Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว

ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

5.0
ความคิดเห็น
369
ชม
19
บท

ฟางหลิ่งหญิงสาววัยสิบเจ็ด ที่ปีหน้าต้องแต่งออกให้กับแม่ทัพผู้ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยม อำมหิต มีใบหน้าน่ากลัวจนต้องสวมใส่หน้ากากตลอดเวลา ข่าวลือดังมาจนทำให้สาวน้อยหวาดกลัว แผนหอบผ้าหนีวิวาห์จึงเกิดขึ้น แผนการของสาวน้อยร้อยเล่ห์จะหนีรอดหรือไม่โปรดติดตามในเรื่อง ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว “บังเอิญจังเจอพี่ชายรูปงามอีกแล้วเจ้าค่ะ” “หลิ่งเอ๋อร์?” “ชู่ว์~~~ เบาหน่อยเจ้าค่ะ เดี๋ยวคนอื่นมาได้ยินเข้า” ฟางหลิ่งรีบพุ่งเข้าไปใกล้พร้อมยกมือปิดปากพี่ชายสือโถวเอาไว้ ก่อนจะหันไปมองรอบกายอย่างหวาดระแวง แล้วลากพี่ชายสือโถวมาหลบบริเวณต้นไม้หนาตา ทว่าเมื่อเงยหน้าสบกับดวงตาคู่คมที่มองมา นางจึงรีบเอามือออกจากปากอีกคนอย่างเก้อเขิน “สองวันที่หายไปเจ้าอยู่ที่จวนตระกูลจาง?” ชุดซีรีส์คุณหนูหนีวิวาห์ ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว โดย พิมพ์สีทอง ท่านพ่อบุญธรรมข้าต้องดูตัวอีกแล้วเหรอ โดย ผิงอัง

บทที่ 0 บทนำ ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว

เทศกาลหยวนเซียวในปีนี้ ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และดูครึกครื้นกว่าทุกปี เนื่องจากองค์จักรพรรดิทรงจัดงานเลี้ยง ซึ่งอนุญาตให้ขุนนางน้อยใหญ่พาบุตรหลานมาเข้าร่วมงานด้วย ภายในเขตพระราชวังประดับด้วยโคมไฟสีแดงนับพันดวง สว่างไสวไปทั่วบริเวณสวนเหลียนฮวา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหยวนเซียวภายในวังหลวงในค่ำคืนนี้

อีกทั้งในงาน ต่างมีการแสดงความสามารถของบุตรหลานขุนนาง หากการแสดงของใครต้องตาต้องใจองค์จักรพรรดิหรือฮองเฮาก็จะได้รับรางวัลเป็นการตอบแทน ภายในงานนอกจากมีโคมไฟที่งดงามแล้ว ยังมีการจุดดอกไม้ไฟฉลอง และตบท้ายด้วยการปล่อยโคมลอยขึ้นฟ้า ซึ่งโคมลอยมีหลายหลากให้เลือกสรร

บ้างก็เป็นดอกไม้หรือไม่ก็สัตว์เล็ก ๆ น่ารักอย่างเช่นกระต่าย ซึ่งลูกหลานขุนนางจะนิยมปล่อยโคมลอยขึ้นฟ้า ส่วนนอกวังหลวงนั้นก็ครึกครื้นไม่ต่างกัน บ้านเรือนทุกหลังต่างประดับโคมไฟสีแดงยาวเป็นทิวแถว ร้านค้าต่างคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีผู้คนมาจับจ่ายมากกว่าทุกวัน

โดยเฉพาะของกินที่ขายดีเช่น น้ำตาลปั้นที่เด็กเล็กอยากกิน ซึ่งต่างก็เรียกร้องให้ปั้นเป็นสัตว์ที่ตัวเองต้องการ อย่างเช่น จิ้งจอกน้อย กิเลน เต่าและมังกร ซึ่งเป็นสัตว์เทพที่พวกเขาเชื่อถือว่าได้กินแล้วเทพเซียนจะอวยพรให้พวกเขาพบกับความสุข ขนมอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือขนมบัวลอย ซึ่งเป็นขนมมงคลซึ่งสื่อว่าเป็นการรักใคร่กลมเกลียวกันในครอบครัว

