ลู่จื้อ อาศัยอยู่ในไต้หวัน เธอเป็นเจ้าของคาสิโนขนาดใหญ่ ที่ส่งต่อมาจากพ่อบุญธรรมที่รับเธอมาเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้า เธอวางมือคืนอำนาจให้ญาติพี่น้องของพ่อบุญธรรม แต่พวกเขากลับตามฆ่าเธอ
ลู่จื้อ อาศัยอยู่ในไต้หวัน เธอเป็นเจ้าของกาสิโนขนาดใหญ่ ที่ส่งต่อมาจากพ่อบุญธรรมที่รับเธอมาเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้า แม้ไม่ได้ให้ความรักอย่างที่คนในครอบครัวมอบให้ แต่ความรู้ เงินทองพ่อบุญธรรมก็ให้เธออย่างเต็มเปี่ยม
หลังจากที่พ่อบุญธรรมเธอโดนลอบสังหารกิจการทั้งหมดจึงตกเป็นของเธอ เธอมีลูกน้องนับพันคนที่ต้องดูแล เบื้องหลังของกาสิโนไม่ได้มีแต่สิ่งบันเทิงใจแบบฉากหน้าที่เห็น การแกร่งแย่งช่วงชิงทางธุรกิจทำให้เธอต้องระวังตัวอย่างมาก เธอใช้ชีวิตหวาดระแวงอย่างอยู่ทุกวัน
ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว บรรดาญาติพี่น้องของบิดาต่างก็หาโอกาสลอบสังหารเธออยู่ทุกวี่วัน แม้จะรอดพ้นมาได้ในทุกครั้งแต่โชคคงไม่ได้ดีเช่นนี้ทุกวัน
เธอตัดสินใจแบ่งมรดกทั้งหมดให้ญาติพี่น้องของพ่อบุญธรรม ถึงคนพวกนั้นจะถนัดใช้เงินมากกว่าบริหารเธอก็ไม่สนแล้ว เธออยากออกไปใช้ชีวิตที่เรียบง่าย แบบที่เธอฝัน ตลอดชีวิตของเธอโดนฝึกให้ดูแลกิจการ แม้กระทั่งฝึกให้ฆ่าคนก็ต้องทำ
พ่อบุญธรรมได้เขียนพินัยกรรมยกกิจการให้กับลู่จื้อและพี่น้องของตน แต่จะยกให้ก็ต่อเมื่อลู่ จื้อเลือกทางเดินชีวิตใหม่ที่จะไม่สานต่อกิจการแล้ว
ลู่จื้อ เบื่อชีวิตที่ต้องคอยระวังหลังตลอดจึงเลือกที่จะปล่อยวาง และพ่อบุญธรรมรู้ว่าเธอไม่สามารถประคับประคองกิจการทั้งหมดให้รอดพ้นเสือสิงห์กระทิงพวกนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง จึงได้บอกเธอเอาไว้ก่อนจะสิ้นใจให้ยกทั้งหมดให้คนพวกนั้นไป เมื่อจะตายถึงได้รู้ว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดไม่สามารถเอาไปด้วยได้
ความเมตตาสุดท้ายที่พ่อบุญธรรมยกให้เธอ คือให้เธอได้มีชีวิตใหม่เป็นของตนเอง ลู่จื้อซื้อที่ดินไว้ที่มณฑลเจียงซี หมู่บ้านชนบทที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศจีน
เธอเก็บข้าวของทั้งหมดให้ลูกน้องคนสนิทพาส่งไปยังบ้านใหม่ที่สร้างไว้ ก่อนจะหันหลังจากไป พ่อบ้านส่งจดหมายให้เธอบอกว่า นายท่านฝากไว้ให้ลู่จื้อเมื่อเขาจากไปแล้ว ใจความจดหมายเขียนไว้ไม่กี่ประโยคล้วนแล้วแต่อยากให้ลู่จื้อ มีความสุขกับสิ่งที่เลือก และของชิ้นสุดท้ายที่ยกให้เธอคือ กำไลหยกสีดำเนื้อดีหนึ่งวง
ลู่จื้อเคยเห็นกำไลวงนี้มาแล้ว มันเป็นกำไลที่แม่บุญธรรมเคยใส่ไว้ แต่ที่เธอไม่เข้าใจทำไมพ่อบุญธรรมถึงให้เธอตอนที่เธอเลือกจะออกไปจากวงจรนี้
