เธอมองผ่านดวงตาคู่นั้นลงลึกเข้าไป แล้วเห็นความจริงแห่งห้วงอดีตของเธอและเขาอย่างชัดเจน ภาพเก่าๆชัดสาดเข้ามาคล้ายกับคลื่นโหมกระหน่ำสู่โขดหินริมทะเล หัวใจของเธอบีบตัวแน่นแล้วเต้นอ่อนลงทุกทีๆคล้ายกับคนกำลังจะขาดใจตาย แต่แล้วพอสายตาคู่นั้นกระพริบถี่แล้วมองมาที่เธอแน่นิ่ง เธอก็กัดริมฝีปากของตัวเองแน่น แล้วกอดเจ้าของดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลลึกที่ทำเธอจะขาดใจเพียงครั้งแรกที่เจอ ก่อนจะหลับตาพริ้มซึมวับภาพแห่งความทรงจำ เธอกอดเขาเอาไว้แน่น ราวกับจะไม่มีวันปล่อยให้เขาหลุดลอยไปไหนอีกตลอดไป พร้อมกับคำประซิบที่ว่า ฉันต่างหาก ที่หาเธอเจอ ”
เธอมองผ่านดวงตาคู่นั้นลงลึกเข้าไป แล้วเห็นความจริงแห่งห้วงอดีตของเธอและเขาอย่างชัดเจน ภาพเก่าๆชัดสาดเข้ามาคล้ายกับคลื่นโหมกระหน่ำสู่โขดหินริมทะเล หัวใจของเธอบีบตัวแน่นแล้วเต้นอ่อนลงทุกทีๆคล้ายกับคนกำลังจะขาดใจตาย แต่แล้วพอสายตาคู่นั้นกระพริบถี่แล้วมองมาที่เธอแน่นิ่ง เธอก็กัดริมฝีปากของตัวเองแน่น แล้วกอดเจ้าของดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลลึกที่ทำเธอจะขาดใจเพียงครั้งแรกที่เจอ ก่อนจะหลับตาพริ้มซึมวับภาพแห่งความทรงจำ เธอกอดเขาเอาไว้แน่น ราวกับจะไม่มีวันปล่อยให้เขาหลุดลอยไปไหนอีกตลอดไป พร้อมกับคำประซิบที่ว่า
“ ฉันต่างหาก ที่หาเธอเจอ ”
ตอนที่ # 1 ดวงตากับความรัก
เด่นรติ เดินลากประเป๋าไปเขื่องออกมาจากสนามบินลอสแอนเจลิสอย่างทุลักทุเล พี่สาวเธอบอกจะมารอรับเธอแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่วี่แวว สงสัยลืมแหงๆ
เด่นรตินั่งลงบนม้านั่งหน้าทางออกก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางมาไว้ข้างๆ ก่อนจะถอนหายใจ ก่อนจะนึกไปถึงวันเวลาเก่าๆของเธอกับสถานที่เหล่านี้
พี่สาวของเธอชื่อ กีรติ แต่งงานกับพี่เขยของเธอที่เป็นคนอเมริกันเมื่อสิบกว่าปีก่อน กีรติ ย้ายมาอยู่ที่นี่กับสามี แต่ทางเมืองไทยก็มีงานที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้เธอกับพ่อแม่ได้แต่ไปๆกลับๆไทยอเมริกาอยู่บ่อยๆเพื่อมาเยี่ยมกีรติกับหลานชาย
พี่สาวของเธอมีลูกชายหนึ่งคนชื่อ แดนนี่ ที่คลอดไล่เลี่ยกันกับเพื่อนสนิทอีกคน เด็กคนนั้นเกิดหลังแดนนี่เพียงไม่กี่ชั่วโมง พ่อกับแม่ตั้งชื่อให้ตามเทพเจ้าอียิปต์ที่พวกเขาคลั่งไคล้นักหนา คือ เร
พลันเธอก็นึกถึงหน้าของเด็กน้อยคนหนึ่งที่เธอมักจะเห็นเขาไปไหนมาไหนกับแดนนี่ หลานชายของเธอเป็นประจำ พวกเขาสองคนทำตัวติดกันยังกับฝาแฝดก็ไม่ปาน ไปไหนไปด้วย และเหมือนแดนนี่จะมีเพื่อนสนิทจริงๆอยู่แค่คนเดียว นั่นก็คือเร
แต่ในระหว่างที่ความคิดของเธอกำลังโลดเล่นอยู่นั้น ก็มีรถเก๋งสีดำคันหนึ่งขับมาจอดอยู่ตรงหน้าเธอพลางเบรกด้วยเสียงดัง เอี๊ยดดดดด จนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องหันมามอง
