Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
มิตรรักลวงใจ X เรือนใจนายอคิน

มิตรรักลวงใจ X เรือนใจนายอคิน

พันพราย

5.0
ความคิดเห็น
1K
ชม
41
บท

‘มิตรรักลวงใจ’ เรื่องราวของเพื่อนสนิท คิดคดกับเธอมานานแล้ว ดันมาโพล๊ะเข้าได้ในวันเมามายไร้สติ ได้ลองกินเพื่อนสักคำหนึ่งแล้วก็ต้องมีคำที่สองคำที่สาม คำเดียวจะอิ่มพอได้ไง ----------------------- ‘เรือนใจนายอคิน’ เมื่อหนุ่มนักเฝ้าหนังสือ มาเฝ้ามองหาความรักจากครูสาวทุกวัน หลายคนคงเห็นเขาเอาแต่มองคุณครูสาวมาเป็นปี ๆ ได้ขับรถผ่านไปดูประตูรั้วโรงเรียนหน่อยก็ยังดี...

บทที่ 1 1

“… ก็จับมันแต่ง ๆ ไป คุณจะมามากความมากเรื่องทำไม” คำพูดจาขอไปทีของนายธวัชชัย ฟังยังไงก็ไม่เป็นมิตร ไม่อ่อนโยนกับแขกเอาเสียเลย

‘ใบหม่อน’ นั่งอยู่ระหว่างกลางผู้ใหญ่ ฟังพวกเขาสนทนากัน ฝั่งหนึ่งยอมโอนอ่อนตามทุกอย่าง ต่างจากคุณพ่อคุณแม่ ใช่คนยอมเสียหน้าใครที่ไหน

อดีตคุณนายกินทรัพย์สมบัติมาตั้งแต่รุ่นทวด ดันทำธุรกิจเครื่องสำอางเจ๊งไม่เป็นท่า ยังดีที่มีบารมีของสามีเป็นทหารระดับนายพัน มีเงินเก็บ ทรัพย์สินมากพอกู้บ้านสักหลัง เลยได้ย้ายมาอาศัยอยู่ทาวเฮ้าส์เล็ก ๆ ริมชานเมือง

ถึงจะดีกว่าตอนอาศัยอยู่บ้านหลังเก่า เป็นแฟลตทรุดโทรม ไม่เหมือนกับเฟอร์นิเจอร์ของบ้านหลังนี้ดูมีราคาสักหน่อย มีโทรทัศน์หกสิบนิ้วตั้งอยู่กลางบ้าน ของสะสมเป็นเครื่องจานชามสังคโลกของคุณพ่อ ของกระจุกกระจิกของคุณแม่ ห้องครัวและพื้นที่ใช้สอยเหมาะสมสำหรับครอบครัวที่มีลูกชายสองคน ลูกสาวหนึ่งคน ด้านหน้าบ้านจอดรถยนต์ได้สองคัน

ดวงตาคู่สวยกลอกมองคนในฝั่งตรงข้าม คุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายชายแต่งตัวดี มีสกุลรุนชาติ หิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมสวมเสื้อผ้าไหมสีขาวสวย คุณพ่อสวมเสื้อเชิ้ตสีครีม ใบหน้าหล่อเหลาคมคายใต้แว่นกรอบหนา ละม้ายคล้ายลูกชายซึ่งยังคงไม่มา

“... ไม่ต้องห่วงนะ ต้องแต่งอยู่แล้วครับ ผมกับภรรยา ยังไงก็อยากได้หลานกับลูกสะใภ้”

“ก็ใช่ไง พวกคุณอยากได้ แต่ประเด็นคือท้องก่อนแต่ง ผมกับเมียจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน...”

