Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
129
ชม
10
บท

เพราะความเห็นแก่ตัวของใครบางคน ก่อเกิดการแยกจากของคนทั้งสอง วันเวลาผ่านไป.. หัวใจของเขาหวนคืนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับอีกหนึ่งความลับที่ทำให้เขาแทบคลั่ง! แผนการทวงคืนทุกอย่างค่อยๆเริ่มขึ้น เขา.. ผู้ไม่สนใจใครหน้าไหน และแม้แต่วิธีการเขาก็ไม่เลือก ขอแค่ทวงคืนเธอได้ ต่อให้เลวแค่ไหน.. ใครจะสน!

บทที่ 1 Love destiny : ย้อนวันวาน

เชียงใหม่ ประเทศไทย

ช่วงฤดูหนาวที่กลับมาอีกครั้งพร้อมกับการบานสะพรั่งของดอกสุพรรณิการ์ที่ขึ้นอยู่รายรอบในอาณาเขตของเรือนฝ้ายคำ สีเหลืองอร่ามของดอกที่ชูช่ออยู่บนยอดกิ่งไม้นั้นดูเข้ากันได้ดีกับฉากฉากหลังของท้องนภาอันกว้างใหญ่ สายลมที่พัดผ่านทำให้พุ่มดอกเอนไหวไปมาดูน่าหลงใหล และทั้งที่ธรรมชาติตรงหน้าดูสวยงามชวนให้รู้สึกผ่อนคลายแต่กลับไม่ใช่ในใจของใครบางคน โดยเฉพาะกับชวัลดนย์

ใบหน้าหล่อเหลาแหงนเงยขั้นมองดอกสุพรรณิการ์นิ่งมาเป็นเวลานานแล้ว ร่างสูงยืนพิงทิ้งสะโพกลงบนฝากระโปรงรถหรูอยู่แบบนั้นมานานนับชั่วโมง ดวงตาคมที่ทอดมองต้นสุพรรณิการ์นั้นทอประกายอ่อนโยนอย่างที่ใครหลายคนก็ไม่อาจจะได้เห็น เขามาที่นี่ทุกวันทั้งเช้าและเย็นไม่ใช่แค่เพียงเพื่อมาดูต้นสุพรรณิการ์เท่านั้น แต่ลึกๆ ในใจของเขานั้นหวังเสมอว่าการมาของเขาจะได้พบเจอกับใครคนหนึ่ง คนที่เขาเฝ้ารอมาตลอดว่าเธอจะกลับมาในสักวันหนึ่ง

ชวัลดนย์ไม่รู้เลยว่าเขาจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่เพื่อจะได้พบเธออีกครั้ง เธอผู้เป็นรักแรกและรักเดียวของเขา รอยยิ้มละมุนปรากฎขึ้นที่มุมปากยามเมื่อได้นึกถึงช่วงเวลาครั้งแรกที่เขาได้พานพบกับเธอ…

ร่างเล็กของเด็กหญิงวัยแปดขวบผู้มีรูปร่างผอมบางแต่ผิวพรรณขาวสะอาดราวกับกระเบื้องชิ้นดีกำลังเป็นจุดสนใจของเด็กหนุ่มวัยสิบหกปี จะด้วยเพราะความซุกซนตามวัยหรือความแก่นเซี้ยวเกินไปของเด็กหญิงก็ไม่อาจคาดเดาได้ แต่นั่นก็ทำให้ชวัลดนย์เผลอยิ้มออกมาได้อย่างไม่ทันรู้ตัว

… เด็กหญิงสุพรรณิการ์ผู้ที่กำลังตกเป็นที่สนใจต่อสายตาเอ็นดูคู่นั้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาวาดรูปต่อไปแม้ว่าตอนนี้เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่นั้นจะเลอะเปื้อนสีจนดูสกปรกไปหมด

ชวัลดลย์ค่อยๆ สาวเท้าเข้ามาดูใกล้ๆ ด้วยท่าทางอารมณ์ดีอย่างที่ตัวเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ได้

‘โอ้โห... สวยแฮะ’ น้ำเสียงเชิงหยอกเย้าดังขึ้นและนั่นทำให้เด็กหญิงสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมทั้งหันกลับไปมองคนที่กำลังเดินเข้ามาด้วยความสงสัย มือเล็กที่ยังคงถือพู่กันไว้ค่อยๆ ลดลงข้างลำตัวพลางกระพริบตาปริบๆ มองคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละความสงสัย

‘พี่เป็นใครน่ะ’ เสียงเด็กหญิงถามขึ้น

‘พี่ก็… เป็นหลานของคุณยายกรแก้วไงล่ะ’ ชวัลดนย์แกล้งตอบออกไป

‘ห๊ะ... ไม่ใช่แล้ว หนูต่างหากที่เป็นหลานของคุณยาย พี่น่าจะมั่วแล้ว’ เสียงเจื้อยแจ้วตอบสวนกลับด้วยวาจาทั้งฉะฉานและท่าทีที่ขึงขัง

กิริยานั้นของเด็กหญิงยิ่งทำให้ชวัลดนย์นึกสนุกที่ได้แกล้งและเอ็นดูความโต้ตอบของอีกฝ่ายอย่างที่สุด ชวัลดนย์ลดตัวย่อลงให้เสมอกับร่างเล็กนั้นเขาจ้องเขาไปในดวงตากลมโตคู่ใสนั้นแล้วมองนิ่งๆอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ลึกๆในใจของเขากลับนึกชอบเหลือเกินกับดวงตาคู่นี้แบบที่เขาก็ไม่สามารถอธิบายหรือหาเหตุผลให้กับตัวเองได้เหมือนกัน

