Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อุ้งมือพิศวาสซาตาน

อุ้งมือพิศวาสซาตาน

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
72.9K
ชม
75
บท

“ฉันเอง จะตกใจอะไรหนักหนา ไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้ได้นอกจากฉันอยู่แล้ว” เขาพูดเสียงไม่สบอารมณ์ มองใบหน้านวลที่ส่องกระทบกับแสงสีส้มจากหลอดนีออนแล้วพาใจสั่น ดวงหน้าหวานยามต้องแสงสีนี้ผสมผสานกับความเห่อร้อนจากความอาย ทำให้เธอเกิดความงดงามราวกับภาพวาดจากจิตรกรชั้นเอก เขาเผลอไผลหลงมองนิ่งงัน ลืมความไม่พอใจเรื่องที่เธอผลักร่างของตนจนสิ้น “ตาขอโทษค่ะ” เธอก้มหน้างุด ข่มความอายเมื่อเขามองเธอไม่วางตา เอ่ยคำขอโทษต่อเจ้าหนี้รายใหญ่ของบิดา เขาจะว่าเธอก็ไม่ถูกเพราะทีแรกเธอนอนคนเดียวในห้องนี้ แล้วตื่นมาเจอใครอีกคนอยู่ด้วยก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา “ทำหน้าที่เธอให้ดี แล้วฉันจะให้อภัย” สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงแค่นี้คือหาความสุขจากร่างสาวอวบอิ่ม ที่ทำให้เขาคิดถึงมาตลอดทั้งวันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

บทที่ 1 1

1

“นะครับ ช่วยผมหน่อยนะครับคุณสิงห์ ผมมองไม่เห็นใครจริงๆ ครับ”

เสียงขอร้องอ้อนวอนดังผ่านปากรณชัย ชายวัยหกสิบปี สีหน้าของผู้พูดเต็มไปด้วยความหนักใจ หากราชสีห์ไม่ช่วยเขา รับรองได้ว่าธุรกิจของตนต้องล่มจมเป็นแน่

ราชสีห์ ศิวะธำรงกุล นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแห่งปี มีธุรกิจในมือหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือสถาบันการเงินประเภทไม่ใช่ธนาคาร ภายใต้ชื่อบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เดอะซันกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปู่ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา หลังจากปู่เสียชีวิตชายหนุ่มก็ได้ครอบครองทรัพย์สมบัติมหาศาลด้วยวัยเพียงสามสิบปี และอีกเก้าปีต่อมาราชสีห์ก็สามารถทำให้บริษัทแห่งนี้ติดอันดับหนึ่งในสามของบริษัทเงินทุนฯ ที่มีรายได้มากที่สุด มีความแข็งแกร่งในเชิงธุรกิจจนยากที่ใครจะโค่นล้มได้

“เงินมันเยอะมากนะคุณชัย ถ้าผมให้ไปก็ไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือเปล่า”

ราชสีห์พูดอย่างนักธุรกิจผู้มองการณ์ไกล เขารู้ดีว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของรณชัยอยู่ในขั้นวิกฤตมากแค่ไหน ขาดเม็ดเงินในการหมุนเวียนธุรกิจ ส่งผลให้ขาดแรงงานที่พากันลาออกเนื่องจากเจ้าของบริษัทจ่ายเงินเดือนล่าช้า ซ้ำยังติดหนี้ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างที่ให้เครดิตกับรณชัยร่วมสิบห้าล้านบาท ไม่รวมกับเงินกู้ที่กู้มาหมุนเวียนจากธนาคาร นับจำนวนหนี้สินทั้งหมดก็ไม่ต่ำกว่าสามร้อยล้านบาท เงินจำนวนมากขนาดนั้นหากเขาให้ไปก็ไม่รู้จะได้คือหรือไม่ และหากอีกฝ่ายไม่ได้เงินก้อนนี้จากเขา รับรองได้ว่ารณชัยต้องล้มละลายแน่นอน

“ได้คืนสิครับ ยอดจองคอนโดของผมเกินกว่าครึ่งแล้วนะครับ ถ้าสร้างเสร็จต้องมีคนมาซื้อเพิ่มเติมแน่ๆ ครับ ผมมั่นใจ”

รณชัยยังมีความหวังว่าคอนโดมิเนียมที่กำลังสร้างอยู่นี้จะสร้างกำไรให้เขาเหมือนคอนโดอีกหลายแห่ง เพียงแค่ว่าต้องหาเงินทุนมาหมุนเวียนในการปลูกสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนด ซึ่งจะสมหวังหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนตรงหน้า

“ที่คุณพูดมามันก็เป็นแค่เพียงการคาดเดาของคุณ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งพูดยากใหญ่ ผมเป็นเจ้าของเงินก็ต้องคิดหนักหน่อย จะให้ใครกู้เงินก็ต้องมองเห็นการได้เงินคืน ไม่ใช่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ”

