Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว

ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

5.0
ความคิดเห็น
367
ชม
19
บท

ฟางหลิ่งหญิงสาววัยสิบเจ็ด ที่ปีหน้าต้องแต่งออกให้กับแม่ทัพผู้ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยม อำมหิต มีใบหน้าน่ากลัวจนต้องสวมใส่หน้ากากตลอดเวลา ข่าวลือดังมาจนทำให้สาวน้อยหวาดกลัว แผนหอบผ้าหนีวิวาห์จึงเกิดขึ้น แผนการของสาวน้อยร้อยเล่ห์จะหนีรอดหรือไม่โปรดติดตามในเรื่อง ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว “บังเอิญจังเจอพี่ชายรูปงามอีกแล้วเจ้าค่ะ” “หลิ่งเอ๋อร์?” “ชู่ว์~~~ เบาหน่อยเจ้าค่ะ เดี๋ยวคนอื่นมาได้ยินเข้า” ฟางหลิ่งรีบพุ่งเข้าไปใกล้พร้อมยกมือปิดปากพี่ชายสือโถวเอาไว้ ก่อนจะหันไปมองรอบกายอย่างหวาดระแวง แล้วลากพี่ชายสือโถวมาหลบบริเวณต้นไม้หนาตา ทว่าเมื่อเงยหน้าสบกับดวงตาคู่คมที่มองมา นางจึงรีบเอามือออกจากปากอีกคนอย่างเก้อเขิน “สองวันที่หายไปเจ้าอยู่ที่จวนตระกูลจาง?” ชุดซีรีส์คุณหนูหนีวิวาห์ ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว โดย พิมพ์สีทอง ท่านพ่อบุญธรรมข้าต้องดูตัวอีกแล้วเหรอ โดย ผิงอัง

บทที่ 0 บทนำ ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว

เทศกาลหยวนเซียวในปีนี้ ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และดูครึกครื้นกว่าทุกปี เนื่องจากองค์จักรพรรดิทรงจัดงานเลี้ยง ซึ่งอนุญาตให้ขุนนางน้อยใหญ่พาบุตรหลานมาเข้าร่วมงานด้วย ภายในเขตพระราชวังประดับด้วยโคมไฟสีแดงนับพันดวง สว่างไสวไปทั่วบริเวณสวนเหลียนฮวา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหยวนเซียวภายในวังหลวงในค่ำคืนนี้

อีกทั้งในงาน ต่างมีการแสดงความสามารถของบุตรหลานขุนนาง หากการแสดงของใครต้องตาต้องใจองค์จักรพรรดิหรือฮองเฮาก็จะได้รับรางวัลเป็นการตอบแทน ภายในงานนอกจากมีโคมไฟที่งดงามแล้ว ยังมีการจุดดอกไม้ไฟฉลอง และตบท้ายด้วยการปล่อยโคมลอยขึ้นฟ้า ซึ่งโคมลอยมีหลายหลากให้เลือกสรร

บ้างก็เป็นดอกไม้หรือไม่ก็สัตว์เล็ก ๆ น่ารักอย่างเช่นกระต่าย ซึ่งลูกหลานขุนนางจะนิยมปล่อยโคมลอยขึ้นฟ้า ส่วนนอกวังหลวงนั้นก็ครึกครื้นไม่ต่างกัน บ้านเรือนทุกหลังต่างประดับโคมไฟสีแดงยาวเป็นทิวแถว ร้านค้าต่างคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีผู้คนมาจับจ่ายมากกว่าทุกวัน

โดยเฉพาะของกินที่ขายดีเช่น น้ำตาลปั้นที่เด็กเล็กอยากกิน ซึ่งต่างก็เรียกร้องให้ปั้นเป็นสัตว์ที่ตัวเองต้องการ อย่างเช่น จิ้งจอกน้อย กิเลน เต่าและมังกร ซึ่งเป็นสัตว์เทพที่พวกเขาเชื่อถือว่าได้กินแล้วเทพเซียนจะอวยพรให้พวกเขาพบกับความสุข ขนมอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือขนมบัวลอย ซึ่งเป็นขนมมงคลซึ่งสื่อว่าเป็นการรักใคร่กลมเกลียวกันในครอบครัว

