อุ้งมือพิศวาสซาตาน

อุ้งมือพิศวาสซาตาน

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
120.3K
ชม
75
บท

“ฉันเอง จะตกใจอะไรหนักหนา ไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้ได้นอกจากฉันอยู่แล้ว” เขาพูดเสียงไม่สบอารมณ์ มองใบหน้านวลที่ส่องกระทบกับแสงสีส้มจากหลอดนีออนแล้วพาใจสั่น ดวงหน้าหวานยามต้องแสงสีนี้ผสมผสานกับความเห่อร้อนจากความอาย ทำให้เธอเกิดความงดงามราวกับภาพวาดจากจิตรกรชั้นเอก เขาเผลอไผลหลงมองนิ่งงัน ลืมความไม่พอใจเรื่องที่เธอผลักร่างของตนจนสิ้น “ตาขอโทษค่ะ” เธอก้มหน้างุด ข่มความอายเมื่อเขามองเธอไม่วางตา เอ่ยคำขอโทษต่อเจ้าหนี้รายใหญ่ของบิดา เขาจะว่าเธอก็ไม่ถูกเพราะทีแรกเธอนอนคนเดียวในห้องนี้ แล้วตื่นมาเจอใครอีกคนอยู่ด้วยก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา “ทำหน้าที่เธอให้ดี แล้วฉันจะให้อภัย” สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงแค่นี้คือหาความสุขจากร่างสาวอวบอิ่ม ที่ทำให้เขาคิดถึงมาตลอดทั้งวันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

บทที่ 1 1

1

“นะครับ ช่วยผมหน่อยนะครับคุณสิงห์ ผมมองไม่เห็นใครจริงๆ ครับ”

เสียงขอร้องอ้อนวอนดังผ่านปากรณชัย ชายวัยหกสิบปี สีหน้าของผู้พูดเต็มไปด้วยความหนักใจ หากราชสีห์ไม่ช่วยเขา รับรองได้ว่าธุรกิจของตนต้องล่มจมเป็นแน่

ราชสีห์ ศิวะธำรงกุล นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแห่งปี มีธุรกิจในมือหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือสถาบันการเงินประเภทไม่ใช่ธนาคาร ภายใต้ชื่อบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เดอะซันกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปู่ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา หลังจากปู่เสียชีวิตชายหนุ่มก็ได้ครอบครองทรัพย์สมบัติมหาศาลด้วยวัยเพียงสามสิบปี และอีกเก้าปีต่อมาราชสีห์ก็สามารถทำให้บริษัทแห่งนี้ติดอันดับหนึ่งในสามของบริษัทเงินทุนฯ ที่มีรายได้มากที่สุด มีความแข็งแกร่งในเชิงธุรกิจจนยากที่ใครจะโค่นล้มได้

“เงินมันเยอะมากนะคุณชัย ถ้าผมให้ไปก็ไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือเปล่า”

ราชสีห์พูดอย่างนักธุรกิจผู้มองการณ์ไกล เขารู้ดีว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของรณชัยอยู่ในขั้นวิกฤตมากแค่ไหน ขาดเม็ดเงินในการหมุนเวียนธุรกิจ ส่งผลให้ขาดแรงงานที่พากันลาออกเนื่องจากเจ้าของบริษัทจ่ายเงินเดือนล่าช้า ซ้ำยังติดหนี้ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างที่ให้เครดิตกับรณชัยร่วมสิบห้าล้านบาท ไม่รวมกับเงินกู้ที่กู้มาหมุนเวียนจากธนาคาร นับจำนวนหนี้สินทั้งหมดก็ไม่ต่ำกว่าสามร้อยล้านบาท เงินจำนวนมากขนาดนั้นหากเขาให้ไปก็ไม่รู้จะได้คือหรือไม่ และหากอีกฝ่ายไม่ได้เงินก้อนนี้จากเขา รับรองได้ว่ารณชัยต้องล้มละลายแน่นอน