ปีนี้ไม่ใช่ปีแรกที่ ‘ฟางหลิ่ง’ เข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้ เพราะพี่สาวนางเป็นถึงกุ้ยเฟยขององค์จักรพรรดิ จึงทำให้นางคุ้นเคยกับวังหลวงเป็นอย่างยิ่ง และรู้ดีว่าการจัดงานในครั้งนี้ก็เพื่อให้คนหนุ่มสาวพบปะดูตัวกัน ภายในงานในค่ำคืนนี้มีแสงสีเสียงมากกว่าทุกงาน ทำให้นางตื่นตาตื่นใจไม่น้อย แต่ถึงกระนั้นนางก็ยังต้องระวังกิริยา เพื่อไม่ให้ท่านพ่อต้องอับอาย

ดวงตาเรียวหงส์คู่สวยมองรอบงาน ซึ่งผู้คนต่างประชันความงามมาอย่างเต็มเปี่ยม อาภรณ์งดงามหลากสีสันจนทำให้นางรู้สึกตาลายไปบ้าง อีกทั้งพวกนางต่างก็ประเคนเครื่องประดับทองไปทั้งตัวจนนางรู้สึกหนักแทน แต่จะโทษพวกนางอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะนางเองก็ถูกท่านแม่จับแต่งกายประดับด้วยเครื่องทองจนหนักอึ้งไปทั้งตัวเช่นกัน

“หลิ่งเอ๋อร์” ฟางหลิ่งที่ถูกสะกิดเรียกหันกลับมามอง ดวงตาคู่หงส์เบิกกว้างขึ้นพร้อมรอยยิ้มสดใสเมื่อเห็นว่าใครที่เอ่ยทักทายนาง

“อ้าว เจ้าก็มาด้วยเหรอ?” ฟางหลิ่งเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น เพราะนางไม่เคยเห็นสหายรักออกงานเช่นนี้เลย

“ท่านพ่อบุญธรรมพาข้ามาน่ะ ข้านึกว่าจะไม่เจอคนรู้จักซะแล้ว ดีจริงที่พบเจ้า” ไฉ่หงบอกด้วยน้ำเสียงเริงร่า ซึ่งฟางหลิ่งก็ส่งยิ้มดีใจไปให้ นางเองก็ดีใจที่พบสหายในงานเช่นนี้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส

“งานเทศกาลหยวนเซียวปีนี้ พวกเราโชคดีมากที่ได้เข้าวัง ข้าชอบโคมไฟพวกนี้จัง”

“ข้าก็ชอบโคมไฟ เพียงแต่ข้าไม่ค่อยชอบงานเลี้ยงที่คนเยอะ ๆ มารวมกัน” ไฉ่หงเอ่ยตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก นั่นยิ่งทำให้นางสงสัย โดยปกติสตรีน้อยใหญ่พวกนั้นต่างก็ชอบที่จะออกงาน

“ทำไมล่ะ?” ฟางหลิ่งอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้

“เจ้าก็ดูสิ ขุนนางต่างพาลูกหลานมาในงาน นี่มันงานดูตัวชัด ๆ” ไฉ่หงเอามือป้องปากกระซิบพอได้ยินกันสองคน แต่คำพูดของนางก็ทำให้ฟางหลิ่งหัวเราะเบา ๆ ที่สหายพูดมาไม่ผิดนักหรอก นางเองก็เคยผ่านงานมาหลายครั้งแล้วจึงพอจะรับมือกับเรื่องพวกนี้ได้บ้าง

“ไม่ดีหรือไง พวกเราเองก็จะได้เปิดหูเปิดตา” ฟางหลิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงสดใส

“อาจจะดีสำหรับเจ้า แต่สำหรับข้าไม่ใช่เลย” เมื่อเห็นสีหน้าอึดอัดใจของสหายรักจึงเอ่ยถามอย่างฉงน

“ทำไมล่ะ?”

“ข้ายังไม่อยากออกเรือน” ไฉ่หงบอกสั้น ๆ ฟางหลิ่งพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะครั้งแรกนางเองก็รู้สึกอึดอัดมากเช่นกัน เพราะท่านพ่อต้องพานางไปแนะนำให้พวกขุนนางน้อยใหญ่ทั้งหลายได้รู้จัก ว่ายังมีบุตรสาวคนรองที่ยังไม่ยอมแต่งงานอยู่อีกหนึ่งคน

“เจ้ากับข้าก็เลยวัยปักปิ่นแล้ว นี่เป็นโอกาสดีได้พบปะผู้คน เจ้าก็น่าจะมองหาคนที่ถูกใจไว้บ้างนะ” เมื่อพิจารณาอายุสหายแล้ว จึงอดที่จะเอ่ยเตือนด้วยความหวังดีไม่ได้

