Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
128
ชม
10
บท

เพราะความเห็นแก่ตัวของใครบางคน ก่อเกิดการแยกจากของคนทั้งสอง วันเวลาผ่านไป.. หัวใจของเขาหวนคืนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับอีกหนึ่งความลับที่ทำให้เขาแทบคลั่ง! แผนการทวงคืนทุกอย่างค่อยๆเริ่มขึ้น เขา.. ผู้ไม่สนใจใครหน้าไหน และแม้แต่วิธีการเขาก็ไม่เลือก ขอแค่ทวงคืนเธอได้ ต่อให้เลวแค่ไหน.. ใครจะสน!

บทที่ 1 Love destiny : ย้อนวันวาน

เชียงใหม่ ประเทศไทย

ช่วงฤดูหนาวที่กลับมาอีกครั้งพร้อมกับการบานสะพรั่งของดอกสุพรรณิการ์ที่ขึ้นอยู่รายรอบในอาณาเขตของเรือนฝ้ายคำ สีเหลืองอร่ามของดอกที่ชูช่ออยู่บนยอดกิ่งไม้นั้นดูเข้ากันได้ดีกับฉากฉากหลังของท้องนภาอันกว้างใหญ่ สายลมที่พัดผ่านทำให้พุ่มดอกเอนไหวไปมาดูน่าหลงใหล และทั้งที่ธรรมชาติตรงหน้าดูสวยงามชวนให้รู้สึกผ่อนคลายแต่กลับไม่ใช่ในใจของใครบางคน โดยเฉพาะกับชวัลดนย์

ใบหน้าหล่อเหลาแหงนเงยขั้นมองดอกสุพรรณิการ์นิ่งมาเป็นเวลานานแล้ว ร่างสูงยืนพิงทิ้งสะโพกลงบนฝากระโปรงรถหรูอยู่แบบนั้นมานานนับชั่วโมง ดวงตาคมที่ทอดมองต้นสุพรรณิการ์นั้นทอประกายอ่อนโยนอย่างที่ใครหลายคนก็ไม่อาจจะได้เห็น เขามาที่นี่ทุกวันทั้งเช้าและเย็นไม่ใช่แค่เพียงเพื่อมาดูต้นสุพรรณิการ์เท่านั้น แต่ลึกๆ ในใจของเขานั้นหวังเสมอว่าการมาของเขาจะได้พบเจอกับใครคนหนึ่ง คนที่เขาเฝ้ารอมาตลอดว่าเธอจะกลับมาในสักวันหนึ่ง

ชวัลดนย์ไม่รู้เลยว่าเขาจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่เพื่อจะได้พบเธออีกครั้ง เธอผู้เป็นรักแรกและรักเดียวของเขา รอยยิ้มละมุนปรากฎขึ้นที่มุมปากยามเมื่อได้นึกถึงช่วงเวลาครั้งแรกที่เขาได้พานพบกับเธอ…

ร่างเล็กของเด็กหญิงวัยแปดขวบผู้มีรูปร่างผอมบางแต่ผิวพรรณขาวสะอาดราวกับกระเบื้องชิ้นดีกำลังเป็นจุดสนใจของเด็กหนุ่มวัยสิบหกปี จะด้วยเพราะความซุกซนตามวัยหรือความแก่นเซี้ยวเกินไปของเด็กหญิงก็ไม่อาจคาดเดาได้ แต่นั่นก็ทำให้ชวัลดนย์เผลอยิ้มออกมาได้อย่างไม่ทันรู้ตัว

… เด็กหญิงสุพรรณิการ์ผู้ที่กำลังตกเป็นที่สนใจต่อสายตาเอ็นดูคู่นั้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาวาดรูปต่อไปแม้ว่าตอนนี้เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่นั้นจะเลอะเปื้อนสีจนดูสกปรกไปหมด

