Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
มนตร์ตาละวัน
5.0
ความคิดเห็น
ชม
61
บท

ชายหนุ่มนามว่า ‘จัน’ ผู้ต้องคำสาปมนตร์ตาละวัน นั่นก็คือเขาจะต้องกลายเป็นจระเข้ในเวลากลางคืน เป็นบุรุษรูปงามผู้โดดเดี่ยวเดียวดายในเวลากลางวัน เจ้าสาวจระเข้เท่านั้นที่จะทำให้หลุดพ้นจากคำสาป แน่นอนว่าความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของเขาไม่ใช่ความตาย ตัวเขาและบ่าวคนสนิทจึงใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ มาตลอดหลายร้อยปี จนได้พบเจ้าของพรหมลิขิตผู้ชี้ชะตาชีวิตอย่าง ‘กัญญาวีร์’ ทว่าเธอดันเป็นถึงพนักงานขายอันดับหนึ่งของโรงงานผลิตหนังจระเข้! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป... จระเข้หน้ามึนอย่างนายจันจะต้องตายหรือไม่? ฤาจะโดนกุดหาง ถลกหนังไปเป็นกระเป๋าให้แม่แก้วตาดวงใจ ร้ายที่สุดคงได้กลายเป็นสเต๊กจระเข้ในยุคข้าวยากหมากแพง “เนื้ออิ่มอวบแนบเนื้อ นวลนาง ขยับถอดสอดแท่งกาม เข้าไซร้ เคลื่อนอีกท่าคว้าดารา ได้ต่อ หนอแม่ กี่ราตรีควบขี่ข้าง พี่นี้ ดุร้าย นำพา” “ลามกจกเปรต! ผู้ชายที่ไหนเขาแต่งกลอนแนว Sexual Harassment จีบสาวกัน” กระแทกเสียงบริภาษว่า ทั่วทั้งวงหน้าหวานเต็มไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด แก้มแดงก่ำเพราะโกรธและอับอาย หนุ่มใหญ่กลับยิ้มกรุ้มกริ่ม “แล้วน้องต้องการเยี่ยงไร?” “สายเปย์ค่ะ พ่อบุญทุ่มหมดตัวหมดใจ กลับบ้านตรงเวลา ไปไหนกับใครส่งข้อความบอก สำคัญที่สุดคือไม่เจ้าชู้มีหลายเมีย กันไม่ชอบ ไม่เอาเด็ดขาด กลัวโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ผัวร่วมกับใคร มีไม่ดีไม่มีดีกว่า...” กัญญาวีร์หน้าบึ้งตึงใส่คนข้างกายที่อยู่ในชุดโบราณ นุ่งโจงกระเบนสีดำ อกกว้างกำยำเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวเหลืองนวลทอประกายสีทองอ่อนราวสีสันของแสงอรุณยามเช้า สตรีนางไหนได้เห็นคงต้องตาต้องใจทันทีเว้นเพียงเธอ ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยสติสำนึกรู้ตน ไม่สบตา ไม่แม้แต่จะสนใจเส้นผมดำขลับมัดเกล้าแซมสีขาวเทาเป็นปอย ขนานไปกับกรามแกร่งราวม่านน้ำ บุรุษรูปงามราวกับว่าเป็นเทวดาบนสรวงสวรรค์ ทว่าคงไม่ใช่... ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา

บทที่ 1 1

สัตว์เลื้อยคลานร่างหนาใหญ่สองตัวดำผุดดำว่ายท่ามกลางแม่น้ำสองสี สีเข้มเกือบจะเป็นสีดำและสีดินทรายไหลมาบรรจบกัน ทอดยาวไปอีกหลายพันไมล์

ผ่านลำตัวที่มีผิวขรุขระยามขับเคลื่อนไปข้างหน้า แหวกน้ำออกเป็นระลอกคลื่น พละกำลังตามสรีระแข็งแกร่งกำยำทำให้พวกมันไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เป็นตรงกันข้าม พวกมันคงว่ายน้ำไปได้เรื่อย ๆ เช่นปลา

พวกมันไม่ได้มาด้วยกัน ไม่รู้จักหน้าค่าตาด้วยซ้ำ...