“บอกแต่ข้า แล้วเจ้าล่ะเจอคนที่ถูกใจบ้างหรือยัง เอ... ข้าเพิ่งได้ข่าวแว่วมาว่าเจ้ากำลังหมั้นหมายกับแม่ทัพจางนี่นา” ไฉ่หงหรี่ตามองสหายรัก ก็เห็นอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาขึ้นมา

“ไม่ต้องล้อข้าเลย เลิกพูดเรื่องนี้แล้วเราไปปล่อยโคมลอยกันเถอะ” ฟางหลิ่งรีบตัดบท เมื่อนึกถึงงานหมั้นหมายที่จะมาถึงโดยที่นางไม่เต็มใจเลยแม้แต่น้อย ข่าวลือของแม่ทัพผู้นั้นดั่งกระฉ่อนว่าเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต และยังหน้าตาอัปลักษณ์จนไม่มีใครกล้ามองหน้าด้วยซ้ำไป

“เอาสิ” เมื่อไฉ่หงเห็นด้วย ทั้งคู่จึงเดินไปยังลานกว้าง ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับลอยโคมไฟโดยเฉพาะ

บริเวณนี้สว่างไสวเป็นพิเศษ อีกทั้งมีผู้คนมาปล่อยโคมเป็นจำนวนมาก หลิ่งฟางเลือกโคมจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่งก่อนจะเล่นเกมไขปริศนาที่ห้อยไว้กับโคม จากนั้นนางก็อธิษฐานก่อนจะปล่อยโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ดวงตาคู่หงส์มองตามโคมลอยขึ้นฟ้าด้วยความหวัง...

หวังว่าพรที่นางขอจะทำให้นางสมปรารถนา...

“เจ้าขอพรเรื่องอะไรเหรอหงเอ๋อร์” ฟางหลิ่งที่ปล่อยโคมขึ้นฟ้าเรียบร้อยแล้ว จึงหันมาถามสหายรักด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม

“เรื่องเช่นนี้ใครเขาบอกกันเล่า เอาเป็นว่าเรื่องที่ข้าขอเป็นความจริงขึ้นมาเมื่อไหร่ ข้าจะมาบอกเจ้าก็แล้วกัน”

ไฉ่หงขยิบตาให้นางอย่างมีลับลมคมใน ทำให้ฟางหลิ่งหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพากันเดินดูโคมไฟและไปจุดดอกไม้ไฟ แม้ค่ำคืนนี้พวกนางจะไม่ได้พบปะกับบุรุษเหมือนสตรีบ้านอื่น แต่ก็มีหลายคนที่สนใจพวกนาง ทว่าทั้งคู่กลับไม่ได้สนใจใครเลย เพียงแค่หยอกล้อกัน จนกระทั่งงานเลี้ยงเลิกราและแยกย้ายกลับจวน...

โดยที่ฟางหลิ่งไม่รู้เลยว่า ตนเองตกอยู่ในสายตาของบุรุษที่สวมใส่หน้ากากพยัคฆ์สีดำตลอดเวลา ดวงตาคู่คมมองร่างอรชรด้วยสายตาล้ำลึก ซึ่งบุรุษผู้นี้หาใช่ใครอื่นแต่เป็น ‘แม่ทัพจางเหว่ย’ ว่าที่คู่หมั้นของนางนั่นเอง...

------

เวลาที่ใช้ในเรื่อง เมื่อเทียบกับเวลาสากลแล้ว หนึ่งยาม เท่ากับ สองชั่วโมง และในหนึ่งวันมีสิบสองยาม ดังนี้

ยาม จื่อ เท่ากับเวลา 23.00 น. จนถึง 24.59 น.

ยาม โฉ่ว เท่ากับเวลา 01.00 น. จนถึง 02.59 น.

ยาม อิ๋น เท่ากับเวลา 03.00 น. จนถึง 04.59 น.

ยาม เหม่า เท่ากับเวลา 05.00 น. จนถึง 06.59 น.

ยาม เฉิน เท่ากับเวลา 07.00 น. จนถึง 08.59 น.

ยาม ซื่อ เท่ากับเวลา 09.00 น. จนถึง 10.59 น.

ยาม อู่ เท่ากับเวลา 11.00 น. จนถึง 12.59 น.

ยาม อุ้ย(เว่ย) เท่ากับเวลา 13.00 น. จนถึง 14.59 น.

ยาม เซิน เท่ากับเวลา 15.00 น. จนถึง 16.59 น.

ยาม อิ่ว เท่ากับเวลา 17.00 น. จนถึง 18.59 น.

