หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
ดอกเหมยแย้มกลีบเบ่งบานงดงามจนเต็มต้น สีชมพูอมขาวชูช่อสว่างสไวตัดกับความมืดมิดในยามราตรี กลีบดอกที่ทนทานนั้นแม้จะถูกพัดปลิวด้วยลมหิมะก็ไม่ร่วงหล่น ส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปตามแรงลมที่พัดปลิวมาเป็นระยะ
หลิวซือซือนั่งเท้าคางมองกิ่งเหมยที่ยื่นมาเกือบจนถึงหน้าต่างของโรงเตี๊ยมที่พักพลางสูดกลิ่นหอมนั้นเข้าไปตนเต็มปอด นานเพียงใดแล้วหนอที่เธอมายังดินแดนแห่งนี้และต้องใช้ชีวิตเฉกเช่นคนที่นี่โดยไม่มีรู้ว่าจะได้มีโอกาสที่จะกลับไปหาคนที่เธอรักยังโลกใบเดิมที่เธอจากมา
"คุณหนู น้ำชาเจ้าค่ะ"
หลิวซือซือมองถ้วยน้ำชาที่โชยกลิ่นหอมกรุ่นที่ชุ่ยหลินบ่าวคนสนิทของนางรินให้อย่างเอาอกเอาใจ หลิวซือซือรับชาจากมือสาวใช้ กลิ่นหอมของชาลอยอบอวลปนเปไปกับกลิ่นดอกเหมยที่หอมหวานหลิวซือซืออมยิ้มเล็กน้อย ใบหน้างดงามผุดผ่องเพียงด้านเดียวนั้นช่างชวนให้เพ้อฝันในขณะที่อีกข้างก็ชวนให้รู้สึกสะอิดสะเอียนขนลุกขนพองเป็นอย่างยิ่ง
หลิวซือซือเหม่อลอยทอดถอนหายใจ แม่ของเธอก็ชื่นชอบชาดอกเหมยเช่นกันช่วงเวลาที่มีความสุขได้อยู่กันพร้อมหน้าแต่ก่อนหลิวซือซือไม่คาดคิดว่าจะมีคุณค่าเพียงนี้ แต่เมื่อไม่มีโอกาสเป็นเช่นนั้นอีกหญิงสาวก็รู้สึกเสียใจอีกทั้งเสียดายที่เมื่อตอนนั้นทำสิ่งที่ควรทำน้อยเกินไป
เธอควรดีกับพ่อและแม่ให้มากกว่านี้รักพวกท่านกอดพวกท่านให้มากกว่านี้จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลังเช่นนี้อีก
"คิดถึงท่านแม่อีกแล้วหรือเจ้าคะ"
ชุ่ยหลินสาวรับใช้ผู้รู้ใจเอ่ยขึ้น คุณหนูของเธอภายนอกดูเหมือนจะหายเป็นปกติแล้วแต่ในใจนั้นยังคงเจ็บปวดและเศร้าสร้อยเพียงใดมีเพียงชุ่ยหลินเท่านั้นที่รู้ดี
"ข้าจะทำยังไงได้ล่ะชุ่ยหลินที่ผ่านมาข้าก็พยายามที่จะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขอย่างเต็มที่แล้ว แต่แม่และพ่อของข้าในโลกนั้นเล่าพวกท่านจะอยู่โดยไม่มีข้าได้อย่างไร"
ชุ่ยหลินมองนายหญิงคนงามของตนด้วยความสงสารเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่คุณหนูยอมเปิดใจบอกนางนั้นเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อเหลือเกินแท้จริงแล้วในตอนนี้นายหญิงของนางคือบุตรสาวของท่านมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายที่มีความเชี่ยวชาญด้านอักษรและการปกครองอีกทั้งยังเป็นพระอาจารย์ของฝ่าบาท ถึงหลิวซือซือจะเป็นเพียงบุตรสาวของฮูหยินรองของจวนเสนาบดีแต่ฮูหยินใหญ่นั้นก็รักและเอ็นดูนางเป็นอย่างยิ่ง
