Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
4.5
ความคิดเห็น
562K
ชม
206
บท

เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?

บทที่ 1 ขายให้ซ่องโสเภณี

“นังสารเลว! ปกติเจ้าก็ชอบที่จะใช้หน้าตาของตัวเองในการหลอกล่อผู้ชายอยู่แล้วไม่ใช่หรือไร? พอดีเลยหากเจ้าได้เข้าไปอยู่ในซ่องฉินโหลวฉู่แห่งนี้แล้ว ต่อไปเจ้าจะได้มีผู้ชายให้คอยบริการ มีลูกค้าให้คอยดูแลไม่รู้จบเลยอย่างไรเล่า.....”

แส้ถูกฟาดลงมาบนตัวอย่างรุนแรงมาก นอกจากนี้ ที่ข้างหูยังมีเสียงที่คุ้นหูและไม่คุ้นหูที่กำลังหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างได้ใจขึ้นมาด้วย เส้าหยวนหยวนเจ็บจนเหงื่อเย็นอออกท่วมตัวไปหมดแล้ว ทันใดนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมา

แต่หลังจากที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจนแล้ว นางก็ถึงกับตกตะลึงไปเลย

สิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือเตียงไม้จริง ๆ ที่แกะสลักลายดอกแบบโบราณ แล้วก็ผ้าม่านคลุมเตียงผ้าตาข่ายเบาบางที่เป็นสีชมพูฉูดฉาด นอกจากนี้ยังได้กลิ่นหอมแบบหวาน ๆ ของควันที่พวยพุ่งออกมาจากกระถางธูปหอมด้วย......

ที่นี่คือที่ไหนกันเนี่ย?

นางไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกขณะไปเข้าร่วมการประชุมทางการแพทย์ระดับนานาชาติหรอกเหรอ?

ขณะที่นางยังไม่ทันได้โต้ตอบ แส้ก็ถูกฟาดลงมาอย่างรุนแรงราวกับฝนที่เทกระหน่ำลงมาอีกครั้ง

ไม่ไกลนัก ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดสีชมพูอ่อนกำลังหัวเราะคิกคักอย่างได้ใจ หลังจากสะบัดแส้ขึ้นก็ทำการฟาดแส้ลงไปที่นางอย่างรุนแรง

“จะมาหาว่าข้าเป็นน้องสาวที่ใจร้ายคงไม่ได้หรอกนะ หากจะโทษใครก็คงต้องโทษที่ตัวของเจ้าเองนั่นแหละที่มันไร้ค่า เป็นแค่คนที่ไร้ความสามารถและไร้ประโยชน์ แต่กลับครองตำแหน่งบุตรีของฮูหยินเอกมาได้ตั้งหลายปี สมควรแล้วล่ะที่เจ้าจะถูกผู้ชายหลอกไปขายที่ซ่องเช่นนั้น!”

เส้าหยวนหยวนรู้สึกปวดหัวจนหัวแทบจะระเบิดอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าแส้กำลังจะฟาดลงมา แววตาของนางก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที

นางคว้าแส้เอาไว้ แล้วก็ดึงอย่างแรงด้วยความฉลาดเฉลียว ทำให้อีกฝ่ายถูกนางดึงจนล้มลงมากับพื้น

“โอ๊ย!”

ผู้หญิงชุดสีชมพูคนนั้นล้มลงมากับพื้นพลางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

เส้าหยวนหยวนหัวเราะเยาะเย้ยออกมา จากนั้นก็พลิกข้อมือดึงแส้มาไว้ในมือของตัวเองแทน

สีหน้าของนางดูอาฆาตแค้นอย่างมาก นางตะโกนออกมาด้วยความโมโหว่า “นังสารเลว! เจ้ากล้าทำร้ายข้ารึ——โอ๊ย!”

เส้าหยวนหยวนไม่พูดพร่ำทำเพลง ทำการฟาดแส้ลงไปโดยมิได้มีความลังเลใด ๆ ซึ่งตีไปโดนปากของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำมาก

“ถ้าแม่ของเจ้าไม่เคยสอนให้เจ้าพูดจาดี ๆ งั้นวันนี้ข้าก็จะสอนเจ้าเอง!”

“เพี๊ยะ ๆ ๆ!”

