Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คนนี้ผมจองเป็นเมีย

คนนี้ผมจองเป็นเมีย

Ohlala Belle journeé

5.0
ความคิดเห็น
2.8K
ชม
24
บท

ปล่อยตรงอกนิแหละจะได้มีคราบ หึหึหึ แม่งผมไม่รอช้าดูดทำรอยให้เต็มเลยแสบนัก.. เฮ้อทำไมปวดหัวจังหวะหนักๆๆไปหมดฉันมองเพดานฝ้าส่ายหัวไปมา เฮ้ยยๆๆใครวะโอ้ววแม่เจ้า “ตื่นแล้วเหรอด้าด้าของผม” “เออๆๆคุณมาร์ตินค่ะคือเรา”

บทที่ 1 แนะนำตัวละคร

1.แนะนำตัวละคร

มาร์ติน วิลเดอร์ ชื่อเล่น ติน

เป็นหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศส-อิตาลี-เวียดนาม(พ่อมาร์ตินเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศสอิตาลี)รูปร่างสูงหน้าตาเหมือนนายแบบปกนิตยสารเขาเป็นผู้ชายอารมณ์ดีขี้เล่นแต่นั้นคือนิสัยแค่ส่วนหนึ่งมาร์ตินเป็นคนหลายบุคคลิกรักเพื่อนสุดหัวใจและเป็นเพื่อนกับมาร์ค (มาร์ค จากเรื่องรักออนไลน์)

นิดา วิจิตรกุล ดา/นิด้า/ด้าด้า

นิดาเป็นสาวขยันและทำงานสารพัดไม่เกี่ยงงานและเป็นคนอ่อนนอกแข็งในเป็นลูกสาวคนเล็กพ่อแม่สมัยใหม่เป็นเด็กพัทยาแต่โดยพื้นฐานครอบครัวเป็นคนอุดรและย้ายมาอยู่พัทยาเพราะพ่อเป็นคนพัทยานิดาสนิทกับนา(นา จากเรื่องรักออนไลน์)

บริษัท WinderGroup ให้บริการด้านขนส่งที่ใหญ่ที่สุดมีเครือข่ายและสาขามากมายทั้งยุโรปและเอเชียและทรงอิธพลซึ่งมีเจ้าของชื่อมิสเตอร์.มาร์คัส วิลเดอร์ ผู้กุมอำนาจรายใหญ่และมีลูกชายสามคนและเป็นผู้สืบทอดธุรกิจ

ลูกชายคนโต มาร์เวล์ วิลเดอร์

ลูกชายคนรองมาร์วิล วิลเดอร์

ลูกชายคนเล็ก มาร์ติน วิลเดอร์

ประเทศฝรั่งเศส

ติน>ฮัลโหลว่าไงไอ้คุณมาร์คร้อยวันพันปีไม่เห็นโทรมา

มาร์ค>นายว่างไหมไอ้คุณมาร์ติน

ติน>ว่างตลอดมีไรว่ามา

มาร์ค>นัดดื่มหน่อยดิวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยง

ติน>เอ้อจัดไปแค่นี้ละ

ผมวางสายจากไอ้มาร์คก็นั่งคิดไปเรื่อยเปื่อย ตี๊ดๆๆตี๊ดๆ ใครวะอ้าวป๊า

ติน>ว่าไงครับป๊า” ผมก็รอฟังป๊าพูดสงสัยโดนบ่น

ป๊า>มาร์ตินแกทำอะไรอยู่ป๊าบอกให้แกมาช่วยงานมาร์วิลหน่อย

ติน>ฮื้มม! ผมขอเคลียงานทางนี้ให้เสร็จก่อนเดี๋ยวผมก็ไป

ป๊า>ไม่ใช่แกมัวแต่ทำตัวลอยไปลอยมาไง

ติน>โอ้ยย!ป๊ามันก็มีบ้างแหละอีกสองวันผมไป

ป๊า>เออๆ แค่นี้แหละอย่าให้ฉันได้ตามแกอีกนะมาร์ติน

ติน>ครับๆๆ เฮ้อๆทำไมชีวิตมันยุ่งยากไปหมดเลยวะ

เมื่อถึงเวลานัดกับไอ้มาร์ค

“อ้าวเฮ้ยไอ้มาร์คเป็นไงมั้งวะเห็นหายเงียบไปนานแสนนานนึกว่าจะลืมเพื่อนที่แสนดีอย่างฉันร้อยวันพันปีไม่เห็นอยากคุยกับเพื่อนอย่างฉันเลยว่ามามีอะไรจะคุย”