เจ้าตัวเล็กกว่ามองว่าตัวข้างมันมีขนาดมหึมา ใหญ่กว่ามันเกือบสองเท่า! จึงไม่กล้าเบ่งมากนัก โผล่พ้นเพียงดวงตาสีเหลืองทองเหนือผืนน้ำ ระหว่างทางที่มันแอบจับปลากินเป็นอาหาร ยังลังเลใจอยู่ว่าหากถูกแย่งแล้วมันจะยอมปล่อยเหยื่อให้อีกตัว เพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้หรือไม่ มันไม่แน่ใจว่าจะชนะ ดีไม่ดีมันอาจกลายเป็นอาหารของตัวใหญ่กว่า

ทว่าตัวข้างมันแค่ว่ายน้ำไปข้างหน้า มีเหลือบมองทางอื่นบ้างแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมัน ที่เพิ่งสังเกตเห็นว่าเจ้านี่มีดวงตาสีแดงก่ำ ลำตัวสีนิลสนิท

ไม่ใช่พวกมันแน่ ๆ ล่ะ! หรือว่ามันจะตาฝาดไป แต่ในเมื่อดวงตาแสนพิเศษของมันมีจุดรับภาพอันดีเลิศ ยิ่งน้ำจืดแล้วมันเห็นแสงสีแดงได้ไวกว่าน้ำเค็ม ซึ่งมันสามารถมองเห็นแสงสีน้ำเงินได้มากกว่า

ดังนั้นสีแดงก็ต้องเห็นแน่!

ขณะที่เจ้าตาแดงเริ่มรำคาญใจกับเจ้าถิ่น เพราะว่าการว่ายน้ำตีคู่กันมาคงไม่ใช่การทักทาย

จระเข้เป็นสัตว์ดุร้ายโดยสัญชาตญาณ ยังมีนิสัยหวงอาณาเขต เจ้าตัวเล็กคงอยากลองเชิงว่ามันแค่ผ่านทาง หรือจะย้ายถิ่นฐานมาแย่งตัวเมียละแวกนี้

มองกันไปมองกันมาอย่างไม่เป็นมิตรจนถึงทางแคบ ด้านฝั่งซ้ายเป็นชายฝั่งดินผสมทรายแฉะ ๆ มีพุ่มหญ้ารก สุดท้ายก็ไม่มีใครเป็นฝ่ายเปิดศึกประสาเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เจ้าตาแดงจึงว่ายชิดเข้าฝั่ง เหลือบตามองตัวที่คลานตามหลังมัน ซึ่งพอมันหดขาลงนอนอาบแดดตามกิจวัตร อีกตัวก็คลานย่องไป

เจ้าตาแดงนึกตลกขบขันเจ้าถิ่นที่ไม่กล้าแหยมกับมัน ได้แค่ทำเบ่งไปอย่างนั้น ยังเสียสละทำเลดี ๆ ตรงนี้ให้มันนอน ก่อนที่มันจะปิดตาข้างซ้ายลง

ธรรมชาติของจระเข้มักลืมตาข้างหนึ่งไว้เพื่อระวังภัย พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ แม้ในพุ่มไม้ขนาดใหญ่ หญ้ารกสีเขียวสลับน้ำตาลเข้มพรางตัวของมันได้ดี ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะมีใครมารบกวนเวลานอนของมัน...

คงหมายถึงมนุษย์

กลุ่มจระเข้ที่ฉลาดหลายตัวรู้จักมนุษย์ว่าทำอะไรได้บ้าง

บางทีพวกมันก็แค่อยากอาบแดดในสถานที่อากาศดี ๆ ช่วงน้ำลงเพราะไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาบ่อย ทว่าหากที่ใดได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว มันจะถูกจับโดยไม่มีการไถ่ถามสักคำ

มีบางตัวถูกพรานยิง ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ถูกจับขึ้นรถไปขาย ร้ายสุดคงได้กลายเป็นอาหารเย็น

ผู้ต้องหายังมีทนายไว้ต่อปากต่อคำ แต่จระเข้ไม่มี!

ได้ขึ้นชื่อว่าไอ้เข้ อย่างไรเสียก็ต้องทำร้ายมนุษย์ พวกมันจะถูกกำจัดไปเสียให้พ้นทาง ทั้งที่มันอยู่ตรงนี้มาก่อนด้วยซ้ำ

ก็นั่นแหละ...

ตำแหน่งสูงสุดของห่วงโซ่อาหารเวลานี้คือมนุษย์

วันนี้เจ้าตาแดงเลยเลือกทำเลดีสักหน่อย เป็นสถานที่ผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกับสัตว์ป่าอย่าง Mamirauá

คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ครึ่งหลับครึ่งตื่นใต้แสงแดดทออ่อนยามสาย ดวงตาสีแดงฉานหลุบมองผ่านหญ้าสีเขียว ไกลออกไปนั้นเป็นรีสอร์ตซึ่งมันคงไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวาย มันคงนอนอีกพักเดียวค่อยไป ทว่าทันใดนั้นเอง...