นางทำการฟาดแส้ลงไปอีกหลายครั้ง ฟาดจนผิวหนังของอีกฝ่ายฉีดขาดเลยทีเดียว

ผู้หญิงคนนั้นเจ็บจนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นไม่หยุด ภายในเวลาเพียงชั่วครู่หนึ่ง ใบหน้าและร่างกายของนางก็เต็มไปด้วยรอยแส้ที่ดูน่าตกใจ แต่เส้าหยวนหยวนกลับไม่ได้มีทีท่าที่จะหยุดแต่อย่างใด

ประการแรกเป็นเพราะต้องการจะระบายความโกรธแค้นในใจออกไป ประการที่สองเป็นเพราะต้องการจะระบายความโกรธให้กับเจ้าของร่างเดิม

เมื่อกี้นี้ นางได้รับความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมมาแล้ว ทำให้ตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าตัวเองข้ามภพมาเป็นบุตรีของฮูหยินเอกที่ไม่ได้รับความโปรดปรานในจวนรองเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการแห่งราชวงศ์หวู่

เนื่องจากแม่ผู้ให้กำเนิดของนางเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควร พ่อของนางก็เป็นคนไม่แยแสอะไร นางสนมของพ่อก็โหดเหี้ยมอำมหิต นางจึงต้องทนทุกข์ทรมานมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ใช้ชีวิตอยู่ในจวนแย่ยิ่งกว่าสุนัขตัวหนึ่งเสียอีก

หลังจากที่นางโตขึ้นมา พ่อของนางก็ให้นางไปแต่งงานกับนายพลผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่จะตายมิตายแหล่อยู่แล้ว โดยหวังว่างานมงคลนี้จะขจัดเสนียดจัญไรได้

ด้วยความที่เจ้าของร่างเดิมเกิดความสิ้นหวังกับเรื่องนี้ จนไปหลงเชื่อคำโกหกของผู้ไม่หวังดีเข้า นางจึงหนีไปกับผู้ชายคนนั้น แต่กลับถูกจับไปขายให้ซ่องแทน

จากนั้นก็เพิ่งจะมารู้ในตอนท้ายว่า ทั้งหมดนี้เป็นกับดักที่เส้าเจียอี๋ที่เป็นน้องสาวต่างแม่ของนางกับผู้ชายคนนั้นสมรู้ร่วมคิดกันแล้วสร้างขึ้นมาเอง

นอกจากจะเอานางไปขายที่ซ่องยังไม่พอ ยังจะทำให้นางรู้สึกอัปยศอดสูและข่มเหงนางอีกด้วย

อารมณ์สิ้นหวังของคนที่หมดหนทางสู้ของเจ้าของร่างเดิมก่อนที่จะเสียชีวิต ทำให้นางรู้สึกหนักใจและเป็นทุกข์ใจตามไปด้วย

“ใครก็ได้! มานี่ที!”

“จับผู้หญิงสารเลวคนนี้มัดเอาไว้ซะ ข้าจะสับมันให้เป็นท่อน ๆ ไปเลย!”

เส้าเจียอี๋ที่กำลังนอนอยู่บนพื้นกรีดร้องอย่างน่าอนาถ นางตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกตกใจ

ในที่สุดองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ข้างนอกก็ได้ยินเสียงดังกล่าว จึงรีบบุกเข้ามาทันที

แววตาของเส้าหยวนหยวนดูเคร่งขรึม นางโยนแส้ทิ้งและกระชากผมของเส้าเจียอี๋ไป จากนั้นก็ลากไปที่หน้าต่าง

“อร๊าย! เจ้าจะทำอะไรข้า! ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้นะ!” เส้าเจียอี๋ดิ้นรนด้วยความตื่นตระหนกหวาดผวา

เส้าหยวนหยวนทำการผลักหน้าต่างให้เปิดออก ฉากหลังเป็นทะเลสาบสีเขียวมรกต ทันใดนั้นนางก็หัวเราะเยาะเย้ยออกมาก่อนจะพูดว่า “ทำอะไรน่ะหรือ? ก็ทำการเรียกสติเจ้ายังไงล่ะ!”

ไม่ทันได้รอให้เส้าเจียอี๋โต้ตอบ นางก็จับตัวเส้าเจียอี๋โยนออกไปนอกหน้าต่างทันที

“อร๊าย! ช่วยด้วย!”

“ตู้ม——”

องครักษ์ที่แต่เดิมกำลังวิ่งปรี่เข้ามาถึงกับตื่นตระหนกกันขึ้นมาทันที “รีบไปช่วยเร็วเข้า!”

เส้าหยวนหยวนจึงใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายนี้หลบหนีออกไป โดยด้านหลังของนางมีเสียงกรีดร้องเหมือนหมูโดนฆ่าของเส้าเจียอี๋ดังขึ้นมา “นังสารเลว! ไปจับมันมาให้ข้าให้ได้ ข้าจะหั่นมันให้เป็นชิ้น ๆ ซะ!”

ก่อนที่เส้าหยวนหยวนจะออกจากเรือนอี๋หงไปได้ นางก็ถูกคนเข้ามาดักทางออกเอาไว้เสียก่อน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Rabbit

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณแสนร้าย (ซีรีส์หลงเมีย)

คุณแสนร้าย (ซีรีส์หลงเมีย)

Xmaniac
5.0

เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

ซีไซต์
5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
นางคือสตรีแกร่ง
1

บทที่ 1 ขายให้ซ่องโสเภณี

25/07/2024

2

บทที่ 2 วิ่งหนีไปแต่ถูกขัดขวาง

25/07/2024

3

บทที่ 3 ชายตัวประหลาด

25/07/2024

4

บทที่ 4 หาคนร่วมมือด้วย

25/07/2024

5

บทที่ 5 อย่าโกรธไปเลย

25/07/2024

6

บทที่ 6 สอนบทเรียนให้กับน้องสาวต่างแม่

25/07/2024

7

บทที่ 7 เจ้านี่เอง

25/07/2024

8

บทที่ 8 ขอหนังสือหย่าแบบตรงไปตรงมา

25/07/2024

9

บทที่ 9 นอนกอดเขา

25/07/2024

10

บทที่ 10 เอาใจแม่สามี

25/07/2024

11

บทที่ 11 สงสัย

25/07/2024

12

บทที่ 12 เผชิญหน้า

25/07/2024

13

บทที่ 13 เจ้ารู้จักข้าด้วยรึ

25/07/2024

14

บทที่ 14 ถวายน้ำชาให้กับผู้อาวุโส

25/07/2024

15

บทที่ 15 เกลี้ยกล่อมให้วางอำนาจ

25/07/2024

16

บทที่ 16 ถือโอกาสหาเรื่อง

26/07/2024

17

บทที่ 17 มาหาถึงที่

26/07/2024

18

บทที่ 18 ส่งตัวลูกสะใภ้ออกมา

27/07/2024

19

บทที่ 19 ถือโอกาสจัดแจงคน

27/07/2024

20

บทที่ 20 นายหญิงสองคนในหนึ่งจวน

28/07/2024

21

บทที่ 21 ขโมยกุญแจไป

28/07/2024

22

บทที่ 22 ที่นี่คือบ้านของข้า จะเรียกว่าขโมยได้อย่างไร

29/07/2024

23

บทที่ 23 ข้าทำเพื่อท่าน

29/07/2024

24

บทที่ 24 ข้าอยากได้ของล้ำค่าในจวนของท่าน

29/07/2024

25

บทที่ 25 ฝีมืออันน่าทึ่ง

29/07/2024

26

บทที่ 26 เจอกับนายท่านหลิ่ว

29/07/2024

27

บทที่ 27 เจตนาร้าย

29/07/2024

28

บทที่ 28 ท่านกำลังทำร้ายผู้อื่น!

29/07/2024

29

บทที่ 29 ข้าขอเดิมพันกับเจ้า

29/07/2024

30

บทที่ 30 ผู้ช่วยชีวิต

29/07/2024

31

บทที่ 31 ถูกจับได้

29/07/2024

32

บทที่ 32 ข้าเกรงว่านางจะกำลังมุ่งร้าย

29/07/2024

33

บทที่ 33 ตรวจสินสอด

29/07/2024

34

บทที่ 34 ริบสินสอด

29/07/2024

35

บทที่ 35 ภรรยาอีกคน

29/07/2024

36

บทที่ 36 ไล่ออกไปให้หมด

29/07/2024

37

บทที่ 37 กลยุทธ์การโจมตีจากหลากหลายทิศทาง

29/07/2024

38

บทที่ 38 ท่านแม่ทัพไม่อยู่ แต่ข้ายังอยู่

29/07/2024

39

บทที่ 39 ที่นี่ไม่ต้องการสตรีเพศ

29/07/2024

40

บทที่ 40 การปกป้องจากท่านอาเจ็ด

29/07/2024