น่าสงสารที่ตั้งแต่เกิดมามารดาก็เสียชีวิตลงทันทีทั้งได้ฝากฝังบุตรสาวเพียงคนเดียวของตนเองไว้กับท่านเสนาบดีไม่ต้องการให้นางเข้าวัง หากเป็นเรื่องคู่ครองแล้วขอให้ท่านมหาเสนาบดีให้หลิวซือซือเป็นผู้ตัดสินด้วยตนเอง มหาเสนาบดีหลิวฮันรักภรรยารองผู้นี้มากอีกทั้งสงสารบุตรสาวที่อาภัพมารดาตั้งแต่เกิด
เขาจึงเฝ้าเก็บนางเอาไว้ในจวนด้วยรูปร่างหน้าตาที่งดงามหยดย้อยของหลิวซือซือเขากลัวว่าอาจจะต้องตาโอรสสวรรค์หรือท่านอ๋องคนใดได้ เขาไม่ต้องการให้หลิวซือซือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองให้ลำบาก เพียงให้นางใช้ชีวิตเฉกเช่นหญิงสาวทั่วไปจึงได้เก็บบุตรีไว้ในเรือนอย่างเงียบเชียบ
เมื่อบุตรสาวโตขึ้นแม้จะซ่อนนางเพียงใดวันหนึ่งเขาก็พบว่าบุรุษที่เคยมาที่จวนของเขาเกิดพบหลิวซือซือโดยบังเอิญ หลิวซือซือที่ไร้เดียงสาของเขาได้มีใจให้คนผู้นั้นแต่ท่านเสนาบดีหลิวรู้ดีว่าเบื้องหลังบุรุษผู้นั้นโสมมเพียงใดเขาจึงหาทางที่จะขัดขวาง
ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างเขาเมื่อวันหนึ่งหลิวซือซือเกิดพลัดตกน้ำในขณะที่พายเรือเล่นในสระบัวอันกว้างใหญ่ภายในจวน นางว่ายน้ำไม่เป็นกว่าคนจะช่วยขึ้นมาได้ก็ทำให้หลิวซือซือเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ที่น่าประหลาดคือเมื่อหญิงสาวฟื้นกลับจำสิ่งใดไม่ได้ ท่านเสนาบดีจึงได้หลบซ่อนนางจากคนภายนอกอีกครั้ง ให้คนปล่อยข่าวว่าหลังตกน้ำหลิวซือซือเกิดความจำเสื่อมอีกทั้งยังสติไม่ดีอีกทั้งนางยังทำไฟไหม้ห้องตนเองและเกิดเสียโฉมเพราะถูกไฟคลอกมาตั้งแต่นั้น ในขณะที่หลิวซือซือผู้เซื่องซึมไม่ว่าท่านพ่อของนางจะให้ทำตัวเช่นไรนางก็หาได้โวยวายอีกทั้งยังเกิดภาวะเศร้าหมองร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
เรื่องเหลวไหลพวกนี้หลิวซือซือย่อมรู้ดีว่าเป็นเพียงอุบายของบิดาและรู้ดีว่าตนเองนั้นไม่ได้บ้าแต่ประการใด นั่นเป็นเพราะเธอไม่ใช่คนที่นี่ ในร่างนี้เป็นเพียงวิญญาณของหลิวซือซือผู้หนึ่งที่ย้อนเวลามาด้วยอุบัติเหตุจนมาอาศัยอยู่ในร่างนี้ก็เท่านั้น
