ชังรักอ๋อง4่ขา

ชังรักอ๋อง4่ขา

mookmanee

5.0
ความคิดเห็น
1.9K
ชม
15
บท

คำโปรย นางตัดสินใจลอบเข้ามาสำรวจความเป็นอยู่ของเฉิงจิ้งอ๋อง พิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเขาเป็นองค์ชายไร้ความสามารถ ที่มีส่วนทำให้บิดาของนางต้องถูกระเห็จออกไปว่าราชการที่ชายแดนทุรกันดารหรือไม่... เพียงแต่เมื่อนางย่างเท้าเข้ามาสู่ห้องทรงงานด้านใน สิ่งที่นางคิดว่าง่าย กลับกำลังทำให้นางต้องพบกับความยากลำบากเข้าเสียแล้ว.... .......................... "อือ....ปละ ปล่อย..." "ปล่อยให้ข้าเข้าครองครองกายเจ้า...เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ ว่าที่พระชายาของข้า?"

บทที่ 1 ชังรักอ๋อง4ขา

คำโปรย

นางตัดสินใจลอบเข้ามาสำรวจความเป็นอยู่ของเฉิงจิ้งอ๋อง พิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเขาเป็นองค์ชายไร้ความสามารถ ที่มีส่วนทำให้บิดาของนางต้องถูกระเห็จออกไปว่าราชการที่ชายแดนทุรกันดารหรือไม่... เพียงแต่เมื่อนางย่างเท้าเข้ามาสู่ห้องทรงงานด้านใน สิ่งที่นางคิดว่าง่าย กลับกำลังทำให้นางต้องพบกับความยากลำบากเข้าเสียแล้ว....

..........................

“อือ....ปละ ปล่อย...”

“ปล่อยให้ข้าเข้าครองครองกายเจ้า...เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ ว่าที่พระชายาของข้า?”

ตัวอย่าง(คัทซีน)

จิ้งอ๋องถอนร่างลุกขึ้นยืน ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่คิดที่จะวางตา ความงามของหานหลิงนั้นเป็นที่ประจักษ์ ภาพเสมือนของนางมีหรือที่เขาจะมิเคยได้เห็น เพียงแต่ความคล้ายคลึงนั้น...

“เจ้าดูดีกว่าภาพอัปลักษณ์นั่นตั้งเยอะ” ปลายมือชี้ตรงไปยังกระดาษหนาที่วางแผ่หราอยู่บนโต๊ะไม้ด้านข้าง

“แน่นอนว่าข้ารูปงาม” ไม่ต้องการถ่อมตัว

ทั้งยังเชิดหน้าชูคอแสดงออกถึงความมาดมั่นที่มีอย่างเต็มที่

“เจ้าไม่แม้แต่จะเขินอายเลยสักน้อย หรือว่า... บุตรีเพียงคนเดียวของเสนาบดีหาน จะเป็นดอกพุดตานที่ถูกเปลี่ยนสีไปเสียแล้ว”

“คารมคมคาย วาจาเชือดเฉือนน้ำใจคน หากมิได้มาเห็นกับตา ได้ยินกับหู ข้าคงไม่อาจเชื่อได้ว่าเป็นฉินจิ้งอ๋องผู้นี้”

“นี่เจ้า! กล้าสบประมาทข้าถึงเพียงนี้...คงมิได้มาเพราะตรวจสอบความสามารถเรื่องความสมชายของข้าหรอกหรือ?”

“นี่ท่าน!”

“อะไรเล่า? วันนี้ข้าค่อนข้างที่จะอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัวเสียด้วย มีเจ้ามาเป็นเพื่อนเล่นด้วย สมองคงจะปลอดโปร่งขึ้น”

ขวับ! “อ๊ะ! ปล่อยข้านะ!” เพียงนางเผลอกระพริบเปลือกตาเท่านั้น ร่างอรชรก็ตกลงไปอยู่บนตักแกร่งด้วยการกอดเหวี่ยงเพียงครั้งเดียวของเขาเสียแล้ว

เจ้าของเรือนกายอรชรด้วยความสวยอันทรงเสน่ห์ ทำให้จิ้งอ๋องถึงกับร้อนผ่าวไปทั่วลำกายแกร่ง

“สตรีเอ๋ย!... คิดจะลงมือกับข้า เจ้าสืบดูความสามารถของข้าอย่างละเอียดแล้วหรือยัง?”

“นี่ท่าน...” เรี่ยวแรงมากมายที่ไม่เคยคิดว่าเขาจะมี มากกว่าบุรุษที่นางมักจะต่อกรด้วยหลายส่วน ทำให้ข้อมือเล็กของหานหลิง ถูกเขาตรึงเอาไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่เพียงข้างเดียว...ง่ายดายเพียงนั้น

ใบหน้าหล่อเหลา ทั้งองคาพยพทั้งห้างามพร้อมราวกับผ่านความตั้งใจแกะสลักจากช่างฝีมือชั้นดี ทำให้สตรีที่อยู่ในอาณัติ ถึงกับไม่ไหวติงไปชั่วคราว

ดวงตาคมปราบมองสบประสานดวงตาเมล็ดซิ่งของนาง เรียวปากหยักสวยได้รูปของจิ้งอ๋องยกสูงข้างหนึ่ง เขาตั้งใจกดปลายคางลงต่ำจรดถูกติ่งหูเล็กนุ่มนิ่มของนาง

กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทว่ากลับมีผลต่ออัตราการเต้นของก้อนเนื้อเล็กในอกด้านซ้ายของนางนัก

“อะไรเล่า? เจ้ามีฝีมือมากมายมิใช่หรือ? จากที่คนของข้ารายงานมา เจ้าสามารถจัดการชายร่างใหญ่กว่าเจ้าในคราวเดียวพร้อม ๆ กันถึงห้าคนเชียวนะ”

นัยน์ตาคมประกายเต็มไปด้วยความท้าทาย ขณะที่คนใต้อาณัติยังคงสู้ไม่ถอย

“สอดรู้เรื่องส่วนตัวของข้า เห็นได้ชัดว่าท่านว่างงานมากนัก” น้ำเสียงย้ำประโยคตอนท้าย หากแต่คนฟังยังคงไม่ยีหระ แววตายังคงปริ่มเต็มไป ด้วยความท้าทาย ตอบกลับคำพูดของนางอย่างสมน้ำสมเนื้อ

“คงว่างพอ ๆ กับเจ้ากระมัง ว่าที่พระชายาของข้า”

“ปล่อยข้าน่ะ! ไม่อย่างนั้นท่านกับข้า อ๊ะ อุ๊บส์!” กลีบปากสีชาดถูกเรียวปากอันทรงเสน่ห์ของเขาปิดไว้อย่างสนิทแนบแน่น

เรียวปากนุ่มนิ่มอันน่าหลงใหล กำลังทำให้เขาเผลอปล่อยความก้าวร้าวหยาบโลน บดบี้ขยี้สองกลีบปากบนล่างของนางรุนแรง หญิงสาวเผลอเผยออ้าปาก หมายจะกล่าวติเตียน ทว่าเขากลับ อาศัยจังหวะแสนสั้น แทรกเรียวลิ้นอุ่นชื้นเข้าครองครองโพรงปากหวานของนาง

“อืมมมม” หานหลิงเผลอครางแผ่วออกมาจากลำคองามระหง

เปลือกตาบางสวยของนางปรือพริ้ม ฉ่ำเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย

หนึ่งในนั้นที่เขาสัมผัสได้คือนางกำลังถูกเขาทำให้เกิดความเร้าใจ แรงเบียดเสียดจากลิ้นร้อนผสานเรียวปากอุ่น ผ่านท่าทางการจุมพิตอย่างดูดดื่ม ทำให้สตรีพรหมจรรย์เช่นนางเผลอระทวย อ่อนยวบลง

หญิงสาวเผลอเอนกายพิงแผงอกแกร่งของเขา ทันทีที่อ๋องหนุ่มปล่อยอิสระของนางกลับคืน

แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก หานหลิงรีบตักตวงสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดเล็กทั้งสองข้าง เมื่อเค่อกว่าที่ผ่านมา ใช่ว่านางเกือบขิตสู่สวรรค์ เพราะขาดอากาศหายใจหรอกหรือ

“คนเลว!” เพี๊ยะ!

ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรลงมาจุติ สะบัดเอียงไปตามแรงมือ แม้จะไม่แรงมากพอที่จะทำให้เขาได้รับความเจ็บปวด หากแต่ก็หนักแน่นพอที่จะทำให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาราวกับหยกชั้นดี ขึ้นรูปเป็นรอยนิ้วเรียวทั้งห้า

“กล้ามาก!”

“ปล่อยข้า!”

“เจ้ารนหาเรื่องเองแท้ ๆ เหยื่อวิ่งเข้าปากราชสีห์ แล้วข้าจะแปลงกายเป็นแมวเชื่องเพื่อหนูร้ายกาจเช่นเจ้าได้อย่างไรกัน มานี่!”

“ว๊าย! ปะ ปล่อย ปล่อยเดี๋ยวนี้น่ะ ไม่อย่างนั้นข้าจะ...”

“จะร้องครางให้ข้าฟังความเสียวกระสันของเจ้าทั้งคืน...เป็นเช่นนี้สิจึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน!”

