Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คัมภีร์มายาจันทราผนึกปีศาจ

คัมภีร์มายาจันทราผนึกปีศาจ

chantana060422

5.0
ความคิดเห็น
960
ชม
79
บท

ในราชสำนักที่เต็มไปด้วยการแย่งชิง และความกระหายอำนาจของอัครเสนาบดีหลี่ เพื่อปลดผนึกให้กับราชาปีศาจที่ถูกขัง เขาสามารถทำได้ทุกวิถีทางแม้กระทั่งเข่นฆ่าเอาชีวิตของผู้บริสุทธิ์ไปเป็นเครื่องสังเวย โดยเฉพาะเลือดบริสุทธิ์จากหญิงสาวพรหมจรรย์ ขอเพียงแผนการที่เขาวางเอาไว้สำเร็จลุล่วง ใต้หล้านี้เขาก็จะเป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียว! หลี่อวี้หลินศิษย์เอกแห่งสำนักซีเฟิง เป็นชายหนุ่มผู้มีความสามารถพิเศษ สามารถเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมและสามารถคุยกับศพได้ ได้รับมอบหมายให้ลงเขาไปช่วยองครักษ์เสื้อแพรสืบคดีที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ซับซ้อนของคดี อย่างคาดไม่ถึง.. เซียวจวิ้นหานรองผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพรสังกัดฝ่ายเหนือ เย็นชา ทำงานไม่เห็นแก่หน้าใคร ถูกสั่งให้ต้องร่วมมือกับเด็กหนุ่มที่ไร้ประสบการณ์ ซ้ำยังเจ้าสำอาง ขึ้นชื่อเรื่องรูปโฉมที่งดงามเกินบุรุษ คนเช่นนี้จะทำงานข้างนอก ทนความลำบากได้สักแค่ไหนกันข้าไม่ร่วมมือกับเขาเด็ดขาด! แต่แม้จะคิดเช่นนั้น.. สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชาได้ พวกเขาสืบคดีร่วมกัน ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยอันตราย และอุปสรรคนานัปการ หลี่อวี้หลินได้แสดงความสามารถของตนเองให้เซียวจวิ้นหานได้เห็น พวกเขาร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรค ทว่าระหว่างสืบคดีอยู่นั้นหลี่อวี้หลินก็ค้นพบความลับหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ เขารู้ว่าเบื้องหลังของคดีนี้เกี่ยวข้องกับลัทธิมายาจันทรา มิหนำซ้ำผู้นำหลักหรือเจ้าลัทธิมายาจันทรายังเป็นบิดาของตนอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังเกี่ยวพันถึงสายเลือดของตัวเขาเอง ไม่ใช่แค่อัครเสนาบดีหลี่เสียแล้ว.. คดีนี้จึงลึกลับและซับซ้อนยิ่งขึ้น เซียวจวิ้นหานเห็นการทำงานของหลี่อวี้หลินที่เห็นศพ การฆ่าฟัน ความยากในการสืบคดี เด็กหนุ่มที่เขาดูแคลนในตอนต้นทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ขอเพียงสามารถทำให้คดีคืบหน้าและนำไปสู่ผลสำเร็จเขาย่อมทำโดยไม่อิดออด เซียวจวิ้นหานรู้สึกพึงพอใจมาก วัน เวลาที่พวกเขาทำคดีร่วมกันเซียวจวิ้นหานเริ่มชื่นชอบหลี่อวี้หลินมากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับเซียวจวิ้นหานรู้สึกว่าตัวเขาเองมีความเชื่อมโยงบางอย่างกับหลี่อวี้หลิน เพียงแต่ไม่รู้ว่าความเชื่อมโยงนั้นคือความเชื่อมโยงแบบใด ความสัมพันธ์ของพวกเขานับวันยิ่งดีขึ้น และดีขึ้นจนเกิดเป็นความรัก..

