House of Cursed : เคหาสน์สาปรัก

House of Cursed : เคหาสน์สาปรัก

กัณย์

5.0
ความคิดเห็น
42
ชม
12
บท

พิธีแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้น แต่เจ้าสาวของงานกลับนั่งนิ่งมองตัวเองในกระจกอย่างไม่ยินดียินร้าย หญิงสาวทุกคนต่างวาดฝันถึงวิวาห์สวยหรูกับชายที่ตนรัก ชายที่เธอยินดีมอบครึ่งชีวิตที่เหลือให้หากมั่นใจแล้วว่าเขาพร้อมจะอยู่ดูแลกันและกันไปจนตาย คนสองคนต่างจะต้องรักกันและกันถึงจะสามารถแต่งงานกันได้ แต่ไหนล่ะความรัก เธอเห็นเพียงแต่ความเศร้าบนใบหน้าที่อดหลับอดนอนเพราะคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงกับชีวิตหลังแต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองไม่เคยคิดที่จะรักนี้ดี เธอและเขาไม่ได้รักกันแล้วจะครองคู่กันอย่างที่ใครๆอยากให้เป็นได้อย่างไร แม้พิมานจะเป็นคนดี และรู้จักกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก แต่เขาก็คือเขา พิมานยังเป็นพี่ชายที่แสนดี ไม่มีเค้าความเป็นคนรักในอุดมคติของเธอได้เลยสักนิด ผิดกับอีกคน คนที่เธอคิดว่าเขาเกิดมาเพื่อเธอและเธอเกิดมาเพื่อเขาเท่านั้น ตั้งแต่เธอเริ่มมีความรัก เขาคือผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกใจเต้นไปกับรอยยิ้มน้อยๆเสียงทายทักที่สดใส อ้อมแขนที่อบอุ่นแข็งแรงยามที่เขาปลอบโยน เธอเชื่อเสมอว่าเธอและเขาเกิดมาคู่กัน แต่ทำไมคนอื่นถึงไม่ได้คิดอย่างที่เธอคิด ไม่เคยมีใครบอกว่าเขาและเธอเหมาะสมกันอย่างไร ไม่เคยมีใครพูดถึงความจริงใจที่ทั้งเธอและเขามีให้กัน บางอย่างมันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ แต่มันสัมผัสได้ด้วยหัวใจเท่านั้น ไม่มีวันใดที่ใจเธอจะอบอุ่นได้เท่าวันที่เจอเขา ในสายตาเขาเต็มเปรี่ยมไปด้วยความรักที่มีให้กับเธอ ความรักที่แสนหวาน ดั่งนิทานก่อนนอนที่เขาเคยเล่าให้เธอฟัง…รักที่แสนหวาน

บทที่ 1 แรกฤดูหนาว

ตอนที่ # 1 แรกฤดูหนาว

เริ่มจะเข้าหน้าหนาวแล้ว บรรยากาศรอบกายเหมือนจะย้ำเตือนอยู่ทุกปีว่า คนที่เรารอ…เขาคงไม่กลับมาอีกแล้ว หน้าหนาวเมื่อสามปีก่อน ที่นี่เคยเป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น ทุกคนตื่นขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มสดใสรับเช้าวันใหม่ของฤดูหนาว หมอกจะหนามากในตอนเช้าและค่อยๆจางไปเมื่อพระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้ายามสาย แต่วันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ยอดหญ้าดูเหมือนจะเหี่ยวเฉาแม้ในตอนเช้าตรู่ หยาดน้ำค้างดูหมองหม่นสะท้อนความเศร้าของคนในตระกูลสูงศักดิ์ หมอกที่หนาเริ่มมืดมัวจนแทบจะมองไม่เห็นอะไร ที่นี่หนาวจับใจ…จับใจคนคอยจริงๆ หลายอย่างเปลี่ยนไป หลายอย่างยังคงไว้เพราะไม่อยากให้เปลี่ยน แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่า มันจะไม่มีวันเหมือนเดิม ตั้งแต่วันนั้น…วันที่เขาจากไป

พิธีแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้น แต่เจ้าสาวของงานกลับนั่งนิ่งมองตัวเองในกระจกอย่างไม่ยินดียินร้าย หญิงสาวทุกคนต่างวาดฝันถึงวิวาห์สวยหรูกับชายที่ตนรัก ชายที่เธอยินดีมอบครึ่งชีวิตที่เหลือให้หากมั่นใจแล้วว่าเขาพร้อมจะอยู่ดูแลกันและกันไปจนตาย คนสองคนต่างจะต้องรักกันและกันถึงจะสามารถแต่งงานกันได้ แต่ไหนล่ะความรัก เธอเห็นเพียงแต่ความเศร้าบนใบหน้าที่อดหลับอดนอนเพราะคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงกับชีวิตหลังแต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองไม่เคยคิดที่จะรักนี้ดี เธอและเขาไม่ได้รักกันแล้วจะครองคู่กันอย่างที่ใครๆอยากให้เป็นได้อย่างไร แม้พิมานจะเป็นคนดี และรู้จักกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก แต่เขาก็คือเขา พิมานยังเป็นพี่ชายที่แสนดี ไม่มีเค้าความเป็นคนรักในอุดมคติของเธอได้เลยสักนิด ผิดกับอีกคน คนที่เธอคิดว่าเขาเกิดมาเพื่อเธอและเธอเกิดมาเพื่อเขาเท่านั้น ตั้งแต่เธอเริ่มมีความรัก เขาคือผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกใจเต้นไปกับรอยยิ้มน้อยๆเสียงทายทักที่สดใส อ้อมแขนที่อบอุ่นแข็งแรงยามที่เขาปลอบโยน เธอเชื่อเสมอว่าเธอและเขาเกิดมาคู่กัน แต่ทำไมคนอื่นถึงไม่ได้คิดอย่างที่เธอคิด ไม่เคยมีใครบอกว่าเขาและเธอเหมาะสมกันอย่างไร ไม่เคยมีใครพูดถึงความจริงใจที่ทั้งเธอและเขามีให้กัน บางอย่างมันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ แต่มันสัมผัสได้ด้วยหัวใจเท่านั้น ไม่มีวันใดที่ใจเธอจะอบอุ่นได้เท่าวันที่เจอเขา ในสายตาเขาเต็มเปรี่ยมไปด้วยความรักที่มีให้กับเธอ ความรักที่แสนหวาน ดั่งนิทานก่อนนอนที่เขาเคยเล่าให้เธอฟัง…รักที่แสนหวาน

“น้องของพี่เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในวันนี้”

พิมพ์เพทายเปิดประตูเข้ามาทักทายเจ้าสาวที่เป็นญาติผู้น้องของตนด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดียิ่ง