“เรื่องมันผ่านมาแล้วไหมคะคุณ แล้วคงไม่ใช่ปัญหาหรอก พวกเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ไม่ใช่ใครที่ไหน ใบหม่อนนี่แม่ก็เห็นมาตั้งแต่ประถมฯ ลูกเป็นเด็กดี” คุณแม่ตั้งใจชมหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้า คุณพ่อของฝ่ายชายเองก็รีบตัดสินใจ

“อย่างนั้นขอเป็นอาทิตย์หน้านะครับ ผมจะมาคุยเรื่องฤกษ์งามยามดี”

“ตามนั้นเลยครับ มีทางเลือกมากที่ไหน แค่ไม่ให้มันท้องไม่มีพ่อก็บุญท่วมหัวละ รีบ ๆ แต่งไปก่อนท้องมันจะใหญ่กว่านี้แล้วกัน เมียผมขี้เกียจตอบคำถามเพื่อน ญาติ ๆ เขาก็เยอะ”

ทั้งคู่ไม่มีทางยอมให้ลูกสาวเป็นขี้ปาก โดยเฉพาะคุณแม่ผู้ชื่นชอบการเข้าสมาคมเมียทหาร

ใบหม่อนรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย หลังโดนฝ่ามือพิฆาตจนได้แต่นั่งลูบต้นแขน กระทั่งตอนนี้ บนโซฟากำมะหยี่สีน้ำตาลเข้มตัวเก่าซึ่งยังดูดีเหมาะสมกับการรับแขก ให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก แต่ละคนนั่งหลังตรงยังถึงกับบั้นท้ายสะดุ้ง

“...ขอสินสอดสมน้ำสมเนื้อหน่อยละกัน พวกคุณคงไม่งกเงินแค่นี้ใช่ไหม? ค่าตัวลูกสะใภ้น่ะ”

ความห้าวหาญของนายทหารใหญ่เหมือนตบหน้าครอบครัวฝ่ายชาย คุณพ่อคุณแม่มองหน้ากัน ส่งสัญญาณทางสายตาเรื่องว่าที่ลูกสะใภ้ ค่อยหันไปตอบ

“สองล้าน... พอไหวไหมครับ เรื่องฝากครรภ์ค่าคลอดอะไรต่าง ๆ ครอบครัวผมรับผิดชอบเอง ผมว่าพวกเขามีงานการทำกันแล้ว น่าจะดูแลกันได้”

“สี่ ไม่รวมทองนะคะ...” คุณแม่ยกปลายนิ้วเรียวยาวที่มีเล็บสีแดงสดสวย แยกเขี้ยวจนเห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ “งานแต่งจ่ายกันเอง จัดกันเองนะ นี่ค่าน้ำนม แม่เลี้ยงมันมา ถึงมันจะออกไปอยู่เองตอนเข้ามหา’ลัย ยังไงแม่ก็เลี้ยงมา”

“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา ดิฉันต้องขอโทษแทนลูกชายด้วยนะคะ”

คุณพ่อฝ่ายหญิงพยักหน้า โบกมือไปมาว่าไม่เป็นอะไร พอตกลงเรื่องค่าตัวลูกสาวได้แล้ว ไม่ลืมหันไปถามเจ้าตัวที่นั่งเงียบกริบ

“ว่าไงล่ะ? โอเคไหม พอใจหรือเปล่า มีอะไรพูดได้เลยนะ”

“ไม่มีค่ะ”

ร่างบางในเสื้อยืดกางเกงยีน แต่งตัวสบาย ๆ ในสภาพอยู่บ้านสไตล์ใบหม่อน ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนเพื่อขอโทษ หลายวันมานี้ ตั้งแต่เธอตัดสินใจบอกความจริงกับพวกเขาเรื่องลูก แทนที่จะหอบท้องเล็ก ๆ หนีไปอยู่ที่อื่นเหมือนในละคร เธอเฝ้าแต่เอ่ยคำขอโทษ จนอีกครั้งสุดท้ายที่ไหว้แม่

“หนูขอโทษนะแม่ หนูไปก่อนนะ...”