บทที่ 1 ตอนที่ 1 สำนักซีเฟิง

ตอนที่ 1 สำนักซีเฟิง

ยอดเขาซีเฟิงเป็นสถานที่ซึ่งห่างไกลจากความวุ่นวายในโลกมนุษย์ ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกบางและลมเย็นตลอดทั้งปี เป็นที่ตั้งของสำนักบำเพ็ญเพียรอันโด่งดัง นักพรตผู้ทรงคุณธรรมจากทั่วหล้ามักมารวมตัวกันที่นี่เพื่อฝึกฝนวิชาและแสวงหาสัจธรรม สำนักนี้มีชื่อว่า ‘สำนักซีเฟิง’ ตามชื่อของยอดเขาซีเฟิง เจ้าสำนักมีนามว่า ‘หลี่รุ่ยอวิ๋น’

ในเช้าวันหนึ่ง ขณะที่สายหมอกยังคงลอยอ้อยอิ่งเหนือยอดเขา เด็กชายในวัยสิบขวบคนหนึ่งกำลังฝึกเพลงกระบี่อยู่กลางลานกว้าง เขาคือ ‘หลี่อวี้หลิน’ เด็กผู้ถูกนักพรตเจ้าสำนักเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเยาว์ หลังจากพบเขาถูกทิ้งอยู่กลางป่าลึกในสภาพที่เต็มไปด้วยบาดแผล ที่คอยังห้อยจี้หยกชิ้นหนึ่งเอาไว้

หยกชิ้นนี้ที่ติดตัวเขามาสลักคำว่า ‘หลี่’ เอาไว้ด้านหน้า ด้านหลังสลักคำว่า ‘อวี้หลิน’

“ศิษย์น้อง เจ้าสำนักเรียกหาเจ้าแหนะ” ศิษย์พี่หวงเดินมาเรียกหลี่อวิ้หลินถึงลานฝึกกระบี่

“ทราบแล้ว ขอบคุณศิษย์หวงมากขอรับ” หลิ่อวิ้นหลินขานรับด้วยรอยยิ้ม เขาเก็บกระบี่ไม้เข้าฝักแล้ววิ่งกลับไปยังเรือนพักของอาจารย์เจ้าสำนัก

ณ เรือนไผ่ซึ่งคือเรือนพักส่วนตัวของเจ้าสำนักกับหลี่อวิ้หลิน อาจารย์และศิษย์พักในเรือนไผ่ด้วยกัน เรือนไผ่หลังนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาอีกยอดเขาหนึ่งซึ่งแยกออกมาจากยอดเขาหลัก ปลีกวิเวกอยู่ตามลำพัง หลี่รุ่ยอวิ๋น เป็นนักพรตเขาเคร่งในการฝึกบำเพ็ญเพียรจึงไม่มีทั้งภรรยาและบุตร

ก่อนหน้าที่จะเก็บหลี่อวิ้หลินกลับมาเลี้ยงดูเขาอาศัยอยู่ที่สำนักซีเฟิงเหมือนกันกับเหล่าอาจารย์และลูกศิษย์คนอื่น ๆ แต่หลังจากมีหลี่อวิ้หลินเพิ่มมาเขาจึงแยกตัวออกมาปลูกเรือนไผ่อยู่กันตามลำพัง เพื่อปลูกฝังเลี้ยงดูเด็กคนนี้เป็นอย่างดีด้วยความรัก เอ็นดูราวกับเป็นบุตรในไส้ของตนเองก็มิปาน

ตอนนี้ย่างเข้าปีที่สิบแล้วที่เขาเลี้ยงดูหลี่อวี้หลินมา จากเด็กเจ็ดขวบตอนนี้ก็สิบเจ็ดปีแล้ว.. เด็กนับวันยิ่งเติบโตขึ้น ส่วนหลี่รุ่ยอวิ๋นก็นับวันยิ่งแก่ลงเรื่อย ๆ สีผมก็กลายเป็นสีขาวดอกเลาแซมสีดำไปเกือบหมดศีรษะแล้ว

หลี่อวิ้หลินวิ่งตรงเข้ามายังโถงรับแขกของเรือนด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่สดใส “ท่านอาจารย์!..” เสียงเรียกมาก่อนตัวเสมอ

หลี่รุ่ยอวิ๋นส่ายหน้าพลางทอดถอนใจเขาไม่รู้ว่าตนเองเลี้ยงเด็กคนนี้มาอย่างไรถึงได้กลายเป็นเด็กซุกซนไปเสียได้ ครู่หนึ่งร่างของเด็กหนุ่มก็ปรากฏขึ้นที่ประตูทางเข้า

หลี่อวิ้หลินกล่าวด้วยรอยยิ้มเบิกบานว่า “ท่านอาจารย์ ท่านเรียกหาข้าหรือขอรับ..”

“มาใกล้ ๆ” หลี่รุ่ยอวิ๋นกวักมือเรียกสีหน้าเคร่งขรึม

ท่าทีเช่นนี้ของอาจารย์ หลี่อวิ้นหลินเห็นแล้วหากยังเดาความคิดของผู้เป็นอาจารย์ไม่ออกเช่นนั้นแล้วเขายังนับเป็นศิษย์คนโปรดที่เติบโตมาเคียงข้างผู้เป็นอาจารย์ได้หรือ? “ท่านอาจารย์.. ข้าสำนึกผิดแล้วขอรับ” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาไปครึ่งหนึ่ง ก้มหน้าลงไปเล็กน้อย ช้อนสายตาขึ้นมองผู้เป็นอาจารย์ราวกับกำลังรอดูทีท่าของอาจารย์

“ไหนว่ามาสิเจ้าผิดเรื่องอะไร?” หลี่รุ่ยอวิ๋นเอ่ยถามพลางกวักมือเรียกไม่หยุด “เข้ามาใกล้อีกสักหน่อย..”

“ท่านอาจารย์.. ข้าสำนึกผิดแล้วจริง ๆ ต่อไป ข้าจะสำรวมให้มากกว่านี้” หลี่อวิ้หลินโอดครวญค่อย ๆ ก้าวเท้าขยับเข้าไปใกล้ผู้เป็นอาจารย์ทีละนิด

พอเข้าไปใกล้ในระยะห่างไม่ถึงหนึ่งช่วงแขน หลี่รุ่ยอวิ๋นก็เปลี่ยนจากมือที่กวักเรียกเมื่อครู่เป็นคว้าที่ใบหูของหลี่อวิ้หลินแล้วออกแรงบิดเบา ๆ แทบไม่รู้สึก แต่ทว่าเสียงร้องกลับแว่วดังไปถึงเชิงเขา ทำเอาศิษย์อีกคนทีนำอาหารมาส่งสะดุ้งโหยงไปด้วย

“เอาอีกแล้วหรือนี่ ศิษย์พี่หลี่โดนท่านอาจารย์เจ้าสำนักทำโทษอีกแล้วหรือนี่ เห้อ..” กล่าวจบก็เดินส่ายหน้าหิ้วกล่องอาหารเข้าไปข้างใน และก็เป็นอย่างที่ตนคิดจริง ๆ

“สำนึก.. เจ้าพูดประโยคนี้กี่ครั้งแล้ว เจ้าอยากให้อาจารย์อับอายรึอย่างไร?” หลี่รุ่ยอวิ๋นกล่าวพลางออกแรงบิดหูศิษย์รักเบา ๆ อีกครั้ง

“ขอรับ.. อาจารย์สั่งสอนได้ถูกต้องแล้ว แต่ท่านอาจารย์ในยามที่อยู่ต่อหน้าผู้อื่นศิษย์หาได้ไม่สำรวมกิริยาสักครั้ง” หลี่อวิ้หลินกล่าวน้ำเสียงกระเง้ากระงอด พร้อมทำท่าสูดปากด้วยความเจ็บปวดเหลือแสน

“ยังจะเถียงอีก!..” หลี่รุ่ยอวิ๋นปล่อยมือจากหูหลี่อวิ้หลินแล้วผลักเขาเบา ๆ ก่อนจะเอียงศีรษะไปมองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาด้านใน “มาแล้วหรือ? ลำบากศิษย์น้องแล้ว..”