ย้อนไปเมื่อห้าปีที่แล้วภาพความทรงจำสุดท้ายที่ยังอยู่ในสมองของหลิวซือซือคือภาพที่รถของเธอลอยละลิ่วขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วกระแทกลงมาอย่างหนักจนเธอชาไปทุกส่วนของร่างกาย เธอมองเห็นพ่อสลบไสลอยู่ข้างๆ พร้อมกับเลือดที่อาบทั่วร่าง เธอมองไปรอบรถเห็นคนขับรถถูกอัดก๊อบปี้ด้วยถุงลมนิรภัยไม่รู้เป็นหรือตายแล้วภาพต่างๆ ก็เลือนรางไปในที่สุด
เมื่อรู้สึกตัวเธอก็กลายมาเป็นคุณหนูแห่งจวนมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายของราชวงศ์โจวแห่งแคว้นเหลียงไปแล้ว ไม่รู้ว่าสวรรค์กลั่นแกล้งหรืออย่างไรทำให้เธอย้อนเวลามาเป็นร้อยปีแล้วมาอยู่ในร่างของหลิวซือซือผู้หญิงที่มีชื่อและหน้าตาเหมือนกันกับเธอราวกับคนเดียวกัน
ในตอนแรกเธอไม่กล้าพูดคุยกับใครแม้แต่คนเดียว ความหวาดกลัวเข้าครอบงำจิตใจ ทุกอย่างที่กระทำเหมือนหุ่นยนต์ไม่มีชีวิตชีวาจนคิดจะฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง ท่านมหาเสนาบดีมีหน้าตาคล้ายคลึงกับบิดาของเธอช่วยดึงสติเธอมาได้ เธอตัดสินใจลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งในดินแดนที่เธอไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอต้องแกล้งทำเป็นความจำเสื่อม เรียนรู้ที่จะอยู่ที่นี่เหมือนเด็กผู้หนึ่งในใจยังหวังอยู่ตลอดเวลาว่าจะสามารถกลับไปหาแม่และพ่อของเธอได้ แม้ไม่รู้ว่าจะต้องกลับไปด้วยวิธีใดก็ตาม
หลิวซือซือหยิบกระจกที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเพ่งพิศหน้าของตนเองภายใต้แสงเทียน แสงตะเกียงรำไรไม่สว่างมากนักแต่เธอก็ยังมองเห็นใบหน้าของตนเองได้อย่างชัดเจน
นิ้วเรียวขาวผ่องลูบไล้ใบหน้าด้านซ้ายที่งดงามไร้ไฝฝ้าราคีอันใด ส่วนด้านขวามีรอยแผลเป็นเล็กๆ เต็มใบหน้าคล้ายรอยแผลไฟไหม้กระจายทั่วพวงแก้ม
รอยแผลนี้ได้มาจากอุบายของบิดาเสนาบดี เขาสั่งช่างทำหน้ากากฝีมือดีจากต่างแคว้นทำหน้ากากแผลเป็นนี้มาให้เธอโดยเฉพาะ
ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่าหลิวซือซือมีใบหน้าที่งดงามผุดผ่องราวกับเทพเซียน
ใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มจิ้มลิ้มสีแดงสดเย้ายวนโดยธรรมชาติ ดวงตากลมโตสะท้อนออกมาถึงความหยาดเยิ้มชวนหลงใหลขนตายาวงอนราวกับปีกผีเสื้อ
หลิวซือซือรู้สึกมีความสุขที่บิดาทำเช่นนี้ การใช้ชีวิตเป็นภรรยาในโลกโบราณแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยไหนจะต้องทนช้ำใจเพราะสามีสามารถมีภรรยากี่คนก็ได้ตามต้องการอีกทั้งสังคมศักดินาก็กดขี่ข่มเหงสตรียิ่งนัก เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่หลิวซือซือไม่อาจทนได้