เจ้าของรถรีบเปิดประตูลงมาโดยไม่ได้ปิดเครื่องยนต์ แล้ววิ่งโร่เข้ามาหาเธอ
“ เร ”
เด่นรติ เอ่ยชื่อเขาพลางลุกขึ้นยืน
“ คิดถึงจังเลยดี ”
เขาบอกแล้วเข้ามากอดเธอซะแน่น
เร มักจะเรียกชื่อเธอว่า ดี เฉยๆ เป็นตัวย่อจากชื่อภาษาไทยที่เขาบอกว่าเรียกยาก เลยตั้งชื่อให้เธอใหม่ซะเลย
“ พี่ก็คิดถึงเธอเหมือนกัน ไหน ไม่เจอกันนาน โตเป็นหนุ่มเชียว ”
เธอบอกแล้วผละออกจากอ้อมกอดของเขาแล้วจับ เร หมุนซ้ายทีขวาคล้ายกับกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง
“ ผมสูงขึ้น สองฟุต ตอนที่พี่ไม่อยู่ ”
เร บอกพลางคว้ากระเป๋าเดินทางของเธอมา แล้วยกขึ้นท้ายรถไป
“ ป้าจี รถเสียกลางทาง ลุงเดฟ ไปแอตแลนต้า แดนนี่ ติดสอบ มารับพี่ไม่ได้ ผมเลยมารับแทน ”
เจริญ นี่เรามาผิดวันหรือเปล่า เธอคิดในใจ ก่อนจะยิ้มให้เด็กหนุ่ม แล้วเดินไปขึ้นรถ
“ รัดเข็มขัดด้วยดี ”
เขาบอกแล้วเอี้ยวตัวมาดึงเข็มขัดนิรภัยมาใส่ให้เธอ ก่อนจะยิ้ม
แล้วขับรถออกไป ปากก็พร่ำพูดไปถึงเรื่องราวต่างๆตอนที่เธอไม่อยู่ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ชีวิตเขาเป็นยังไง และอะไรต่อมิอะไรสารพัด
เร โตขึ้นเป็นเด็กหนุ่มทรงเสน่ห์เอามากๆ ไม่รู้ว่าเขาทำให้สาวๆแถวนี้อกหักไปกี่รายแล้วก็ไม่รู้
ไม่มี่เค้าเดิมของเด็กขี้โรค ติดพ่อแม่ ขี้อาย และขี้กลัวเอาเสียเลย
ตอนนี้เร กลับกลายเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาหล่อเหลา ดวงหน้าเฉิดฉายด้วยความมั่นใจในตนเอง
ทรงผมของเร ถูกตัดจนสั้น ทำให้เห็นโครงหน้าที่สมบูรณ์แบบของเขาได้อย่างถนัดตามากขึ้น
จมูกเชิดขึ้น หางคิ้วรั้นขึ้น นัยน์ตาแวววับคมกริบทำให้คนมองต้องหลบสายตา ไม่อยากจะมองจ้องตรงๆเพราะกลัวว่าตัวเองจะหลายเป็นหิน
“ พี่มองผมแบบนั้นทำไม ”
เขาหันมาถามขณะขับรถไป หันมามองเธอไป
“ ก็เธอเปลี่ยนไปเยอะจนพี่แทบจะจำไม่ได้น่ะสิ ”
เธอบอกแล้วกดเปิดเพลงฟัง
“ ไม่เห็นจะเปลี่ยนอะไร ผมยังเป็นเรเน่ คนเดิมของพี่นะ ”
เรเน่
เรเน่ เป็นคำที่เธอใช้เรียกเขาตอนที่เขายังเด็กๆ ก็เพราะหน้าตาที่คล้ายกับผู้หญิงเอามากๆทำให้เธอนึกว่าแดนนี่มีเพื่อนผู้หญิงมากกว่าจะเป็นเพื่อนผู้ชายซะอีก
คำว่าเร มันแข็งแกร่งเกินไป สำหรับเด็กน้อยร่างเล็กขี้โรคอย่างเขา เธอจึงมักเรียกเขาด้วยชื่อของผู้หญิงอยู่เสมอ โดยการเดิมเน่ ลงไปหลังชื่อของเร กลายเป็นเรเน่น้อยของเธอ
“ เปล่าเลย เธอไม่ใช่เรเน่คนเดิมของพี่อีกแล้ว ”
เธอบอก ก่อนจะหันหน้าไปมองกระจกเลยออกไปข้างนอก ที่รถกำลังเคลื่อนตัวผ่านสิ่งปลูกสร้างสร้างต่างๆระหว่างทางกลับบ้าน
“ อ้วนขึ้นหรือเปล่าเนี่ยดี ”
ระหว่างโต๊ะอาหาร เรเอ่ยถามเด่นรติพลางตักแกงฮังเลอาหารไทยมื้อแรกที่กีรติลงมือทำหลังจากที่ไม่ได้ทำมานาน
“ วัยกำลังโต ”
ดีแลนเป็นคนตอบ
เล่นเอาคนถาม ต้องถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ ฉันถามพี่ดี ไม่ใช่นาย ”