หลี่รุ่ยอวิ๋นหันกลับมาตำหนิศิษย์ต่อด้วยการตวัดสายตามอง “เจ้าน่ะไม่รู้หรือว่านี่ยามใดแล้ว มัวแต่ฝึกกระบี่ จนลืมเวลาไปที่โรงครัวนำข้าวปลาอาหารมากิน เจ้าเห็นหรือไม่ว่าเจ้าทำให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องต้องพากันลำบากเพราะเจ้าเพียงใด”

“ขอรับ.. เรื่องนี้ศิษย์สำนึกผิดแล้ว อาจารย์สั่งสอนได้ถูกต้อง อ๊า..ท่านอาจารย์ท่านไม่ต้องพูดแล้วขอรับศิษย์รู้แล้วว่าหลังจากกินมื้อกลางวันเสร็จแล้วต้องทำเช่นไร..” หลี่อวิ้หลินกล่าวพลางยกมือห้ามไม่ให้ผู้เป็นอาจารย์ต้องออกคำสั่งลงโทษ แล้วหันไปยักคิ้วข้างหนึ่งพร้อมกับรอยยิ้มให้กับศิษย์น้อง

“ขอบใจศิษย์น้องมาก ตอนเจ้ากลับลงไปรบกวนบอกห้องครัวว่าที่เหลือไว้ศิษย์พี่หลี่จัดการทางนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วจะลงไปจัดการด้วยตนเอง” หลี่อวิ้นหลินกล่าวกับศิษย์น้องที่นำอาหารมาส่ง

ชีวิตในแต่ละวันของหลี่อวิ้หลินหากไม่ฝึกเพลงกระบี่ ก็เป็นต้องนั่งบำเพ็ญเพียรปฏิบัติฌาน เขียนยันต์เป็นเช่นนี้..

หลี่อวี้หลินในวัยสิบเจ็ดปีเป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างสง่างาม ใบหน้าของเขางดงามราวกับภาพวาด ดวงตาเปล่งประกายความอ่อนโยน แต่แฝงด้วยความเด็ดเดี่ยว ผิวขาวราวหิมะ แม้เขาจะเติบโตมาในสำนักที่เคร่งครัด แต่อวี้หลินกลับมีนิสัยร่าเริงและมีจิตใจอ่อนโยนต่อผู้คนรอบข้าง จึงเป็นที่รักของทั้งศิษย์พี่ศิษย์น้องในสำนัก

ทั้งยังมีความสามารถพิเศษทำให้เขาโดดเด่นแตกต่างจากศิษย์คนอื่น ๆ ความสามารถพิเศษที่ว่าคือเขาสามารถมองเห็นภาพของคดีฆาตกรรมและพูดคุยกับวิญญาณได้ แม้เขาจะใช้ความสามารถนี้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น แต่ในบางครั้งมันก็นำพาความทุกข์ยากมาสู่เขาเช่นกัน

“อวิ้หลินเจ้าต้องหมั่นฝึกฌานให้มากมิใช่ขยันแต่เพียงจะฝึกกระบี่เท่านั้น ต่อไปภายภาคหน้าหากต้องลงเขาไปปฏิบัติภารกิจช่วยขจัดทุกข์ภัยให้ชาวบ้านเจ้าจะได้ไม่ลำบาก” หลี่รุ่ยอวิ๋น อบรมสั่งสอนและกำชับด้วยความเมตตา

“ขอรับ.. ช่วงเช้าฝึกกระบี่ บ่ายเขียนยันต์ร่ายคาถา เย็นนั่งสมาธิฝึกฌานต่อไป ข้าจะหมั่นทำเช่นนี้เป็นอย่างไรขอรับ” หลี่อวิ้หลินขานรับพลางอธิบายด้วยสีหน้าเคร่งขรึมหนักแน่น

หลี่รุ่ยอวิ๋นส่ายหน้า “ก่อนอื่นวันนี้เจ้าก็ลงไปทำความสะอาดโรงครัว แล้วก็กวาดใบไม้ที่ลานฝึกเถอะ”