ปีนี้ไม่ใช่ปีแรกที่ ‘ฟางหลิ่ง’ เข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้ เพราะพี่สาวนางเป็นถึงกุ้ยเฟยขององค์จักรพรรดิ จึงทำให้นางคุ้นเคยกับวังหลวงเป็นอย่างยิ่ง และรู้ดีว่าการจัดงานในครั้งนี้ก็เพื่อให้คนหนุ่มสาวพบปะดูตัวกัน ภายในงานในค่ำคืนนี้มีแสงสีเสียงมากกว่าทุกงาน ทำให้นางตื่นตาตื่นใจไม่น้อย แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังต้องระวังกิริยา เพื่อไม่ให้ท่านพ่อต้องอับอาย

ดวงตาเรียวหงส์คู่สวยมองรอบงาน ซึ่งผู้คนต่างประชันความงามมาอย่างเต็มเปี่ยม อาภรณ์งดงามหลากสีสันจนทำให้นางรู้สึกตาลายไปบ้าง อีกทั้งพวกนางต่างก็ประเคนเครื่องประดับทองไปทั้งตัวจนนางรู้สึกหนักแทน แต่จะโทษพวกนางอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะนางเองก็ถูกท่านแม่จับแต่งกายประดับด้วยเครื่องทองจนหนักอึ้งไปทั้งตัวเช่นกัน

“หลิ่งเอ๋อร์” ฟางหลิ่งที่ถูกสะกิดเรียกหันกลับมามอง ดวงตาคู่หงส์เบิกกว้างขึ้นพร้อมรอยยิ้มสดใสเมื่อเห็นว่าใครที่เอ่ยทักทายนาง

“อ้าว เจ้าก็มาด้วยเหรอ?” ฟางหลิ่งเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น เพราะนางไม่เคยเห็นสหายรักออกงานเช่นนี้เลย

“ท่านพ่อบุญธรรมพาข้ามาน่ะ ข้านึกว่าจะไม่เจอคนรู้จักซะแล้ว ดีจริงที่พบเจ้า” ไฉ่หงบอกด้วยน้ำเสียงเริงร่า ซึ่งฟางหลิ่งก็ส่งยิ้มดีใจไปให้ นางเองก็ดีใจที่พบสหายในงานเช่นนี้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส

“งานเทศกาลหยวนเซียวปีนี้ พวกเราโชคดีมากที่ได้เข้าวัง ข้าชอบโคมไฟพวกนี้จัง”

“ข้าก็ชอบโคมไฟ เพียงแต่ข้าไม่ค่อยชอบงานเลี้ยงที่คนเยอะ ๆ มารวมกัน” ไฉ่หงเอ่ยตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก นั่นยิ่งทำให้นางสงสัย โดยปกติสตรีน้อยใหญ่พวกนั้นต่างก็ชอบที่จะออกงาน

“ทำไมล่ะ?” ฟางหลิ่งอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้

“เจ้าก็ดูสิ ขุนนางต่างพาลูกหลานมาในงาน นี่มันงานดูตัวชัด ๆ” ไฉ่หงเอามือป้องปากกระซิบพอได้ยินกันสองคน แต่คำพูดของนางก็ทำให้ฟางหลิ่งหัวเราะเบา ๆ ที่สหายพูดมาไม่ผิดนักหรอก นางเองก็เคยผ่านงานมาหลายครั้งแล้วจึงพอจะรับมือกับเรื่องพวกนี้ได้บ้าง

“ไม่ดีหรือไง พวกเราเองก็จะได้เปิดหูเปิดตา” ฟางหลิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงสดใส

“อาจจะดีสำหรับเจ้า แต่สำหรับข้าไม่ใช่เลย” เมื่อเห็นสีหน้าอึดอัดใจของสหายรักจึงเอ่ยถามอย่างฉงน

“ทำไมล่ะ?”

