านเริ่มด่าทอสองสามีภรรยาออกมา

ต้าหลางที่ทนอับอายไม่ไหว วิ่งเข้าไปในเรือนแล้วนำเงินออกมาให้จิ่วเม่ยจนครบ

“หมดเงินแล้วอย่าได้มาร้องขอความช่วยเหลือจากข้าอีก” ไห่ซื่อกรีดร้องออกมา

ที่ต้าหลางกับไห่ซื่อยอมตัดขาดกับสองแม่ลูกง่ายเพียงนี้ เพราะข่าวของชุยเต๋อขาดหายไปได้เกือบสองเดือนแล้ว ทั้งสองจึงคิดว่าชุยเต๋อตายตกในสนามรบไปเรียบร้อยแล้ว

จึงไม่คิดอยากจะเก็บสองแม่ลูกไว้ในเรือนให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำ ระหว่างที่กำลังคิดหาวิธีเพื่อขับไล่ ทั้งยังยึดสินเดิมไว้ด้วย จิ่วเม่ยที่สงบปากสงบคำก็โวยวายเรื่องบุตรสาวของนางออกมาเสียก่อน

ชาวบ้านที่ได้ยินเรื่องที่นางสาธยายความเลวร้ายตลอดสองปีที่ได้รับออกมาก็รีบไปเรียกผู้นำหมู่บ้าน ด้วยเห็นนางไห่ซื่อคว้าไม้ทุบตีจิ่วเม่ยอยู่ด้วย

ผู้นำหมู่บ้านรีบเขียนหนังสือตัดขาดทันที พร้อมทั้งเขียนของชุยเต๋อออกมาด้วยอีกฉบับ เขาจึงเชื่อว่าคนดีเช่นชุยเต๋อจะไม่ตายตกไปอย่างง่ายดายแน่นอน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ l3oonm@

ข้อมูลเพิ่มเติม
จองจำรักร้าย

จองจำรักร้าย

ผจญภัย

5.0

จินเยว่ ตำรวจสาว เธอได้รับภารกิจให้เข้าจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่สายข่าวได้แจ้งเข้ามาวันนี้จะมีการเจรจาซื้อขายครั้งใหญ่เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาให้จินเยว่ที่ตอนนี้เป็นถึงหัวหน้าสายสืบ พาลูกน้องไปสำรวจพื้นที่ก่อน อย่าเพิ่งเข้าปะทะเพราะเขาจะส่งกองกำลังเข้าไปช่วยเหลือ แต่ลูกน้องของจินเยว่เห็นโอกาสที่จะเข้าจับกุมได้แล้ว เลยไม่รอกองกำลังพิเศษที่กำลังเดินทางมาช่วยเหลือ ตอนแรกคิดว่าพ่อค้ายาเสพติดจะพาคนมาฝ่ายละไม่เกินยี่สิบคน แต่กลายเป็นว่าเธอโดนซ้อนแผนเสียแล้ว จะถอยก็ไม่ทัน จินเยว่เข้าช่วยลูกน้องจนเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างความเป็นกับความตาย สติของเธอเริ่มพร่ามัว เสียงเรียกที่ได้ยินแยกไม่ออกว่าเป็นใครเรียก แต่เธอจำได้ว่ากองกำลังพิเศษมาช่วยไม่ทัน ตอนที่เธอถูกยิงไม่ใช่ว่าจะโดนแค่นัดเดียวทางรอดย่อมไม่มี แต่ตอนนี้ใครกันที่เรียกเธอ หากเป็นหมอก็รักษาเลย ฉันขอนอนต่อก่อน แต่หากเป็นยมทูตรอสักครู่ฉันไม่ได้นอนเต็มตาเช่นนี้มาหลายคืนแล้ว "จินเยว่ ลูกรัก ตื่นเถิดลูก" "จินเยว่ อย่าเงียบเช่นนี้ เจ้าอย่าทำให้แม่กลัว"

