พิธีแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้น แต่เจ้าสาวของงานกลับนั่งนิ่งมองตัวเองในกระจกอย่างไม่ยินดียินร้าย หญิงสาวทุกคนต่างวาดฝันถึงวิวาห์สวยหรูกับชายที่ตนรัก ชายที่เธอยินดีมอบครึ่งชีวิตที่เหลือให้หากมั่นใจแล้วว่าเขาพร้อมจะอยู่ดูแลกันและกันไปจนตาย คนสองคนต่างจะต้องรักกันและกันถึงจะสามารถแต่งงานกันได้ แต่ไหนล่ะความรัก เธอเห็นเพียงแต่ความเศร้าบนใบหน้าที่อดหลับอดนอนเพราะคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงกับชีวิตหลังแต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองไม่เคยคิดที่จะรักนี้ดี เธอและเขาไม่ได้รักกันแล้วจะครองคู่กันอย่างที่ใครๆอยากให้เป็นได้อย่างไร แม้พิมานจะเป็นคนดี และรู้จักกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก แต่เขาก็คือเขา พิมานยังเป็นพี่ชายที่แสนดี ไม่มีเค้าความเป็นคนรักในอุดมคติของเธอได้เลยสักนิด ผิดกับอีกคน คนที่เธอคิดว่าเขาเกิดมาเพื่อเธอและเธอเกิดมาเพื่อเขาเท่านั้น ตั้งแต่เธอเริ่มมีความรัก เขาคือผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกใจเต้นไปกับรอยยิ้มน้อยๆเสียงทายทักที่สดใส อ้อมแขนที่อบอุ่นแข็งแรงยามที่เขาปลอบโยน เธอเชื่อเสมอว่าเธอและเขาเกิดมาคู่กัน แต่ทำไมคนอื่นถึงไม่ได้คิดอย่างที่เธอคิด ไม่เคยมีใครบอกว่าเขาและเธอเหมาะสมกันอย่างไร ไม่เคยมีใครพูดถึงความจริงใจที่ทั้งเธอและเขามีให้กัน บางอย่างมันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ แต่มันสัมผัสได้ด้วยหัวใจเท่านั้น ไม่มีวันใดที่ใจเธอจะอบอุ่นได้เท่าวันที่เจอเขา ในสายตาเขาเต็มเปรี่ยมไปด้วยความรักที่มีให้กับเธอ ความรักที่แสนหวาน ดั่งนิทานก่อนนอนที่เขาเคยเล่าให้เธอฟัง…รักที่แสนหวาน
ตอนที่ # 1 แรกฤดูหนาว
เริ่มจะเข้าหน้าหนาวแล้ว บรรยากาศรอบกายเหมือนจะย้ำเตือนอยู่ทุกปีว่า คนที่เรารอ…เขาคงไม่กลับมาอีกแล้ว หน้าหนาวเมื่อสามปีก่อน ที่นี่เคยเป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น ทุกคนตื่นขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มสดใสรับเช้าวันใหม่ของฤดูหนาว หมอกจะหนามากในตอนเช้าและค่อยๆจางไปเมื่อพระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้ายามสาย แต่วันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ยอดหญ้าดูเหมือนจะเหี่ยวเฉาแม้ในตอนเช้าตรู่ หยาดน้ำค้างดูหมองหม่นสะท้อนความเศร้าของคนในตระกูลสูงศักดิ์ หมอกที่หนาเริ่มมืดมัวจนแทบจะมองไม่เห็นอะไร ที่นี่หนาวจับใจ…จับใจคนคอยจริงๆ หลายอย่างเปลี่ยนไป หลายอย่างยังคงไว้เพราะไม่อยากให้เปลี่ยน แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่า มันจะไม่มีวันเหมือนเดิม ตั้งแต่วันนั้น…วันที่เขาจากไป
พิธีแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้น แต่เจ้าสาวของงานกลับนั่งนิ่งมองตัวเองในกระจกอย่างไม่ยินดียินร้าย หญิงสาวทุกคนต่างวาดฝันถึงวิวาห์สวยหรูกับชายที่ตนรัก ชายที่เธอยินดีมอบครึ่งชีวิตที่เหลือให้หากมั่นใจแล้วว่าเขาพร้อมจะอยู่ดูแลกันและกันไปจนตาย คนสองคนต่างจะต้องรักกันและกันถึงจะสามารถแต่งงานกันได้ แต่ไหนล่ะความรัก เธอเห็นเพียงแต่ความเศร้าบนใบหน้าที่อดหลับอดนอนเพราะคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงกับชีวิตหลังแต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองไม่เคยคิดที่จะรักนี้ดี เธอและเขาไม่ได้รักกันแล้วจะครองคู่กันอย่างที่ใครๆอยากให้เป็นได้อย่างไร แม้พิมานจะเป็นคนดี และรู้จักกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก แต่เขาก็คือเขา พิมานยังเป็นพี่ชายที่แสนดี ไม่มีเค้าความเป็นคนรักในอุดมคติของเธอได้เลยสักนิด ผิดกับอีกคน คนที่เธอคิดว่าเขาเกิดมาเพื่อเธอและเธอเกิดมาเพื่อเขาเท่านั้น ตั้งแต่เธอเริ่มมีความรัก เขาคือผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกใจเต้นไปกับรอยยิ้มน้อยๆเสียงทายทักที่สดใส อ้อมแขนที่อบอุ่นแข็งแรงยามที่เขาปลอบโยน เธอเชื่อเสมอว่าเธอและเขาเกิดมาคู่กัน แต่ทำไมคนอื่นถึงไม่ได้คิดอย่างที่เธอคิด ไม่เคยมีใครบอกว่าเขาและเธอเหมาะสมกันอย่างไร ไม่เคยมีใครพูดถึงความจริงใจที่ทั้งเธอและเขามีให้กัน บางอย่างมันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ แต่มันสัมผัสได้ด้วยหัวใจเท่านั้น ไม่มีวันใดที่ใจเธอจะอบอุ่นได้เท่าวันที่เจอเขา ในสายตาเขาเต็มเปรี่ยมไปด้วยความรักที่มีให้กับเธอ ความรักที่แสนหวาน ดั่งนิทานก่อนนอนที่เขาเคยเล่าให้เธอฟัง…รักที่แสนหวาน
“น้องของพี่เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในวันนี้”
พิมพ์เพทายเปิดประตูเข้ามาทักทายเจ้าสาวที่เป็นญาติผู้น้องของตนด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดียิ่ง
แม้เธอจะไม่เห็นด้วยกับการคลุมถุงชนในเรื่องของแพรมนกับพิมาน แต่ก็เถียงไม่ออกจริงๆว่าทั้งสองเหมาะสมกันมากแค่ไหน ผิดที่ว่าการแต่งงานครั้งนี้ สองบ่าวสาวไม่ได้มีความสุขร่วมกับมันเลยสักนิด ตระกูลของเธอทำแบบนี้มาตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด ไม่มีใครเหมาะสมกับเรามากกว่าคนในตระกูลของเราเอง คุณย่าสอนมาแบบนี้ และทุกคนล้วนแล้วแต่ปฏิบัติตามอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง เว้นเสียแต่พ่อของเธอ ที่คว้าแม่ที่เป็นสาวฝรั่งมาเป็นสะใภ้ของบ้าน พ่อบอกว่าพ่อสร้างความปั่นป่วนและวุ่นวายมากสมัยนั้น คุณปู่ถึงกับไล่พ่อออกจากบ้าน แต่ไม่นานก็ต้องไปตามกลับมา เพราะได้ข่าวว่าแม่กำลังตั้งท้อง เพราะฉะนั้นในตระกูลนี้จึงมีเพียงเธอและพี่ชายเท่านั้นที่เป็นลูกครึ่งนอกคอกของบ้าน เธอโตมาพร้อมกับคำปะกาศิตของคุณย่า คือ เรียนจบเธอต้องแต่งงานกับกานต์ พี่ชายคนรองของบ้าน ว่าแล้วเธอก็ยกมือซ้ายขึ้นมามองแหวนเพชรที่ถูกสวมไว้บนนิ้วนางเมื่อสามปีก่อน กานต์ไม่ได้รักเธอ แต่ตอนนี้เธอเริ่มไม่รู้ใจตัวเองแล้วว่าเธอคิดยังไงกันแน่ ตั้งแต่วันที่เขาสวมแหวนให้ เธอก็กลับไปละเมอเพ้อพกถึงวันวิวาห์เป็นบ้าเป็นหลัง เธอเฝ้าฝันหาแต่วันแต่งงานที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า แตกต่างกับกานต์ที่ตั้งแต่วันนั้นก็เอาแต่ห่างเหินและเฉยชากับเธอมากขึ้นเรื่อยๆจนเธอเริ่มกลัวแล้วว่า ทุกอย่างมันไม่ถูกต้องไปเสียหมด เธอจะทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเธอได้อย่างไรกัน เพราะฉะนั้น วันนี้เธอจึงเห็นใจน้องน้อยคนนี้มากที่สุด เพราะเธอกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับชายที่ไม่ได้รักเธอและเธอไม่ได้รักเขาเลยสักนิด
“แพรจะรักพี่พิมานได้ใช่ไหมคะพี่พิมพ์”
แพรมนถามกลับด้วยดวงตาที่รื้นไปด้วยหยาดใสๆที่ขอบตา
“รักสิจ้ะ พี่พิมานเป็นคนดี แพรจะรักพี่พิมานเมื่อแพรได้เห็นความดีของเขา ความดีสามารถเอาชนะใจเราได้จ้ะ”
พิมพ์เพทายบอกพลางเดินเข้าไปโอบปลอบแพรมนที่เริ่มจะตัวสั่นนิดๆ
อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ เธอจะไม่มีสิทธิ์ในชายใดอีกแล้ว การรอคอยของเธอไร้ความหมาย เขาไม่กลับมา และเธอต้องกลายเป็นของคนอื่นไปจริงๆ เขาผิดสัญญา
“คงจะยากค่ะ แต่…แพรจะรักพี่พิมาน”
แพรมนบอก ก่อนจะเช็ดน้ำตาแล้วแค่นยิ้มออกมาอย่างยากเย็น
สองพี่น้องโอบกอดกันด้วยใจที่เศร้าพอกัน ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงอะไรได้ไปมากกว่านี้ ทุกคนต้องดำเนินชีวิตที่เหลือต่อไปด้วยทางที่ถูกขีดขึ้นมาอย่างพิถีพิถันที่สุด ไม่ว่าปลายทางนั้นจะมีแต่ขวากหนามหรือโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ ทุกคนจะต้องพานพบมัน และผ่านมันไปให้ได้ เพราะมันถูกกำหนดไว้แล้ว…
*****
“แพรนอนที่นี่นะ เดี๋ยวพี่จะไปนอนโซฟา”
พิมานบอกพลางหอบผ้าหอบผ่อนเดินไปที่โซฟาสีน้ำตาลตัวยาวที่วางอยู่หน้าทีวีอย่างไม่รีรอคำตอบของเธอ
“ขอบคุณค่ะ”
เขาหันมายิ้มน้อยๆให้อย่างเข้าอกเข้าใจ ก่อนจะนอนลงบนโซฟาอย่างไม่มีพิธีรีตอง
“ขอโทษนะคะ พี่พิมาน”