“นั่นอะไรนะ?” เสียงแหลมเล็กของเด็กาวอายุประมาณสี่ขวบ ผมเปียสีบลอนด์ทองนัยน์ตาสีฟ้า อุ้งมือเล็กกอดตุ๊กตาจระเข้น่ารัก หยุดก้าวลงหน้าพุ่มไม้ด้วยหน้าตาใสซื่อ ไร้ความระแวดระวังภัย

‘ก็จะตัวอะไรล่ะ?’

“เสียงอะไร ใครคะ?”

เด็กน้อยถามอีกครั้งเพราะได้ยินแค่เสียงทุ้มแหบลอยมาตามลม เหมือนเสียงของชายหนุ่มร่างหนาใหญ่สักคน หมุนคอมองซ้ายขวา ไม่เห็นว่าตรงนี้จะมีใคร

‘ทางนี้นังหนู อยู่ตรงพุ่มหญ้านี่’

ประมาณหกถึงเจ็ดก้าวเดิน หนูน้อยตากลมโตมองเห็นเพียงเงาดำขนาดใหญ่เหมือนเป็นก้อนหิน แต่ไม่ใช่... เธอไม่แน่ใจ ไม่กล้าเข้าไปใกล้กว่านี้ สองมือกอดตุ๊กตาแน่น

“คุณพูดได้หรือคะ คุณเป็นตัวอะไร...?”

พูดได้เฉพาะกับเด็ก ผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ ผู้มี ‘ญาณทิพย์’ คือการรับรู้ทางจิตทางอารมณ์ มี ‘หูทิพย์’ การได้ยินเสียงแปลก ๆ อาจเป็นเสียงของวิญญาณหรืออะไรบางอย่าง...

“หนูฟังไม่เข้าใจค่ะ”

นั่นคงเป็นเรื่องราวที่ยากเกินไปสำหรับเด็กวัยสี่ขวบ เธอจำได้ว่าแม่เคยบอกเรื่องก้อนหินว่ามันพูดไม่ได้

‘เข้ามานี่ซิอีหนู... เข้ามาใกล้ ๆ มาคุยกับลุงตรงนี้ไม่ต้องกลัว’

หนูน้อยพยายามรวบรวมความกล้าหาญอย่างถึงที่สุด เกือบจะก้าวเข้าไป ก่อนนึกขึ้นได้ว่าแอบหนีคุณพ่อคุณแม่มา...

“มัมต้องดุหนูแน่เลยค่ะ หนูไปตามมัมกับแด๊ดมาด้วยดีกว่า นั่งคุยกันหลายคนสบายใจ”

‘เป็นเด็กฉลาดดี แต่ถ้าไม่เดินมาลุงว่าจะไปแล้วนะ หนูคงอดเห็นของดีแล้วล่ะ’

ดวงตาคู่สวยกลอกไปมา ในที่สุดเธอก็เดินไปตามคำล่อหลอกของตัวอะไรสักอย่างด้วยความไร้เดียงสา

“จระเข้!”

หนูน้อยเบิกตากว้าง ยกมือป้องปาก ตุ๊กตาหล่นตุบ! สองขาก้าวถอยครูดด้วยความตกใจ ทว่าพอได้ยิน...

‘ไม่ใช่จระเข้ ดูให้ดี ๆ จระเข้ที่ไหน’

“ไม่ใช่จระเข้แล้วตัวอะไร!”

‘ แอลลิเกเตอร์ [alligator] มาจากภาษาสเปน ‘Lagarto’ หมายถึงสัตว์เลื้อยคลาน ตัวนี้ปากเป็นโค้งทรงรูปตัวยู ไม่ใช่เจ้าตัวปากแหลม ต่างกัน... อันนั้นถึงเรียกว่าจระเข้ ดุร้ายกว่า พบในเอเชีย ส่วนแอลลิเกเตอร์จะพบในจีนและอเมริกา’

เด็กสาวมีสีหน้างุนงง แต่ไม่เลือกที่จะวิ่งหนี เธอแค่รู้สึกไม่ปลอดภัยพอเห็นว่าจระเข้ไม่เหมือนในการ์ตูนน่ารัก เหมือนในจินตนาการของเธอ

“ตกลง... คุณลุงเป็นแอลลิเกเตอร์เหรอคะ?”

‘ไม่เชิงว่าใช่... อาจไม่ใช่ทั้งสองอย่าง...’

“แล้วเป็นตัวอะไรคะ?”

ก็เคยเป็นมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ขี้สงสัยอย่างหนูนี่แหละ แต่ตอนนี้จะเรียกลุงว่าเกเตอร์ก็ได้

“ทำไมคุณลุงพูดได้ล่ะ?”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ พันพราย

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