“ขอบคุณค่ะพ่อบ้าน ฉันไปแล้วนะคะ พ่อบ้านดูแลตัวเองด้วยค่ะ” ลู่จื้อกล่าวจบก็ขึ้นรถขับออกไป
ตลอดเวลาที่เธอย้ายมาอยู่เจียงซี ชีวิตของเธอผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมา ตื่นเช้านั่งจิบกาแฟซึมซับบรรยากาศธรรมชาติ ไม่ต้องเร่งรีบ เบื่อก็เดินไปดูคนงานทำไร่ ปลูกต้นไม้ หรือไม่ก็นั่งตกปลา นอนอ่านหนังสือนิยายใต้ต้นไม้ในสวน นี่คือชีวิตเรียบง่ายอย่างที่ต้องการ
ความสงบสุขมีจริงหรือ แน่นอนว่าไม่ เพราะในคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก มีกลุ่มนักฆ่าเข้ามาเอาชีวิตเธอ
ลู่จื้อรับรู้ได้ถึงกำลังคนที่มีไม่ต่ำกว่าสามสิบคน เดินอยู่ภายในบ้านพักเธอ แม้จะมีเสียงฝนที่กระหน่ำลงมาแต่ประสาทรับรู้ที่ถูกฝึกตั้งแต่เด็กและการโดนหมายเอาชีวิตนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้เธอตั้งสติเตรียมรับมือโดยเร็วที่สุด
ปืนที่อยู่ใต้หมอนถูกนำออกมาใช้ มีดสั้นในช่องลับข้างเตียงตอนนี้อยู่ในสายรัดขาทั้งสองข้าง เมื่อประตูห้องเปิดออก ลู่จื้อหมุนตัวหลบกระสุนปืนไปที่ข้างเตียง แล้วยิงสวนกลับไป นักฆ่าล้มตายทันทีสามคน
พวกมันจึงรู้ได้ทันทีว่างานนี้ไม่หมูแล้ว หัวหน้านักฆ่ากระจายกำลังที่เหลือให้ล้อมรอบตัวบ้านแทน ลู่จื้อแทบไม่มีเวลาคิด ถ้าเธอฝ่าออกไปก็ตายแต่ถ้ายังอยู่ตรงนี้ก็ตายเช่นกัน สวรรค์ช่างขีดเขียนให้ชะตาของเธอบัดซบจริงๆ
ในเมื่ออยากเอาชีวิตกันเช่นนี้ เธอก็หมดเหตุผลที่จะปล่อยคนพวกนั้นให้สุขสบาย ลู่จื้อส่งหลักฐานยักยอกเงินบริษัทและหลักฐานที่ญาติพี่น้องสั่งฆ่าพ่อบุญธรรมที่เธอรวบรวมไว้ ส่งให้ทนายความของเธอทั้งหมด เมื่อเวลามีไม่มาก เธอหยิบที่กดระเบิดในช่องลับข้างตัวไว้ในมือ
“คุณลู่จื้อ เจ้านายผมให้คุณมีความสุขตั้งสามเดือนเลยนะ ตอนนี้คุณก็สมควรตามนายท่านไปได้แล้ว” หัวหน้านักฆ่าร้องบอก
“หึหึ ฉันก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน” ลู่จื้อยืนขึ้นแล้วดึงกดรีโมทในมือ
“หึหึ ถ้าต้องตายก็ไปด้วยกันทั้งหมด” เธอหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็น
“นังบ้า…” นักฆ่ายี่สิบเจ็ดคน จะหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว ลู่จื้อคิดมาตลอดว่าคนพวกนั้นไม่มีทางปล่อยเธอแน่ เธอจึงฝังระเบิดไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้านพัก
ตู้ม ตู้ม ตู้ม
ไม่มีใครรอดไปได้สักคน และทนายความของเธอก็ไม่ทำให้ผิดหวัง หลักฐานที่ได้จากลู่จื้อทั้งหมดถูกส่งให้ตำรวจ ศาลตัดสินให้ญาติพี่น้องของพ่อบุญธรรมทั้งหมดได้รับโทษตามความผิดของแต่ละคน ทรัพย์สินถูกส่งต่อให้บ้านเด็กกำพร้าทั่วประเทศจีน ตามคำร้องขอสุดท้ายของลู่จื้อ
