Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
นิยายเจ็ดบาป | ปฏิปักษ์รัก

นิยายเจ็ดบาป | ปฏิปักษ์รัก

คนประหลาด

5.0
ความคิดเห็น
24
ชม
1
บท

“ระหว่างกูกับความถูกต้อง มึงจะเลือกอะไร” “ผมเลือกความถูกต้อง และก็จะเอาคุณด้วย”

บทที่ 1 ตอนที่1 ราชสีห์กับหนู

กาลครั้งหนึ่งมีราชสีห์เจ้าป่าที่พลาดท่าติดบ่วงของนายพราน

ทว่ากลับมีเจ้าหนูแสนดีบังเอิญมาพบเลยช่วยปลดปล่อยราชสีห์จากพันธนาการ

เเต่! แต่! เเต่!

เจ้าหนูตัวนี้คงไม่เคยได้ยินสำนวนที่ว่า อย่าปล่อยเสือเข้าป่า มิเช่นนั้นมันจะนำพาหายนะมาให้

.

.

.

.

.

.

“ฮ่าๆ มึงนี่มันโคตรโง่เลยวะ ไม่ยอมอ่านสัญญาเอง แล้วยังมีหน้ามาว่ากูเอาเปรียบ กูให้เวลาอีกสองวันถ้ามึงไม่ย้ายออก มึงจะได้เป็นผีเฝ้าที่ตรงนั้นแหละ ไอ้โง่เอ้ย!”เสียงชายหน้าคมเข้มคุยโทรศัพท์ดังลั่นห้องทำงานใหญ่ กลางชุดสูทดำที่ถูกเปิดโล่งเพื่อความสะดวก เผยให้เห็นกล้ามอกอันหนักแน่นที่ถูกประดับประดาสวยงามด้วยรอยสักคำว่า“GREEDY”(ความโลภ) เป็นคำที่มีความหมายตรงตัวและเหมาะสมกับเขาเป็นที่สุด

“ท่านเมธีคะ”หญิงสาวผมบลอนด์ในชุดเดรสแดงพร้อมปากสีแดงจัดเป็นเงา เดินเข้ามาสู่สายตาหน้ากลัวของชายหนุ่ม

“มีอะไรเจนิเฟอร์!”นักธุรกิจหนุ่มขมวดคิ้วทำท่าทีไม่สบอารมณ์ใส่หญิงสาวตรงหน้า ต่างกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแสนน่ากลัวเมื่อสักครู่

“ดิฉัน อยากจะ ขอลาพักร้อนนะคะ”หญิงสาวพูดร้องขอด้วยท่าทางตะกุกตะกัก ไม่กล้าสู้สายตาสีมรกตที่กำลังก้าวเดินเข้าหาเธอ ทุกก้าวที่ย่างกราย ทำเอาหัวใจของหญิงสาวสั่นไหวราวกับจะถูกอีกฝ่ายควักออกไปทั้งเป็น

“คำขอของเธอขึ้นอยู่กับว่าเธอจะทำให้ฉันสนุกได้มากแค่ไหน คืนนี้ไปเจอฉันที่ห้อง”มือหนาสากลูบไล้ใบหน้าแสนสวยของหญิงสาว แล้วบีบเข้าไปยังแก้มสีอิฐอ่อน ก่อนจะเอื้อมหน้าเข้าใกล้อย่างสนใจในร่างกายของเธอ สิ้นกิริยาชวนขนลุก เขาก็ติดกระดุมจนครบทุกเม็ดแล้วเดินออกไปจากห้องกว้าง หลงเหลือแค่ใบหน้าถอดสีกับร่างเรียวบางที่ตอนนี้กำลังวิตกกังวลและครุ่นคิดเป็นอย่างหนักว่าจะยอมรับเงื่อนไขของปีศาจตนนี้ดีไหม เพราะเธอเองก็รู้ดีว่าถ้าหากทำให้อีกฝ่ายเพลิดเพลินไม่ได้ จะมีจุดจบยังไง