“ได้คืนสิครับ ยอดจองคอนโดของผมเกินกว่าครึ่งแล้วนะครับ ถ้าสร้างเสร็จต้องมีคนมาซื้อเพิ่มเติมแน่ๆ ครับ ผมมั่นใจ”

รณชัยยังมีความหวังว่าคอนโดมิเนียมที่กำลังสร้างอยู่นี้จะสร้างกำไรให้เขาเหมือนคอนโดอีกหลายแห่ง เพียงแค่ว่าต้องหาเงินทุนมาหมุนเวียนในการปลูกสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนด ซึ่งจะสมหวังหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนตรงหน้า

“ที่คุณพูดมามันก็เป็นแค่เพียงการคาดเดาของคุณ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งพูดยากใหญ่ ผมเป็นเจ้าของเงินก็ต้องคิดหนักหน่อย จะให้ใครกู้เงินก็ต้องมองเห็นการได้เงินคืน ไม่ใช่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ”

รณชัยใจร้อนรุ่มมากกว่าเดิม เขารู้ดีว่าราชสีห์เป็นนักธุรกิจที่มองการณ์ไกล คิดและทำสิ่งใดก็ต้องรอบคอบ ยิ่งจำนวนเงินที่เขาขอกู้ที่มีมูลค่าสูงถึงห้าร้อยล้านบาท ใครเป็นเจ้าของเงินก็ต้องคิดหนัก แต่เขาก็ไม่อาจละความพยายามได้ เนื่องจากราชสีห์เป็นที่พึ่งสุดท้ายหลังจากตระเวนของกู้เงินตามธนาคารและบริษัทเงินทุนหลายแห่ง ทว่าก็ไม่ธนาคารหรือบริษัทเงินทุนใดให้รณชัยกู้เงินเลยสักแห่ง

“ผมมีบ้าน มีที่ดินอยู่หลายแห่ง ถ้าหากผมนำมาค้ำประกันกับคุณได้หรือเปล่าครับ” งานนี้เขาทุ่มสุดตัวเพื่อธุรกิจและหน้าตาทางสังคม

“บ้านและที่ดินทั้งหมดของคุณมันจะพอเป็นหลักค้ำประกันได้เหรอ” ราชสีห์พูดเชิงถาม “ผมว่าไม่ถึงกึ่งหนึ่งของเงินที่คุณขอกู้จากผมด้วยซ้ำไป”

รณชัยได้ฟังแล้วสีหน้าเคร่งเครียดทันที เห็นทีเขาคงจะชวดเงินกู้ก้อนนี้แน่นอน หากไม่ได้เงินจำนวนนี้รับรองได้ว่า คอนโดของเขาที่ปลูกสร้างไปกว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์จะต้องยุติการปลูกสร้าง ปัญหาตามมามีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเงินจองและเงินดาวน์ที่เขาได้รับจากลูกค้าที่สั่งจองและผ่อนเงินดาวน์อยู่ ไหนจะค่าวัสดุก่อสร้างที่คั่งค้าง ค่าจ้างคนงานอีก แค่คิดชายวัยหกสิบปีก็พอจะมองเห็นอนาคตตัวเอง

“แล้วถ้าหากผมหาคนค้ำประกันได้ล่ะครับ คุณสิงห์จะยอมปล่อยเงินกู้ให้ผมหรือเปล่า”

รณชัยยังดิ้นรนต่อไป แม้ว่าเขาจะยังมองไม่เห็นว่าจะมีใครยอมมาค้ำประกันเงินกู้ให้ตน แต่เขาก็จะพยายามให้มากที่สุด เพื่อให้ได้เงินต่อชีวิตก้อนนี้

ราชสีห์กระตุกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่รณชัยเห็นแล้วขนลุก “ใครจะกล้าค้ำประกันให้คุณครับคุณรณชัย เงินไม่ใช่แค่ล้านสองล้านนะ มันตั้งห้าร้อยล้าน ผมว่านะแค่คุณอ้าปากขอใครคนนั้นก็ปฏิเสธแล้ว”