“อ๋องบ้า อ๋องโรคจิต ปล่อยข้านะ ปล่อย!”

**นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่หรือกระทำการใด ๆ ก่อนได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำละเมิดอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น**

เขียนโดยนามปากกา ลู่ฟางซู

ภาพปกสำเร็จ

เผยแพร่ในรูปแบบของอีบุ๊กครั้งแรก

มิถุนายน 2567

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ mookmanee

ข้อมูลเพิ่มเติม
ข้าอยู่เหนือราชาพยัคฆ์

ข้าอยู่เหนือราชาพยัคฆ์

โรแมนติก

5.0

ธอ ผู้เดินทางข้ามมิติเวลามาหล่นตุ๊บ! อยู่ในยุคโบราณที่เหนือกว่าจินตนาการ และไม่ใกล้เคียงกับบันทึกประวัติศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา แม้ลมหายใจจะยังอยู่ดี แต่ร่างกายกลับบิดเบี้ยวผิดรูป เนื่องจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ทว่าท่ามกลางความโชคร้าย ยังคงมีเคราะห์ดีหลงเหลืออยู่บ้าง ที่บังเอิญ เขา ผู้นั้นได้ผ่านทาง และให้ความช่วยเหลือ ทั้งยังเป็นที่พึ่งเดียวที่ซูฮวามีได้ในเวลานี้ เพียงแต่ว่า.... เธอจะต้องทำสัญญาให้กับเขา เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งเขาผู้นั้นยังสร้างเงื่อนไขบางอย่างเพื่อให้นางแลกกับความเป็นอิสระ และได้กลับไปยังโลกเดิมที่นางจากมา ดูเหมือนว่าอุปสรรคของนางจะเป็นเพราะโชคชะตาขีดลิขิต ทว่าซูฮวาก็ยังคงหวังว่าจะสามารถหลบหนีไปให้จงได้... ------ เขาเป็นถึงองค์ราชาพยัคฆ์ผู้เก็บซ่อนโฉมหน้าเอาไว้ในหน้ากากทองคำล้ำค่า แต่เพราะถูกสาปให้เป็นปีศาจพยัคฆ์ จะคืนร่างมนุษย์ได้วันละ 2ชั่วยามเท่านั้น เหตุเกิดมาจากหินมรกต ที่เขาหยิบเอามาจากเผ่าปีศาจเสือโดยพละการ เมื่อครั้งที่ได้ออกไปล่าสัตว์ เพราะหินก้อนนี้ ทำให้เขาต้องคำสาป แต่เขาก็ไม่กล้าขว้างมันทิ้งเพราะกลัวว่าจะคืนร่างเดิมไม่ได้อีก ทำให้ต้องทนอยู่กับมันมานานเป็นสิบปี ด้วยความเกลียดชัง ผ่านความทุกข์ทรมานมาแรมปี ... แต่แล้วคืนหนึ่งในขณะที่ร่างกำลังจะคืนสู่ฐานะเดิม ก็ได้เกิดนิมิตรประหลาด ในฝันนั้น...ปรากฏเป็นภาพของดาวหางสีสว่างประหลาด พุ่งตรงลงมาจากท้องฟ้า หล่นใส่หน้าอกหนาของเขา จนทำให้ได้รับความเจ็บปวด อีกทั้งหน้ากากทองคำของเขาก็ร่วงหล่น ในภาพนิมิตเลือนรางนั้น ปรากฏเป็นเงาภาพของสตรีสวมชุดสีขาวราวกับดาวหาง ใบหน้าของนาง ทำให้เขาไม่อาจละเลย..

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

การกลับมาอย่างมีชัย

การกลับมาอย่างมีชัย

Leroi Glenister
5.0

ลูหว่านแต่งงานอย่างลับๆ มาสามปีแล้วและไม่เคยเห็นหน้าสามีมาก่อนเลย แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รับในที่สุดกลับเป็นข้อตกลงารกย่าและข่าวที่เขาใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อตามจีบสาวรักในใจของเขา ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาและตัดสินใจหย่าร้าง หลังจากนั้น ลู่หว่านก็มุ่งหน้าที่พัฒนาในตัว โดยมีตัวตนหลายตัวตน เป็นหมอเทวดา สายลับระดับสูง แฮ็กเกอร์ชั้นนำ นักออกแบบชื่อดัง นักแข่งรถ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หลังจากเปิดเผยตัวตนมากมายของลู่หว่าน อดีตสามีของเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ชายคนนั้นร้องขอว่า "หว่านหว่าน ให้โอกาสผมอีกครั้ง ทรัพย์สินทั้งหมดของผมเป็นของคุณ และชีวิตของผมก็มอบให้คุณด้วย"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