คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
ฤดูใบไม้ผลิปีที่สิบห้าแห่งรัชศกเทียนเปา ดอกท้อบานสะพรั่งในสวนตระกูลจู เสียงร้องไห้ของทารกน้อยดังแว่วมาจากห้องด้านใน ทำให้บรรยากาศยิ่งเต็มไปด้วยความสดชื่นและมีชีวิตชีวา
จางเหวย เด็กหนุ่มวัยสิบห้าปี ก้าวเข้าสู่เรือนหลักของตระกูลจูในมือถือกล่องไม้แกะสลักงดงาม เขาสวมชุดผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม ท่าทางสง่างามสมกับเป็นบุตรชายของแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ ใบหน้าคมคายของเขาเผยให้เห็นถึงความฉลาดและความมุ่งมั่น ดวงตาคมกริบดุจเหยี่ยวมองไปรอบๆ อย่างช่างสังเกต
"น้องเหวย เจ้ามาแล้วหรือ" เสียงทุ้มของจูเหวินกวงดังขึ้น เขายิ้มกว้างต้อนรับอย่างอบอุ่น "มาๆ เข้ามาดูหลานสาวของเจ้าสิ"
จางเหวยคำนับอย่างนอบน้อม
"ท่านพี่ ข้ามาแสดงความยินดีกับท่านและพี่สะใภ้ด้วยใจจริง ขอให้หลานน้อยเติบโตอย่างแข็งแรง งดงามดั่งดอกท้อที่ผลิบาน"
จูเหวินกวงหัวเราะร่า ตบไหล่จางเหวยเบาๆ
"ขอบใจเจ้ามากน้องเหวย "
ทั้งสองเดินเคียงกันเข้าไปในห้อง จางเหวยนึกย้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างครอบครัวของเขาและจูเหวินกวง
เดิมทีตระกูลของจูเหวินกวงมีอาชีพค้าขาย แต่จูเหวินกวงกลับสมัครเข้ากองทัพและต้องตาแม่ทัพจางบิดาของเขาเข้า แม่ทัพจางจึงคิดปลุกปั้นจูเหวินกวงรับเป็นบุตรบุญธรรม กระทั่งบัดนี้ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพทักษิณ
“ท่านพ่อฝากความคำมาถึงท่านด้วย ยินดีกับท่านที่ได้บุตรสาวและขอให้นางปลอดภัย"
จูเหวินกวงพยักหน้าสีหน้าจริงจังขึ้น
"ขอบคุณพ่อบุญธรรม ข้าเองก็ละอายใจยิ่งในขณะที่ท่านพ่อลำบากอยู่ชายแดน ข้ากลับต้องอยู่ที่นี่”
“อย่าคิดมากไป ภรรยาคลอดบุตรสามีไม่อาจละทิ้งได้ ท่านพ่อเข้าใจขอรับ”
“อืม...ข้าจะรีบจัดการธุระที่นี่ให้เรียบร้อย แล้วจะตามไปสมทบโดยเร็วที่สุด"
เมื่อเข้าไปในห้อง ภรรยาของจูเหวินกวงมิได้อยู่ที่นี่เพราะนางเพิ่งคลอดบุตร ท่านหมอจึงให้นางบำรุงกำลังที่เรือนหลัง
บัดนี้จึงเป็นแม่นมที่กำลังอุ้มทารกน้อยอยู่เมื่อจูเหวินกวงเข้ามาแม่นมจึงวางทารกน้อยที่เพิ่งกินนมอิ่มและลืมตาเล่นลงบนเปลอุ่น
จางเหวยก้มลงมองเด็กหญิงตัวน้อย ใบหน้ากลมป้อมและผิวขาวนวลดั่งหยกขัด หน้าตาน่ารักน่าชังยังตัวกลมป้อมเหมือนก้อนแป้งน้อยก้อนหนึ่งที่วางอยู่ในเปล ดวงตากลมโตจ้องมองเขาอย่างสงสัยใคร่รู้
"น่ารักจริงๆ ขอรับ" จางเหวยยิ้มอย่างอ่อนโยน "ท่านตั้งชื่อให้หลานน้อยหรือยังขอรับ"
จูเหวินกวงส่ายหน้า
"ยังเลย ข้ากำลังคิดอยู่เจ้ามีข้อเสนอไหมน้องเหวย เจ้าเป็นคนเชี่ยวชาญทั้งการเขียนพู่กัน โครงกลอนในเมืองหลวงนี้เรื่องบุ๋นและบู้นับว่าเจ้าเก่งที่สุด ข้าไว้ใจเจ้า"
จางเหวยครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว
"หากท่านไม่รังเกียจ ให้นางมีนามว่า 'จูเมย' ดีหรือไม่ด้วยหวังว่านางจะงดงามดั่งดอกเมยที่เบ่งบานมีความสุขตลอดชีวิต"
"จูเมย..."