ข้าไม่เป็นแล้ว ภรรยาผู้แสนดี

ข้าไม่เป็นแล้ว ภรรยาผู้แสนดี

โรแมนติก

5.0

หลิวเยว่ชิง สาวงามของเมืองหลวง บุตรสาวของท่านหมอหลวงหลิว ความงามของนางเป็นที่ประจักษ์ ทั้งเรื่องความสามารถเรื่องการรักษานางก็เก่งไม่แพ้ผู้เป็นบิดา แต่เพราะด้วยที่นางเป็นสตรี นางจึงมิอาจเดินตามรอยเท้าของบิดาได้ ทำได้เพียงรักษาให้กับสตรีที่ต้องการความช่วยเหลือจากนาง นางยังคิดจะเปิดโรงหมอ เพื่อรักษาให้กับสตรีโดยเฉพาะ แต่เพราะคู่หมั้นของนาง กงหลี่เฉียงมิเห็นด้วย นางจึงได้เลิกล้มไปเสีย นางแต่งให้กงหลี่เฉียงท่ามกลางความเสียดายของบุรุษมากมายในเมืองหลวง งานมงคลของนางเป็นที่พูดถึงนานหลายเดือน เพราะสินเดิมที่บิดาจัดเตรียมให้ เรียกได้มามากมายจนไม่ต้องทำสิ่งใดอีกแล้ว นางใช้ชีวิตเป็นฮูหยินของกงหลี่เฉียง ดูแลจวน ทั้งยังดูแลแม่สามีที่เจ็บป่วยอยู่เสมอ จนมีแต่คนเอ่ยชมกงหลี่เฉียงที่ได้ภรรยาเช่นนางไปครอบครอง ในวันแต่งงาน เรื่องที่ไม่อาจไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องคำสาบานของกงหลี่เฉียง “ข้ากงหลี่เฉียง ขอสาบานต่อฟ้าดิน ว่าชีวิตนี้จะมีเพียง หลิวเยว่ชิงเป็นภรรยาเพียงผู้เดียว” เรื่องนี้ยังสร้างความอิจฉาให้กับเหล่าสตรีในเมืองหลวงอยู่นานหลายเดือน หากบุรุษบ้านใดที่รับอนุเพิ่ม จะถูกเปรียบเทียบกับกงหลี่เฉียงในยามนั้นทันที แต่แล้วความสุขของนางก็อยู่ได้ไม่นาน หลังแต่งงานได้เพียงสองปี กงหลี่เฉียงที่เพิ่งจะได้รับตำแหน่ง รององครักษ์เสื้อแพรมาหมาดๆ ก็พาญาติผู้น้องของเขา ตู้ซิงเยียน เข้าจวนในตำแหน่งฮูหยินรอง เรื่องนี้สร้างข่าวลือไปทั่วเมืองหลวง เพราะไม่คิดว่า กงหลี่เฉียงที่กล้าเอ่ยคำสาบานในวันงานแต่งเช่นนั้น จะกล้ารับสตรีเข้าจวนได้อีก “ท่านทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร” หลิวเยว่ชิงดวงตาแดงก่ำ มองกงหลี่เฉียงประคองตู้ซิงเยียนอยู่หน้าเรือนของนาง น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่งามของนาง บ่าวไพร่ที่รู้จักฮูหยินน้อยว่านางแสนดีเพียงใด ก็อดจะเห็นใจนางไม่ได้ “บุรุษใดเล่าในเมืองหลวงที่ไม่มีสามภรรยา สี่อนุ” กงหลี่เฉียงเอ่ยออกมาอย่างหน้าด้านๆ โดยที่ตัวเขาก็หลงลืมเรื่องคำสาบานในวันแต่งงานไปแล้ว “หึ เช่นนั้นรึ ท่านคงหลงลืมไปแล้วกระมังเรื่องคำสาบาน” “แล้วอย่างไรเล่า ชิงชิง เจ้าแต่งเข้าจวนข้ามาสองปี ท้องเจ้ายังมิได้เรื่อง หากข้ารับเยียนเออร์เข้าจวนจะผิดอันใดเล่า” “อ้อ เพราะเรื่องนี้อย่างนั้นรึ” นางยิ้มเยาะตนเอง เป็นนางที่คิดแทนผู้เป็นสามี ไหนจะเรื่องภายในจวน ที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดล้วนต้องควักมาจากสินเดิมของนาง ไหนจะเรื่องของอาการป่วยของแม่สามีที่แทบจะเรียกหานางทุกหนึ่งชั่วยาม นางและเขาจึงคิดตรงกันเรื่องที่ยังไม่อยากมีบุตร ทุกครั้งที่ร่วมรักกันนางจึงกินยาห้ามครรภ์มาตลอด แต่การที่หวังดีต่อเขาเช่นนี้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าหักหาญน้ำใจของนาง “หากท่านดึงดันจะรับนางเข้าจวน เช่นนั้นก็หย่าขาดจากข้าเสีย” “เพ้ย ไม่หย่า เจ้าอย่าได้ใจแคบนักเลย เยียนเออร์ย่อมเชื่อฟังเจ้าอย่างดี ไม่ดีหรือที่จะมีคนมาช่วยดูแลเรือนเพิ่มอีกคน” “วาจาของท่านช่างน่าขันนัก หากข้าไม่รับน้ำชาของนาง นางรึจะเข้ามาอยู่ในจวนได้” “หึ ต่อให้เจ้าไม่รับน้ำชาของนาง นางก็เข้ามาอยู่ในจวนได้ เพราะเยียนเออร์นางตั้งครรภ์แล้ว” คำพูดของกงหลี่เฉียง เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางศีรษะของเยว่ชิง นางเกือบจะล้มไปกองกับพื้น ยังดีที่สาวใช้ของนางเข้ามาประคองนางไว้เสียก่อน เขาให้นางกินยาห้ามครรภ์มาโดยตลอด แต่กลับพาญาติผู้น้องที่ตั้งครรภ์กลับเข้ามาในจวน นางจะทนฟังเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร “อาอิง เจ้าไปเก็บของข้าจะกลับจวนตระกูลหลิว” นางเอ่ยสั่งสาวใช้ที่ติดตามนางมาจากบ้านเดิม “หยุด!!! หากเจ้าจะไปก็กลายเป็นศพออกไปเสีย แต่งเข้าตระกูลกงแล้ว ถึงตายก็ต้องเป็นผีตระกูลกง” กงหลี่เฉียงตวาดออกมาเสียงดัง แต่ที่น่าขันที่สุดเห็นจะเป็นแม่สามีของนาง กลับลุกออกมาจากเรือนของนางได้ ทั้งๆ ที่ในแต่ละวันล้วนแต่นอนป่วยอยู่บนเตียง “ใช่แล้ว อาเฉียงพูดถูก หากเจ้าจะออกไปก็ต้องกลายเป็นวิญญาณเท่านั้น” นางเดินเข้าไปจับมือของซิงเยียนราวกับปลอบใจนางที่ได้รับความไม่ยุติธรรม "หึหึ ท่านแม่ ท่านหายป่วยแล้วรึเจ้าคะ” นางจ้องมองพวกเขาอย่างโกรธแค้น ไม่ว่ายาดีอันใดที่นางเพียรหามารักษา สมุนไพรราคาแพงนางก็ยอมจ่ายเงินซื้อ ก็ไม่อาจทำให้แม่สามีของนางลุกขึ้นมาจากเตียงได้ เห็นทีคงเป็นเพียงละครงิ้วบทหนึ่งเท่านั้น “ข้าเป็นอันใดอย่างงั้นรึ” นางมองเยว่ชิงด้วยใบหน้าที่ใสซื่อ ราวกับว่ากำลังถูกเยว่ชิงใส่ร้าย “ข้าเข้าใจแล้ว เป็นข้าที่โง่เขลามาตลอด ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในจวนที่มาจากสินเดิมของข้า และเรื่องรักษาท่าน เพื่อให้หลี่เฉียงมีเวลาไปอยู่กับแม่นางตู้ หึหึ ตัวข้าช่างน่าขันนัก” ใบหน้าของสองแม่ลูกเบ้อย่างไม่น่ามอง เมื่อถูกเยว่ชิงเปิดโปงเรื่องที่พวกเขานำสินเดิมของนางมาใช้จ่าย นางหัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ ก่อนจะกระซิบสั่งสาวใช้ที่อยู่ข้างกาย “ฮูหยิน” นางเอ่ยเรียกเสียงสั่น “ไปเอามา” นางเอ่ยเสียงเบา พร้อมกับผลักสาวใช้เบาๆ อาอิงรู้ดีว่าคุณหนูของนางใจกล้าเพียงใด แต่ไม่คิดว่านางจะเลือกหนทางนี้ แต่ก็ยังไปทำตามคำสั่งอยู่ดี ทั้งสามไม่รู้ว่า สองนายบ่าวกระซิบกระซาบอันใดกัน ได้แต่มองอาอิงหมุนตัวกลับเข้าไปในเรือนอย่างสงสัย เมื่อนางกลับมาพร้อมมีดสั้นในมือ ทั้งสามก็มีใบหน้าที่ซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด “เจ้าจะทำอันใด” กงหลี่เฉียงดันตัวตู้ซิงเยียนไปไว้ด้านหลัง ยิ่งทำให้เยว่ชิงปวดใจมากกว่าเดิม บุรุษที่นางเลือกเองกับมือ กล้าทำร้ายจิตใจของนางมากถึงเพียงนี้ แต่เรื่องนี้จะโทษใครได้ หากเขาไม่เอาใจใส่นางตลอดหลายปีก่อนที่จะแต่งงาน นางจะเลือกเขาได้อย่างไร ทั้งหน้ากากบุรุษแสนดีที่เขาสวมไว้ ทำให้นางเชื่อหมดใจว่าเขารักนางมากจริงๆ เยว่ชิงเดินเข้าไปหาทั้งสามคนช้าๆ พร้อมทั้งกำมีดในมือแน่น “กง หลี่ เฉียง ท่านฟังคำข้าให้ดี” นางยิ้มเย็นออกมาอย่างน่ากลัว “เจ้า เจ้า อย่าได้คิดบ้าๆ เด็ดขาด” “ข้า หลิวเยว่ชิง ชาตินี้คิดผิดที่เลือกบุรุษเช่นท่านเป็นสามี หากมีชาติหน้าจริง ขออย่าได้พบเจอท่านอีก หากพบเจอก็ให้นึกรังเกียจราวกับพบเดรัจฉาน ข้าขอให้ท่านมิได้สิ่งใดหรือสมหวังเรื่องใดอีกเลย” เยว่ชิงใช้มีดสั้นในมือของนางปักเข้าที่หัวใจของนางทันที