แม้เธอจะไม่เห็นด้วยกับการคลุมถุงชนในเรื่องของแพรมนกับพิมาน แต่ก็เถียงไม่ออกจริงๆว่าทั้งสองเหมาะสมกันมากแค่ไหน ผิดที่ว่าการแต่งงานครั้งนี้ สองบ่าวสาวไม่ได้มีความสุขร่วมกับมันเลยสักนิด ตระกูลของเธอทำแบบนี้มาตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด ไม่มีใครเหมาะสมกับเรามากกว่าคนในตระกูลของเราเอง คุณย่าสอนมาแบบนี้ และทุกคนล้วนแล้วแต่ปฏิบัติตามอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง เว้นเสียแต่พ่อของเธอ ที่คว้าแม่ที่เป็นสาวฝรั่งมาเป็นสะใภ้ของบ้าน พ่อบอกว่าพ่อสร้างความปั่นป่วนและวุ่นวายมากสมัยนั้น คุณปู่ถึงกับไล่พ่อออกจากบ้าน แต่ไม่นานก็ต้องไปตามกลับมา เพราะได้ข่าวว่าแม่กำลังตั้งท้อง เพราะฉะนั้นในตระกูลนี้จึงมีเพียงเธอและพี่ชายเท่านั้นที่เป็นลูกครึ่งนอกคอกของบ้าน เธอโตมาพร้อมกับคำปะกาศิตของคุณย่า คือ เรียนจบเธอต้องแต่งงานกับกานต์ พี่ชายคนรองของบ้าน ว่าแล้วเธอก็ยกมือซ้ายขึ้นมามองแหวนเพชรที่ถูกสวมไว้บนนิ้วนางเมื่อสามปีก่อน กานต์ไม่ได้รักเธอ แต่ตอนนี้เธอเริ่มไม่รู้ใจตัวเองแล้วว่าเธอคิดยังไงกันแน่ ตั้งแต่วันที่เขาสวมแหวนให้ เธอก็กลับไปละเมอเพ้อพกถึงวันวิวาห์เป็นบ้าเป็นหลัง เธอเฝ้าฝันหาแต่วันแต่งงานที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า แตกต่างกับกานต์ที่ตั้งแต่วันนั้นก็เอาแต่ห่างเหินและเฉยชากับเธอมากขึ้นเรื่อยๆจนเธอเริ่มกลัวแล้วว่า ทุกอย่างมันไม่ถูกต้องไปเสียหมด เธอจะทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเธอได้อย่างไรกัน เพราะฉะนั้น วันนี้เธอจึงเห็นใจน้องน้อยคนนี้มากที่สุด เพราะเธอกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับชายที่ไม่ได้รักเธอและเธอไม่ได้รักเขาเลยสักนิด

“แพรจะรักพี่พิมานได้ใช่ไหมคะพี่พิมพ์”

แพรมนถามกลับด้วยดวงตาที่รื้นไปด้วยหยาดใสๆที่ขอบตา

“รักสิจ้ะ พี่พิมานเป็นคนดี แพรจะรักพี่พิมานเมื่อแพรได้เห็นความดีของเขา ความดีสามารถเอาชนะใจเราได้จ้ะ”

พิมพ์เพทายบอกพลางเดินเข้าไปโอบปลอบแพรมนที่เริ่มจะตัวสั่นนิดๆ

อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ เธอจะไม่มีสิทธิ์ในชายใดอีกแล้ว การรอคอยของเธอไร้ความหมาย เขาไม่กลับมา และเธอต้องกลายเป็นของคนอื่นไปจริงๆ เขาผิดสัญญา

“คงจะยากค่ะ แต่…แพรจะรักพี่พิมาน”

แพรมนบอก ก่อนจะเช็ดน้ำตาแล้วแค่นยิ้มออกมาอย่างยากเย็น

สองพี่น้องโอบกอดกันด้วยใจที่เศร้าพอกัน ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงอะไรได้ไปมากกว่านี้ ทุกคนต้องดำเนินชีวิตที่เหลือต่อไปด้วยทางที่ถูกขีดขึ้นมาอย่างพิถีพิถันที่สุด ไม่ว่าปลายทางนั้นจะมีแต่ขวากหนามหรือโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ ทุกคนจะต้องพานพบมัน และผ่านมันไปให้ได้ เพราะมันถูกกำหนดไว้แล้ว…

*****

“แพรนอนที่นี่นะ เดี๋ยวพี่จะไปนอนโซฟา”

พิมานบอกพลางหอบผ้าหอบผ่อนเดินไปที่โซฟาสีน้ำตาลตัวยาวที่วางอยู่หน้าทีวีอย่างไม่รีรอคำตอบของเธอ

“ขอบคุณค่ะ”

เขาหันมายิ้มน้อยๆให้อย่างเข้าอกเข้าใจ ก่อนจะนอนลงบนโซฟาอย่างไม่มีพิธีรีตอง

“ขอโทษนะคะ พี่พิมาน”