รณชัยใจร้อนรุ่มมากกว่าเดิม เขารู้ดีว่าราชสีห์เป็นนักธุรกิจที่มองการณ์ไกล คิดและทำสิ่งใดก็ต้องรอบคอบ ยิ่งจำนวนเงินที่เขาขอกู้ที่มีมูลค่าสูงถึงห้าร้อยล้านบาท ใครเป็นเจ้าของเงินก็ต้องคิดหนัก แต่เขาก็ไม่อาจละความพยายามได้ เนื่องจากราชสีห์เป็นที่พึ่งสุดท้ายหลังจากตระเวนของกู้เงินตามธนาคารและบริษัทเงินทุนหลายแห่ง ทว่าก็ไม่ธนาคารหรือบริษัทเงินทุนใดให้รณชัยกู้เงินเลยสักแห่ง

“ผมมีบ้าน มีที่ดินอยู่หลายแห่ง ถ้าหากผมนำมาค้ำประกันกับคุณได้หรือเปล่าครับ” งานนี้เขาทุ่มสุดตัวเพื่อธุรกิจและหน้าตาทางสังคม

“บ้านและที่ดินทั้งหมดของคุณมันจะพอเป็นหลักค้ำประกันได้เหรอ” ราชสีห์พูดเชิงถาม “ผมว่าไม่ถึงกึ่งหนึ่งของเงินที่คุณขอกู้จากผมด้วยซ้ำไป”

รณชัยได้ฟังแล้วสีหน้าเคร่งเครียดทันที เห็นทีเขาคงจะชวดเงินกู้ก้อนนี้แน่นอน หากไม่ได้เงินจำนวนนี้รับรองได้ว่า คอนโดของเขาที่ปลูกสร้างไปกว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์จะต้องยุติการปลูกสร้าง ปัญหาตามมามีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเงินจองและเงินดาวน์ที่เขาได้รับจากลูกค้าที่สั่งจองและผ่อนเงินดาวน์อยู่ ไหนจะค่าวัสดุก่อสร้างที่คั่งค้าง ค่าจ้างคนงานอีก แค่คิดชายวัยหกสิบปีก็พอจะมองเห็นอนาคตตัวเอง

“แล้วถ้าหากผมหาคนค้ำประกันได้ล่ะครับ คุณสิงห์จะยอมปล่อยเงินกู้ให้ผมหรือเปล่า”

รณชัยยังดิ้นรนต่อไป แม้ว่าเขาจะยังมองไม่เห็นว่าจะมีใครยอมมาค้ำประกันเงินกู้ให้ตน แต่เขาก็จะพยายามให้มากที่สุด เพื่อให้ได้เงินต่อชีวิตก้อนนี้

ราชสีห์กระตุกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่รณชัยเห็นแล้วขนลุก “ใครจะกล้าค้ำประกันให้คุณครับคุณรณชัย เงินไม่ใช่แค่ล้านสองล้านนะ มันตั้งห้าร้อยล้าน ผมว่านะแค่คุณอ้าปากขอใครคนนั้นก็ปฏิเสธแล้ว”

เจ้าของเงินพูดเหมือนรู้ทาง คนที่มาขอกู้เงินหน้าเสีย หนทางที่จะไม่ได้เงินนั้นมีสูงมากเหลือเกิน ในเมื่อทางนั้นก็ไม่ได้ ทางนี้ก็ไม่ได้ แล้วจะมีทางไหนที่พอจะมองเห็นว่าเขาจะได้เงินจำนวนนี้

“คุณราชสีห์พอจะมีทางไหนเสนอให้ผมไหมครับว่า ผมจะต้องทำยังไงถึงจะได้เงินกู้ก้อนนี้”

เวลานี้คนร้อนเงินหมดสิ้นหนทางจะคิดและพูด เขาจึงเอ่ยถามเจ้าของเงินตรงๆ หากมีทางใดที่จะได้เงิน เขายินดีทำทุกทาง แล้วคำพูดของรณชัยก็เข้าทางราชสีห์แบบเหมาะเหม็ง

“ถ้าผมบอกคุณจะทำตามจริงๆ ไหมคุณรณชัย” ราชสีห์ถามกลับ แววตาประกายเจ้าเล่ห์

“ใช่ครับ ผมยอมทำทุกอย่างครับ”

ตอนนี้รณชัยต้องการเพียงเงินมากอบกู้สถานการณ์วิกฤตของตัวเอง จนเขาไม่คิดไม่ไตร่ตรองคำพูดของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“ผมได้ข่าวว่าลูกสาวของคุณสวยไม่ใช่เล่น...คุณขอกู้เงินผมห้าร้อยล้านผมก็จะให้ แต่คุณต้องเอาลูกสาวของคุณมาค้ำประกันเงินกู้ คุณชดใช้หนี้ผมหมดเมื่อไหร่ ลูกสาวของคุณก็ได้รับอิสระเมื่อนั้น”

