Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สัญญาหัวใจ...ที่สุดปลายฟ้า

สัญญาหัวใจ...ที่สุดปลายฟ้า

กัณย์

5.0
ความคิดเห็น
6
ชม
3
บท

เธอมองผ่านดวงตาคู่นั้นลงลึกเข้าไป แล้วเห็นความจริงแห่งห้วงอดีตของเธอและเขาอย่างชัดเจน ภาพเก่าๆชัดสาดเข้ามาคล้ายกับคลื่นโหมกระหน่ำสู่โขดหินริมทะเล หัวใจของเธอบีบตัวแน่นแล้วเต้นอ่อนลงทุกทีๆคล้ายกับคนกำลังจะขาดใจตาย แต่แล้วพอสายตาคู่นั้นกระพริบถี่แล้วมองมาที่เธอแน่นิ่ง เธอก็กัดริมฝีปากของตัวเองแน่น แล้วกอดเจ้าของดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลลึกที่ทำเธอจะขาดใจเพียงครั้งแรกที่เจอ ก่อนจะหลับตาพริ้มซึมวับภาพแห่งความทรงจำ เธอกอดเขาเอาไว้แน่น ราวกับจะไม่มีวันปล่อยให้เขาหลุดลอยไปไหนอีกตลอดไป พร้อมกับคำประซิบที่ว่า ฉันต่างหาก ที่หาเธอเจอ ”

บทที่ 1 ดวงตากับความรัก

เธอมองผ่านดวงตาคู่นั้นลงลึกเข้าไป แล้วเห็นความจริงแห่งห้วงอดีตของเธอและเขาอย่างชัดเจน ภาพเก่าๆชัดสาดเข้ามาคล้ายกับคลื่นโหมกระหน่ำสู่โขดหินริมทะเล หัวใจของเธอบีบตัวแน่นแล้วเต้นอ่อนลงทุกทีๆคล้ายกับคนกำลังจะขาดใจตาย แต่แล้วพอสายตาคู่นั้นกระพริบถี่แล้วมองมาที่เธอแน่นิ่ง เธอก็กัดริมฝีปากของตัวเองแน่น แล้วกอดเจ้าของดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลลึกที่ทำเธอจะขาดใจเพียงครั้งแรกที่เจอ ก่อนจะหลับตาพริ้มซึมวับภาพแห่งความทรงจำ เธอกอดเขาเอาไว้แน่น ราวกับจะไม่มีวันปล่อยให้เขาหลุดลอยไปไหนอีกตลอดไป พร้อมกับคำประซิบที่ว่า

“ ฉันต่างหาก ที่หาเธอเจอ ”

ตอนที่ # 1 ดวงตากับความรัก

เด่นรติ เดินลากประเป๋าไปเขื่องออกมาจากสนามบินลอสแอนเจลิสอย่างทุลักทุเล พี่สาวเธอบอกจะมารอรับเธอแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่วี่แวว สงสัยลืมแหงๆ

เด่นรตินั่งลงบนม้านั่งหน้าทางออกก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางมาไว้ข้างๆ ก่อนจะถอนหายใจ ก่อนจะนึกไปถึงวันเวลาเก่าๆของเธอกับสถานที่เหล่านี้

พี่สาวของเธอชื่อ กีรติ แต่งงานกับพี่เขยของเธอที่เป็นคนอเมริกันเมื่อสิบกว่าปีก่อน กีรติ ย้ายมาอยู่ที่นี่กับสามี แต่ทางเมืองไทยก็มีงานที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้เธอกับพ่อแม่ได้แต่ไปๆกลับๆไทยอเมริกาอยู่บ่อยๆเพื่อมาเยี่ยมกีรติกับหลานชาย

พี่สาวของเธอมีลูกชายหนึ่งคนชื่อ แดนนี่ ที่คลอดไล่เลี่ยกันกับเพื่อนสนิทอีกคน เด็กคนนั้นเกิดหลังแดนนี่เพียงไม่กี่ชั่วโมง พ่อกับแม่ตั้งชื่อให้ตามเทพเจ้าอียิปต์ที่พวกเขาคลั่งไคล้นักหนา คือ เร

พลันเธอก็นึกถึงหน้าของเด็กน้อยคนหนึ่งที่เธอมักจะเห็นเขาไปไหนมาไหนกับแดนนี่ หลานชายของเธอเป็นประจำ พวกเขาสองคนทำตัวติดกันยังกับฝาแฝดก็ไม่ปาน ไปไหนไปด้วย และเหมือนแดนนี่จะมีเพื่อนสนิทจริงๆอยู่แค่คนเดียว นั่นก็คือเร