“เออ... จะไปไหนก็ไป ไม่ค่อยกลับบ้านกลับช่องอยู่แล้วนี่”

คุณแม่นิดทำเป็นไม่สนใจลูกสาว ส่ายหน้าหนีไปอีกทางหนึ่งน้ำตาคลอเบ้า คุณแม่อีกคนซึ่งนั่งอยู่ในฝั่งตรงกันข้าม จึงลุกเข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้ม

“หนูใบหม่อน กลับกับแม่นะลูก เดี๋ยวพ่อกับแม่ไปส่ง”

คุณแม่ ‘ณิชา’ หรือคุณแม่มนบอกกับลูกสะใภ้อย่างใจดี หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอด แม้ในสีหน้าคร่ำเครียดของคนอื่นในบ้าน พวกเขาพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด โดยไม่กดดันเธอเลยแม้แต่น้อย

“ขอบคุณค่ะคุณแม่”

“ไม่ต้องคิดมากนะลูก เรื่องแค่นี้เอง ไป ๆ ไปกัน” พูดแล้วคุณแม่ก็พาสาวท้องอ่อนลุกอย่างระวัง จับจูงมือเรียวไปถึงหน้าบ้าน ประตูรั้วบานใหญ่ติดกับสวนหย่อมเล็ก ๆ

ประจวบเหมาะพอดี รถยนต์ญี่ปุ่นห้าประตูสีดำจอดสนิทข้างกำแพงเพราะที่จอดในบ้านไม่ว่างเลยสักที่ ทั้งสามคนกำลังเดินออกไปพบชายหนุ่ม ซึ่งเปิดประตูลงมาจากรถ

“โทษทีครับ พ่อ แม่ รถติดมาก เลิกงานช้าด้วยแหละ คุยกับบ้านหม่อนเรียบร้อยแล้วนะครับ?”

“เรียบร้อยจ้ะ มาแล้วก็ไปด้วยกันนะ กินข้าวเย็นกันก่อนค่อยกลับคอนโดฯ” คุณแม่ตบบ่าลูกชายเบา ๆ สีหน้าเข้มเครียดจึงกลับมาระรื่นยินดี

“ครับแม่ ไปรถผมเนอะ ให้ลุงเขมมาขับรถพ่อกลับบ้าน...”

“เอ้า ไป ๆ กันลูก” คุณพ่อไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร ทั้งยังถูกใจลูกสะใภ้ซึ่งเป็นมิตรสหายกันมานานกับลูกชายของเขา เป็นทั้งเพื่อนรัก เพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนประถมฯ

----------------------------------

ใบหม่อนคอยหลีกเลี่ยงบทสนทนากับตะวัน เมื่อเขามาส่งเธอหน้าคอนโดมิเนียม ถามว่าไม่สบายตัวตรงไหนหรือเปล่า เธอเอาแต่ปิดปากเงียบ ไม่พูดจา ไม่อ่านข้อความของเขาเหมือนเคยจนกระทั่งถึงรุ่งเช้า ดันกลับมาคิดได้ว่าควรพูดคุยกันให้รู้เรื่องดีกว่า เลยขับรถไปหาเจ้าตัวถึงบ้าน

แม่บ้านอายุห้าสิบกว่าออกมาเปิดประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติให้ ทักทายด้วยรอยยิ้มเชื้อเชิญเข้าบ้าน ขณะที่เจ้าของบ้านรีบออกมาต้อนรับ

“ไอ้ตะวัน... มึงมีเรื่องต้องเคลียร์กับกู” ทั้งน้ำเสียงและอากัปกิริยาแข็งกระด้าง ชายร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาสีดำสนิทพลันชักสีหน้าใส่

“อะไรอีกอะ?”

“ทำไมมึงไม่ใส่ถุงวะ ความผิดมึง...”

“กูก็เมาหรือเปล่า? แล้วกูบอกมึงแล้วว่าอย่าแดก ๆ เหล้าน่ะ มึงฟังที่ไหน อย่ามาโทษกู”

“เออ... ปกติมึงไปซ่ำสาว ที่เล่าให้กูฟังน่ะ มึงไม่มีถุงยางสักอันเลยเหรอ?”

“อันนั้นไปกับสาว นี่ไปกับเพื่อน จะพกถุงเพื่อ?”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ พันพราย

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