ขณะเดียวกันนั้น ที่บริษัทใหญ่ชั้นล่างของชายนักธุรกิจ

กรึบ! ประตูเลื่อนอัตโนมัติเริ่มทำงาน แผ่นกระจกใสสองบานเบิกกว้าง เปิดเส้นทางให้เด็กหนุ่มร่างสูงสัญจรผ่านไป เขาก้าวเดินต่ออย่างไม่ลดละ ผ่านพ้นผู้คนมากมาย จนมาถึงแผนกบุคคลซึ่งเป็นเป้าหมาย ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าพนักงานผู้ดูแล

“ผมมาสมัครงานครับ”หนุ่มน้อยหน้าตายในชุดสูทขาเขิน แม้เขาจะไม่ชอบใส่เสื้อผ้าที่เป็นพิธีแต่ก็ต้องฝืนทนเพื่องานพิเศษที่อยากทำ เด็กหนุ่มยื่นใบสมัครพร้อมประวัติส่วนตัวให้พนักงานสาว หลังจากนั้นก็ค่อยๆฉีกยิ้มกว้างส่งไปหาเธอ ซึ่งภายในใจของเขาไม่เชื่อว่าวิธีการยิ้มที่พี่ชายแนะนำมานี้มันจะได้ผล แต่ลองดูสักหน่อยก็คงไม่มีอะไรเสียหาย...อย่างมากก็แค่เสียหน้า

“เอ่อ...เป็นอะไรหรือเปล่าคะสีหน้าคุณดูไม่ดี...”

“ป่าวครับ ผมสบายดี”เด็กหนุ่มหุบยิ้มทันทีโดยไม่รีรอให้หญิงสาวพูดจบ ดูเหมือนว่าวิธีที่พี่ชายแนะนำมาจะใช้ไม่ได้ผลตามที่เขาคาดไว้

พนักงานสาวพยักหน้าน้อมรับแม้จะไม่เข้าใจ แต่ด้วยหน้าที่ เธอจึงรีบดูใบสมัครสลับกับประวัติส่วนตัวของอีกฝ่าย พิจารณาสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสนทนากับเขา

“คุณปานตะวันใช่ไหมคะ ประวัติคุณดีมากเลยนะคะ ไอคิวคุณสูงมาก! สูงถึง250 เกรดการเรียนก็4.00ตลอด สมรรถนะร่างกายก็ดีเยี่ยม ไม่มีข้อบกพร่องเลยสักนิด” ประโยคคำชมที่บ่งบอกถึงข้อดีมากมายของเด็กหนุ่ม ซึ่งถ้าไม่รับเขาเข้าทำงาน บริษัทนี้คงอดได้คนเก่งมากความสามารถไป ประกายแห่งความหวังได้เริ่มจุดขึ้นในหัวใจของปานตะวัน

“แต่ขอโทษนะคะคุณปานตะวัน ทางบริษัทของเราไม่รับพนักงานที่อายุต่ำกว่ายี่สิบปีค่ะ” แม้ตะวันจะครบเครื่องในทุกด้านและเป็นการยากที่ใครจะปฏิเสธ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านวัยวุฒิ ทำให้นายตะวันต้องอดได้งานนี้ไปตามระเบียบ

“แต่ผมพร้อมทำงานแล้วนะครับ ผมทำได้ทุกอย่างเลย!”ตะวันแสดงความมุ่งมั่นเป็นครั้งสุดท้าย ถึงมันจะดูออกไปทางดื้อด้านซะมากกว่า เขาอยากได้งานนี้มาก แต่ถึงจะมากขนาดไหน มันก็ไม่อาจทำให้พนักงานเปลี่ยนกฎของบริษัทเพื่อรับเขาเข้าทำงานได้อยู่ดี ประกายแสงสว่างแห่งความหวังค่อยๆดับลงภายใต้ใบหน้าที่เยือกเย็นของเด็กหนุ่ม

“เชิญค่ะ”พนักงานผายมือไปทางเดิมที่ตะวันผ่านมา มืออีกข้างของเธอก็ขยำใบสมัครแล้วโยนมันทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ใยดี ก่อนจะใช้หางตาชำเลืองมองไปยังตะวัน ทำตัวราวกับอยู่กันคนละชั้นกับเด็กหนุ่ม เธอเดินไปคุยโทรศัพท์ต่อ ไม่สนใจอีกฝ่ายที่นั่งมองการกระทำทั้งหมด