“ข้ายังไม่อยากออกเรือน” ไฉ่หงบอกสั้น ๆ ฟางหลิ่งพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะครั้งแรกนางเองก็รู้สึกอึดอัดมากเช่นกัน เพราะท่านพ่อต้องพานางไปแนะนำให้พวกขุนนางน้อยใหญ่ทั้งหลายได้รู้จัก ว่ายังมีบุตรสาวคนรองที่ยังไม่ยอมแต่งงานอยู่อีกหนึ่งคน

“เจ้ากับข้าก็เลยวัยปักปิ่นแล้ว นี่เป็นโอกาสดีได้พบปะผู้คน เจ้าก็น่าจะมองหาคนที่ถูกใจไว้บ้างนะ” เมื่อพิจารณาอายุสหายแล้ว จึงอดที่จะเอ่ยเตือนด้วยความหวังดีไม่ได้

“บอกแต่ข้า แล้วเจ้าล่ะเจอคนที่ถูกใจบ้างหรือยัง เอ... ข้าเพิ่งได้ข่าวแว่วมาว่าเจ้ากำลังหมั้นหมายกับแม่ทัพจางนี่นา” ไฉ่หงหรี่ตามองสหายรัก ก็เห็นอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาขึ้นมา

“ไม่ต้องล้อข้าเลย เลิกพูดเรื่องนี้แล้วเราไปปล่อยโคมลอยกันเถอะ” ฟางหลิ่งรีบตัดบท เมื่อนึกถึงงานหมั้นหมายที่จะมาถึงโดยที่นางไม่เต็มใจเลยแม้แต่น้อย ข่าวลือของแม่ทัพผู้นั้นดั่งกระฉ่อนว่าเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต และยังหน้าตาอัปลักษณ์จนไม่มีใครกล้ามองหน้าด้วยซ้ำไป

“เอาสิ” เมื่อไฉ่หงเห็นด้วย ทั้งคู่จึงเดินไปยังลานกว้าง ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับลอยโคมไฟโดยเฉพาะ

บริเวณนี้สว่างไสวเป็นพิเศษ อีกทั้งมีผู้คนมาปล่อยโคมเป็นจำนวนมาก หลิ่งฟางเลือกโคมจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่งก่อนจะเล่นเกมไขปริศนาที่ห้อยไว้กับโคม จากนั้นนางก็อธิษฐานก่อนจะปล่อยโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ดวงตาคู่หงส์มองตามโคมลอยขึ้นฟ้าด้วยความหวัง...

หวังว่าพรที่นางขอจะทำให้นางสมปรารถนา...

“เจ้าขอพรเรื่องอะไรเหรอหงเอ๋อร์” ฟางหลิ่งที่ปล่อยโคมขึ้นฟ้าเรียบร้อยแล้ว จึงหันมาถามสหายรักด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม

“เรื่องเช่นนี้ใครเขาบอกกันเล่า เอาเป็นว่าเรื่องที่ข้าขอเป็นความจริงขึ้นมาเมื่อไหร่ ข้าจะมาบอกเจ้าก็แล้วกัน”

ไฉ่หงขยิบตาให้นางอย่างมีลับลมคมใน ทำให้ฟางหลิ่งหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพากันเดินดูโคมไฟและไปจุดดอกไม้ไฟ แม้ค่ำคืนนี้พวกนางจะไม่ได้พบปะกับบุรุษเหมือนสตรีบ้านอื่น แต่ก็มีหลายคนที่สนใจพวกนาง ทว่าทั้งคู่กลับไม่ได้สนใจใครเลย เพียงแค่หยอกล้อกัน จนกระทั่งงานเลี้ยงเลิกราและแยกย้ายกลับจวน...