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณหมอครับให้ผมเป็นพ่อของลูกเถอะ

คุณหมอครับให้ผมเป็นพ่อของลูกเถอะ

ระพีวีญา
5.0

'คุณหมอเกี่ยวก้อย' บุกไปตามน้องชายที่ทำตัวเกเรเป็นลูกน้อง 'พุฒิธร' นักเลงหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ แต่ตามไปตามมาดันพลาดท้องซะงั้น! ตัวอย่าง ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากร้านกาแฟ ประตูร้านถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยไม่ทันระวัง หมอเกี่ยวก้อยชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง "ขอโทษค่ะ!" เธอรีบกล่าวคำขอโทษทันทีทำให้เอกสารที่อยู่ในมือปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้น "ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเก็บ" เสียงของชายคนนั้นฟังดูสุภาพและใจดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้ เขาก้มลงช่วยเก็บเอกสาร เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากัน หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น พุฒิธร! เขาคือพ่อของลูก! คนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง ดูภูมิฐานราวกับคนละคนกับในอดีต เขาเคยเป็นนักเลงทวงหนี้แห่งบ้านดอนนาหอมแน่เหรอ "คุณ...มาที่นี่ได้ยังไง?" หมอเกี่ยวก้อยถามเสียงสั่น

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

สามีเถื่อนที่รัก

สามีเถื่อนที่รัก

B.J.BEN
5.0

โปรย เข้าห้องผิดชีวิตเปลี่ยน!!! +++ “เธอเป็นใคร” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม สีหน้าที่รกไปด้วยหนวดเคราและร่างสูงใหญ่ที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งทำให้นิรินมีท่าทีหวาดกลัว ร่างบอบบางพยายามดิ้นแต่เขาข่มขู่เสียงเข้มทำให้เธอไม่กล้าดิ้น “ถ้าเธอดิ้นอีกฉันจะปาดคอเธอซะ” เขานึกครึ้มอกครึ้มใจอยากแกล้งคนขี้กลัว เธอหยุดกึกในขณะที่มือบอบบางถูกกดเอาไว้เหนือศีรษะ “ตอบคำถามมาเสียดีๆ ห้ามโวยวายกรีดร้องไม่งั้นได้เป็นศพก่อนจะมีคนมาช่วยแน่ๆ” พอเขาพูดแบบนั้นเธอก็รีบพยักหน้าทันที ร่างของเขายังคร่อมทับร่างของเธออยู่ หญิงสาวกลัวจนตัวสั่น พอเขาปล่อยเธอก็ทำท่าจะร้อง “อื้อ...” เขาก้มลงบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่ม เธอรัวกำปั้นทุบแผ่นหลังเขาระรัว พอเขาปล่อย เธอทำท่าจะกรีดร้องเขาก็บดจูบลงมาอีกครั้ง นิรินหอบหายใจระรัวเมื่อเขาปลดปล่อยริมฝีปากเธออีกหน “เธอเป็นใคร” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม “ไอ้โจรห้าร้อย” “ใครบอกว่าฉันเป็นโจรห้าร้อย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่ยี่สิบ ฉันเป็นโจรยี่สิบบาทต่างหากล่ะ” เธอกะพริบตาปริบๆ กับประโยคของเขา “เธอเป็นใคร” นรราชถามซ้ำ หรี่ตามองคนใต้ร่าง เขาเห็นใบหน้าของเธอไม่ชัดจึงเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง แสงสลัวจากโคมไฟทำให้มองเห็นใบหน้าของสาวน้อยชัดเจน ใบหน้าหวานหยดคุ้นเคยนั้นทำให้นรราชชะงักงัน “ทำไมไม่ตอบคำถามล่ะ” เสียงของเขาเหมือนสำลักเมื่อได้เห็นใบหน้ากลมหวาน ดวงตากลมโต คิ้วโก่งเรียวงาม ริมฝีปากเต็มอิ่ม เขาอยากหอมแก้มสาวแรงๆ ด้วยความมันเขี้ยว “ลุงราช” นิรินจำเขาได้ หลานชายคนโตของคุณย่าทวดลักษณ์นาราผู้แสนใจดี แต่หลานชายของท่านโคตรใจร้าย แม้ใบหน้าของเขาจะรกไปด้วยหนวดเคราแต่เธอก็จำเขาได้ ปีหนึ่งจะได้เจอกันหนึ่งครั้ง บิดาของเธอกับนรราชไม่ใคร่จะลงรอยกันนัก และท่านก็ไม่ต้องการให้เธอยุ่งเกี่ยวกับเขาเป็นอันขาด...