"คุณหนูเจ้าคะ ดื่มเสียหน่อยนะอย่าเศร้าไปเลยเจ้าค่ะ"
หลิวซือซือยิ้มให้ชุ่ยหลิน บ่าวผู้นี้จงรักภักดีกับเธอเป็นอย่างยิ่งแม้เธอจะโวยวายหรือจะเล่าเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้ชุ่ยหลินฟัง
สาวรับใช้คนนี้ก็ตั้งใจไฟโดยไม่เคยกล่าวหาว่าเธอเป็นบ้าไปแล้วเลยสักครั้ง
ชุ่ยหลินเป็นเด็กสาวซื่อๆ คนหนึ่งเติบโตในจวนอีกทั้งยังมีอายุน้อยกว่าหลิวซือซือเพียงปีเดียว
หลิวซือซือคนเก่าสอนให้ชุ่ยหลินอ่านเขียนรักนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง
ส่วนชุ่ยหลินนั้นเป็นเด็กกำพร้าเติบโตขึ้นมาก็มีเพียงแต่คุณหนูเท่านั้น
นางจึงยอมรับหลิวซือซือในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นใครที่อยู่ข้างในร่างคุณหนูชุ่ยหลินก็พร้อมที่จะดูแลอย่างเต็มที่ กางปีกปกป้องนางจนหลิวซือซือรู้สึกอบอุ่นใจและกล้าที่จะบอกเล่าความในใจที่ตนเองแสนจะอึดอัดให้ชุ่ยหลินฟัง
หลิวซือซือยกชามาดื่มจนหมดจอก ชุ่ยหลินยิ้มและรินชาให้หลิวซือซืออีกจอกรสชาติของชาดีเป็นอย่างยิ่งแต่หลิวซือซือยิ่งกินยิ่งรู้สึกกระหายน้ำและเกิดอาการคอแห้งขึ้นมา
"ชุ่ยหลินมีน้ำเปล่าหรือเปล่า"
"มีเจ้าค่ะแต่น้ำเย็นมากแล้วคุณหนูสุขภาพไม่ดีดื่มน้ำอุ่นหน่อยดีหรือไม่บ่าวจะไปนำมาให้"
"ดีสิ"
ชุ่ยหลินจึงรีบออกไปเพื่อนำน้ำมาให้คุณหนูของตนเอง หลิวซือซือรินน้ำชาให้ตนเองอีกหลายจอกรู้สึกว่ายิ่งกินยิ่งกระหายน้ำมากขึ้น
นางคิดว่าชาชนิดนี้อาจมีสิ่งใดผิดปกติไม่นานก็รู้สึกรุ่มร้อนเป็นอย่างยิ่งลมเย็นพัดโชยเข้ามาทางหน้าต่าง หลิวซือซือหยิบผ้าคลุมหน้าและเสื้อคลุมของตนเองคิดจะออกไปเดินเล่นเสียหน่อย
หญิงสาวเดินออกไปนอกห้องพักหลิวซือซือมองอย่างแปลกใจที่ไม่เห็นองครักษ์หน้าห้องของตนเอง คิดว่าพวกเขาอาจไปกินข้าวหรือทำธุระอย่างอื่นถึงจะรู้สึกอยู่บ้างว่าผิดปกติก็ไม่ทันคิดว่าตนเองจะเป็นอันตรายอันใด
หลิวซือซือเดินตามทางเดินของโรงเตี๊ยมมาเรื่อยๆ เป็นเพราะความปลอดภัยของเธอองครักษ์หลงจึงได้เหมาทั้งชั้นสามที่เป็นชั้นสูงสุดของโรงเตี๊ยมให้เธอและองครักษ์
โรงเตี๊ยมแห่งนี้นับว่ากว้างขวางไม่น้อยหลิวซือซือเดินไปรอบ ๆ ลมพัดเย็นโชยกลิ่นดอกเหมยมาหากในยามปกติหลิวซือซือต้องรู้สึกหนาวสั่นแล้ว แต่ในตอนนี้หญิงสาวกลับรู้สึกว่าตนเองร้อนยิ่งกว่าเดิม
"หรือชาจะมีสิ่งใดผิดปกติ"