โดยที่ฟางหลิ่งไม่รู้เลยว่า ตนเองตกอยู่ในสายตาของบุรุษที่สวมใส่หน้ากากพยัคฆ์สีดำตลอดเวลา ดวงตาคู่คมมองร่างอรชรด้วยสายตาล้ำลึก ซึ่งบุรุษผู้นี้หาใช่ใครอื่นแต่เป็น ‘แม่ทัพจางเหว่ย’ ว่าที่คู่หมั้นของนางนั่นเอง...

------

เวลาที่ใช้ในเรื่อง เมื่อเทียบกับเวลาสากลแล้ว หนึ่งยาม เท่ากับ สองชั่วโมง และในหนึ่งวันมีสิบสองยาม ดังนี้

ยาม จื่อ เท่ากับเวลา 23.00 น. จนถึง 24.59 น.

ยาม โฉ่ว เท่ากับเวลา 01.00 น. จนถึง 02.59 น.

ยาม อิ๋น เท่ากับเวลา 03.00 น. จนถึง 04.59 น.

ยาม เหม่า เท่ากับเวลา 05.00 น. จนถึง 06.59 น.

ยาม เฉิน เท่ากับเวลา 07.00 น. จนถึง 08.59 น.

ยาม ซื่อ เท่ากับเวลา 09.00 น. จนถึง 10.59 น.

ยาม อู่ เท่ากับเวลา 11.00 น. จนถึง 12.59 น.

ยาม อุ้ย(เว่ย) เท่ากับเวลา 13.00 น. จนถึง 14.59 น.

ยาม เซิน เท่ากับเวลา 15.00 น. จนถึง 16.59 น.

ยาม อิ่ว เท่ากับเวลา 17.00 น. จนถึง 18.59 น.

ยาม ซวี เท่ากับเวลา 19.00 น. จนถึง 20.59 น.

ยาม ไฮ่ เท่ากับเวลา 21.00 น. จนถึง 22.59 น.

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
ข้ามภพมามีสามีพิการ

ข้ามภพมามีสามีพิการ

โรแมนติก

5.0

จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก

หวนคืนอดีตเปลี่ยนชะตาร้ายให้เป็นลิขิตรัก

หวนคืนอดีตเปลี่ยนชะตาร้ายให้เป็นลิขิตรัก

โรแมนติก

5.0

รักคือทุกข์...ทุกข์ที่จะทำสตรีนางหนึ่งถูกจองจำไปตลอดกาลเพราะความโง่เขลา ชาติก่อนหมิงหลิ่งฟางตกตายเพราะเลือกเดินทางผิด ส่งผลให้ชะตากรรมของครอบครัวเข้าขั้นเลวร้ายถูกความอัปยศครอบงำตระกูล แต่แล้วสวรรค์กลับยินยอมให้นางได้คืนความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัว ด้วยการนำดวงจิตจากยุคปัจจุบันของนางมาเปลี่ยนแปลงเรื่องราว ชาตินี้หมิงหลิ่งฟางไม่ขอเป็นคนโง่เขลา เพราะนางจะเป็นคนใหม่ที่ไม่ยอมหลงเดินทางผิด เอาแต่บูชาความรักจนครอบครัวถึงจุดยากลำบาก และแม้ว่านางจะไม่ได้รักใคร่ หยางจวินเฟย แต่นางก็ฉลาดพอที่จะเลือกฝั่งผู้ชนะ นางจะต้องทำทุกทางเพื่อผูกมิตรกับเขา เพื่อให้บุรุษผู้นี้กลายเป็นแผ่นฟ้าที่คอยคุ้มครองนางกับครอบครัวให้จงได้ หมดเวลาของนี้หมิงหลิ่งฟางผู้อ่อนแอและเจ้าน้ำตาแล้ว จากนี้นางจะทำทุกทางเพื่อให้ตระกูลหมิงรอดพ้นเภทภัย