เธอเอ่ยเสียงเบา แต่เขาได้ยิน จึงเงยหน้าขึ้นมามองเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า เขาก็อยากจะขอโทษเธอเช่นกัน
“มันไม่ใช่ความผิดของใครหรอกแพร ผิดที่เราสองคนไมได้รักกันมาตั้งแต่ต้นมากกว่า”
เขาเห็นใจเธอ และสงสารเธอมาก เขาน่ะมันผู้ชาย เรื่องแบบนี้มันไม่ได้มีปัญหากับเขามากมายเท่าไรนักหรอก แพรเป็นคนสวย ใครๆก็รู้ เขาคงจะอยู่กับเธอและรักเธอได้ไม่ยาก แต่เธอสิ ต้องมาทนอยู่กับคนอย่างเขา ไม่อยากจะคิดเลยว่า เธอจะทนความเป็นเขาได้นานสักแค่ไหน
“เรื่องมันผ่านไปแล้ว เราแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เราทำมันให้ดีได้ไม่ใช่เหรอแพร ถ้าเราร่วมมือกันพี่ว่ามันคงจะไม่ยากเท่าไรหรอกนะ”
พิมานยิ้มให้กับเธอ ก่อนจะนอนลงอีกครั้ง แล้วเงียบไปพร้อมกับเสียงลมหายใจที่เป็นจังหวะ
รักพิมานน่ะไม่เท่าไหร่ แต่จะทำยังไงถึงจะลืมคนที่เคยรอได้สักที ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ หัวใจเธอเอาแต่ร่ำร้องแต่ชื่อเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นไม่มีเปลี่ยน แล้วตอนนี้เธอยังจะมีหน้ารอเขาอีกอย่างนั้นหรือ เธอเข้าพิธีแต่งงาน มีสามีเป็นตัวเป็นตนนอนอยู่ตรงนั้น เธอเป็นของเขาของเขาคนเดียว พิมานคือผู้ชายคนเดียวที่จะมีสิทธิ์ในตัวเธอได้ในตอนนี้
*****
“ยังไม่นอนอีกเหรอพิมพ์”
พิมพ์เพทายหันไปหาเจ้าของเสียงคุ้นเคย ที่ตอนนี้อยู่ในชุดกางเกงขายาวสีเทากับเสื้อยืดสีขาว ชุดที่เขาชอบใส่นอนประจำ เธอชอบที่จะมองเขาในยามที่เขาทำตัวตามสบายเช่นนี้ เพราะเขาดูเป็นตัวเอง น่ารักและเป็นกันเองกับทุกคน เป็นคนที่เธอสามารถพูดคุยและเข้าหาได้ ไม่ใช่ผู้ชายบ้างาน วันๆง่วนอยู่กับปัญหาพันแปดอย่างเมื่อยามกลางวัน
“ยังค่ะ”
เธอตอบ พลางมองตามร่างของคู่หมั้นที่เดินหายเข้าไปในครัวก่อนจะกลับออกมาด้วยนมแก้วหนึ่งในมือ
“ขอบคุณค่ะ”
เธอบอก ก่อนจะรับแก้วนมมาจากเขา
กานต์มักจะทำตัวน่ารักและเป็นพี่ชายที่แสนดีเสมอเมื่อยามกลับบ้าน หลายครั้งที่เธอมองเขาและไม่เข้าใจ บางครั้งเขาใจดียิ้มเก่ง บางครั้งเขาเคร่งเครียดไม่พูดจา บางครั้งฟึดฟัดขี้โมโห บางครั้งเหมือนคนที่ไร้จิตวิญญาณ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าคนเราจะมีได้หลายบุคลิกอย่างนี้
“พรุ่งนี้ไม่ต้องรอทานข้าวกลางวันนะ”
พิมพ์มองเขาอย่างสงสัยขณะดื่มนมลงไปอึกใหญ่
“ทำไมคะ”
เธอถามพลางเช็ดคราบนมที่ติดริมฝีปากออก
“พี่จะออกไปทำธุระข้างนอกน่ะ มีปัญหาหลายอย่างที่พี่ต้องไปสะสาง”
เขาบอก ก่อนจะลุกขึ้นทำท่าจะเดินกลับขึ้นไปบนห้อง แต่แล้วก็หันกลับมาอีกครั้ง
“อ้อ !!! อย่านอนดึกล่ะ”
กานต์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินหายขึ้นไปข้างบน ทิ้งให้คนข้างล่างนั่งยิ้มกับคำพูดและรอยยิ้มของเขาอย่างเผลอไผล
