Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ราตรีที่สิบกับราชาจิ้งจอก 与狐王的第十夜

ราตรีที่สิบกับราชาจิ้งจอก 与狐王的第十夜

พันพราย

5.0
ความคิดเห็น
ชม
5
บท

ธิดาปักษาได้รับความช่วยเหลือจากราชาจิ้งจอกผู้โหดเหี้ยมทารุณ ไยนางกล้าหลอกลวงว่านางเป็นเพียงปักษาธรรมดา...

บทที่ 1 1

ใต้เวหาเยียบเย็นในเมืองปีศาจ ปักษาที่จมปลักในบ่อโคลน เงยหน้าขึ้นมองหางสีนิลตัดกับสีชาดทั้งเก้าพลิ้วไหวลู่ลมเบื้องหลังร่างสูงกำยำ อาภรณ์สีเดียวกันนั้นปักทอด้วยด้ายทองแลดูสง่างามเยี่ยงบุรุษผู้สูงศักดิ์ รองเท้าผ้าหุ้มด้วยกำมะหยี่ล่องลอยอยู่เหนือพสุธา

“พวกเจ้ากลับไปก่อน ข้ามีธุระต้องจัดการ” เสียงเข้มออกคำสั่ง ลูกสมุนจิ้งจอกทั้งสามพลันอันตรธานไปในพริบตา

ร่างเปื้อนโคลนกะพริบปริบปรือนัยน์ตาอ่อนล้าด้วยท่าทางน่าเวทนา หลังจากที่พยายามดิ้นรน ส่งเสียงร้องโวยวายจนหมดสิ้นฤทธิ์แรง ไม่มีผู้ใดยื่นมือเข้าช่วยเหลือแม้มองเห็นตัวอะไรสักอย่างขยับดิ้นขลุกขลัก สำลักดินขมบาดคอ น้ำโคลนกระเด็นเข้าตาจนเหลือการมองเห็นเพียงดวงตาข้างซ้ายข้างเดียว

“เจ้าปักษาตัวน้อยมาติดอยู่ในโคลนพิษได้ยังไงกัน?”

ใบหน้าหล่อเหลาแลดูฉงนสงสัย ‘ฮุ่ยเฟิน’ เพียงพลิกฝ่ามือเบา ๆ ปรากฏไอหยินครอบคลุมผืนโคลน เขาดึงร่างปักษาเล็กเท่าฝ่ามือขึ้นมาจับกุม กรงเล็บสีนิลจิกลงบนขนคอเปรอะเปื้อนดินโคลน จนโลหิตไหลซึม

ร่างปักษาลอบกลืนน้ำลายลงคอ ขณะสบมองนัยน์ตาทอประกายใต้แสงจันทราสีชาด ทั้งเขี้ยวขาวคมตรงมุมปากหนาหยักได้รูป รอยยิ้มเล่ห์ร้ายบนใบหน้าหล่อเหลาทำให้ตระหนักรู้ได้ว่าโอกาสรอดชีวิตช่างริบหรี่

ต่อให้รอดพ้นจากการจมลงไปในโคลนพิษ น่าจะกลายเป็นอาหารมื้อค่ำของจิ้งจอกอยู่ดี

ปักษาผู้น่าสงสารมิได้ล่วงรู้ว่าบุรุษจิ้งจอกกำลังให้ความสนใจแววตาหวาดหวั่นพรั่นพรึงของนาง ด้วยความคิดเป็นตรงกันข้าม เขาว่านางน่าสนใจนัก

“เจ้าตัวนี้น่าเอ็นดู ปีกสีขาวสะอาด นัยน์ตาสีมรกต ชั่วชีวิตข้ามิเคยพบเห็นปักษางดงามเช่นนี้มาก่อน” ในน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ฮุ่ยเฟินสะบัดมือซ้ายตีลงบนอากาศ กลุ่มเมฆาสีนิลห้อมล้อมรอบกาย นำพาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เดินทางสู่สถานที่ห่างไกลในชั่วอึดใจ

นครอันมืดมิดปกคลุมด้วยไอหยิน เรือนสี่ประสานใหญ่โตโอ่อ่าดังพระราชวังบนโลกมนุษย์ ตั้งตระหง่านเหนือพสุธาเขียวชอุ่ม โดยรอบบริเวณเรือนไม้รโหฐานมีสุนัขจิ้งจอกในร่างบุรุษอาภรณ์สีนิลสนิท คอยสลับเปลี่ยนหน้าที่กันเฝ้าเวรยาม บางตนกำลังคาบเหยื่อซึ่งเป็นนกตัวเล็ก ๆ มากัดกินในโพรงหินเล็กแคบ บริเวณสวนหย่อมด้านหลังเรือน ที่พำนักอาศัยระหว่างการทำงาน

ฮุ่ยเฟินไม่ชอบกิริยาเช่นนั้น จึงมักว่ากล่าวตักเตือนบรรดาลูกสมุน มิให้ประพฤติตนเช่นเดรัจฉาน ส่งเสียงดังระหว่างการทำงานด้วยวิสัยเยี่ยงสุนัข ขอให้รักษาเกียรติของการเป็นปีศาจจิ้งจอก ในเมื่อพวกเขาต่างมีร่างของบุรุษสตรี

“ทหาร พวกเจ้าเฝ้าเวรยามให้ดี สถานการณ์นอกเมืองไม่ค่อยสงบนัก” พูดพลางสอดส่องสายตาไปสุดท้องนทีกว้างใหญ่ ซึ่งกั้นกลางระหว่างอาณาเขตปีศาจราตรี ถึงพบเพียงความนิ่งสงบ ไม่อาจไว้วางใจ

