Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
นิยายเจ็ดบาป | ปฏิปักษ์รัก

นิยายเจ็ดบาป | ปฏิปักษ์รัก

คนประหลาด

5.0
ความคิดเห็น
24
ชม
1
บท

“ระหว่างกูกับความถูกต้อง มึงจะเลือกอะไร” “ผมเลือกความถูกต้อง และก็จะเอาคุณด้วย”

บทที่ 1 ตอนที่1 ราชสีห์กับหนู

กาลครั้งหนึ่งมีราชสีห์เจ้าป่าที่พลาดท่าติดบ่วงของนายพราน

ทว่ากลับมีเจ้าหนูแสนดีบังเอิญมาพบเลยช่วยปลดปล่อยราชสีห์จากพันธนาการ

เเต่! แต่! เเต่!

เจ้าหนูตัวนี้คงไม่เคยได้ยินสำนวนที่ว่า อย่าปล่อยเสือเข้าป่า มิเช่นนั้นมันจะนำพาหายนะมาให้

.

.

.

.

.

.

“ฮ่าๆ มึงนี่มันโคตรโง่เลยวะ ไม่ยอมอ่านสัญญาเอง แล้วยังมีหน้ามาว่ากูเอาเปรียบ กูให้เวลาอีกสองวันถ้ามึงไม่ย้ายออก มึงจะได้เป็นผีเฝ้าที่ตรงนั้นแหละ ไอ้โง่เอ้ย!”เสียงชายหน้าคมเข้มคุยโทรศัพท์ดังลั่นห้องทำงานใหญ่ กลางชุดสูทดำที่ถูกเปิดโล่งเพื่อความสะดวก เผยให้เห็นกล้ามอกอันหนักแน่นที่ถูกประดับประดาสวยงามด้วยรอยสักคำว่า“GREEDY”(ความโลภ) เป็นคำที่มีความหมายตรงตัวและเหมาะสมกับเขาเป็นที่สุด

“ท่านเมธีคะ”หญิงสาวผมบลอนด์ในชุดเดรสแดงพร้อมปากสีแดงจัดเป็นเงา เดินเข้ามาสู่สายตาหน้ากลัวของชายหนุ่ม

“มีอะไรเจนิเฟอร์!”นักธุรกิจหนุ่มขมวดคิ้วทำท่าทีไม่สบอารมณ์ใส่หญิงสาวตรงหน้า ต่างกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแสนน่ากลัวเมื่อสักครู่

“ดิฉัน อยากจะ ขอลาพักร้อนนะคะ”หญิงสาวพูดร้องขอด้วยท่าทางตะกุกตะกัก ไม่กล้าสู้สายตาสีมรกตที่กำลังก้าวเดินเข้าหาเธอ ทุกก้าวที่ย่างกราย ทำเอาหัวใจของหญิงสาวสั่นไหวราวกับจะถูกอีกฝ่ายควักออกไปทั้งเป็น

“คำขอของเธอขึ้นอยู่กับว่าเธอจะทำให้ฉันสนุกได้มากแค่ไหน คืนนี้ไปเจอฉันที่ห้อง”มือหนาสากลูบไล้ใบหน้าแสนสวยของหญิงสาว แล้วบีบเข้าไปยังแก้มสีอิฐอ่อน ก่อนจะเอื้อมหน้าเข้าใกล้อย่างสนใจในร่างกายของเธอ สิ้นกิริยาชวนขนลุก เขาก็ติดกระดุมจนครบทุกเม็ดแล้วเดินออกไปจากห้องกว้าง หลงเหลือแค่ใบหน้าถอดสีกับร่างเรียวบางที่ตอนนี้กำลังวิตกกังวลและครุ่นคิดเป็นอย่างหนักว่าจะยอมรับเงื่อนไขของปีศาจตนนี้ดีไหม เพราะเธอเองก็รู้ดีว่าถ้าหากทำให้อีกฝ่ายเพลิดเพลินไม่ได้ จะมีจุดจบยังไง

ขณะเดียวกันนั้น ที่บริษัทใหญ่ชั้นล่างของชายนักธุรกิจ

กรึบ! ประตูเลื่อนอัตโนมัติเริ่มทำงาน แผ่นกระจกใสสองบานเบิกกว้าง เปิดเส้นทางให้เด็กหนุ่มร่างสูงสัญจรผ่านไป เขาก้าวเดินต่ออย่างไม่ลดละ ผ่านพ้นผู้คนมากมาย จนมาถึงแผนกบุคคลซึ่งเป็นเป้าหมาย ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าพนักงานผู้ดูแล