เจ้าของเงินพูดเหมือนรู้ทาง คนที่มาขอกู้เงินหน้าเสีย หนทางที่จะไม่ได้เงินนั้นมีสูงมากเหลือเกิน ในเมื่อทางนั้นก็ไม่ได้ ทางนี้ก็ไม่ได้ แล้วจะมีทางไหนที่พอจะมองเห็นว่าเขาจะได้เงินจำนวนนี้

“คุณราชสีห์พอจะมีทางไหนเสนอให้ผมไหมครับว่า ผมจะต้องทำยังไงถึงจะได้เงินกู้ก้อนนี้”

เวลานี้คนร้อนเงินหมดสิ้นหนทางจะคิดและพูด เขาจึงเอ่ยถามเจ้าของเงินตรงๆ หากมีทางใดที่จะได้เงิน เขายินดีทำทุกทาง แล้วคำพูดของรณชัยก็เข้าทางราชสีห์แบบเหมาะเหม็ง

“ถ้าผมบอกคุณจะทำตามจริงๆ ไหมคุณรณชัย” ราชสีห์ถามกลับ แววตาประกายเจ้าเล่ห์

“ใช่ครับ ผมยอมทำทุกอย่างครับ”

ตอนนี้รณชัยต้องการเพียงเงินมากอบกู้สถานการณ์วิกฤตของตัวเอง จนเขาไม่คิดไม่ไตร่ตรองคำพูดของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“ผมได้ข่าวว่าลูกสาวของคุณสวยไม่ใช่เล่น...คุณขอกู้เงินผมห้าร้อยล้านผมก็จะให้ แต่คุณต้องเอาลูกสาวของคุณมาค้ำประกันเงินกู้ คุณชดใช้หนี้ผมหมดเมื่อไหร่ ลูกสาวของคุณก็ได้รับอิสระเมื่อนั้น”

คำตอบของราชสีห์เรียกความตกใจให้กับคนร้อนเงินได้อย่างมาก หัวใจของรณชัยแทบจะหยุดเต้น ไม่คาดคิดว่าข้อเสนอของชายหนุ่มตรงหน้าจะเป็นเช่นนี้

“อะ อะไรนะครับ จะให้ลูกสาวของผมมาเป็นตัวค้ำประกันเหรอครับ” รณชัยถามทวนอย่างไม่แน่ใจ สมองยังรู้สึกสับสนอยู่

“ใช่ครับ” ราชสีห์ตอบเสียงหนัก ยกยิ้มมุมปากเชิดขึ้นข้างหนึ่ง “ผมจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ คุณต้องให้ลูกสาวของคุณมาเป็นเครื่องประดับบนเตียงของผม จนกว่าหนี้สินของเราจะหมดไป แต่ถ้าคุณไม่เห็นด้วยหรือไม่ยินยอมก็ได้นะ ผมยังไงก็ได้เพราะผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่แล้ว”

ราชสีห์เสมือนผู้กำชัย มองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่คนถูกมองเห็นแล้วอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ รณชัยกำลังคิดว่าข้อเสนอของราชสีห์เปรียบเสมือนแสงสว่างนำทาง หากเขาไม่ตกปากรับคำ เงินก้อนใหญ่ที่จะไปขยายธุรกิจของตนเป็นอันต้องชวด แล้วไม่รู้ว่าจะมีโอกาศแบบนี้อีกหรือไม่

“ตกลงครับ ผมตกลง” คนจนตรอกอยากได้เงินตอบรับแบบไม่ทันคิดอ่านให้รอบคอบ ตอบไปทั้งที่ไม่รู้เลยว่าลูกสาวของตนจะยอมหรือไม่ “ผมจะพาลูกสาวมาให้คุณตามที่คุณต้องการ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ วันไหนที่คุณพาลูกสาวมาให้ผม ผมก็จะให้เงินคุณในวันนั้นครึ่งหนึ่ง แล้วจะให้อีกครึ่งหนึ่งในวันต่อมา ข้อตกลงมีเท่านี้”