การสู้รบระหว่างเผ่าพันธุ์ไม่เคยสงบลงสักราตรีหนึ่ง ด้วยนิสัยของสุนัขจิ้งจอก มักกัดกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสิ้นลมหายใจ ปีศาจราตรีและปีศาจอื่น ๆ ไม่ใคร่รักสันติ หากชอบการทะเลาะวิวาทเป็นนิจ

“ขอให้นายท่านไว้วางใจเรื่องความปลอดภัย พวกพ้องของเรามีมากมายเหลือประมาณเทียบเท่ากองทัพราชาแห่งสวรรค์ กำลังพลจิ้งจอกต่างร่วมใจเป็นหนึ่ง รัชสมัยของท่านฮุ่ยเฟินเข้มแข็ง เกรียงไกร!”

ราชาฮุ่ยเฟิน! ราชาฮุ่ยเฟิน! เสียงจิ้งจอกเห่าหอนตามกัน จากตัวหนึ่งไปอีกตัว ราวกับว่าเป็นธรรมเนียมการส่งเสียงของสุนัข ด้วยความเคยชินของพวกเขาชื่นชอบการเยินยอหัวหน้าฝูง จวบจนนายท่านยกฝ่ามือข้างที่เหลืออยู่จากการจับคอปักษาขึ้นปัดป่ายไปมา

“พวกเจ้าอย่าเห่าหอนเสียงดังมากนัก จะเป็นที่เอิกเกริกในยามวิกาล”

“พวกข้าขออภัยที่ทำให้ท่านฮุ่ยเฟินรำคาญใจ” บุรุษร่างกำยำยกมือประสานไว้ข้างหน้าด้วยความเคารพยำเกรง “เพียงแต่การปกครองของเจ้านครปีศาจ ราชาจิ้งจอกผู้รวบรวมดินแดนให้เป็นปึกแผ่นเนิ่นนานนับสามหมื่นปีทำให้ข้าอดใจมิได้ ที่จะยกย่องสรรเสริญท่าน”

“ข้าไม่ถือสา ถึงพวกเจ้าจะส่งเสียงน่ารำคาญหูอยู่เป็นประจำ”

ทหารปีศาจคุ้มกันประตูหินสูงเสียดฟ้าเข้ามาคำนับเจ้าแห่งปีศาจ แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเลื่อมใส

โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามนี้บ้านเมืองสงบสุขนัก มิได้เกิดศึกสงครามครั้งใหญ่ มีเพียงการทะเลาะวิวาทของปีศาจทั่วไป

ขณะสายตาหลายคู่เลื่อนมองไปยังปักษาเปื้อนโคลนในกรงเล็บสีนิลทั้งห้า ลมหายใจค่อย ๆ แผ่วเบาลง จะตายแหล่มิตายแหล่ ทหารยามยกมุมปากขึ้น ปรากฏเขี้ยวคมอย่างปีศาจ หางทั้งสามโบกไหวไปมา อีกตนหนึ่งเป็นหัวหน้าทหารยาม นับเป็นจิ้งจอกห้าหาง เจ็ดหาง ปีศาจนับสิบตนถึงกับน้ำลายสอ

“นางไม่ใช่เหยื่อ กินไม่ได้ ครั้นจะยกให้พวกเจ้าไปกัดแทะเล่น ข้าเกรงว่าไม่เหมาะสม...”

เมื่อท่านผู้นำเคยตกลงด้วยวาจาว่าจำต้องรักษากิริยา เหล่าทหารจึงเก็บเขี้ยวเล็บ ขณะที่หางยังโผล่พ้นเฉกเช่นราชาจิ้งจอกผู้มีหางสีนิลสนิทครบทั้งเก้าหาง แลดูสง่างามยิ่งนัก

“หากว่าพวกเจ้าหิว เข้าไปหาอะไรกินในเมือง เจ้าไปบอกสหายของเจ้ามาผลัดเฝ้าประตูเมืองเสีย ข้าอนุญาตให้ได้สักวันหนึ่ง”

“เป็นพระคุณของข้าน้อยขอรับนายท่าน! ข้าจะรีบดับกระหาย รีบกลับมาทำงานขอรับ”

ธรรมดาปีศาจมักหิวกระหายพลังวิญญาณอยู่เสมอ เรื่องปากท้องคงรอนานไม่ได้

ฮุ่ยเฟินตรวจตราประตูเมือง สั่งงานทหารยามจิ้งจอกเรียบร้อยดีแล้วจึงกลับเข้าห้องพักในจวนกว้าง พบองครักษ์เพิ่งปรากฏตนหลังกลุ่มเมฆาสีนิลสงบนิ่ง เหล่าจิ้งจอกล้วนแปลกใจ เหตุใดนายท่านอารมณ์ดีกว่าทุกวัน

“ข้าจะพานางไปอาบน้ำแปรงขน”

สิ้นคำนั้น จางเหว่ย ตงหยาง มองตามปักษาเปื้อนโคลน เนื้อตัวสั่นเทาเหลือกตาลนลานมองกลับไปทางพวกเขา องครักษ์ทั้งสามเป็นผู้ติดตามที่ดี ตามไปดูนายท่านนำถังไม้ใบหนึ่ง พลิกฝ่ามือเรียกน้ำใสสะอาดซึ่งไหลวนจากบ่อมรกตเข้ามาเป็นละอองสาย จุ่มนางลงไปทั้งตัว

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ พันพราย

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