หลิวซือซือเดินมาเรื่อย ๆ ทางเดินสว่างไปด้วยโคมที่ห้อยเป็นแพต่อกัน หญิงสาวรู้สึกมึนศีรษะคล้ายคนที่กำลังเมาสุรา
ร่างกายของเธอมีสีแดงขึ้นเรื่อย ๆ เธอรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายของตนเองสูงขึ้นเธอกำลังตัวร้อน
หลิวซือซือจึงคิดกลับเข้าห้องเดินวนกลับมาทางเดิมในตอนนี้เห็นองครักษ์อยู่หน้าห้องแล้ว
หญิงสาวจึงเร่งฝีเท้าเดินไปยังห้องของตนเองเมื่อหยุดอยู่หน้าห้องกลับถูกทหารสองนายขวางทางเอาไว้
หลิวซือซือสะลึมสะลือมองหน้าพวกเขาไม่ชัดคล้ายตนเองกำลังตกอยู่ในความฝัน เธอคิดว่าตนเองได้ก้าวเข้ามาในห้องแล้วทั้ง ๆ ที่กำลังยืนอยู่หน้าประตู
หลิวซือซือถอดเสื้อคลุมออกโดยไม่รู้ตัวในขณะที่เธอกำลังจะถอดเสื้อผ้าของตัวเองเพราะรู้สึกร้อนราวกับมีบางอย่างลวกผิวพลันถูกมือเรียวของคนผู้หนึ่งลากเข้าไปในห้อง
เธอมองหน้าคนผู้นั้นไม่ชัดนักคิดในใจว่าอาจเป็นชุ่ยหลินนั่นคือความรู้สึกสุดท้ายที่ตนเองรับรู้ว่าตนเองคือใคร
เมื่อไร้ซึ่งสติหลิวซือซือก็เริ่มถอดเสื้อผ้าออกตั้งแต่หน้าประตู เธอถอดออกทีละชิ้นอีกทั้งแข้งขาก็รู้สึกอ่อนจนแทบจะล้มสุดท้ายหลิวซือซือก็ได้แต่คลานเข่าค่อย ๆ ขยับร่างกายที่ร้อนรุ่มของตนเองไปที่เตียงก่อนที่เธอจะสิ้นสติอยู่ตรงนี้
ในที่สุดหญิงสาวก็แบกร่างที่หนักอึ้งรุ่มร้อนของตนเองขึ้นนอนบนเตียงสำเร็จ ร่างกายเหมือนขาดอะไรบางอย่างหิวโหยในสิ่งที่ไม่รู้ว่าคืออะไรปากและลำคอแห้งผาก
หลิวซือซือบิดร่างไปมามือปะป่ายตามเนื้อตัวตนเองไปมาอย่างทุรนทุรายเพื่อคลายอาการร้อนรุ่มที่เริ่มจู่โจมเธอหนักขึ้น
สมองของหลิวซือซือมึนงง รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอีกทั้งยังกระหายน้ำเป็นอย่างยิ่ง ลำคอแห้งผากจนต้องแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตนเอง
ร่างเปล่าเปลือยนอนอยู่บนเตียง ส่งเสียงครางออกมาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดที่สำคัญทุกครั้งที่มือของเธอสัมผัสเนื้อตัวของตนเองกลับรู้สึกดีขึ้น อีกทั้งผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
หญิงสาวกำลังบีบเคล้นเต้านมอวบใหญ่ของตนเองเล่นอีกทั้งยังเสียดสีส่วนของความเป็นหญิงเข้ากับหมอนข้าง นั่นทำให้เธอรู้สึกสบายจนต้องครางออกมา
ภายในห้องนี้หลิวซือซือหารู้ไม่ว่าไม่ได้มีเพียงนางที่อยู่ลำพังอีกต่อไปแล้ว กลับมีบุรุษรูปร่างสูงองอาจใบหน้าหล่อเหลาในอาภรณ์สีดำผู้หนึ่ง กำลังนั่งจิบสุรามองเธอราวกับเป็นอาหารมื้อค่ำที่แสนโอชะ