“ผมมาสมัครงานครับ”หนุ่มน้อยหน้าตายในชุดสูทขาเขิน แม้เขาจะไม่ชอบใส่เสื้อผ้าที่เป็นพิธีแต่ก็ต้องฝืนทนเพื่องานพิเศษที่อยากทำ เด็กหนุ่มยื่นใบสมัครพร้อมประวัติส่วนตัวให้พนักงานสาว หลังจากนั้นก็ค่อยๆฉีกยิ้มกว้างส่งไปหาเธอ ซึ่งภายในใจของเขาไม่เชื่อว่าวิธีการยิ้มที่พี่ชายแนะนำมานี้มันจะได้ผล แต่ลองดูสักหน่อยก็คงไม่มีอะไรเสียหาย...อย่างมากก็แค่เสียหน้า

“เอ่อ...เป็นอะไรหรือเปล่าคะสีหน้าคุณดูไม่ดี...”

“ป่าวครับ ผมสบายดี”เด็กหนุ่มหุบยิ้มทันทีโดยไม่รีรอให้หญิงสาวพูดจบ ดูเหมือนว่าวิธีที่พี่ชายแนะนำมาจะใช้ไม่ได้ผลตามที่เขาคาดไว้

พนักงานสาวพยักหน้าน้อมรับแม้จะไม่เข้าใจ แต่ด้วยหน้าที่ เธอจึงรีบดูใบสมัครสลับกับประวัติส่วนตัวของอีกฝ่าย พิจารณาสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสนทนากับเขา

“คุณปานตะวันใช่ไหมคะ ประวัติคุณดีมากเลยนะคะ ไอคิวคุณสูงมาก! สูงถึง250 เกรดการเรียนก็4.00ตลอด สมรรถนะร่างกายก็ดีเยี่ยม ไม่มีข้อบกพร่องเลยสักนิด” ประโยคคำชมที่บ่งบอกถึงข้อดีมากมายของเด็กหนุ่ม ซึ่งถ้าไม่รับเขาเข้าทำงาน บริษัทนี้คงอดได้คนเก่งมากความสามารถไป ประกายแห่งความหวังได้เริ่มจุดขึ้นในหัวใจของปานตะวัน

“แต่ขอโทษนะคะคุณปานตะวัน ทางบริษัทของเราไม่รับพนักงานที่อายุต่ำกว่ายี่สิบปีค่ะ” แม้ตะวันจะครบเครื่องในทุกด้านและเป็นการยากที่ใครจะปฏิเสธ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านวัยวุฒิ ทำให้นายตะวันต้องอดได้งานนี้ไปตามระเบียบ

“แต่ผมพร้อมทำงานแล้วนะครับ ผมทำได้ทุกอย่างเลย!”ตะวันแสดงความมุ่งมั่นเป็นครั้งสุดท้าย ถึงมันจะดูออกไปทางดื้อด้านซะมากกว่า เขาอยากได้งานนี้มาก แต่ถึงจะมากขนาดไหน มันก็ไม่อาจทำให้พนักงานเปลี่ยนกฎของบริษัทเพื่อรับเขาเข้าทำงานได้อยู่ดี ประกายแสงสว่างแห่งความหวังค่อยๆดับลงภายใต้ใบหน้าที่เยือกเย็นของเด็กหนุ่ม

“เชิญค่ะ”พนักงานผายมือไปทางเดิมที่ตะวันผ่านมา มืออีกข้างของเธอก็ขยำใบสมัครแล้วโยนมันทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ใยดี ก่อนจะใช้หางตาชำเลืองมองไปยังตะวัน ทำตัวราวกับอยู่กันคนละชั้นกับเด็กหนุ่ม เธอเดินไปคุยโทรศัพท์ต่อ ไม่สนใจอีกฝ่ายที่นั่งมองการกระทำทั้งหมด