เรบอก ก่อนจะตักแกงให้ตัวเองบ้าง
“อ้าว ใครจะไปรู้ แม่ก็เรียกฉันดีเหมือนกันนี่นา น้าเค้าชื่อเด่นต่างหาก เรียกดีดีดี อยู่ได้ มันซ้ำเข้าใจป่ะ อันที่จริงนายควรจะเรียกน้าเด่น ว่าน้าด้วยนะ ถ้าจะให้ถูก ”
ดีแลน ตอบด้วยท่าทางยียวนกวนประสาท
สองคนนี้ไม่มีวันไหนที่จะไม่ทะเลาะกัน แต่ก็น่าแปลกตรงที่ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งสนิทและรักกันมากขึ้นเท่านั้น สองหนุ่มไม่เคยมีความลับต่อกันแม้แต่เรื่องเดียว ถ้าชอบสาวคนเดียวกันจะพากันถอนตัวทั้งคู่เพื่อตัดปัญหาแต่ต้นลม ถ้าวันไหนดีแลนไม่อยู่ที่บ้านเร เรก็จะมาขลุกอยู่ที่บ้านดีแลน เป็นแบบนี้มา 18 ปีแล้ว
แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่เรไม่เคยบอก แต่ดีแลนกลับรู้ ซึ่งดีแลนเองก็ไม่เคยแสดงออกให้เรเห็นแม้แต่ครั้งเดียวว่าเขาเองได้ล่วงรู้ความรับของเพื่อนรักไปแล้ว
“ จริงด้วยดี เอ้ย!! เด่น เธอดูอ้วนขึ้นมีน้ำมีนวลผิวพรรณเปล่งปลั่งเชียวนะ กลับมาคราวนี้ ”
กีรติ หลุดปากเรียกชื่อน้องสาวตามเร ไปอีกคน จนต้องหันไปมองเร ราวกับเขาเป็นคนผิด
“ เป็นเพราะจะได้เจอหน้าเอ็ดหรือเปล่าฮะน้า จากที่ไม่เจอกันมาตั้งหลายปี ”
ดีแลน ถาม พลางส่งสายตาวิบวับราวกับรู้ทันน้าสาวคนสวย
“ใครคือเอ็ด? ”
เร ถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“ เพื่อนพี่เอง ” เด่นรติตอบ
“ อ้าวหรอ ไม่เห็นรู้จัก ”
เร ว่า พลางตักข้าวใส่ปากอย่างไม่ค่อยยี่หระเท่าไหร่นัก
“ ทำไมน้าเค้าต้องรายงานนายทุกเรื่องด้วยวะ เป็นพ่อเค้าหรือไง ”
ดีแลนถามด้วยน้ำเสียงล้อเลียน เล่นเอาคนฟังหันขวับแล้วยัดผักตรงหน้าเข้าปากคนข้างๆอย่างหมั่นไส้
เด่นรติ มองดูสองหนุ่มน้อยแล้วก็ต้องส่ายหน้าอย่างระอา ทะเลาะกันได้ตลอดเวลา ก่อนจะหวนนึกไปถึงอีกคนที่เธอยอมรับว่าคิดถึงเขาอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ไม่เจอกันนานหลายปี
เอ็ด เป็นลูกชายคนรองของบริษัทผลิตยาแห่งหนึ่ง เธอเจอเขาเมื่อ 6 ปีก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งจะเรียนจบด็อกเตอร์ด้านกฏหมายมาหมาดๆ เธอยังจำได้ถึงวันแรกที่เธอเจอเขาได้ เด่นรตินั่งจิบกาแฟอยู่หน้าร้านประจำ เห็นเขาเดินมาแต่ไกล เขาตัวสูงไม่น้อย รูปร่างสูงโปร่ง สง่าผ่าเผย จมูกโด่ง มองเห็นใบหน้าเป็นสันกรามได้รูปสวยรับกับดวงตาอันน่าหลงใหลเกินใครของเขา เขาหยุดอยู่ต่อหน้าเธอแล้วค่อยๆนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“ขอโทษนะครับ แต่คุณสวยจริงๆ”
เขาใช้คำพูดอย่างไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว ทำเอาเธอทั้งอายหน้าแดง แล้วก็แทบจะสำลักกาแฟที่จิบอยู่ใส่หน้าเขา
เมื่อหวนนึกถึงวันนั้น ก็เป็นภาพที่ทำให้เธอยิ้มได้อย่างมีความสุข
“ พี่ยิ้มอะไรดี ”
เร ถาม ก่อนจะดีดนิ้ว ป๊อก ตรงหน้าเธอ
หนังสืออื่นๆ ของ กัณย์
ข้อมูลเพิ่มเติม