ตะวันเดินคอตกเข้าไปเก็บประวัติของเขาที่ถูกโยนทิ้งอย่างไร้ค่าขึ้นมา สุดท้ายแม้จะถูกกระทำราวกับอากาศธาตุ เขาก็เลือกที่จะกลับไปนั่งรอพนักงานคนนั้นดังเดิม

“อ้าว! นี่คุณยังไม่ไปอีกเหรอ ก็บอกไปแล้วไงว่าเราไม่รับ จะไปไหนก็ไป”พนักงานสาวพูดไล่ทันทีที่คุยโทรศัพท์เสร็จ ทางตะวันก็ยังคงนั่งจ้องหน้าไม่ไปไหน ก่อนจะเอ่ยความลับที่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับต้องสั่นกลัว

ตึกตักตึกตักตึกตัก!(เสียงหัวใจของพนักงานสาว)

“คุณช่วยแนะนำหน่อยได้ไหม ว่าผมต้องนอนกับใครถึงจะได้เข้ามาทำงานที่นี่ ใช่คุณxxxคนที่คุยด้วยเมื่อกี้หรือเปล่า”สิ้นคำพูดของเด็กหนุ่ม เขาก็ลุกขึ้นพร้อมใช้หางตาชำเลืองมองกลับไปยังพนักงานสาวเหมือนกับที่เขาถูกกระทำ อีกหนึ่งความสามารถของนายปานตะวันที่เขาไม่ได้กรอกใส่ใบสมัคร คือเขามีหูที่ดีกว่าคนทั่วไปหลายล้านเท่า จึงได้ยินทุกการสนทนาหรือแม้แต่เสียงหัวใจที่เปลี่ยนไปของพนักงานคนนั้น ถึงจะเป็นการเสียมารยาท แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องมีมารยาทกับคนที่ไม่มีมารยาทกับเราก่อน การมาสมัครงานในครั้งนี้ ทำให้ตะวันตระหนักได้ทันทีว่า การจะได้ในสิ่งที่ต้องการมานั้น ใช้แค่ความสามารถและวิธีการที่ถูกต้อง...มันคงไม่พอ

กรึบ! เสียงประตูอัตโนมัติเปิดให้ตะวันผ่านอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เปลวไฟแห่งความมุ่งมั่นและประกายเพลิงแห่งความหวังมันได้ดับสูญไปจากจิตใจของเขาเป็นที่เรียบร้อย

“บ้าเอ้ย!”ตะวันสบถดังลั่นหน้าบริษัท พร้อมกับขย้ำประวัติของตนที่อุตส่าห์เก็บมาจนยับยู่ยี่แทบจะขาดเป็นชิ้นๆ ก่อนจะขว้างมันทิ้งไป ระบายความรู้สึกที่อัดอั้นมาทั้งหมด ทว่ามันดันไปโดนรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ไม่ไกลเข้าอย่างไม่ได้เจตนา

ตี๊ด! ตี๊ด! ในทันใดนั้นเสียงรถหรูสีดำคันนั้นก็ดังขึ้น

“ซวยแล้วไง! วันนี้เป็นวันเชี้ยอะไรวะ!”ตะวันสบถคำหยาบออกจากปาก ซึ่งปกติมันเป็นพฤติกรรมที่หาได้ยากจากชายคนนี้ คงเพราะความเกรี้ยวกราดทะยานสูงจนทะลุเพดานความอดทน ทำให้ตะวันเริ่มควบคุมสติตัวเองไม่ค่อยอยู่

ตี๊ด! ตี๊ด!

ถึงอย่างนั้นเสียงที่ดังมาก็ไม่หยุดสักที

ตี๊ด! ตี๊ด!

มันดังเป็นจังหวะที่แปลกไปจากรถทั่วไป

ตี๊ด! ตี๊ด!

เสียงแบบนี้มันไม่ใช่เสียงสัญญาณกันขโมยของตัวรถแน่นอน เพราะถ้าเทียบกันจริงๆแล้ว เสียงมันเบาผิดปกติ ซึ่งน่าจะมีแค่ตะวันเท่านั้นที่จะได้ยิน

ตะวันจ้องเขม็งรถคันนั้นด้วยความสงสัย แต่ไม่กล้าเข้าไปดูเพราะไม่รู้ว่ารถคันนั้นเป็นของใคร แล้วทำไมมันถึงส่งเสียงแบบนั้น เด็กหนุ่มทำได้แค่ยืนมองรถคันนั้นไม่ทิ้งห่างไปไหน ทำให้เขาไม่ทันระว...