ตะวันเดินคอตกเข้าไปเก็บประวัติของเขาที่ถูกโยนทิ้งอย่างไร้ค่าขึ้นมา สุดท้ายแม้จะถูกกระทำราวกับอากาศธาตุ เขาก็เลือกที่จะกลับไปนั่งรอพนักงานคนนั้นดังเดิม

“อ้าว! นี่คุณยังไม่ไปอีกเหรอ ก็บอกไปแล้วไงว่าเราไม่รับ จะไปไหนก็ไป”พนักงานสาวพูดไล่ทันทีที่คุยโทรศัพท์เสร็จ ทางตะวันก็ยังคงนั่งจ้องหน้าไม่ไปไหน ก่อนจะเอ่ยความลับที่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับต้องสั่นกลัว

ตึกตักตึกตักตึกตัก!(เสียงหัวใจของพนักงานสาว)

“คุณช่วยแนะนำหน่อยได้ไหม ว่าผมต้องนอนกับใครถึงจะได้เข้ามาทำงานที่นี่ ใช่คุณxxxคนที่คุยด้วยเมื่อกี้หรือเปล่า”สิ้นคำพูดของเด็กหนุ่ม เขาก็ลุกขึ้นพร้อมใช้หางตาชำเลืองมองกลับไปยังพนักงานสาวเหมือนกับที่เขาถูกกระทำ อีกหนึ่งความสามารถของนายปานตะวันที่เขาไม่ได้กรอกใส่ใบสมัคร คือเขามีหูที่ดีกว่าคนทั่วไปหลายล้านเท่า จึงได้ยินทุกการสนทนาหรือแม้แต่เสียงหัวใจที่เปลี่ยนไปของพนักงานคนนั้น ถึงจะเป็นการเสียมารยาท แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องมีมารยาทกับคนที่ไม่มีมารยาทกับเราก่อน การมาสมัครงานในครั้งนี้ ทำให้ตะวันตระหนักได้ทันทีว่า การจะได้ในสิ่งที่ต้องการมานั้น ใช้แค่ความสามารถและวิธีการที่ถูกต้อง...มันคงไม่พอ

กรึบ! เสียงประตูอัตโนมัติเปิดให้ตะวันผ่านอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เปลวไฟแห่งความมุ่งมั่นและประกายเพลิงแห่งความหวังมันได้ดับสูญไปจากจิตใจของเขาเป็นที่เรียบร้อย

“บ้าเอ้ย!”ตะวันสบถดังลั่นหน้าบริษัท พร้อมกับขย้ำประวัติของตนที่อุตส่าห์เก็บมาจนยับยู่ยี่แทบจะขาดเป็นชิ้นๆ ก่อนจะขว้างมันทิ้งไป ระบายความรู้สึกที่อัดอั้นมาทั้งหมด ทว่ามันดันไปโดนรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ไม่ไกลเข้าอย่างไม่ได้เจตนา

ตี๊ด! ตี๊ด! ในทันใดนั้นเสียงรถหรูสีดำคันนั้นก็ดังขึ้น

“ซวยแล้วไง! วันนี้เป็นวันเชี้ยอะไรวะ!”ตะวันสบถคำหยาบออกจากปาก ซึ่งปกติมันเป็นพฤติกรรมที่หาได้ยากจากชายคนนี้ คงเพราะความเกรี้ยวกราดทะยานสูงจนทะลุเพดานความอดทน ทำให้ตะวันเริ่มควบคุมสติตัวเองไม่ค่อยอยู่

ตี๊ด! ตี๊ด!

ถึงอย่างนั้นเสียงที่ดังมาก็ไม่หยุดสักที

ตี๊ด! ตี๊ด!

มันดังเป็นจังหวะที่แปลกไปจากรถทั่วไป

ตี๊ด! ตี๊ด!

เสียงแบบนี้มันไม่ใช่เสียงสัญญาณกันขโมยของตัวรถแน่นอน เพราะถ้าเทียบกันจริงๆแล้ว เสียงมันเบาผิดปกติ ซึ่งน่าจะมีแค่ตะวันเท่านั้นที่จะได้ยิน

ตะวันจ้องเขม็งรถคันนั้นด้วยความสงสัย แต่ไม่กล้าเข้าไปดูเพราะไม่รู้ว่ารถคันนั้นเป็นของใคร แล้วทำไมมันถึงส่งเสียงแบบนั้น เด็กหนุ่มทำได้แค่ยืนมองรถคันนั้นไม่ทิ้งห่างไปไหน ทำให้เขาไม่ทันระว...