“อาจารย์..” หลี่อวิ้หลินโอดครวญสีหน้ากระเง้ากระงอด “วันนี้ข้ามิได้ทำผิดกฎระหว่างเราเลยนะขอรับ ช่วงเช้ามาข้าก็เริ่มด้วยการปัด กวาด เช็ด ถูกเรือน เสร็จก็ลงไปกวาดใบไม้ ลงไปรับอาหารที่โรงครัวเอง มื้อเช้าข้าก็เป็นคนลงไปนำอาหารขึ้นมาด้วยตัวเอง เพียงช่วงกลางวันศิษย์หลงลืมไปชั่วขณะเท่านั้น ลงโทษสองขั้นในคราเดียวไม่หนักไปหรือขอรับ”

“เดี๋ยวก็ข้า เดี๋ยวก็ศิษย์ เลือกเอาสักอย่าง ..แล้วไหนว่ามาสิ วันนี้เหตุใดเจ้าไม่ซักผ้า.. เจ้าไม่ซักผ้าแล้วเราสองคนจะเอาเสื้อผ้าที่ใดสวม เจ้าว่ามา.. โอย..” หลังจากตะเบ็งเสียงจบ หลี่รุ่ยอวิ๋นก็ทรุดกายลงไปนั่งหอบหายใจพลางดมยาหอมที่ห้องยาทำขึ้นเอง

หลี่อวิ้หลินเห็นอาจารย์ผู้เปรียบเสมือนบิดาหอบหายใจหนักหน่วงจึงปรี่เข้าไปนวดขาให้ “ทว่าเรื่องซักเสื้อผ้าความจริงพรุ่งนี้ถึงจะถึงกำหนดซักมิใช่หรือขอรับอาจารย์”

หลี่รุ่ยอวิ๋นวางยาหอมลงไว้ข้างกาย จ้องมองศิษย์ด้วยแววตาลังเล ‘มิใช่วันนี้หรอกหรือ?’ หลี่อวิ้หลินเม้มฝีปากแน่นพยักหน้าหงึกหงักสีหน้าหนักแน่นราวกับกำลังตอบว่า ‘ขอรับเป็นพรุ่งนี้’ อย่างไรอย่างนั้น

หลังจากใช้สมองคิดทบทวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน หลี่รุ่ยอวิ๋นจึงกระแอมไอออกมาเสียงหนึ่ง ก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ถือว่าอาจารย์จำผิดแล้วกัน..”

เสียหน้าก็ส่วนเสียหน้า แต่เรื่องที่ควรยอมรับผิดก็ยังต้องยอมรับผิด เช่นนี้ถึงจะเป็นแบบอย่างที่ดีวให้กับศิษย์ได้

หลี่อวิ้หลินอมยิ้มน้อย ๆ ครั้นจะหัวเราะออกมาก็มิได้เพราะกลัวผู้เป็นอาจารย์จะเสียหน้าจึงช่วยกู้หน้าผู้เป็นอาจารย์กลับคืนมาว่า “แต่ดีนะขอรับที่ท่านอาจารย์ช่วยเตือนมิเช่นนั้นไม่แน่ว่าพอถึงพรุ่งนี้ศิษย์อาจจะลืมขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้ ขอบคุณท่านอาจารย์”

ช่วงเช้าของวันที่ยี่สิบ เดือนห้า ขณะที่อวี้หลินกำลังฝึกกระบี่อย่างตั้งใจอยู่ที่ลานฝึก หลี่รุ่ยอวิ๋นผู้เป็นอาจารย์เดินเข้ามาใกล้เขาพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “อวี้หลิน วันนี้อาจารย์จะมอบหมายให้เจ้าลงเขาไปซื้อสมุนไพรกลับมาให้สำนักเจ้าพร้อมหรือไม่?”