เธอเอ่ยเสียงเบา แต่เขาได้ยิน จึงเงยหน้าขึ้นมามองเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า เขาก็อยากจะขอโทษเธอเช่นกัน

“มันไม่ใช่ความผิดของใครหรอกแพร ผิดที่เราสองคนไมได้รักกันมาตั้งแต่ต้นมากกว่า”

เขาเห็นใจเธอ และสงสารเธอมาก เขาน่ะมันผู้ชาย เรื่องแบบนี้มันไม่ได้มีปัญหากับเขามากมายเท่าไรนักหรอก แพรเป็นคนสวย ใครๆก็รู้ เขาคงจะอยู่กับเธอและรักเธอได้ไม่ยาก แต่เธอสิ ต้องมาทนอยู่กับคนอย่างเขา ไม่อยากจะคิดเลยว่า เธอจะทนความเป็นเขาได้นานสักแค่ไหน

“เรื่องมันผ่านไปแล้ว เราแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เราทำมันให้ดีได้ไม่ใช่เหรอแพร ถ้าเราร่วมมือกันพี่ว่ามันคงจะไม่ยากเท่าไรหรอกนะ”

พิมานยิ้มให้กับเธอ ก่อนจะนอนลงอีกครั้ง แล้วเงียบไปพร้อมกับเสียงลมหายใจที่เป็นจังหวะ

รักพิมานน่ะไม่เท่าไหร่ แต่จะทำยังไงถึงจะลืมคนที่เคยรอได้สักที ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ หัวใจเธอเอาแต่ร่ำร้องแต่ชื่อเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นไม่มีเปลี่ยน แล้วตอนนี้เธอยังจะมีหน้ารอเขาอีกอย่างนั้นหรือ เธอเข้าพิธีแต่งงาน มีสามีเป็นตัวเป็นตนนอนอยู่ตรงนั้น เธอเป็นของเขาของเขาคนเดียว พิมานคือผู้ชายคนเดียวที่จะมีสิทธิ์ในตัวเธอได้ในตอนนี้

*****

“ยังไม่นอนอีกเหรอพิมพ์”

พิมพ์เพทายหันไปหาเจ้าของเสียงคุ้นเคย ที่ตอนนี้อยู่ในชุดกางเกงขายาวสีเทากับเสื้อยืดสีขาว ชุดที่เขาชอบใส่นอนประจำ เธอชอบที่จะมองเขาในยามที่เขาทำตัวตามสบายเช่นนี้ เพราะเขาดูเป็นตัวเอง น่ารักและเป็นกันเองกับทุกคน เป็นคนที่เธอสามารถพูดคุยและเข้าหาได้ ไม่ใช่ผู้ชายบ้างาน วันๆง่วนอยู่กับปัญหาพันแปดอย่างเมื่อยามกลางวัน

“ยังค่ะ”

เธอตอบ พลางมองตามร่างของคู่หมั้นที่เดินหายเข้าไปในครัวก่อนจะกลับออกมาด้วยนมแก้วหนึ่งในมือ

“ขอบคุณค่ะ”

เธอบอก ก่อนจะรับแก้วนมมาจากเขา

กานต์มักจะทำตัวน่ารักและเป็นพี่ชายที่แสนดีเสมอเมื่อยามกลับบ้าน หลายครั้งที่เธอมองเขาและไม่เข้าใจ บางครั้งเขาใจดียิ้มเก่ง บางครั้งเขาเคร่งเครียดไม่พูดจา บางครั้งฟึดฟัดขี้โมโห บางครั้งเหมือนคนที่ไร้จิตวิญญาณ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าคนเราจะมีได้หลายบุคลิกอย่างนี้

“พรุ่งนี้ไม่ต้องรอทานข้าวกลางวันนะ”

พิมพ์มองเขาอย่างสงสัยขณะดื่มนมลงไปอึกใหญ่

“ทำไมคะ”

เธอถามพลางเช็ดคราบนมที่ติดริมฝีปากออก

“พี่จะออกไปทำธุระข้างนอกน่ะ มีปัญหาหลายอย่างที่พี่ต้องไปสะสาง”