“เกะกะ!” ชายหนุ่มร่างใหญ่เดินชนไหล่ผ่านตะวันไป เขาหมายมุ่งจะขึ้นรถคันนั้นด้วยความเร่งรีบ โดยไม่ดูลู่ดูทางเเละไม่แม้จะหันกลับมาขอโทษเลยสักคำ

“เดี๋ยวก่อนครับ!”ตะวันรีบคว้าแขนอีกฝ่ายห้ามไม่ให้ไปจากเขาทันทีที่เขาได้ยินเสียงรถที่เริ่มแปลกไป

ตูม!

แรงระเบิดอัดกระเเทกชายทั้งสองให้ล้มลงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ประจวบเหมาะกับเสี้ยววินาทีที่ตะวันดึงอีกฝ่ายเข้ามาประชั้นชิด ทำให้ตอนนี้ตะวันถูกชายคนนั้นนอนซบอยู่กลางอกพร้อมกับแขนที่โอบล้อมตามสัญชาตญาณ เป็นการปกป้องไม่ให้อีกฝ่ายได้รับอันตราย

ช่วงเวลาหลังจากรถคันนั้นระเบิดได้ไม่นานนัก เด็กหนุ่มตัวสูงโปร่งฟื้นคืนสติกลับมาก่อนเป็นคนแรก ตะวันรีบหันกลับมาดูคนในอ้อมกอดทันที เขาพบว่าชายผู้ไร้มารยาทยังคงนอนหายใจอยู่บนตัวเขา กลิ่นน้ำหอมเบาบางล่องลอยกระทบจมูกของเด็กหนุ่ม สอดแทรกเสียงหัวใจและไอเย็นจากร่างหนาของอีกฝ่าย ใบหน้าแสนคมเข้มที่ยากจะละทิ้งการจ้องมองนั้น มันทำให้ปานตะวันจมดิ่งลงสู่ห้วงลึกของความรู้สึกอันยากเกินกว่าจะพรรณนา

ทันใดนั้น ฉากโรแมนติกดั่งละครหลังข่าวในพระราชสำนักก็ได้จบลง เมื่อดวงตาสีมรกตสุดน่ากลัวเบิกกว้าง ฉุดกระชากปานตะวันให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ ณ ห้วงเวลาที่เชื่องช้าประดุจถูกหยุดไว้ ข้อมูลมากมายของอีกฝ่ายก็เริ่มหลั่งไหลย้อนเข้ามาในหัว ตะวันรู้ได้ทันทีว่า ชายคนนี้เเหละคือเป้าหมายของเขา

เมื่อชายผู้ไร้มารยาทฟื้นคืนสติ เขาเริ่มพยายามดิ้นรนให้พ้นพันธนาการจากวงแขน รีบลุกขึ้นปัดตัวพรางหันไปมองยังกองเพลิง ไม่สนใจชายที่นอนอยู่เบื้องล่างเลยสักนิด

“คุณเป็นอะไรไหม”ตะวันไตร่ถามทันทีที่ลุกขึ้นมาได้ ก่อนจะหันกลับมาตรวจสอบร่างกายตนเอง

“ไม่”

“เห้อ! โชคดีไป”ตะวันถอนหายใจดัง เพราะเขาคงต้องเสียใจมากแน่ๆ หากช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้ไม่ได้

“ล้านหนึ่ง เเล้วทำเป็นว่าเรื่องทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น”ชายหนุ่มหันมายื่นข้อเสนอ สีหน้าและคำพูดของเขาช่างเย็นชาไม่แยแสเเม้กระทั้งคนที่พึ่งจะช่วยชีวิตตัวเองไว้

“อะไรนะ!?”คิ้วสองข้างของตะวันพุ่งเข้าจรดกันแล้วรีบหันหน้ามองมายังอีกฝ่ายทันที

“หูหนวกหรือไงวะ”

“เเค่พูดว่าขอบคุณมันยากนักเหรอครับ หรือคุณกลัวจะมีเหรียญออกมาจากปากแดงแดงนั่น”