ลงเขา! หลี่อวี้หลินเบิกตาโพลงด้วยหัวใจพองโต

อวี้หลินหยุดการฝึกกระบี่ลง พยักหน้ารับด้วยความตื่นเต้น “ขอรับ ท่านอาจารย์! ว่าแต่ท่านอาจารย์ให้ศิษย์ไปกับผู้ใดหรือขอรับ ศิษย์พี่คนใดเดินทางเป็นพี่เลี้ยงให้ศิษย์”

หลี่รุ่ยอวิ๋นส่ายหน้า ตอบน้ำเสียงเด็ดขาด “ไม่มี.. ครั้งนี้เจ้าต้องเดินทางลงเขาไปเพียงลำพัง”

“หา? .. เช่นนั้นจะได้อย่างไรขอรับ ศิษย์ไม่เคยลงเขาเลยสักครั้ง” อวิ้หลินคร่ำครวญ

“เหตุใดจะมิได้ เจ้าน่ะนะเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของข้า หากกะแค่เรื่องลงเขาไปซื้อยาสมุนไพรกลับมาให้สำนักเจ้ายังทำไม่ได้ ข้ามิเสียชื่อแย่หรอกหรือ?”

ที่แท้ก็กลัวเสียหน้านี่เอง..

“ออ..” อวิ้หลินแม้ไม่เข้าใจก็จำต้องเข้าใจ “ขอรับท่านอาจารย์ อาจารย์โปรดวางใจ ศิษย์จะทำอย่างเต็มที่มิทำให้ท่านอาจารย์ต้องผิดหวัง”

การลงเขาครั้งนี้ถือเป็นการลงเขาครั้งแรกในรอบหลายปีของอวี้หลินนับตั้งแต่ที่เขาถูกพาขึ้นเขามา เขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นโลกภายนอกอีกครั้ง ในใจลึก ๆ เขาก็ยังหวังว่าจะได้ใช้ความสามารถของตนช่วยเหลือผู้คนอีกด้วย

ไม่รู้ว่าการลงเขาครั้งนี้ข้าจะได้พบเรื่องราวน่าตื่นเต้นอะไรหรือไม่? หลี่อวี้หลินคิดในใจ

เขาไม่รู้เลยว่าการเดินทางครั้งนี้จะนำพาเขาเข้าสู่เหตุการณ์ที่อาจเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล..

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ chantana060422

ข้อมูลเพิ่มเติม
คดีฆาตกรรมสกุลหลิน

คดีฆาตกรรมสกุลหลิน

ผจญภัย

5.0

ในคืนเทศกาลตงจื้อที่ผู้คนกำลังออกมานอกบ้านเพื่อเฉลิมฉลองวันเข้าสู่ฤดูหนาวกันอย่างเป็นทางการ ด้วยความสนุกสนานและมีความสุข ห่างออกไปทางทิศตะวันออกของเมืองได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนต่างหวาดผวาขึ้น เหตุการณ์ที่ว่าคือ จวนนายอำเภอถูกคนร้ายกลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปสังหารคนทั้งตระกูลไม่เหลือรอดเลยแม้แต่คนเดียว แม้จะบอกว่าไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียว แต่ก็ยังมีคุณชายหลิน 'หลินจินเซี่ย' บุตรชายเพียงคนเดียวของนายอำเภอหลิน 'หลินอัน' กับบ่าวรับใช้คนสนิทที่ออกไปเที่ยวชมความคึกคักของเทศกาลตงจื้อข้างนอกยังไม่กลับ เหตุการณ์ลุกลามบานปลายไปถึงเมืองหลวง ฝ่าบาททรงมีคำสั่งให้ 'เหอหลิงซี' คนผู้นี้มีตำแหน่งเป็นถึงนายกองร้อยขององครักษ์เสื้อแพรแห่งกองปราบฝ่ายเหนือ เป็นผู้รับหน้าที่ไปสืบคดีนี้ เดิมทีนายกองร้อยเหอหลิงซีไม่ต้องการให้หลินจินเซี่ยเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายแต่เพราะอีกฝ่ายอ้างว่าตนรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดเรื่องราวนี้ขึ้น และหากไม่ให้เขาเข้าร่วมในการสืบคดีเช่นนั้นเขาก็จะไม่ให้ความร่วมมือ และไม่บอกสาเหตุของเรื่องนี้ ทั้งยังจะสืบเองตามลำพังอีกด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงช่วยกันค้นหาหลักฐานสำคัญที่จะนำไปสู่กุญแจไขคดีนี้ร่วมกัน ระหว่างที่พวกเขาร่วมมือกัน นายกองร้อยเหอหลิงซีได้ค้นพบความลับที่สำคัญอย่างหนึ่งเข้า ความลับที่ว่าคือหนึ่งในมือสังหารคือคนที่หลินจินเซี่ยไว้ใจที่สุด ใกล้ชิดที่สุด และรักที่สุด คนผู้นั้นก็คือมารดาของตัวเขาเอง แต่นางถูกสังหารไปพร้อมกับคนในสกุลหลินไปแล้วมิใช่หรือ? แล้วนางจะเป็นมือสังหารไปได้อย่างไร? นางทำไปเพื่อสิ่งใด ยังมีความลับอีกมากมายรอให้พวกเขาไปค้นหา มาร่วมกันค้นหาความจริงไปกับพวกเขากันเถอะ.. ...................................................................................................................................... เทศกาลตงจื้อ คือ วันเข้าสู่ฤดูหนาวของจีน