แต่ในระหว่างที่ความคิดของเธอกำลังโลดเล่นอยู่นั้น ก็มีรถเก๋งสีดำคันหนึ่งขับมาจอดอยู่ตรงหน้าเธอพลางเบรกด้วยเสียงดัง เอี๊ยดดดดด จนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องหันมามอง

เจ้าของรถรีบเปิดประตูลงมาโดยไม่ได้ปิดเครื่องยนต์ แล้ววิ่งโร่เข้ามาหาเธอ

“ เร ”

เด่นรติ เอ่ยชื่อเขาพลางลุกขึ้นยืน

“ คิดถึงจังเลยดี ”

เขาบอกแล้วเข้ามากอดเธอซะแน่น

เร มักจะเรียกชื่อเธอว่า ดี เฉยๆ เป็นตัวย่อจากชื่อภาษาไทยที่เขาบอกว่าเรียกยาก เลยตั้งชื่อให้เธอใหม่ซะเลย

“ พี่ก็คิดถึงเธอเหมือนกัน ไหน ไม่เจอกันนาน โตเป็นหนุ่มเชียว ”

เธอบอกแล้วผละออกจากอ้อมกอดของเขาแล้วจับ เร หมุนซ้ายทีขวาคล้ายกับกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง

“ ผมสูงขึ้น สองฟุต ตอนที่พี่ไม่อยู่ ”

เร บอกพลางคว้ากระเป๋าเดินทางของเธอมา แล้วยกขึ้นท้ายรถไป

“ ป้าจี รถเสียกลางทาง ลุงเดฟ ไปแอตแลนต้า แดนนี่ ติดสอบ มารับพี่ไม่ได้ ผมเลยมารับแทน ”

เจริญ นี่เรามาผิดวันหรือเปล่า เธอคิดในใจ ก่อนจะยิ้มให้เด็กหนุ่ม แล้วเดินไปขึ้นรถ

“ รัดเข็มขัดด้วยดี ”

เขาบอกแล้วเอี้ยวตัวมาดึงเข็มขัดนิรภัยมาใส่ให้เธอ ก่อนจะยิ้ม

แล้วขับรถออกไป ปากก็พร่ำพูดไปถึงเรื่องราวต่างๆตอนที่เธอไม่อยู่ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ชีวิตเขาเป็นยังไง และอะไรต่อมิอะไรสารพัด

เร โตขึ้นเป็นเด็กหนุ่มทรงเสน่ห์เอามากๆ ไม่รู้ว่าเขาทำให้สาวๆแถวนี้อกหักไปกี่รายแล้วก็ไม่รู้

ไม่มี่เค้าเดิมของเด็กขี้โรค ติดพ่อแม่ ขี้อาย และขี้กลัวเอาเสียเลย

ตอนนี้เร กลับกลายเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาหล่อเหลา ดวงหน้าเฉิดฉายด้วยความมั่นใจในตนเอง

ทรงผมของเร ถูกตัดจนสั้น ทำให้เห็นโครงหน้าที่สมบูรณ์แบบของเขาได้อย่างถนัดตามากขึ้น

จมูกเชิดขึ้น หางคิ้วรั้นขึ้น นัยน์ตาแวววับคมกริบทำให้คนมองต้องหลบสายตา ไม่อยากจะมองจ้องตรงๆเพราะกลัวว่าตัวเองจะหลายเป็นหิน

“ พี่มองผมแบบนั้นทำไม ”

เขาหันมาถามขณะขับรถไป หันมามองเธอไป

“ ก็เธอเปลี่ยนไปเยอะจนพี่แทบจะจำไม่ได้น่ะสิ ”

เธอบอกแล้วกดเปิดเพลงฟัง

“ ไม่เห็นจะเปลี่ยนอะไร ผมยังเป็นเรเน่ คนเดิมของพี่นะ ”

เรเน่

เรเน่ เป็นคำที่เธอใช้เรียกเขาตอนที่เขายังเด็กๆ ก็เพราะหน้าตาที่คล้ายกับผู้หญิงเอามากๆทำให้เธอนึกว่าแดนนี่มีเพื่อนผู้หญิงมากกว่าจะเป็นเพื่อนผู้ชายซะอีก