“ก็จะจ่ายแทนคำขอบคุณอยู่นี่ไง ไอ้เด็กสี่ตาสีผมประหลาด”

ต่างฝ่ายต่างต่อล้อต่อเถียงกันไม่ลดละ จากสีหน้าเฉยเมยของบุรุษทั้งสอง แปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจจนเห็นได้ชัด อารมณ์ที่รุนแรงผ่านดวงตาสีขจีเข้ม เข้าปะทะกับดวงตาสีพิลึกอันอยู่เหนือกว่า

“หรือจะเอาเป็นอย่างอื่น ตำแหน่งเหรอ? ที่ดินไหม? หรืออะไรดี อะไรที่ชาตินี้คนอย่างมึงไม่มีวันหามาได้ กูจะเอามันมากองอยู่ตรงหน้าให้ แค่อย่าเสนอหน้าเสร่อๆมาให้กูเห็นอีกตลอดชีวิต”ชายหนุ่มก้าวเดินเข้าหาตะวันด้วยท่าทีไม่เกรงกลัว พร้อมกับคำพูดเย้ายวนชวนบาทา ให้มาประทับอยู่บนหน้าซะเหลือเกิน

“ผมไม่สนใจข้อเสนอ ของไอ้ปีศาจโลภมากอย่างคุณหรอกครับ คุณเมธี!”ตะวันกดความโกรธไว้ใต้รองเท้า ก่อนจะเดินเข้าประจันหน้ากับอีกฝ่าย แม้ชายหนุ่มตรงหน้าจะมีร่างกายแข็งแรงกำยำกว่าเขา แต่เรื่องส่วนสูงทางตะวันกลับกินขาด

“ก็ดี อย่ามาทวงบุญคุณทีหลังแล้วกัน” เมธีเดินกระแทกไหล่ผ่านตะวันไปอีกครั้ง ครั้งนี้มันรุนแรงมากกว่าครั้งก่อน คงเพราะเขาเองก็พยายามระงับโทสะไว้เช่นเดียวกัน ขณะนั้น ดวงตาสีมรกตดุร้ายของเมธีก็ได้หันกลับไปสบตาตะวันชั่วระยะ ก่อนที่ทั้งสองจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ด้วยความไม่สบอารมณ์ทั้งคู่

“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะปล่อยให้คุณตายซะ”คำพูดอันโหดร้ายจากปากของเด็กหนุ่ม ที่ทั้งชีวิตเขาไม่เคยคิดจะพูดมันใส่ใคร คำพูดนั้นทำให้ชายนักธุรกิจต้องหยุดชะงักแล้วหันกลับมาสนทนาด้วยเป็นครั้งสุดท้าย

“มึงทำพลาดเองนะไอ้หนู”

เมธีหันมาชำเลืองมองด้วยหางตาเป็นนัยยะ ทิ้งรอยยิ้มมุมปากแสนชั่วร้าย ฝังมันลึกเข้าไปยังความทรงจำของเด็กหนุ่ม ก่อนจะเดินจากไปในทิศทางที่ตรงข้ามกับปานตะวัน...

“ไม่ได้ยินเสียงหัวใจ...สงสัยคงจะเป็นปีศาจจริงๆสินะ”ตะวันพูดถึงอีกฝ่ายเพียงลำพัง

ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือคิดผิด หรือเขาไม่ได้คิดอะไรเลยกันแน่ ถึงได้ไปช่วยชีวิตชายที่คนทั้งโลกต่างหวาดกลัว การกระทำของเขาในครั้งนี้ มันจะทำให้เขาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เฉกเช่นเจ้าหนูน่าโง่ในนิทาน...

กระผม:คนประหลาด

ขอขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านนิยายของผมนะครับ

ขอขอบพระคุณจากใจจริง

ป.ล.หากกระผมเขียนผิด เขียนไม่ดี สามารถชี้แนะ สามารถแนะนำได้นะครับ

เพราะนักอ่านคืออาจารย์ของผม

ขอบพระคุณครับ

(ก้มกราบ🙇‍♂️)

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น

ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น

Diena Beran
5.0

หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
นิยายเจ็ดบาป | ปฏิปักษ์รัก
1

บทที่ 1 ตอนที่1 ราชสีห์กับหนู

05/01/2024