จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจภายหลังจากมารดาเสียชีวิตเด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดพร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลกอีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกพรากไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น
รัชศกเจียวจิ้นปีที่หนึ่ง
องค์ชายรัชทายาทเซี่ยหนานกงขึ้นรั้งตำแหน่งผู้สืบทอดบัลลังก์ทองเป็นปีแรก เหล่าข้าราชบริพารและประชาชนต่างสรรเสริญคุณงามความดีและจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองขึ้นในเมืองหลวงอย่างยิ่งใหญ่ถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน
พานเยว่หลานบุตรีของแม่ทัพพานผู้มากความสามารถและถูกขนานนามว่าสตรีอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง รับหน้าที่ขึ้นแสดงการร่ายรำถวายแด่องค์ฮ่องเต้และฮองเฮา
ด้วยรูปโฉมดันโดดเด่นของนางจึงต้องตาชายหนุ่มมากมายในเมืองหลวงรวมถึงฮ่องเต้เซี่ยหนานกง ซ่างกวนฮองเฮาที่ได้รู้ถึงความต้องการของสวามีและภายในวังหลังเองก็มีนางสนมเพียงไม่กี่คน ทำให้พระนางยอมเอ่ยปากทาบทามพานเยว่หลานด้วยตนเอง
ทว่าหญิงสาวกลับมีท่าอีอึดอัดเพราะภายในใจของนางนั้นมีบุรุษอื่นครอบครองอยู่แล้ว ซ่างกวนฮองเฮาเดิมทีก็เป็นสตรีใจกว้างจึงได้เอ่ยถามความสมัครใจของนาง พานเยว่หลานเห็นถึงความจริงใจของซ่างกวนฮองเฮาจึงเอ่ยความในใจของตนต่อหน้าพระนาง
ทว่าเรื่องที่ซ่างกวนฮองเฮากระทำกลับทำให้มีใครหลายคนไม่พอใจ และหนึ่งในนั้นคือเฉิงหรงกุ้ยเฟยผู้เป็นน้องสาวของโจวหานอี้ นางไม่พอใจที่พานเยว่หลานมีใบหน้าที่สามารถล่อลวงเซี่ยฮ่องเต้ได้ รวมถึงฐานะอันสูงส่งของนางที่มาจากตระกูลเก่าแก่ในเมืองหลวง
เมื่อเทียบกับตนเองแล้วนางเป็นเพียงสตรีที่มาจากตระกูลเล็กตระกูลหนึ่งนั้นที่บิดาพึ่งจะสามารถมีหน้ามีตาในเมืองหลวงได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ในใจจึงได้คิดวางแผนขัดขวางโดยการให้บิดาที่พึ่งได้รับความดีความชอบขอพระราชโองการสมรสระหว่างโจวหานอี้และพานเยว่หลาน
ในคราแรกเซี่ยฮ่องเต้รู้สึกไม่พอใจต่อการขอนี้ของใต้เท้าโจว ทว่าตนเองที่พึ่งขึ้นรับตำแหน่งฮ่องเต้มิอาจทำตามความประสงค์ของตนได้อย่างตามใจ รวมถึงครานั้นใต้เท้าโจวที่มีความชอบเรื่องแก้ไขภัยแล้ง หากต้องการขอพระราชทานมงคลสมรสให้บุตรชายเพียงเท่านี้ยังมิได้ อาจสร้างความไม่พอใจให้แก่เหล่าขุนนาง
พานเยว่หลานในวัยสิบห้า มิได้ล่วงรู้ถึงความคิดอันชั่วร้ายของผู้อื่น นางเพียงต้องการใช้ชีวิตอันเรียบง่ายกับชายที่ตนพึงใจเท่านั้น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! เจ้าเด็กอวดดี”
ร่างเล็กป้อมของเด็กน้อยในวัยไม่ถึงสิบขวบ มุดออกทางรูแตกของกำแพงจวนด้วยความรวดเร็วราวกับตัวตุ่น เด็กน้อยหันไปทางด้านหลังมองผู้เป็นบิดาด้วยสีหน้าท้าทาย ก่อนจะวิ่งหายลับไป
“เขาหนีออกไปอีกแล้ว!! เจ้าเด็กอวดดีนั่น!!หนีไปอีกแล้ว”
ร่างสูงโปร่งของหัวหน้าองครักษ์หนุ่มนามเย่เทียนหลางสั่นเทาไปด้วยโทสะ ตนเองที่เป็นถึงองครักษ์อันดับหนึ่งในเมืองหลวง แต่กลับมิสามารถจัดการบุตรชายตัวดีได้
ร่างอรชรก้าวเข้ามาหยุดยืนข้างกายสามี พลางมองไปยังรูแตกข้างกำแพงด้วยสีหน้าชอบใจ
“ดู!ดูเอาเถิดผลงานบุตรชายคนดีของเจ้า ข้าสั่งให้เขาคัดอักษรแต่เขากลับวิ่งหนีออกไปนอกจวนอีกแล้ว”
ร่างสูงชี้ไปยังรอยแตกให้ภรรยาผู้งดงามได้ยลสิ่งที่บุตรชายกระทำ
“เพราะท่านเข้มงวดกับเขามากเกินไป”
ร่างสูงสวนกลับไปทันควันเมื่อได้ยินภรรยาเอ่ยเข้าข้างบุตรชาย
“เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้เจาะรูที่กำแพงจวนของข้าครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าคิดว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าใดแล้วที่ข้าสั่งให้คนอุดรูพวกนี้”
“เท่าใดหรือ”
“สี่ครั้ง! เพียงแค่เดือนนี้เดือนเดียวก็สี่ครั้งแล้ว ฮึ่ย!ไม่รู้ว่าเจ้าคลอดเจ้าเด็กนี่ออกมาเป็นคนหรือตัวตุ่นกันแน่ เขาถึงได้ชอบขุดรูถึงเพียงนี้”
ใบหน้างดงามแสดงสีหน้าประหลาดใจ ไม่คิดว่าบุตรชายที่ตนเลี้ยงดูมาเองกับมือจะซุกซนเพียงนี้ เหตุใดเมื่ออยู่ต่อหน้าคนทั้งเรือนเขาถึงได้ดูว่านอนสอนง่าย ทว่าเมื่อต้องอยู่ลำพังกับบิดาทั้งสองราวกับน้ำมันกับไฟเช่นนี้
“เขาไปไหนแล้ว”
ร่างสูงส่งเสียงหึ!ออกมาอย่างหัวเสีย ในเมื่อโทสะของผู้เป็นบิดายังมิดับมอด เขาจะไปที่ใดได้นอกจากเรือนตระกูลพาน
“คงจะไปหาเด็กสาวตระกูลพานเช่นเดิมนั่นแหละ เพราะเจ้าน้องชายตัวดีของข้าชี้โพรงให้เจ้าเด็กนั่น วันทั้งวันจึงเอาแต่ร้องขอออกไปเล่นนอกจวน”
จ้าวหยวนเอ๋อนิ่งคิดเล็กน้อย
“อ้อ..พานเยว่หลานใช่หรือไม่ เด็กสาวที่น้องสามพึงใจ”
“อืมคนนั้นแหละ ทั้งสองชอบพอกันมาตั้งแต่ยังเล็ก อย่างไรเด็กคนนั้นก็ถึงวัยปักปิ่นแล้ว ท่านพ่อคิดว่าจะเข้าไปพูดคุยเรื่องการหมั้นหมายกับแม่ทัพพานเอาไว้ แต่เจ้าลูกชายตัวดีนั่น ฮึ่ย! ยิ่งพูดถึงเขาข้าก็ยิ่งโมโห”
“ก็ดีแล้วมิใช่หรือ อีกเพียงไม่นานนางก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของคนบ้านเรา ให้พวกเขาสนิทสนมกันเอาไว้ไม่ดีหรือ”
สองสามีภรรยาพูดคุยเรื่องบุตรชายที่หนีออกไปนอกจวน ทว่าเย่เสวียนจื่อน้อยกลับกำลังนั่งทานขนมด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย โดยมิได้นึกถึงโทสะของบิดาที่พุ่งสูงเทียมฟ้าเพราะตนเอง
“พี่หญิง คาหนมของท่างอาหย่อยชี่สุก”
ร่างสูงที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่ด้านข้าง ใช้พัดเคาะหน้าผากหลานชายเบาๆ อย่างหมั่นไส้
“พี่หญิงอันใด ต่อไปเจ้าต้องเรียกนางว่าอาหญิงต่างหาก”
เด็กน้อยมุ่ยหน้าด้วยท่าทางไม่พอใจ มือเล็กอวบอูมยกขึ้นจับไปที่หน้าผากของตนที่ถูกอาสามทำร้าย
“อาหญิงหรือ ข้าม่ายชอบ ข้าชอบเรียกนางว่าพี่หญิง นางทามคาหนมอาหย่อย ต่อปายจื่อเอ๋อจาแต่งงางกับพี่หญิงให้ท่างทำคาหนมให้ข้าทางตาหลอดปาย”
“เจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ จะแต่งงานกับนางเจ้าต้องพูดให้ชัดก่อน อีกอย่างต้องผ่านอาสามของเจ้าคนนี้ถึงจะได้แต่งงานกับนาง”
เด็กน้อยไม่พอใจกับคำพูดของอาสาม มือเล็กหยิบเอาไม้เกาหลังของท่านปู่ที่ซ่อนในแขนเสื้อออกมา ก่อนจะชี้ไปยังชายหนุ่มตรงหน้า
“เช่งนั้งก็มาสู้กาน”
สองอาหลานต่างวัยวิ่งไล่จับกันอยู่ภายในสวนของจวนตระกูลพาน เสียงหัวเราะของคนทั้งสองเรียกรอยยิ้มจากหญิงสาวผู้งดงามและบ่าวไพร่ในเรือนที่เดินผ่านไปมา
บทที่ 1 ภาคปฐมบท
07/08/2025
บทที่ 2 เกี้ยวเจ้าสาว
07/08/2025
บทที่ 3 งานแต่งงาน
07/08/2025
บทที่ 4 คำสัญญา
07/08/2025
บทที่ 5 คบชู้
07/08/2025
บทที่ 6 คำสัญญา
07/08/2025
บทที่ 7 เข้าพบฮ่องเต้
07/08/2025
บทที่ 8 เอาคืนตระกูลโจว
07/08/2025
บทที่ 9 ประหารคนตระกูลพาน
07/08/2025
บทที่ 10 เริ่มต้นชีวิตใหม่
07/08/2025
บทที่ 11 จุดเริ่มต้นของหญิงสาวผู้อาภัพ
07/08/2025
บทที่ 12 หลี่เจียนเจียนอาละวาด
07/08/2025
บทที่ 13 ค้นพบถ้ำลับ
07/08/2025
บทที่ 14 ความสามารถของหลี่ซางเป่า
07/08/2025
บทที่ 15 ความลับที่ได้รู้โดยบังเอิญ
07/08/2025
บทที่ 16 เริ่มกักตุนเสบียง
07/08/2025
บทที่ 17 เขามันเกินเยียวยา
07/08/2025
บทที่ 18 อดีตของผู้เฒ่าหลี่
07/08/2025
หนังสืออื่นๆ ของ Zuey
ข้อมูลเพิ่มเติม