คำว่าเร มันแข็งแกร่งเกินไป สำหรับเด็กน้อยร่างเล็กขี้โรคอย่างเขา เธอจึงมักเรียกเขาด้วยชื่อของผู้หญิงอยู่เสมอ โดยการเดิมเน่ ลงไปหลังชื่อของเร กลายเป็นเรเน่น้อยของเธอ

“ เปล่าเลย เธอไม่ใช่เรเน่คนเดิมของพี่อีกแล้ว ”

เธอบอก ก่อนจะหันหน้าไปมองกระจกเลยออกไปข้างนอก ที่รถกำลังเคลื่อนตัวผ่านสิ่งปลูกสร้างสร้างต่างๆระหว่างทางกลับบ้าน

“ อ้วนขึ้นหรือเปล่าเนี่ยดี ”

ระหว่างโต๊ะอาหาร เรเอ่ยถามเด่นรติพลางตักแกงฮังเลอาหารไทยมื้อแรกที่กีรติลงมือทำหลังจากที่ไม่ได้ทำมานาน

“ วัยกำลังโต ”

ดีแลนเป็นคนตอบ

เล่นเอาคนถาม ต้องถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“ ฉันถามพี่ดี ไม่ใช่นาย ”

เรบอก ก่อนจะตักแกงให้ตัวเองบ้าง

“อ้าว ใครจะไปรู้ แม่ก็เรียกฉันดีเหมือนกันนี่นา น้าเค้าชื่อเด่นต่างหาก เรียกดีดีดี อยู่ได้ มันซ้ำเข้าใจป่ะ อันที่จริงนายควรจะเรียกน้าเด่น ว่าน้าด้วยนะ ถ้าจะให้ถูก ”

ดีแลน ตอบด้วยท่าทางยียวนกวนประสาท

สองคนนี้ไม่มีวันไหนที่จะไม่ทะเลาะกัน แต่ก็น่าแปลกตรงที่ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งสนิทและรักกันมากขึ้นเท่านั้น สองหนุ่มไม่เคยมีความลับต่อกันแม้แต่เรื่องเดียว ถ้าชอบสาวคนเดียวกันจะพากันถอนตัวทั้งคู่เพื่อตัดปัญหาแต่ต้นลม ถ้าวันไหนดีแลนไม่อยู่ที่บ้านเร เรก็จะมาขลุกอยู่ที่บ้านดีแลน เป็นแบบนี้มา 18 ปีแล้ว

แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่เรไม่เคยบอก แต่ดีแลนกลับรู้ ซึ่งดีแลนเองก็ไม่เคยแสดงออกให้เรเห็นแม้แต่ครั้งเดียวว่าเขาเองได้ล่วงรู้ความรับของเพื่อนรักไปแล้ว

“ จริงด้วยดี เอ้ย!! เด่น เธอดูอ้วนขึ้นมีน้ำมีนวลผิวพรรณเปล่งปลั่งเชียวนะ กลับมาคราวนี้ ”

กีรติ หลุดปากเรียกชื่อน้องสาวตามเร ไปอีกคน จนต้องหันไปมองเร ราวกับเขาเป็นคนผิด

“ เป็นเพราะจะได้เจอหน้าเอ็ดหรือเปล่าฮะน้า จากที่ไม่เจอกันมาตั้งหลายปี ”

ดีแลน ถาม พลางส่งสายตาวิบวับราวกับรู้ทันน้าสาวคนสวย

“ใครคือเอ็ด? ”

เร ถามขึ้นมาอย่างสงสัย

“ เพื่อนพี่เอง ” เด่นรติตอบ

“ อ้าวหรอ ไม่เห็นรู้จัก ”

เร ว่า พลางตักข้าวใส่ปากอย่างไม่ค่อยยี่หระเท่าไหร่นัก

“ ทำไมน้าเค้าต้องรายงานนายทุกเรื่องด้วยวะ เป็นพ่อเค้าหรือไง ”

ดีแลนถามด้วยน้ำเสียงล้อเลียน เล่นเอาคนฟังหันขวับแล้วยัดผักตรงหน้าเข้าปากคนข้างๆอย่างหมั่นไส้

เด่นรติ มองดูสองหนุ่มน้อยแล้วก็ต้องส่ายหน้าอย่างระอา ทะเลาะกันได้ตลอดเวลา ก่อนจะหวนนึกไปถึงอีกคนที่เธอยอมรับว่าคิดถึงเขาอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ไม่เจอกันนานหลายปี