สะใภ้ใบ้

สะใภ้ใบ้

โรแมนติก

5.0

เพราะความผิดพลาดของเหล่าเทพเซียน ไป๋ซือเหยาจึงตายก่อนกำหนด เธอได้มาเกิดใหม่ในร่างของสตรีที่งดงามปานล่มบ้านล่มเมือง ได้ของวิเศษติดกายแทนคำขอโทษ แต่ไฉนไยไม่บอกเธอก่อนว่า ร่างนี้เป็นใบ้และยังมีสามีแล้ว! ชีวิตใหม่ที่ไม่ธรรมดาจึงเริ่มขึ้น แต่ใครก็ได้ช่วยบอกเธอทีว่าไอ้ที่ลอยไปมา นั่นคือผี? ใช่หรือไม่! แล้วที่เธอมองเห็น ชายหนุ่มคนหนึ่งเลือดอาบมา นั่นคือภาพลวงตาใช่หรือไม่ ทว่าวันต่อมาถึงได้รู้ว่า เธอกลายเป็นเทพพยากรณ์ไปเสียแล้ว ไหนหลิวโม่เหยียนสามีของร่างนี้ ที่มีสติปัญญาเท่ากับเด็กสิบขวบ ชีวิตใหม่ของเธอช่างมีสีสันจริงๆ พบกันในเรื่องสะใภ้ใบ้ได้เลยค่ะ ------ เวลาที่ใช้ในเรื่อง เมื่อเทียบกับเวลาสากลแล้ว หนึ่งยาม เท่ากับ สองชั่วโมง และในหนึ่งวันมีสิบสองยาม ดังนี้ ยาม จื่อ เท่ากับเวลา 23.00 น. จนถึง 24.59 น. ยาม โฉ่ว เท่ากับเวลา 01.00 น. จนถึง 02.59 น. ยาม อิ๋น เท่ากับเวลา 03.00 น. จนถึง 04.59 น. ยาม เหม่า เท่ากับเวลา 05.00 น. จนถึง 06.59 น. ยาม เฉิน เท่ากับเวลา 07.00 น. จนถึง 08.59 น. ยาม ซื่อ เท่ากับเวลา 09.00 น. จนถึง 10.59 น. ยาม อู่ เท่ากับเวลา 11.00 น. จนถึง 12.59 น. ยาม อุ้ย(เว่ย) เท่ากับเวลา 13.00 น. จนถึง 14.59 น. ยาม เซิน เท่ากับเวลา 15.00 น. จนถึง 16.59 น. ยาม อิ่ว เท่ากับเวลา 17.00 น. จนถึง 18.59 น. ยาม ซวี เท่ากับเวลา 19.00 น. จนถึง 20.59 น. ยาม ไฮ่ เท่ากับเวลา 21.00 น. จนถึง 22.59 น. มาตราการวัดระยะทาง ชุ่น หรือ นิ้ว : 1 ชุ่น = 2.27 – 2.31 เซนติเมตร ฉื่อ หรือ เชี๊ยะ : 1 ฉื่อ = 10 ชุ่น = 22.7 – 23.1 เซนติเมตร จ้าง : 1 จ้าง = 10 ฉื่อ ประมาณ 2.27 – 2.31 เมตร ลี้ 1 ลี้ = 500 เมตร และ 1 ลี้ = 150 จ้าง ควรอยู่ในราว 345 เมตรการวัดพื้นที่ 1 ไร่เทียบเท่ากับ 2.4 หมู่ (亩) เพราะ1ไร่มี 1,600 ตารางเมตร ส่วน1หมู่ 亩 มีเพียง 666.66 ตารางเมตร หน่วยเงินที่ใช้ในเรื่องสะใภ้ใบ้ 1000 อีแปะ คือ 1 ตำลึงเงิน 10 ตำลึงเงิน เท่ากับ1 ตำลึงทอง มารตราการวัดชั่งตวงน้ำหนัก ผิง ping : ๑ ผิง = ๓.๓ เมตร เค่อ ke : 1 เค่อจะกินเวลาประมาณเกือบ 15 นาที จิน jin : ชั่ง : 1 ชั่ง = 500 กรัม ฉื่อ chi : 1 ฉื่อ = 10 นิ้ว = 22.7 - 23.1 เซนติเมตร ลี้ li : 1 ลี้ = 500 เมตร ชั่วยาม shichen : สือเชิน คือหน่วยเรียกเวลา 1 ชั่วยาม = 2 ชั่วโมง