คำตอบของราชสีห์เรียกความตกใจให้กับคนร้อนเงินได้อย่างมาก หัวใจของรณชัยแทบจะหยุดเต้น ไม่คาดคิดว่าข้อเสนอของชายหนุ่มตรงหน้าจะเป็นเช่นนี้

“อะ อะไรนะครับ จะให้ลูกสาวของผมมาเป็นตัวค้ำประกันเหรอครับ” รณชัยถามทวนอย่างไม่แน่ใจ สมองยังรู้สึกสับสนอยู่

“ใช่ครับ” ราชสีห์ตอบเสียงหนัก ยกยิ้มมุมปากเชิดขึ้นข้างหนึ่ง “ผมจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ คุณต้องให้ลูกสาวของคุณมาเป็นเครื่องประดับบนเตียงของผม จนกว่าหนี้สินของเราจะหมดไป แต่ถ้าคุณไม่เห็นด้วยหรือไม่ยินยอมก็ได้นะ ผมยังไงก็ได้เพราะผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่แล้ว”

ราชสีห์เสมือนผู้กำชัย มองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่คนถูกมองเห็นแล้วอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ รณชัยกำลังคิดว่าข้อเสนอของราชสีห์เปรียบเสมือนแสงสว่างนำทาง หากเขาไม่ตกปากรับคำ เงินก้อนใหญ่ที่จะไปขยายธุรกิจของตนเป็นอันต้องชวด แล้วไม่รู้ว่าจะมีโอกาศแบบนี้อีกหรือไม่

“ตกลงครับ ผมตกลง” คนจนตรอกอยากได้เงินตอบรับแบบไม่ทันคิดอ่านให้รอบคอบ ตอบไปทั้งที่ไม่รู้เลยว่าลูกสาวของตนจะยอมหรือไม่ “ผมจะพาลูกสาวมาให้คุณตามที่คุณต้องการ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ วันไหนที่คุณพาลูกสาวมาให้ผม ผมก็จะให้เงินคุณในวันนั้นครึ่งหนึ่ง แล้วจะให้อีกครึ่งหนึ่งในวันต่อมา ข้อตกลงมีเท่านี้”

เสียงทรงอำนาจของเจ้าของเงินเอ่ยบอกรณชัยที่ยิ้มอย่างมีความหวัง แม้ว่าภายในจิตใจจะกลัดกลุ้มไม่น้อย

“ครับได้ครับ ตกลงตามนี้ครับ”

“เห็นทีเราจะคุยกันเสร็จแล้วนะ เชิญคุณรณชัยกลับไปเตรียมตัวพาลูกสาวมาให้ผมได้แล้ว ผมเองก็มีงานที่จะต้องทำต่อเหมือนกัน”

เจ้าของห้องพูดเชิงไล่อย่างสุภาพ บอกตรงๆ ว่าราชสีห์ไม่อยากจะเสวนากับรณชัยมากนัก แล้วที่ยอมเสียเงินหลายร้อยล้านก็ไม่ใช่ว่า อยากจะช่วยเหลือชายสูงวัยตรงหน้า เขาเพียงแค่อยากจะแก้แค้นใครบางคนให้เจ็บๆ คันๆ ในหัวใจบ้าง

“ครับ ผมลานะครับ”

รณชัยเอ่ยลาเจ้าของห้อง เขาลุกขึ้นยืนหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงานของราชสีห์ทันที เวลานี้รณชัยพกทั้งความดีใจที่จะได้เงินไปพร้อมกับความหนักใจอันหนักอึ้งไปด้วย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จับลูกเลี้ยงมาทำผัว

จับลูกเลี้ยงมาทำผัว

nugkeanransawat
5.0

จับลูกเลี้ยงมาทำผัว แนวคุณแม่ยั่วลูกชาย(ลูกเลี้ยง) มุตาคุณแม่สาวใหญ่วัย38ปี เธอเป็นอดีตนางงามที่สวยไม่สร่างซา เธอแต่งงานกับนักธุรกิจใหญ่ที่ร่ำรวยทว่าเธอกลับไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ เมื่อเธอและสามีรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดูจนโตเป็นหนุ่มหล่อวัย19ปี มุตากลับหวั่นไหวเพราะความหล่อเหลาของลูกชายตัวเองจนเกิดเป็นความใคร่อยากที่ไม่อาจฝืนทน บวกกับสามีที่เอาแต่เที่ยวสังสรรและติดเด็กสาวๆ ความแค้นเคืองในใจยิ่งเป็นแรงผลักดันให้มุตายั่วยวนลูกชายสุดหล่อ มาร่วมลุ้นกันว่ามุตาจะปลุกอารมณ์ของหนุ่มน้อยให้เขาคิดลึกกับเธอได้หรือไม่ คุณแม่ที่โหยหาจะได้ลิ้มลองรสชาติของลูกเลี้ยงที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือได้หรือเปล่า และเธอต้องใช้มารยาเบอร์ไหนกว่าจะได้เขามาเป็นผัว ผัวที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