กานต์มักมีอิทธิพลกับเธอเสมอ ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม หลายครั้งที่เธอใจเต้นที่สำนึกได้ว่าตัวเองชอบรอยยิ้มของเขามากแค่ไหน บางครั้งเธอถึงกับเผลอแสดงออกถึงความในที่เธอมีจนกานต์เริ่มจะสงสัย
หลายครั้งที่เธอสะดุ้งเมื่อเขาบังเอิญสัมผัสตัวเธอแค่เฉียดๆ มีหลายอย่างที่เธอไม่เข้าใจระหว่างเธอและเขา
หลายครั้งที่เธอแอบรู้สึกเจ็บปวดใจที่ได้รู้ว่าเขาอาจจะไม่ได้รู้สึกเหมือนที่เธอรู้สึก เธอมักคิดมากกับคำพูดเล็กๆน้อยๆของเขา แอบเก็บไปฝันยามเขายิ้มหวานให้ นั่นทำให้เธอเป็นทุกข์อยู่ไม่น้อยเมื่อนึกถึงมัน
*****
“งานแต่งไปถึงไหนแล้วคะ”
รุ้งพลาย ถามขึ้นเมื่อพนักงานเสิร์ฟจากไป
“คุณก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับเรื่องนี้”
กานต์เอ่ยเสียงเครียด แต่สาวเจ้ากลับยิ้มกริ่มกับประโยคเดิมๆที่เขาพูดกับเธอ
แรกๆที่รู้เรื่องกานต์กับเธอคนนั้น เธอแทบอยากจะกรีดร้องให้โลกมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆซะให้ได้
เธอกับเขารักกันมานานปี อยู่ๆจะมาบอกกันว่าคนรักจะแต่งงาน มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ
เธอไม่เคยเห็นด้วยกับการคลุมถุงชนของผู้ใหญ่สมัยนี้ คิดว่าความรักมันเป็นเรื่องล้อเล่นหรือยังไงกัน
ผู้หญิงบ้านนั้นก็อีกคน ไม่มีขัดขืนหรืออะไรบ้างเลยหรือ ผู้ใหญ่บอกแต่งก็จะแต่งงั้นหรือ
ง่าย…ไปหรือเปล่า
แต่นานวันเข้า เธอกลับยิ่งรู้สึกเป็นสุขใจทั้งๆที่มีความทุกข์อยู่เต็มอก
ที่สุข ก็เพราะกานต์มักจะพูดอยู่เสมอว่า เขาไม่เคยรักผู้หญิงคนนั้น เขาคิดกับเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง แต่ที่ต้องทำแบบนี้เพราะไม่สามารถขัดใจใครได้ แต่ไม่หล่ะ…ทำไมจะขัดไม่ได้
ถ้าเกิดบ้านนั้นรู้ว่าเธอท้องขึ้นมาจะทำยังไง งานแต่งของทั้งสองจะไม่เป็นโมฆะหรอกหรือ หรือไม่ก็อาจจะเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกะทันหัน ได้ข่าวว่าคนรวยๆมักจะรักเด็ก หรือถ้าหากสะใภ้คนไหนมีทายาทให้ตระกูลได้ก่อน จะถือเป็นคนโปรดไปเลย พอคิดถึงเรื่องนี้ เธอจึงไม่อินังขังขอบอะไรมากมายนัก อีกตั้งนานกว่าจะถึงวันแต่ง เธอยังพอมีทางออก อยากจะเห็นหน้าแม่นั่นนัก ว่าจะทำยังไงที่อยู่ๆ ก็มีคนมาประกาศตัวว่าเป็นเมียของคู่หมั้นของตัวเอง แถมยังตั้งท้องทายาทคนแรกของตระกูลอีกต่างหาก เรื่องนี้ไม่รู้ว่าใครจะเสีย ใครจะได้ แต่ที่แน่ๆ เธอจะไม่ยอมเสียแน่นอน
“คืนนี้อยู่ด้วยกันสักคืนจะได้ไหมคะกานต์”