“เกะกะ!” ชายหนุ่มร่างใหญ่เดินชนไหล่ผ่านตะวันไป เขาหมายมุ่งจะขึ้นรถคันนั้นด้วยความเร่งรีบ โดยไม่ดูลู่ดูทางเเละไม่แม้จะหันกลับมาขอโทษเลยสักคำ

“เดี๋ยวก่อนครับ!”ตะวันรีบคว้าแขนอีกฝ่ายห้ามไม่ให้ไปจากเขาทันทีที่เขาได้ยินเสียงรถที่เริ่มแปลกไป

ตูม!

แรงระเบิดอัดกระเเทกชายทั้งสองให้ล้มลงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ประจวบเหมาะกับเสี้ยววินาทีที่ตะวันดึงอีกฝ่ายเข้ามาประชั้นชิด ทำให้ตอนนี้ตะวันถูกชายคนนั้นนอนซบอยู่กลางอกพร้อมกับแขนที่โอบล้อมตามสัญชาตญาณ เป็นการปกป้องไม่ให้อีกฝ่ายได้รับอันตราย

ช่วงเวลาหลังจากรถคันนั้นระเบิดได้ไม่นานนัก เด็กหนุ่มตัวสูงโปร่งฟื้นคืนสติกลับมาก่อนเป็นคนแรก ตะวันรีบหันกลับมาดูคนในอ้อมกอดทันที เขาพบว่าชายผู้ไร้มารยาทยังคงนอนหายใจอยู่บนตัวเขา กลิ่นน้ำหอมเบาบางล่องลอยกระทบจมูกของเด็กหนุ่ม สอดแทรกเสียงหัวใจและไอเย็นจากร่างหนาของอีกฝ่าย ใบหน้าแสนคมเข้มที่ยากจะละทิ้งการจ้องมองนั้น มันทำให้ปานตะวันจมดิ่งลงสู่ห้วงลึกของความรู้สึกอันยากเกินกว่าจะพรรณนา

ทันใดนั้น ฉากโรแมนติกดั่งละครหลังข่าวในพระราชสำนักก็ได้จบลง เมื่อดวงตาสีมรกตสุดน่ากลัวเบิกกว้าง ฉุดกระชากปานตะวันให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ ณ ห้วงเวลาที่เชื่องช้าประดุจถูกหยุดไว้ ข้อมูลมากมายของอีกฝ่ายก็เริ่มหลั่งไหลย้อนเข้ามาในหัว ตะวันรู้ได้ทันทีว่า ชายคนนี้เเหละคือเป้าหมายของเขา

เมื่อชายผู้ไร้มารยาทฟื้นคืนสติ เขาเริ่มพยายามดิ้นรนให้พ้นพันธนาการจากวงแขน รีบลุกขึ้นปัดตัวพรางหันไปมองยังกองเพลิง ไม่สนใจชายที่นอนอยู่เบื้องล่างเลยสักนิด

“คุณเป็นอะไรไหม”ตะวันไตร่ถามทันทีที่ลุกขึ้นมาได้ ก่อนจะหันกลับมาตรวจสอบร่างกายตนเอง

“ไม่”

“เห้อ! โชคดีไป”ตะวันถอนหายใจดัง เพราะเขาคงต้องเสียใจมากแน่ๆ หากช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้ไม่ได้

“ล้านหนึ่ง เเล้วทำเป็นว่าเรื่องทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น”ชายหนุ่มหันมายื่นข้อเสนอ สีหน้าและคำพูดของเขาช่างเย็นชาไม่แยแสเเม้กระทั้งคนที่พึ่งจะช่วยชีวิตตัวเองไว้

“อะไรนะ!?”คิ้วสองข้างของตะวันพุ่งเข้าจรดกันแล้วรีบหันหน้ามองมายังอีกฝ่ายทันที

“หูหนวกหรือไงวะ”

“เเค่พูดว่าขอบคุณมันยากนักเหรอครับ หรือคุณกลัวจะมีเหรียญออกมาจากปากแดงแดงนั่น”

“ก็จะจ่ายแทนคำขอบคุณอยู่นี่ไง ไอ้เด็กสี่ตาสีผมประหลาด”