สตรีผู้นั้นที่เปลื้องอาภรณ์ต่อหน้าเขาอีกทั้งยังเล่นกับตนเองส่งเสียงครางยั่วยวนให้เขาเข้าหาอย่างไร้ยางอายผู้นั้นแทบทำให้เขาสำลักสุราออกมา
เขาลูบมังกรยักษ์แข็งแรงใหญ่โตของตนเอง มันตั้งชันจนแทบจะปริแตกสตรีร่างอรชรเอวคอดกิ่วผู้นั้นช่างแสนยั่วยวน
โจวเจ๋อฮั่นยอมรับว่าตกตะลึงไม่น้อยที่เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ของนาง
แต่เหตุไม่รู้นางจึงได้ดึงดูดใจเขาได้เพียงนี้
นางที่กำลังอ้าขาบดกลีบอวบอูมของตนเองกับหมอนข้างกำลังหลอกล่อให้เขาบดเบียดมังกรอันแข็งแกร่งกระแทกร่างของนางเช่นนั้นหรือ
สตรีร่านสวาทแห่งหอโคมเขียมผู้นี้ช่างน่าอร่อยเป็นอย่างยิ่ง
บทที่ 1 สตรีร่านสวาท
08/08/2023
บทที่ 2 ก้างขวางคอ
08/08/2023
บทที่ 3 งิ้วโรงใหญ่
08/08/2023
บทที่ 4 ของสำคัญหล่นหาย
08/08/2023
บทที่ 5 สมรสพระราชทาน
08/08/2023
บทที่ 6 ว่าที่พระชายา
08/08/2023
บทที่ 7 ข่าวลวง
08/08/2023
บทที่ 8 นางคือหวางเฟยของข้า
08/08/2023
บทที่ 9 กวางน้อยแสนหวาน
08/08/2023
บทที่ 10 กินไม่อิ่ม
08/08/2023
บทที่ 11 มังกรที่ไม่มีวันหลับ
08/08/2023
บทที่ 12 พระชายาประชวร
08/08/2023
บทที่ 13 โรคผื่นประหลาด
08/08/2023
บทที่ 14 ถูกจับตัว
08/08/2023
บทที่ 15 แม่ขา
08/08/2023
บทที่ 16 ไม่อาจทิ้งผู้ใด
08/08/2023
บทที่ 17 คนที่นางมีใจให้
08/08/2023
บทที่ 18 ผู้มีพระคุณ
08/08/2023
บทที่ 19 แสนหวาน
08/08/2023
บทที่ 20 หนีเที่ยว
08/08/2023
บทที่ 21 ถูกจับได้
08/08/2023
บทที่ 22 ข้อแลกเปลี่ยน
08/08/2023
บทที่ 23 เผ่าบุปผา
08/08/2023
บทที่ 24 เริงสวาทในรถม้า
08/08/2023
บทที่ 25 คำอธิษฐาน
08/08/2023
บทที่ 26 บ้านของเจ้าอี้เหวิน
08/08/2023
บทที่ 27 จับคนร้าย
08/08/2023
บทที่ 28 หน้ากากอัปลักษณ์
08/08/2023
บทที่ 29 ถูกวางยา
08/08/2023
บทที่ 30 ศิษย์ของเจ้าแห่งพิษ
08/08/2023
บทที่ 31 หายตัว
08/08/2023
บทที่ 32 ลักพาตัว
08/08/2023
บทที่ 33 ผึ้งบุปผา
08/08/2023
บทที่ 34 ศิษย์ผู้น้อง
08/08/2023
บทที่ 35 ข้าดุนะเจ้าไหวหรือ
08/08/2023
บทที่ 36 หรือนางจะตั้งครรภ์
08/08/2023
บทที่ 37 องค์หญิงต่างแคว้น
08/08/2023
บทที่ 38 ของขวัญชิ้นโต
08/08/2023
บทที่ 39 หุบเขาสุขสำราญ
08/08/2023
บทที่ 40 รสสวาทยามเช้า
08/08/2023
หนังสืออื่นๆ ของ ซีไซต์
ข้อมูลเพิ่มเติม