ยาม ซวี เท่ากับเวลา 19.00 น. จนถึง 20.59 น.

ยาม ไฮ่ เท่ากับเวลา 21.00 น. จนถึง 22.59 น.

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
ข้ามภพมามีสามีพิการ

ข้ามภพมามีสามีพิการ

โรแมนติก

5.0

จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก

หวนคืนอดีตเปลี่ยนชะตาร้ายให้เป็นลิขิตรัก

หวนคืนอดีตเปลี่ยนชะตาร้ายให้เป็นลิขิตรัก

โรแมนติก

5.0

รักคือทุกข์...ทุกข์ที่จะทำสตรีนางหนึ่งถูกจองจำไปตลอดกาลเพราะความโง่เขลา ชาติก่อนหมิงหลิ่งฟางตกตายเพราะเลือกเดินทางผิด ส่งผลให้ชะตากรรมของครอบครัวเข้าขั้นเลวร้ายถูกความอัปยศครอบงำตระกูล แต่แล้วสวรรค์กลับยินยอมให้นางได้คืนความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัว ด้วยการนำดวงจิตจากยุคปัจจุบันของนางมาเปลี่ยนแปลงเรื่องราว ชาตินี้หมิงหลิ่งฟางไม่ขอเป็นคนโง่เขลา เพราะนางจะเป็นคนใหม่ที่ไม่ยอมหลงเดินทางผิด เอาแต่บูชาความรักจนครอบครัวถึงจุดยากลำบาก และแม้ว่านางจะไม่ได้รักใคร่ หยางจวินเฟย แต่นางก็ฉลาดพอที่จะเลือกฝั่งผู้ชนะ นางจะต้องทำทุกทางเพื่อผูกมิตรกับเขา เพื่อให้บุรุษผู้นี้กลายเป็นแผ่นฟ้าที่คอยคุ้มครองนางกับครอบครัวให้จงได้ หมดเวลาของนี้หมิงหลิ่งฟางผู้อ่อนแอและเจ้าน้ำตาแล้ว จากนี้นางจะทำทุกทางเพื่อให้ตระกูลหมิงรอดพ้นเภทภัย

สะใภ้ใบ้

สะใภ้ใบ้

โรแมนติก

5.0

เพราะความผิดพลาดของเหล่าเทพเซียน ไป๋ซือเหยาจึงตายก่อนกำหนด เธอได้มาเกิดใหม่ในร่างของสตรีที่งดงามปานล่มบ้านล่มเมือง ได้ของวิเศษติดกายแทนคำขอโทษ แต่ไฉนไยไม่บอกเธอก่อนว่า ร่างนี้เป็นใบ้และยังมีสามีแล้ว! ชีวิตใหม่ที่ไม่ธรรมดาจึงเริ่มขึ้น แต่ใครก็ได้ช่วยบอกเธอทีว่าไอ้ที่ลอยไปมา นั่นคือผี? ใช่หรือไม่! แล้วที่เธอมองเห็น ชายหนุ่มคนหนึ่งเลือดอาบมา นั่นคือภาพลวงตาใช่หรือไม่ ทว่าวันต่อมาถึงได้รู้ว่า เธอกลายเป็นเทพพยากรณ์ไปเสียแล้ว ไหนหลิวโม่เหยียนสามีของร่างนี้ ที่มีสติปัญญาเท่ากับเด็กสิบขวบ ชีวิตใหม่ของเธอช่างมีสีสันจริงๆ พบกันในเรื่องสะใภ้ใบ้ได้เลยค่ะ ------ เวลาที่ใช้ในเรื่อง เมื่อเทียบกับเวลาสากลแล้ว หนึ่งยาม เท่ากับ สองชั่วโมง และในหนึ่งวันมีสิบสองยาม ดังนี้ ยาม จื่อ เท่ากับเวลา 23.00 น. จนถึง 24.59 น. ยาม โฉ่ว เท่ากับเวลา 01.00 น. จนถึง 02.59 น. ยาม อิ๋น เท่ากับเวลา 03.00 น. จนถึง 04.59 น. ยาม เหม่า เท่ากับเวลา 05.00 น. จนถึง 06.59 น. ยาม เฉิน เท่ากับเวลา 07.00 น. จนถึง 08.59 น. ยาม ซื่อ เท่ากับเวลา 09.00 น. จนถึง 10.59 น. ยาม อู่ เท่ากับเวลา 11.00 น. จนถึง 12.59 น. ยาม อุ้ย(เว่ย) เท่ากับเวลา 13.00 น. จนถึง 14.59 น. ยาม เซิน เท่ากับเวลา 15.00 น. จนถึง 16.59 น. ยาม อิ่ว เท่ากับเวลา 17.00 น. จนถึง 18.59 น. ยาม ซวี เท่ากับเวลา 19.00 น. จนถึง 20.59 น. ยาม ไฮ่ เท่ากับเวลา 21.00 น. จนถึง 22.59 น. มาตราการวัดระยะทาง ชุ่น หรือ นิ้ว : 1 ชุ่น = 2.27 – 2.31 เซนติเมตร ฉื่อ หรือ เชี๊ยะ : 1 ฉื่อ = 10 ชุ่น = 22.7 – 23.1 เซนติเมตร จ้าง : 1 จ้าง = 10 ฉื่อ ประมาณ 2.27 – 2.31 เมตร ลี้ 1 ลี้ = 500 เมตร และ 1 ลี้ = 150 จ้าง ควรอยู่ในราว 345 เมตรการวัดพื้นที่ 1 ไร่เทียบเท่ากับ 2.4 หมู่ (亩) เพราะ1ไร่มี 1,600 ตารางเมตร ส่วน1หมู่ 亩 มีเพียง 666.66 ตารางเมตร หน่วยเงินที่ใช้ในเรื่องสะใภ้ใบ้ 1000 อีแปะ คือ 1 ตำลึงเงิน 10 ตำลึงเงิน เท่ากับ1 ตำลึงทอง มารตราการวัดชั่งตวงน้ำหนัก ผิง ping : ๑ ผิง = ๓.๓ เมตร เค่อ ke : 1 เค่อจะกินเวลาประมาณเกือบ 15 นาที จิน jin : ชั่ง : 1 ชั่ง = 500 กรัม ฉื่อ chi : 1 ฉื่อ = 10 นิ้ว = 22.7 - 23.1 เซนติเมตร ลี้ li : 1 ลี้ = 500 เมตร ชั่วยาม shichen : สือเชิน คือหน่วยเรียกเวลา 1 ชั่วยาม = 2 ชั่วโมง