“ไอ้ตินฉันเคยได้ยินนายบ่นๆอยากไปเที่ยวไทยพอดีฉันอยากไปด้วย”

“ใช่แต่ยังไม่แน่ใจวะเพราะช่วงนี้งานเยอะมากงบประมาณไม่ลงตัวโดนป๊าบ่นวะว่าทำตัวลอยไป ลอยมา ไม่มีความรับผิดชอบเลยต้องเข้าไปจัดการหลายๆอย่างถ้าไงฉันจะให้คำตอบนายอีกทีถ้าแก้ไขปัญหาลงตัวไม่มีอะไรติดขัดจะบอกนายอีกทีว่าจะเที่ยววันไหนช่วงไหนได้ไหม แล้วนายเป็นยังไงมาร์คกับเทียร์น่าและงานนายละ”

"ก็เหนื่อยนะงานแต่ก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไรแต่เทียร์น่าหน้าจะงอลวะเพราะทำแต่งานไม่มีเวลาให้เลย”

“ระวังนะไอ้มาร์คปล่อยปละละเลยเดี๋ยวผู้หญิงก็เทนายทิ้งหรอก”

“ไม่หรอกเทียร์น่าไม่ใช่คนแบบนั้น”

“ของแบบนี้มันก็ไม่แน่นะโว้ยไอ้มาร์คไอ้มาร์คเกือบลืมพี่มาร์เวล์ชวนลงทุนซื้อหุ้นโรงแรมญาติแม่พี่มาร์เวล์มันจะเจ้งมั้งจริงๆมันต้องเป็นของพี่มาร์เวล์ญาติๆๆโกงกันมั้งฉันเลยชวนนายไปเทคโอเวอร์หุ้นคนละยี่สิบเปอร์เซ็นต์”

“ฮื้ม!ก็ได้ไอ้ตินป๊าฉันก็ไม่หน้ามีปัญหานายก็หน้าจะรู้ฉันลูกคนเดียว”

“ตามนั้นไอ้คุณมาร์คงั้นฉันขอตัวก่อนนะโว้ยต้องรีบไปเคลียร์งานต้องไปอิตาลีป๊าเรียกตัวด่วน”

“ว่างๆๆก็เจอะกันไอ้ติน”

เมื่อผมแยกตัวจากไอ้มาร์คผมก็กลับมาที่บริษัทเพื่อจะมาเคลียร์งานต่างๆๆเพื่อเตรียมตัวไปที่อิตาลีตามคำสั่งป๊า..เฮ้อเสร็จสักที่ผมกลับไปพัก..เช้าผมก็เดินทางไปอิตาลี..

“สวัสดีครับนายน้อยนายใหญ่ให้มารับ”

“ฮื้มมป๊าให้ไปไหน”

“ไปพักก่อนครับ”

“ตามนั้น”

เมื่อถึงอพาร์ทเม้นผมก็ทิ้งตัวลงนอน จนเลยเวลาหลับตื่นมาเช้าอีกวัน ผมออกไปก็เจอะลูกน้องพ่อ

“นายน้อยนายใหญ่ให้ไปบริษัทเลย”

“ฮื้มได้ซิ”

เมื่อถึงบริษัท

“อ้าวมาถึงแล้วเหรอ”

“ครับป๊า”

“ที่ฉันเรียกแกมาเพราะไอ้มาร์วิลมันโดนยิง”

“อะไรนะป๊ามันเกิดอะไรขึ้นครับ”

“พวกเสียผลประโยนช์ฉันไม่ปล่อยไว้แน่ๆฉันจะเรียกไอ้มาร์เวลกลับทางไทยก็ยังเคลียร์ปัญหายังไม่เรียบร้อยฉันเลยต้องเรียกแกมา”

“ป๊าสั่งมาเลยว่าจะให้ผมทำอะไร”

“ฉันจะให้แกไปคุยงานแทนไอ้มาร์วิลเพราะนักลงทุนมาจากอเมริกาส่วนเรื่องนั้นที่มีคนกะตุ๊กหนวดฉัน ฉันจะจัดการเอง”