เขาบอก ก่อนจะลุกขึ้นทำท่าจะเดินกลับขึ้นไปบนห้อง แต่แล้วก็หันกลับมาอีกครั้ง

“อ้อ !!! อย่านอนดึกล่ะ”

กานต์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินหายขึ้นไปข้างบน ทิ้งให้คนข้างล่างนั่งยิ้มกับคำพูดและรอยยิ้มของเขาอย่างเผลอไผล

กานต์มักมีอิทธิพลกับเธอเสมอ ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม หลายครั้งที่เธอใจเต้นที่สำนึกได้ว่าตัวเองชอบรอยยิ้มของเขามากแค่ไหน บางครั้งเธอถึงกับเผลอแสดงออกถึงความในที่เธอมีจนกานต์เริ่มจะสงสัย

หลายครั้งที่เธอสะดุ้งเมื่อเขาบังเอิญสัมผัสตัวเธอแค่เฉียดๆ มีหลายอย่างที่เธอไม่เข้าใจระหว่างเธอและเขา

หลายครั้งที่เธอแอบรู้สึกเจ็บปวดใจที่ได้รู้ว่าเขาอาจจะไม่ได้รู้สึกเหมือนที่เธอรู้สึก เธอมักคิดมากกับคำพูดเล็กๆน้อยๆของเขา แอบเก็บไปฝันยามเขายิ้มหวานให้ นั่นทำให้เธอเป็นทุกข์อยู่ไม่น้อยเมื่อนึกถึงมัน

*****

“งานแต่งไปถึงไหนแล้วคะ”

รุ้งพลาย ถามขึ้นเมื่อพนักงานเสิร์ฟจากไป

“คุณก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับเรื่องนี้”

กานต์เอ่ยเสียงเครียด แต่สาวเจ้ากลับยิ้มกริ่มกับประโยคเดิมๆที่เขาพูดกับเธอ

แรกๆที่รู้เรื่องกานต์กับเธอคนนั้น เธอแทบอยากจะกรีดร้องให้โลกมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆซะให้ได้

เธอกับเขารักกันมานานปี อยู่ๆจะมาบอกกันว่าคนรักจะแต่งงาน มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ

เธอไม่เคยเห็นด้วยกับการคลุมถุงชนของผู้ใหญ่สมัยนี้ คิดว่าความรักมันเป็นเรื่องล้อเล่นหรือยังไงกัน

ผู้หญิงบ้านนั้นก็อีกคน ไม่มีขัดขืนหรืออะไรบ้างเลยหรือ ผู้ใหญ่บอกแต่งก็จะแต่งงั้นหรือ

ง่าย…ไปหรือเปล่า

แต่นานวันเข้า เธอกลับยิ่งรู้สึกเป็นสุขใจทั้งๆที่มีความทุกข์อยู่เต็มอก

ที่สุข ก็เพราะกานต์มักจะพูดอยู่เสมอว่า เขาไม่เคยรักผู้หญิงคนนั้น เขาคิดกับเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง แต่ที่ต้องทำแบบนี้เพราะไม่สามารถขัดใจใครได้ แต่ไม่หล่ะ…ทำไมจะขัดไม่ได้

ถ้าเกิดบ้านนั้นรู้ว่าเธอท้องขึ้นมาจะทำยังไง งานแต่งของทั้งสองจะไม่เป็นโมฆะหรอกหรือ หรือไม่ก็อาจจะเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกะทันหัน ได้ข่าวว่าคนรวยๆมักจะรักเด็ก หรือถ้าหากสะใภ้คนไหนมีทายาทให้ตระกูลได้ก่อน จะถือเป็นคนโปรดไปเลย พอคิดถึงเรื่องนี้ เธอจึงไม่อินังขังขอบอะไรมากมายนัก อีกตั้งนานกว่าจะถึงวันแต่ง เธอยังพอมีทางออก อยากจะเห็นหน้าแม่นั่นนัก ว่าจะทำยังไงที่อยู่ๆ ก็มีคนมาประกาศตัวว่าเป็นเมียของคู่หมั้นของตัวเอง แถมยังตั้งท้องทายาทคนแรกของตระกูลอีกต่างหาก เรื่องนี้ไม่รู้ว่าใครจะเสีย ใครจะได้ แต่ที่แน่ๆ เธอจะไม่ยอมเสียแน่นอน