เสียงทรงอำนาจของเจ้าของเงินเอ่ยบอกรณชัยที่ยิ้มอย่างมีความหวัง แม้ว่าภายในจิตใจจะกลัดกลุ้มไม่น้อย

“ครับได้ครับ ตกลงตามนี้ครับ”

“เห็นทีเราจะคุยกันเสร็จแล้วนะ เชิญคุณรณชัยกลับไปเตรียมตัวพาลูกสาวมาให้ผมได้แล้ว ผมเองก็มีงานที่จะต้องทำต่อเหมือนกัน”

เจ้าของห้องพูดเชิงไล่อย่างสุภาพ บอกตรงๆ ว่าราชสีห์ไม่อยากจะเสวนากับรณชัยมากนัก แล้วที่ยอมเสียเงินหลายร้อยล้านก็ไม่ใช่ว่า อยากจะช่วยเหลือชายสูงวัยตรงหน้า เขาเพียงแค่อยากจะแก้แค้นใครบางคนให้เจ็บๆ คันๆ ในหัวใจบ้าง

“ครับ ผมลานะครับ”

รณชัยเอ่ยลาเจ้าของห้อง เขาลุกขึ้นยืนหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงานของราชสีห์ทันที เวลานี้รณชัยพกทั้งความดีใจที่จะได้เงินไปพร้อมกับความหนักใจอันหนักอึ้งไปด้วย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หัวใจร่วงโรย

หัวใจร่วงโรย

Evelyn Hart
5.0

ลู่หลีเคยได้รับการช่วยชีวิตจากสามีของเธอ แต่หลังจากเขาสูญเสียความทรงจำ เขากลับลืมเธอเสียสนิท สามปีหลังจากแต่งงาน เพ่ยซือหานถึงกับนอกใจต่อหน้าผู้คน ทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก ลู่หลีรู้สึกผิดหวังมาก จากนั้นก็เซ็นเอกสารหย่าทันที ตั้งแต่นั้นมา เธอได้กลับมาเป็นหญิงสาวที่มีอำนาจอีกครั้ง หมอผีที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือเธอ ตำนานนักแข่งรถคือเธอ แฮกเกอร์ระดับโลกคือเธอ และนักออกแบบอัจฉริยะก็เป็นเธอเช่นกัน ต่อมา เพ่ยซือหานไม่เพียงแต่เสียใจจนสุดขีด แต่ยังฟื้นความทรงจำได้อีกด้วย เขาถึงกับบุกเข้าไปในงานแต่งงาน “เสี่ยวหลี ขอร้องเถอะ ให้โอกาสผมอีกครั้ง!” แต่เอวของลู่หลีถูกโอบกอดไว้โดยใครอีกคนหนึ่งที่มีอำนาจ เขาหัวเราะในลำคอว่า “ที่รัก มีคนที่กำลังเล่นกับไฟ”

มาเฟียคลั่งรัก (Love as first sex)

มาเฟียคลั่งรัก (Love as first sex)

จินต์พิชา
5.0

“คุณรักฉันยอมรับมาเถอะ” “เปล่าเลย มิรันดา ผมไม่เคยรักคุณเลยสักนิด ที่ผ่านมามันก็แค่เรื่องเซ็กซ์ ให้ยืนยันอีกกี่ครั้งผมก็พูดเหมือนเดิม ผมไม่ได้รักคุณผมรักแค่เซ็กซ์ของคุณ” ************************* เพราะเสียคนรักจากการลอบทำร้ายของคู่อริเมื่อห้าปีก่อน มาร์คัสจึงไม่คิดจะรักใครอีก แต่เหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งเมื่อมาเจอกับมิรันดาสาวน้อยที่เขาใช้เงินซื้อมาเพื่อให้เธอเลิกยุ่งกับน้องเขยของตนเอง ชายหนุ่มทั้งทั้งหลง แต่ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นอีก เขาจึงคิดจะวางมือและถอนตัวจากธุรกิจสีเทา แต่การจะลงจากหลังเสือนั้นมันยากกว่าที่คิดไว้ ในเมื่อมีคนที่จ้องจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.8

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