ชวัลดลย์ค่อยๆ สาวเท้าเข้ามาดูใกล้ๆ ด้วยท่าทางอารมณ์ดีอย่างที่ตัวเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ได้

‘โอ้โห... สวยแฮะ’ น้ำเสียงเชิงหยอกเย้าดังขึ้นและนั่นทำให้เด็กหญิงสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมทั้งหันกลับไปมองคนที่กำลังเดินเข้ามาด้วยความสงสัย มือเล็กที่ยังคงถือพู่กันไว้ค่อยๆ ลดลงข้างลำตัวพลางกระพริบตาปริบๆ มองคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละความสงสัย

‘พี่เป็นใครน่ะ’ เสียงเด็กหญิงถามขึ้น

‘พี่ก็… เป็นหลานของคุณยายกรแก้วไงล่ะ’ ชวัลดนย์แกล้งตอบออกไป

‘ห๊ะ... ไม่ใช่แล้ว หนูต่างหากที่เป็นหลานของคุณยาย พี่น่าจะมั่วแล้ว’ เสียงเจื้อยแจ้วตอบสวนกลับด้วยวาจาทั้งฉะฉานและท่าทีที่ขึงขัง

กิริยานั้นของเด็กหญิงยิ่งทำให้ชวัลดนย์นึกสนุกที่ได้แกล้งและเอ็นดูความโต้ตอบของอีกฝ่ายอย่างที่สุด ชวัลดนย์ลดตัวย่อลงให้เสมอกับร่างเล็กนั้นเขาจ้องเขาไปในดวงตากลมโตคู่ใสนั้นแล้วมองนิ่งๆอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ลึกๆในใจของเขากลับนึกชอบเหลือเกินกับดวงตาคู่นี้แบบที่เขาก็ไม่สามารถอธิบายหรือหาเหตุผลให้กับตัวเองได้เหมือนกัน

‘ปากคอเลาะร้ายนะเรา’ เขาแกล้งว่าแต่มุมปากยกยิ้มอย่างชอบใจ

‘หนูไม่ได้ร้ายสักหน่อย ก็พี่มาโมเมว่าเป็นหลานของคุณยายนี่นาหนูก็จะบอกว่าไม่ใช่ หนูต่างหากที่เป็นหลานของคุณยาย พี่น่ะไม่ใช่’

‘โอเค.. ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่าพี่ชื่อชวัลดนย์ เรียกพี่ดนย์ก็ได้ พี่มากับคุณแม่มาเยี่ยมคุณยายกรแก้วกับคุณตาพงษ์อินทร์’ ชวัลดนย์บอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นยอมรับว่าเขารู้สึกถูกชะตากับเด็กผู้หญิงตรงหน้าคนนี้เข้าให้แล้ว

‘แล้วหนูล่ะชื่ออะไร?’

‘หนูชื่อเด็กหญิงสุพรรณิการ์ สิริภาวิน ชื่อเล่นว่าเอยค่ะ’ เสียงตอบดังฟังชัดและเป็นทางการของเด็กหญิงทำให้ชวัลดนย์หลุดยิ้มอย่างเอ็นดู

‘แล้วพื่เป็นใครมาทำอะไอยู่ตรงนี้ หนูกำลังวาดรูปอยู่นะ มันต้องใช้สมาธินะ’ เด็กหญิงพูดด้วยท่าทีที่จริงจังพลางชี้มื่อไปที่เฟรมไม้ที่มีกระดาษแผ่นใหญ่ขึงกางอยู่ และในกระดาษแผ่นนั้นก็ปรากฎภาพวาดที่โย้ไปเย้มาประกอบกับสีน้ำที่ถูกระบายแต่งแต้มจนแทบจะแยกสีไม่ออกและชวัลดนย์ก็ไม่รู้ด้วยช้ำว่าภาพนั้นมันคืออะไรกันแน่

‘ก็สวยดีอยู่หรอกแต่ดูยากจังเลย’ เขาบอกคล้ายให้กำลังใจ สายตาจ้องมองที่ภาพนั้นอย่างเพ่งพิจารณา