‘ปากคอเลาะร้ายนะเรา’ เขาแกล้งว่าแต่มุมปากยกยิ้มอย่างชอบใจ

‘หนูไม่ได้ร้ายสักหน่อย ก็พี่มาโมเมว่าเป็นหลานของคุณยายนี่นาหนูก็จะบอกว่าไม่ใช่ หนูต่างหากที่เป็นหลานของคุณยาย พี่น่ะไม่ใช่’

‘โอเค.. ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่าพี่ชื่อชวัลดนย์ เรียกพี่ดนย์ก็ได้ พี่มากับคุณแม่มาเยี่ยมคุณยายกรแก้วกับคุณตาพงษ์อินทร์’ ชวัลดนย์บอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นยอมรับว่าเขารู้สึกถูกชะตากับเด็กผู้หญิงตรงหน้าคนนี้เข้าให้แล้ว

‘แล้วหนูล่ะชื่ออะไร?’

‘หนูชื่อเด็กหญิงสุพรรณิการ์ สิริภาวิน ชื่อเล่นว่าเอยค่ะ’ เสียงตอบดังฟังชัดและเป็นทางการของเด็กหญิงทำให้ชวัลดนย์หลุดยิ้มอย่างเอ็นดู

‘แล้วพื่เป็นใครมาทำอะไอยู่ตรงนี้ หนูกำลังวาดรูปอยู่นะ มันต้องใช้สมาธินะ’ เด็กหญิงพูดด้วยท่าทีที่จริงจังพลางชี้มื่อไปที่เฟรมไม้ที่มีกระดาษแผ่นใหญ่ขึงกางอยู่ และในกระดาษแผ่นนั้นก็ปรากฎภาพวาดที่โย้ไปเย้มาประกอบกับสีน้ำที่ถูกระบายแต่งแต้มจนแทบจะแยกสีไม่ออกและชวัลดนย์ก็ไม่รู้ด้วยช้ำว่าภาพนั้นมันคืออะไรกันแน่

‘ก็สวยดีอยู่หรอกแต่ดูยากจังเลย’ เขาบอกคล้ายให้กำลังใจ สายตาจ้องมองที่ภาพนั้นอย่างเพ่งพิจารณา

‘มันคือต้นสุพรรณิการ์ไงคะ พี่ดูไม่ออกหรอเนี่ย’ เด็กหญิงพูดด้วยสีหน้าที่ดูคล้ายหงุดหงิดเล็กน้อย

‘อ้อ ที่แท้ก็ต้นสุพรรณิการ์นี่เอง สวยจนดูไม่ออกเลยแฮะ’ เขาพูดแล้วเผลอหลุดขำออกมา แล้วก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้างอง้ำของเด็กน้อย

‘พี่จะบอกว่าหนูวาดรูปไม่สวยหรอ’

‘พี่ขอโทษค่ะ เอาอย่างนี้ไหมเรามาช่วยกันวาดใหม่เอาให้สวยๆกว่านี้ดีไหม’

ชวัลดนย์เอ่ยคำขอโทษอย่างง่ายดายพร้อมทั้งพูดเอาใจเด็กน้อยของเขา และเหมือนจะได้ผลเมื่อเด็กหญิงพยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย ไม่นานทั้งสองก็ช่วยกันวาดรูปโดยที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นชวัลดนย์มากกว่าที่วาดและลงสีโดยมีเด็กหญิงยืนอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกหรือว่าคิดอะไรอยู่

‘เอาล่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้ว’

‘หนูว่ามันไม่ใช่นะ’ เสียงเด็กหญิงแย้งขึ้น

‘ไม่ใช่อะไร?’

‘ไม่ใช่ต้นสุพรรณิการ์ไง’

‘ทำไมล่ะ ก็เหมือนอยู่นะ’

‘เหมือนของหนูไง เนี่ยเหมือนกันเลย’

เด็กหญิงพูดพร้อมทั้งใช้นิ้วจิ้มที่ภาพวาดของตัวเองก่อนหน้านั้น ชวัลดนย์มองตามเขาพิจารณามองภาพทั้งสองสลับกับมองใบหน้าเล็กของเด็กหญิงก่อนจะยิ้มแบบเขินอายออกมา

‘เอ่อ เหมือนกันจริงๆด้วย’

‘พี่กี่ขวบแล้วเนี่ย ยังวาดภาพเหมือนเด็กอยู่อีกหรอ’

‘ห๊ะ! เดี๋ยวเถอะยัยตัวเล็ก!’

กว่าจะรู้ว่าโดนยัยตัวเล็กสบประมาทเข้าให้ร่างเล็กก็วิ่งฉิวหนีเขาไปไกลแล้ว ร่างสูงวิ่งไล่ตามจับท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของเด็กหญิงที่วิ่งหนีโดยมีเขาคอยไล่ล่า เสียงหัวเราะแสนสดใสนั้นยังดังก้องอยู่ในความทรงจำของเขา

ดวงตาคมหลับนิ่งพร้อมกับรอยยิ้มละมุนเมื่อหวนคิดถึงความหลังก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกรบกวนจากเสียงอื่นที่แทรกเข้ามา..

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ LadyDarkSidE

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

จิรัฐติกาล
3.5

จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

ซีไซต์
5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