จูเหวินกวงทวนคำ ก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ
"ชื่อที่ไพเราะนัก ชื่อนี้มีความหมายแห่งความงามและความอดทน นับเป็นชื่อที่มีความหมายที่ดียิ่ง"
จางเหวยยิ้มก่อนจะเอ่ยเสริม
"และหากท่านอนุญาต ข้าอยากเรียกชื่อรองของนางว่า 'เมยเมย'ด้วย"
"แน่นอน เจ้าเป็นท่านอาของนางนี่นามรอง เมยเมย นี้ดียิ่ง"
จูเหวินกวงตอบอย่างยินดี
จางเหวยจึงหยิบกล่องไม้ออกมา เปิดออกเผยให้เห็นปิ่นหยกขาวรูปดอกท้อที่อยู่ในนั้น
"นี่คือของขวัญที่ข้าเตรียมมาให้เมยเมย หวังว่าจะเป็นเครื่องรางนำโชคให้นางตลอดไป"
จูเหวินกวงรับหยกมาด้วยความซาบซึ้ง
"น้องเหวย เจ้าช่างมีน้ำใจปิ่นหยกขาวนี่ข้ารู้ดีว่าไทเฮาพระราชทานให้เจ้ามิใช่หรือ หยกขาวนี่ว่ากันว่าหากผู้ใดได้ครอบครองแล้วจะมีชีวิตยืนยาว ของล้ำค่านี้มิใช่ว่าจะสามารถหาได้ง่ายได้ เจ้ายังมอบให้หลานสาวคนนี้ของเจ้าไยไม่เก็บไว้ให้เจ้าสาวในอนาคตเล่า”
จางเหวยเอ่ยเบา ๆ
“พวกเราคือนักรบอย่าเอ่ยถึงเรื่องเจ้าสาวเลยแม้แต่ชีวิตของข้าก็ไม่รู้ว่าจะรอดกลับมาได้หรือไม่ ดังนั้นมอบให้เมยเมยนั่นเหมาะสมที่สุดแล้ว”
จูเหวินกวงพยักหน้า เรื่องหน้าที่ทหารนี้ผู้ใดจะรู้เท่าพวกเขากันเล่า
“เช่นนั้นข้าจะให้พี่สะใภ้ของเจ้าเก็บรักษาไว้ให้เมยเมยจนกว่านางจะโตพอที่จะปักมันได้ ถือว่าเป็นของขวัญล่วงหน้าวันปักปิ่นของนางก็แล้วกัน"
ขณะนั้นเอง เสียงกลองดังมาแต่ไกล สัญญาณเรียกทหารเข้าประจำการ จางเหวยถอนหายใจเบาๆ
"ข้าคงต้องลาไปก่อน พรุ่งนี้ข้าต้องออกเดินทางไปชายแดนแล้ว"
“น้องรองข้าจะรีบตามเจ้าไป”
จางเหวยยิ้ม
“ท่านไม่จำเป็นต้องเร่งร้อน ยังมีเวลาให้ท่านอยู่กับครอบครัวตอนนี้ชายแดนสงบสุข ระหว่างนี้ข้ากับท่านพ่อจะไม่ยอมให้พวกต้าเหวินรุกรานเป็นอันขาด”
หนังสืออื่นๆ ของ ซีไซต์
ข้อมูลเพิ่มเติม