‘มันคือต้นสุพรรณิการ์ไงคะ พี่ดูไม่ออกหรอเนี่ย’ เด็กหญิงพูดด้วยสีหน้าที่ดูคล้ายหงุดหงิดเล็กน้อย

‘อ้อ ที่แท้ก็ต้นสุพรรณิการ์นี่เอง สวยจนดูไม่ออกเลยแฮะ’ เขาพูดแล้วเผลอหลุดขำออกมา แล้วก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้างอง้ำของเด็กน้อย

‘พี่จะบอกว่าหนูวาดรูปไม่สวยหรอ’

‘พี่ขอโทษค่ะ เอาอย่างนี้ไหมเรามาช่วยกันวาดใหม่เอาให้สวยๆกว่านี้ดีไหม’

ชวัลดนย์เอ่ยคำขอโทษอย่างง่ายดายพร้อมทั้งพูดเอาใจเด็กน้อยของเขา และเหมือนจะได้ผลเมื่อเด็กหญิงพยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย ไม่นานทั้งสองก็ช่วยกันวาดรูปโดยที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นชวัลดนย์มากกว่าที่วาดและลงสีโดยมีเด็กหญิงยืนอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกหรือว่าคิดอะไรอยู่

‘เอาล่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้ว’

‘หนูว่ามันไม่ใช่นะ’ เสียงเด็กหญิงแย้งขึ้น

‘ไม่ใช่อะไร?’

‘ไม่ใช่ต้นสุพรรณิการ์ไง’

‘ทำไมล่ะ ก็เหมือนอยู่นะ’

‘เหมือนของหนูไง เนี่ยเหมือนกันเลย’

เด็กหญิงพูดพร้อมทั้งใช้นิ้วจิ้มที่ภาพวาดของตัวเองก่อนหน้านั้น ชวัลดนย์มองตามเขาพิจารณามองภาพทั้งสองสลับกับมองใบหน้าเล็กของเด็กหญิงก่อนจะยิ้มแบบเขินอายออกมา

‘เอ่อ เหมือนกันจริงๆด้วย’

‘พี่กี่ขวบแล้วเนี่ย ยังวาดภาพเหมือนเด็กอยู่อีกหรอ’

‘ห๊ะ! เดี๋ยวเถอะยัยตัวเล็ก!’

กว่าจะรู้ว่าโดนยัยตัวเล็กสบประมาทเข้าให้ร่างเล็กก็วิ่งฉิวหนีเขาไปไกลแล้ว ร่างสูงวิ่งไล่ตามจับท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของเด็กหญิงที่วิ่งหนีโดยมีเขาคอยไล่ล่า เสียงหัวเราะแสนสดใสนั้นยังดังก้องอยู่ในความทรงจำของเขา

ดวงตาคมหลับนิ่งพร้อมกับรอยยิ้มละมุนเมื่อหวนคิดถึงความหลังก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกรบกวนจากเสียงอื่นที่แทรกเข้ามา..

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ LadyDarkSidE

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ขอโอกาสอีกครั้ง

ขอโอกาสอีกครั้ง

โรแมนติก

5.0

หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ” เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