รุ้งพลายถามเสียงหวานตามที่เคยได้ถูกสั่งสอนมาว่าเวลาพูดคุยกับผู้ชายให้ทำเสียงอ่อนเอาไว้ก่อน ไอ้พวกปากดีถือตัว เอาไว้ทีหลัง พวกนี้ผู้ชายมักจะทิ้งให้จมกองน้ำตาทั้งนั้น และเสียงหวานๆแบบนี้ มันใช้กับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าได้ผล
“ทุกคนในครอบครัวจะต้องอยู่ฉลองให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวหนึ่งอาทิตย์ นี่กว่าผมจะหาเวลาว่างออกมาเจอคุณได้ ก็ยากเย็นแสนเข็น หวังว่าคุณคงเข้าใจผมนะครับ”
แววตาและท่าทางของกานต์บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่ได้โกหก และเขาจะไม่มีวันโกหกเธอ
ผู้ชายคนนี้รักใครรักจริง จะให้ลืมง่ายๆน่ะหรือ ไม่มีวัน และเธอเป็นถึงรักแรกของเขา มีหรือเขาจะลืมได้ลง
เรื่องนี้ง่ายกว่าที่คิด ไม่ทันได้แข่ง แม่นั่นก็แพ้เสียแล้วหนอ น่าสงสารเสียจริง…
“เอาไว้วันไหนที่คุณว่าง เราค่อยเจอกันใหม่ก็ได้ค่ะ”
กานต์ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองเธอ และยิ้มให้กับดวงตาน่ารักของสาวงามตรงหน้า
รุ้งพลายเป็นผู้หญิงสวย ใครๆก็ชอบ ใครๆก็หมายปอง เขาและเธอคบกันมานานปีตั้งแต่เข้ามหาลัย
และเธอเป็นรักแรกของเขา ผิดตรงที่ว่าเขานั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้น เขาคงจะสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า รุ้งพลายนี่แหละ ที่จะเป็นแม่ของลูกเขาในอนาคต
เธอไม่งี่เง่าเหมือนผู้หญิงอื่น งอนบ้างแต่พองาม เอาใจเก่ง พูดเพราะ และไม่เรื่องมาก
เขาและเธอเข้ากันได้ดี นึกแล้วก็เสียดาย ที่คนที่เขาจะสามารถแต่งงานด้วยได้นั้นไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงอีกคนที่เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้ด้วยเลย พิมพ์เพทายเหมือนน้องสาวของเขา จะมองมุมไหนเธอก็ยังเป็นน้องสาว ไม่มีวันไหนที่เขาจะมองเธอเป็นอื่นไปได้ การอยู่กับพิมพ์เพทายไม่ใช่เรื่องยาก แต่เขาลำบากใจที่จะอยู่กับเธอ เขาจะมองเธอและรักเธออย่างที่ควรรักได้อย่างไร ในเมื่อวันไม่ใช่อย่างนั้น
คนเรามันไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายขนาดนั้น โดยเฉพาะเรื่องของ…หัวใจ
บทที่ 1 แรกฤดูหนาว
09/02/2025
บทที่ 2 จดหมายจากชายผู้สาบสูญ
09/02/2025
บทที่ 3 ปัญหาหนักอก
09/02/2025
บทที่ 4 ยินดี…ที่ได้รู้จัก
09/02/2025
บทที่ 5 มาทีหลัง(อย่าหวังว่าจะ)ดังกว่า
09/02/2025
บทที่ 6 โจทย์รัก
09/02/2025
บทที่ 7 อยากได้ทั้งตัว…และหัวใจ
09/02/2025
บทที่ 8 การรอคอย…และการจากไป
09/02/2025
บทที่ 9 นับหนึ่งด้วยกัน
09/02/2025
บทที่ 10 นายและนายหญิงคนใหม่
09/02/2025
บทที่ 11 กอดลา
12/02/2025
บทที่ 12 ไม่คู่ควร
12/02/2025
หนังสืออื่นๆ ของ กัณย์
ข้อมูลเพิ่มเติม