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

Ellary Delossa
5.0

หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา
1

บทที่ 1 เป็นเพียงเด็กทารก

10/03/2025

2

บทที่ 2 รสชาติก็ไม่ได้แย่

10/03/2025

3

บทที่ 3 เหล่าแมลงเต็มตัวนาง

10/03/2025

4

บทที่ 4 ถูกเสี่ยวมี่จัดการ

10/03/2025

5

บทที่ 5 ข่าวของซูเต๋อ

10/03/2025

6

บทที่ 6 ท่านพ่อกลับมาแล้ว

10/03/2025

7

บทที่ 7 สหายของบุตรสาว

10/03/2025

8

บทที่ 8 เรื่องนี้มีผู้ใดรู้หรือไม่

10/03/2025

9

บทที่ 9 หลันฮวา

10/03/2025

10

บทที่ 10 ถ้ำกลางป่า

10/03/2025

11

บทที่ 11 เข้าเมืองครั้งแรกของซูเจิน

10/03/2025

12

บทที่ 12 เท่าใดถึงเหมาะสม

10/03/2025

13

บทที่ 13 พี่ชายเจ้ามิใช่รึ

10/03/2025

14

บทที่ 14 ซื้อที่ภูเขา

10/03/2025

15

บทที่ 15 มากถึงเพียงนี้

10/03/2025

16

บทที่ 16 ต้าซือชรา

12/03/2025

17

บทที่ 17 เจ้ายังเป็นบุตรชายของข้า

12/03/2025

18

บทที่ 18 ผักตระกูลซู

12/03/2025

19

บทที่ 19 เจ้าหน้าที่กรมโยธา

12/03/2025

20

บทที่ 20 แจกจ่ายข้าว

12/03/2025

21

บทที่ 21 เรียกตัวเข้าเมืองหลวง

12/03/2025

22

บทที่ 22 หาคนช่วยงานมารดา

12/03/2025

23

บทที่ 23 ขุนนางขั้นแปด

12/03/2025

24

บทที่ 24 ส่งฉู่จิ้งไปเรียน

12/03/2025

25

บทที่ 25 ต้องหาแหล่งน้ำเพิ่ม

12/03/2025

26

บทที่ 26 ขุดหาตาน้ำ

12/03/2025

27

บทที่ 27 อีเตอร์

12/03/2025

28

บทที่ 28 ที่มาของเงินชุยฟง

12/03/2025

29

บทที่ 29 เหตุการณ์ประหลาด

12/03/2025

30

บทที่ 30 ไม่เชื่อว่าเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา

12/03/2025

31

บทที่ 31 สักวันก็ต้องรู้อยู่ดี

12/03/2025

32

บทที่ 32 หวังกงกงเดินทางมารับด้วยตนเอง

12/03/2025

33

บทที่ 33 เดินทางเข้าเมืองหลวง

12/03/2025

34

บทที่ 34 มีปู่เพิ่มอีกคน

12/03/2025

35

บทที่ 35 เยี่ยนเฟยหยาง

12/03/2025

36

บทที่ 36 ถูกส่งไปค่ายทหาร

12/03/2025

37

บทที่ 37 เอาเสบียงออกมาแจก

12/03/2025

38

บทที่ 38 ความโหดร้ายของเมืองซีจวง

12/03/2025

39

บทที่ 39 แจกเสบียงปะทังชีวิต

12/03/2025

40

บทที่ 40 ตกหลุมพราง

12/03/2025