“ครับป๊า” ป๊าผมอายุเยอะแต่เหมือนวัยรุ่นและจะโหดมากๆรองลงมาก็พี่มาร์เวล์และพี่มาร์วิลส่วนผมขี้เล็บของสามคนนี้เป็นลูกแง่เมื่อเสร็จธุระกับป๊าผมก็ไปนั่งห้องรองประธานบริษัทและดูเอกสารของคู่ค้าที่เลขาเตรียมไว้ให้หรือมือขวาของป๊าผมนั่งเช็คจนปวดไปหมด

“นายน้อยครับนายใหญ่จะให้เลขาคนใหม่มาดูแลนายน้อยครับ”

“อ้าวแล้วนายละเชฟ”

“ผมต้องไปกับนายใหญ่ครับ”

“ใครจะมาละ”

“น้องชายผมครับนายน้อยไม่ติดปัญหาอะไรใช่ไหมครับ” “ไม่อะเชฟจัดตามป๊าสั่งเลย”

“ครับนายน้อย”

พักใหญ่ๆๆผมนั่งเช็คเอกสารเสียงเคาะประตู..ก๊อกๆๆ “เชิญครับ”

“นายน้อยครับนี้มือขวาและเลขาคนใหม่”

“สวัสดีครับนายน้อยผมชื่อเจฟครับ”

“ยินดีต้อนรับเจฟ”

“ถ้านายน้อยสงสัยอะไรนายน้อยถามไอ้เจฟได้เลยนะครับเพราะผมสอนงานมันมาแล้วส่วนผมก็ต้องขอตัวไปพบนายใหญ่แล้ว”

“ฮื้มม!ตามนั้นเชฟ”

“ส่วนเจฟนายก็ทำตามที่นายได้เรียนมานั้นแหละถ้าฉันมีอะไรฉันจะเรียก”

“ครับนายน้อย”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

เทียนธีรา
5.0

เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

ข้าอยู่บน ท่านอ๋องอยู่ล่าง

ข้าอยู่บน ท่านอ๋องอยู่ล่าง

ซีไซต์
5.0

เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
คนนี้ผมจองเป็นเมีย
1

บทที่ 1 แนะนำตัวละคร

16/10/2023

2

บทที่ 2 จบมหาลัย

16/10/2023

3

บทที่ 3 ในที่สุดก็ได้งาน

17/10/2023

4

บทที่ 4 เล็กกะทัดรัด

18/10/2023

5

บทที่ 5 เรียกว่าพี่ตินซิ

19/10/2023

6

บทที่ 6 นางมารร้าย

20/10/2023

7

บทที่ 7 ร้องไห้ขี้มูกโป่ง

21/10/2023

8

บทที่ 8 ดาไม่ได้เป็นอะไรกับเขา

22/10/2023

9

บทที่ 9 จะไปลากเมีย NC

23/10/2023

10

บทที่ 10 อย่าขัดใจ NC

24/10/2023

11

บทที่ 11 ใครมารถโก้จัง

25/10/2023

12

บทที่ 12 ฉันมีตำรวจประจำตัว NC

26/10/2023

13

บทที่ 13 เพื่อนผู้ชายเยอะ

26/10/2023

14

บทที่ 14 ยายเด็กปีศาจอ่อย NC

27/10/2023

15

บทที่ 15 แพ้อะไร

28/10/2023

16

บทที่ 16 ถ้าเขาใช่คู่เรายังไงก็หนีไม่พ้น

29/10/2023

17

บทที่ 17 หมีกินผึ้ง NC

29/10/2023

18

บทที่ 18 ตาเฒ่าก็ฟิน NC

29/10/2023

19

บทที่ 19 ผมจะพาด้าด้าไปทำงาน

29/10/2023

20

บทที่ 20 ขยันสร้างเรื่อง

30/10/2023

21

บทที่ 21 เหมือนๆในละครหลังข่าว

30/10/2023

22

บทที่ 22 ห่างกันแค่กำแพงกั้น

31/10/2023

23

บทที่ 23 วันแต่งงาน

31/10/2023

24

บทที่ 24 บทส่งท้าย

31/10/2023