โรแมนติก

5.0

รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน

กระต่ายน้อยดวงใจอ๋องพยัคฆ์

กระต่ายน้อยดวงใจอ๋องพยัคฆ์

โรแมนติก

5.0

ตั้งแต่เกิดกระทั่งจำความได้ จินซิงซิน รับรู้แค่ว่านางเป็นเพียงบุตรสาวกำพร้าของพ่อค้าตระกูลใหญ่ ชั่วชีวิตน้อยๆ มีเพียงท่านยาย พี่สาวต่างมารดาเท่านั้นที่คอยห่วงใย จนกระทั่งได้เจอกับ หลี่หลานหมิง ผู้มีสมญานามว่าอ๋องพยัคฆ์ที่ผู้คนโจษขานกันว่าโหดร้ายยิ่งนัก สังหารผู้คนเป็นผักปลา แสนเย็นชาดั่งน้ำค้างแข็งจนมิอาจมีผู้ใดใต้หล้าหาญกล้าต่อกร ทั้งสองต้องแต่งงานกันตามบัญชาของโอรสสวรรค์ท่ามกลางอุปสรรคมากมาย หลี่หลานหมิงจะทำเช่นใดในเมื่อสตรีที่ร่วมหัวจมท้ายด้วยอย่างชายากระต่ายน้อยกลับเติบโตเพียงแค่ร่างกาย ส่วนสภาพจิตใจนั้นอ่อนด้อยราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปาน... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ หลี่หลานหมิงที่รู้สึกตัวและพลิกตัวจากอาการเมื่อยขบแต่พบว่าไม่สามารถทำได้ แค่บิดตัวเล็กน้อยก็รู้สึกร่างกายแข็งค้างราวกับไร้เรี่ยวแรง ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน... ที่แท้เพราะเมื่อคืนเขาถูกกระต่ายหลงทางกอดก่ายเอาเป็นสมบัติตนจนกระดิกไปไหนไม่ได้ นางคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! น่าโมโหนัก! อ๋องสี่หลี่หลานหมิงกระดิกตัวแทบไม่ได้คล้ายเป็นตะคริวเพราะกระต่ายหลงตัวโตไม่ยอมคลายกอด กว่าร่างจะกลับฟื้นกำลังวังชาก็นานพอควร กระทั่งมีเสียงฝีเท้าดังสวบสาบจากหน้ากระโจมดังเล็ดลอดเข้ามา หลี่หลานหมิงจึงรู้สึกตัวว่าอยู่ในสภาพไม่น่ามอง รีบผุดลุกนั่งเอื้อมคว้ากระบี่คู่ใจข้างกายกระชับมั่น แต่เพราะความเคลื่อนไหวของเขาทำให้เตียงไหวสั่นจนคนที่นอนเริ่มขยับตัวและวาดมือมาคว้าเอวเขาเอาไว้อีกครา “อย่าไปตุ้งตุ้ง...” “นี่เจ้า! ข้ามิใช่ตุ้งตุ้งของเจ้า ปล่อย!” หลี่หลานหมิงคำรามแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไร้ซึ่งความรับรู้ใดๆ “ซิงซินยังไม่อยากตื่นเลย...ท่านยาย” ดี... ดีแท้! เมื่อครู่เปรียบเขาเป็นกระต่ายหูเทา คราวนี้กลับกลายเป็นท่านยายของนางอีก หลี่หลานหมิงปรายตามองดวงหน้าดรุณีน้อยที่ยังหลับพริ้มในห้วงนิทราแล้วถึงกับนิ่งงัน นางช่างงดงามปานเทพธิดามาจุติ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของนางที่กดลงบนซอกคอของเขาตามจังหวะหายใจทั้งยังแก้มหอมกรุ่นที่เผลอจูบลูบไล้และเรือนร่างนุ่มนิ่มที่คอยเบียดยามหนาวเหน็บตลอดคืน หึ! มารดาเจ้าเถอะ! กระต่ายน้อยเอ๋ย... เขาควรสั่งสอนนางไม่ควรปล่อยให้หลุดรอดจากกรงเล็บเพชฌฆาตไปได้จริงๆ อ๋องสี่หลี่หลานหมิงผู้ซึ่งมิได้อ่อนต่อโลกแต่ไม่เคยแสวงหาสตรีงามสักคนข้างกายถึงคราวหนาวยะเยือกในใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเลยสักครั้งในชีวิตที่นึกอยากได้สตรีมาครอบครองเป็นสมบัติของตัวบังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ความรู้สึกนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว กระต่ายน้อยหลงทางตัวนี้ต้องรับผิดชอบ!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