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

เกาะครีต
5.0

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
คัมภีร์มายาจันทราผนึกปีศาจ
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1 สำนักซีเฟิง

26/03/2025

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2 ลงเขาครั้งแรกก็พบเรื่องน่าตื่นเต้นเข้าแล้ว

26/03/2025

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3 การพบกันครั้งแรก

26/03/2025

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4 หมู่บ้านอวิ๋นรุ่ย

26/03/2025

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5 ไล่ตามเบาะแส

26/03/2025

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6 กระพลังหยิน และกระบี่พลังหยาง

26/03/2025

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7 ห้องลับใต้แท่นบูชา

26/03/2025

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8 สวนที่ถูกทิ้งร้าง

26/03/2025

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9 หอบุปผาวสันต์

26/03/2025

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10 ห้องลับในหอนางโลม

26/03/2025

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11 ปีศาจแมงป่องยักษ์ในถ้ำลับ

26/03/2025

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12 ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยกับดัก

26/03/2025

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13 ชายในชุดคลุมสีดำ

26/03/2025

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14 ชายชุดดำเจอกันอีกแล้ว

26/03/2025

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15 ศึกแย่งชิงตัว 'ผู้ถูกเลือก'

26/03/2025

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16 ป่าที่เต็มไปด้วยค่ายกล

26/03/2025

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17 หญิงสาวปริศนา

26/03/2025

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18 เล่นไปตามน้ำ

26/03/2025

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19 หลี่จิ้งหยวน

26/03/2025

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20 ตัวตนของซูเม่ยหลิน

26/03/2025

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21 เข้าสู่วิหานเงา

26/03/2025

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22 คำสารภาพของซูเม่ยหลิน

26/03/2025

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23 การปรากฏตังของชายแปลกหน้า

26/03/2025

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24 หมู่บ้านจิ่วซาน

26/03/2025

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25 เทือกเขาหลงอวิ๋นในหมู่บ้านจิ่วซาน

26/03/2025

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26 กับดัก..

26/03/2025

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27 เสียงเรียกจากคัมภีร์

26/03/2025

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28 ได้กลิ่นเปรี้ยว

26/03/2025

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29 เมืองสุ่ย

26/03/2025

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30 หอสุราเมฆม่วง

26/03/2025

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31 แผนการเข้าถ้ำเสือ

26/03/2025

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32 คฤหาสน์สกุลไป๋

26/03/2025

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33 ราคาที่ต้องจ่าย

26/03/2025

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34 คำบอกใบ้ที่ซ่อนอยู่ในคัมภีร์มายาจันทรา

26/03/2025

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35 อักขระอัญเชิญ

26/03/2025

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36 บรรยากาศผ่อนคลาย

26/03/2025

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37 กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง

26/03/2025

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38 พบกับกลุ่มโจรป่า

26/03/2025

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39 หมู่บ้านจินซาน

26/03/2025

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40 ความฝันนำทางไป

26/03/2025