เอ็ด เป็นลูกชายคนรองของบริษัทผลิตยาแห่งหนึ่ง เธอเจอเขาเมื่อ 6 ปีก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งจะเรียนจบด็อกเตอร์ด้านกฏหมายมาหมาดๆ เธอยังจำได้ถึงวันแรกที่เธอเจอเขาได้ เด่นรตินั่งจิบกาแฟอยู่หน้าร้านประจำ เห็นเขาเดินมาแต่ไกล เขาตัวสูงไม่น้อย รูปร่างสูงโปร่ง สง่าผ่าเผย จมูกโด่ง มองเห็นใบหน้าเป็นสันกรามได้รูปสวยรับกับดวงตาอันน่าหลงใหลเกินใครของเขา เขาหยุดอยู่ต่อหน้าเธอแล้วค่อยๆนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“ขอโทษนะครับ แต่คุณสวยจริงๆ”

เขาใช้คำพูดอย่างไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว ทำเอาเธอทั้งอายหน้าแดง แล้วก็แทบจะสำลักกาแฟที่จิบอยู่ใส่หน้าเขา

เมื่อหวนนึกถึงวันนั้น ก็เป็นภาพที่ทำให้เธอยิ้มได้อย่างมีความสุข

“ พี่ยิ้มอะไรดี ”

เร ถาม ก่อนจะดีดนิ้ว ป๊อก ตรงหน้าเธอ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ กัณย์

ข้อมูลเพิ่มเติม
House of Cursed : เคหาสน์สาปรัก

House of Cursed : เคหาสน์สาปรัก

โรแมนติก

5.0

พิธีแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้น แต่เจ้าสาวของงานกลับนั่งนิ่งมองตัวเองในกระจกอย่างไม่ยินดียินร้าย หญิงสาวทุกคนต่างวาดฝันถึงวิวาห์สวยหรูกับชายที่ตนรัก ชายที่เธอยินดีมอบครึ่งชีวิตที่เหลือให้หากมั่นใจแล้วว่าเขาพร้อมจะอยู่ดูแลกันและกันไปจนตาย คนสองคนต่างจะต้องรักกันและกันถึงจะสามารถแต่งงานกันได้ แต่ไหนล่ะความรัก เธอเห็นเพียงแต่ความเศร้าบนใบหน้าที่อดหลับอดนอนเพราะคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงกับชีวิตหลังแต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองไม่เคยคิดที่จะรักนี้ดี เธอและเขาไม่ได้รักกันแล้วจะครองคู่กันอย่างที่ใครๆอยากให้เป็นได้อย่างไร แม้พิมานจะเป็นคนดี และรู้จักกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก แต่เขาก็คือเขา พิมานยังเป็นพี่ชายที่แสนดี ไม่มีเค้าความเป็นคนรักในอุดมคติของเธอได้เลยสักนิด ผิดกับอีกคน คนที่เธอคิดว่าเขาเกิดมาเพื่อเธอและเธอเกิดมาเพื่อเขาเท่านั้น ตั้งแต่เธอเริ่มมีความรัก เขาคือผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกใจเต้นไปกับรอยยิ้มน้อยๆเสียงทายทักที่สดใส อ้อมแขนที่อบอุ่นแข็งแรงยามที่เขาปลอบโยน เธอเชื่อเสมอว่าเธอและเขาเกิดมาคู่กัน แต่ทำไมคนอื่นถึงไม่ได้คิดอย่างที่เธอคิด ไม่เคยมีใครบอกว่าเขาและเธอเหมาะสมกันอย่างไร ไม่เคยมีใครพูดถึงความจริงใจที่ทั้งเธอและเขามีให้กัน บางอย่างมันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ แต่มันสัมผัสได้ด้วยหัวใจเท่านั้น ไม่มีวันใดที่ใจเธอจะอบอุ่นได้เท่าวันที่เจอเขา ในสายตาเขาเต็มเปรี่ยมไปด้วยความรักที่มีให้กับเธอ ความรักที่แสนหวาน ดั่งนิทานก่อนนอนที่เขาเคยเล่าให้เธอฟัง…รักที่แสนหวาน

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้ามภพมามีสามีพิการ

ข้ามภพมามีสามีพิการ

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง
5.0

จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก

รักใหม่พันล้าน

รักใหม่พันล้าน

Hilarius Erikson
5.0

เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

Me'JinJin
4.9

คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