ความรู้สึกสุดท้ายของลู่จื้อ เธอไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิด อาจจะเป็นด้วยแรงระเบิดที่ทำเธอหมดลมหายใจทันที
แต่ห้วงจิตที่กำลังหลุดลอยออกจากร่างมองภาพสถานที่ ที่เคยเรียกว่าบ้านกลายเป็นซากชิ้นส่วนไม่มีดี
“อะไรก็เอาไปไม่ได้อย่างที่ทุกคนว่าไว้” เธอถอนหายใจออกมา
ลู่จื้อยืนมองทุกสิ่งด้วยแววตาที่เรียบเฉย เธอคิดว่าคงเหมือนในหนังสือที่เคยได้อ่านมา เมื่อตายลงจะมียมทูตมารับวิญญาณเพื่อไปฟังคำตัดสิน ว่าจะถูกส่งไปลงนรกหรือขึ้นสวรรค์
“คนดีๆ อย่างฉัน ขึ้นสวรรค์ก็บ้าแล้ว” เธอยิ้มเยาะที่มุมปาก แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครมารับเธออย่างที่คิดไว้เลย
แสงสีขาวสว่างไปปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ลู่จื้อแทบไม่อาจจะลืมตามองได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ก่อนที่วิญญาณของเธอเหมือนจะถูกบางสิ่งดูดหายไปจากบริเวณที่ยืนอยู่เมื่อครู่
ความรู้สึกแรกหลังจากที่ถูกบางสิ่งดูดออกมา เธอมีความรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วทั้งร่างกาย ราวกับมาหากขยับแม้เพียงเล็กน้อย ร่างทั้งร่างอาจจะแยกจากกัน แต่เธอขยับตัวไม่ได้
‘นี่ฉันยังไม่ตายอีกหรือเนี่ย จะเก่งเกินไปแล้วลู่จื้อ โดนระเบิดแต่ไม่ตายหึหึ’
แต่ความคิดประหลาดก็ต้องหยุดลง เมื่อเธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ ตัวเธอยังเป็นเพียงวิญญาณยืนมองบ้านที่เหลือแต่ซากอยู่เลย แล้วจะมีความรู้สึกเจ็บปวดได้อย่างไร
แต่เสียงร้องไห้ของสตรีที่ดังอยู่ข้างหู ทำให้ลู่จื้อรู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ได้กำลังฝันอยู่ หรือว่าคิดไปเอง
แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ร่างกายของเธอแหลกจนไม่อาจจะยื้อชีวิตไว้ได้แล้ว แล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น
บทที่ 1 ถ้าต้องตาย ก็ตายให้หมด
15/08/2025
บทที่ 2 มีชีวิตอีกครั้ง
15/08/2025
บทที่ 3 เจ้าจับปลาได้อย่างไร
15/08/2025
บทที่ 4 เอาปลาไปขาย
15/08/2025
บทที่ 5 หายไปไหนแล้ว
15/08/2025
บทที่ 6 เข้าเมืองขายสมุนไพร
15/08/2025
บทที่ 7 มิติของลู่จื้อ
15/08/2025
บทที่ 8 อาจารย์ข้าคือซุนหงอคง
15/08/2025
บทที่ 9 จางเสียนกับกู้เหลี่ยงมาหา
15/08/2025
บทที่ 10 ได้ซื้อที่ดินแล้ว
15/08/2025
บทที่ 11 หวังว่าจะจำในสิ่งที่เขียนไว้ได้
15/08/2025
บทที่ 12 ขาบิดาหายดีแล้ว
19/08/2025
บทที่ 13 บ้านท่านตาท่านยาย
19/08/2025
บทที่ 14 ปลูกผักในมิติจิต
19/08/2025
บทที่ 15 ผักของข้าไม่เหมือนที่อื่น
19/08/2025
หนังสืออื่นๆ ของ l3oonm@
ข้อมูลเพิ่มเติม