“คืนนี้อยู่ด้วยกันสักคืนจะได้ไหมคะกานต์”

รุ้งพลายถามเสียงหวานตามที่เคยได้ถูกสั่งสอนมาว่าเวลาพูดคุยกับผู้ชายให้ทำเสียงอ่อนเอาไว้ก่อน ไอ้พวกปากดีถือตัว เอาไว้ทีหลัง พวกนี้ผู้ชายมักจะทิ้งให้จมกองน้ำตาทั้งนั้น และเสียงหวานๆแบบนี้ มันใช้กับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าได้ผล

“ทุกคนในครอบครัวจะต้องอยู่ฉลองให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวหนึ่งอาทิตย์ นี่กว่าผมจะหาเวลาว่างออกมาเจอคุณได้ ก็ยากเย็นแสนเข็น หวังว่าคุณคงเข้าใจผมนะครับ”

แววตาและท่าทางของกานต์บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่ได้โกหก และเขาจะไม่มีวันโกหกเธอ

ผู้ชายคนนี้รักใครรักจริง จะให้ลืมง่ายๆน่ะหรือ ไม่มีวัน และเธอเป็นถึงรักแรกของเขา มีหรือเขาจะลืมได้ลง

เรื่องนี้ง่ายกว่าที่คิด ไม่ทันได้แข่ง แม่นั่นก็แพ้เสียแล้วหนอ น่าสงสารเสียจริง…

“เอาไว้วันไหนที่คุณว่าง เราค่อยเจอกันใหม่ก็ได้ค่ะ”

กานต์ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองเธอ และยิ้มให้กับดวงตาน่ารักของสาวงามตรงหน้า

รุ้งพลายเป็นผู้หญิงสวย ใครๆก็ชอบ ใครๆก็หมายปอง เขาและเธอคบกันมานานปีตั้งแต่เข้ามหาลัย

และเธอเป็นรักแรกของเขา ผิดตรงที่ว่าเขานั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้น เขาคงจะสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า รุ้งพลายนี่แหละ ที่จะเป็นแม่ของลูกเขาในอนาคต

เธอไม่งี่เง่าเหมือนผู้หญิงอื่น งอนบ้างแต่พองาม เอาใจเก่ง พูดเพราะ และไม่เรื่องมาก

เขาและเธอเข้ากันได้ดี นึกแล้วก็เสียดาย ที่คนที่เขาจะสามารถแต่งงานด้วยได้นั้นไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงอีกคนที่เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้ด้วยเลย พิมพ์เพทายเหมือนน้องสาวของเขา จะมองมุมไหนเธอก็ยังเป็นน้องสาว ไม่มีวันไหนที่เขาจะมองเธอเป็นอื่นไปได้ การอยู่กับพิมพ์เพทายไม่ใช่เรื่องยาก แต่เขาลำบากใจที่จะอยู่กับเธอ เขาจะมองเธอและรักเธออย่างที่ควรรักได้อย่างไร ในเมื่อวันไม่ใช่อย่างนั้น

คนเรามันไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายขนาดนั้น โดยเฉพาะเรื่องของ…หัวใจ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

แก้วใบเล็ก
5.0

โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว            “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ”            “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย”            “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้”            “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่”            “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย            “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้            “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน            “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ            “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้”            ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน            เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด            “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง            คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม            ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

Coupling Shim
5.0

ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.9

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ความรักเป็นพิษ

ความรักเป็นพิษ

Rascal
5.0

เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" "จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ" "ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