หมอปีศาจพันหน้า

หมอปีศาจพันหน้า

โรแมนติก

5.0

หมอปีศาจพันหน้าไม่มีใครรู้ว่าเป็นบุรุษหรือสตรี ทุกย่างก้าวที่หมอปีศาจเดินผ่าน หากไม่มีคนตายก็จะพบความอัศจรรย์คนที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพอีกครั้ง! ชื่อเสียงดังก้องทั่วยุทธภพแต่ไม่มีใครรู้เลยว่าหมอปีศาจพันหน้าเป็นเพียงแม่นางน้อยคนหนึ่งเท่านั้น! และแม่นางน้อยอย่างหลินจื่อเยว่ที่ข้ามภพมาเป็นลูกศิษย์คนที่สิบของหมอเทวดาแห่งหุบเขาเทวะ และไม่รู้ว่าร่างนี้ไม่สามารถดื่มสุราได้ ทำให้นางไปคว้าบุรุษรูปงามมาเป็นพ่อของลูกเพราะฤทธิ์น้ำเมา จึงเกิดผลผลิตน้อยๆ ออกมาอย่างไม่ตั้งใจ แม้จะไม่รู้ว่าบุรุษรูปงามนั้นเป็นใครมาจากไหน แต่นางจะต้องเลี้ยงดูก้อนแป้งที่น่ารักเป็นอย่างดี!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

จิรัฐติกาล
3.5

จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

Frannie Bettuzzi
5.0

คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว
1

บทที่ 0 บทนำ ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว

05/03/2025

2

บทที่ 1 วางแผนหนีวิวาห์

05/03/2025

3

บทที่ 2 ถูกจับได้

05/03/2025

4

บทที่ 3 พี่ชายไม่เข้าใจน้อง

05/03/2025

5

บทที่ 4 หาหนทางหนีวิวาห์อีกครั้ง

05/03/2025

6

บทที่ 5 พี่ชายผู้สง่างาม ช่วยข้าหนีว่าที่สามีที

05/03/2025

7

บทที่ 6 หนีไม่พ้นอีกแล้ว

05/03/2025

8

บทที่ 7 วางแผนใหม่ ไม่ยอมแพ้หรอก

05/03/2025

9

บทที่ 8 ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว!

05/03/2025

10

บทที่ 9 บังเอิญจังเจอพี่ชายรูปงามอีกแล้ว

05/03/2025

11

บทที่ 10 ข้าเป็นสาวใช้ในจวนแม่ทัพ

05/03/2025

12

บทที่ 11 เลื่อนขั้นมาเป็นสาวใช้พี่ชายผู้สง่างาม

05/03/2025

13

บทที่ 12 ทำไมหัวใจนางเต้นเร็วจัง...

05/03/2025

14

บทที่ 13 อยู่มาตั้งนานยังไม่เจอว่าที่คู่หมั้นคนนั้น

05/03/2025

15

บทที่ 14 นางจะถอนหมั้นกับแม่ทัพผู้นั้น

05/03/2025

16

บทที่ 15 ความจริงเปิดเผยพี่ชายสือโถวคนนั้นคือ...

05/03/2025

17

บทที่ 16 ไม่หนีวิวาห์อีกแล้ว

05/03/2025

18

บทที่ 17 บทส่งท้าย ภรรยาของท่านแม่ทัพคือข้าเอง

05/03/2025

19

บทที่ 18 ตอนพิเศษ พยานรักของแม่ทัพจางเหว่ยกับฮูหยินน้อย

05/03/2025