ต่างฝ่ายต่างต่อล้อต่อเถียงกันไม่ลดละ จากสีหน้าเฉยเมยของบุรุษทั้งสอง แปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจจนเห็นได้ชัด อารมณ์ที่รุนแรงผ่านดวงตาสีขจีเข้ม เข้าปะทะกับดวงตาสีพิลึกอันอยู่เหนือกว่า

“หรือจะเอาเป็นอย่างอื่น ตำแหน่งเหรอ? ที่ดินไหม? หรืออะไรดี อะไรที่ชาตินี้คนอย่างมึงไม่มีวันหามาได้ กูจะเอามันมากองอยู่ตรงหน้าให้ แค่อย่าเสนอหน้าเสร่อๆมาให้กูเห็นอีกตลอดชีวิต”ชายหนุ่มก้าวเดินเข้าหาตะวันด้วยท่าทีไม่เกรงกลัว พร้อมกับคำพูดเย้ายวนชวนบาทา ให้มาประทับอยู่บนหน้าซะเหลือเกิน

“ผมไม่สนใจข้อเสนอ ของไอ้ปีศาจโลภมากอย่างคุณหรอกครับ คุณเมธี!”ตะวันกดความโกรธไว้ใต้รองเท้า ก่อนจะเดินเข้าประจันหน้ากับอีกฝ่าย แม้ชายหนุ่มตรงหน้าจะมีร่างกายแข็งแรงกำยำกว่าเขา แต่เรื่องส่วนสูงทางตะวันกลับกินขาด

“ก็ดี อย่ามาทวงบุญคุณทีหลังแล้วกัน” เมธีเดินกระแทกไหล่ผ่านตะวันไปอีกครั้ง ครั้งนี้มันรุนแรงมากกว่าครั้งก่อน คงเพราะเขาเองก็พยายามระงับโทสะไว้เช่นเดียวกัน ขณะนั้น ดวงตาสีมรกตดุร้ายของเมธีก็ได้หันกลับไปสบตาตะวันชั่วระยะ ก่อนที่ทั้งสองจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ด้วยความไม่สบอารมณ์ทั้งคู่

“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะปล่อยให้คุณตายซะ”คำพูดอันโหดร้ายจากปากของเด็กหนุ่ม ที่ทั้งชีวิตเขาไม่เคยคิดจะพูดมันใส่ใคร คำพูดนั้นทำให้ชายนักธุรกิจต้องหยุดชะงักแล้วหันกลับมาสนทนาด้วยเป็นครั้งสุดท้าย

“มึงทำพลาดเองนะไอ้หนู”

เมธีหันมาชำเลืองมองด้วยหางตาเป็นนัยยะ ทิ้งรอยยิ้มมุมปากแสนชั่วร้าย ฝังมันลึกเข้าไปยังความทรงจำของเด็กหนุ่ม ก่อนจะเดินจากไปในทิศทางที่ตรงข้ามกับปานตะวัน...

“ไม่ได้ยินเสียงหัวใจ...สงสัยคงจะเป็นปีศาจจริงๆสินะ”ตะวันพูดถึงอีกฝ่ายเพียงลำพัง

ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือคิดผิด หรือเขาไม่ได้คิดอะไรเลยกันแน่ ถึงได้ไปช่วยชีวิตชายที่คนทั้งโลกต่างหวาดกลัว การกระทำของเขาในครั้งนี้ มันจะทำให้เขาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เฉกเช่นเจ้าหนูน่าโง่ในนิทาน...

กระผม:คนประหลาด

ขอขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านนิยายของผมนะครับ

ขอขอบพระคุณจากใจจริง

ป.ล.หากกระผมเขียนผิด เขียนไม่ดี สามารถชี้แนะ สามารถแนะนำได้นะครับ

เพราะนักอ่านคืออาจารย์ของผม

ขอบพระคุณครับ

(ก้มกราบ🙇‍♂️)

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

เทียนธีรา
5.0

เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

Tripp Zakarison
5.0

อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"

เมียเก็บมาเฟีย

เมียเก็บมาเฟีย

เนื้อนวล
4.9

"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
นิยายเจ็ดบาป | ปฏิปักษ์รัก
1

บทที่ 1 ตอนที่1 ราชสีห์กับหนู

05/01/2024