หมอปีศาจพันหน้า

หมอปีศาจพันหน้า

โรแมนติก

5.0

หมอปีศาจพันหน้าไม่มีใครรู้ว่าเป็นบุรุษหรือสตรี ทุกย่างก้าวที่หมอปีศาจเดินผ่าน หากไม่มีคนตายก็จะพบความอัศจรรย์คนที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพอีกครั้ง! ชื่อเสียงดังก้องทั่วยุทธภพแต่ไม่มีใครรู้เลยว่าหมอปีศาจพันหน้าเป็นเพียงแม่นางน้อยคนหนึ่งเท่านั้น! และแม่นางน้อยอย่างหลินจื่อเยว่ที่ข้ามภพมาเป็นลูกศิษย์คนที่สิบของหมอเทวดาแห่งหุบเขาเทวะ และไม่รู้ว่าร่างนี้ไม่สามารถดื่มสุราได้ ทำให้นางไปคว้าบุรุษรูปงามมาเป็นพ่อของลูกเพราะฤทธิ์น้ำเมา จึงเกิดผลผลิตน้อยๆ ออกมาอย่างไม่ตั้งใจ แม้จะไม่รู้ว่าบุรุษรูปงามนั้นเป็นใครมาจากไหน แต่นางจะต้องเลี้ยงดูก้อนแป้งที่น่ารักเป็นอย่างดี!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

ทัณฑ์แค้นบ่วงพิศวาส

ทัณฑ์แค้นบ่วงพิศวาส

aksaramanee
5.0

ทัณฑ์แค้นบ่วงพิศวาส ลมหายใจของเขาคือการแก้แค้น...และเธอต้องรับโทษทัณฑ์แทนพี่ชาย เฮเดน เจคอป หนุ่มนักธุรกิจเจ้าของกิจการด้านอากาศยานยักษ์ใหญ่ที่มีความหลังฝังใจเมื่อถูกเพื่อนรักหักหลัง เขาจับ มาร์ค เพชรสงคราม คนทรยศเข้าคุกแต่ยังมีอีกหนึ่งคนหนีไปได้ น้องสาวของเพื่อนตายที่ครั้งหนึ่งเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขา เฮเดนคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเก็บความเคียดแค้นไว้และการได้พบเธออีกครั้งมันคือการเอาคืนอย่างสาสม มนัสวี เพชรสงคราม เพราะพี่ชายสร้างปัญหาใหญ่หลวงไว้ให้เธอจึงต้องแบกรับมันไว้พร้อมกับต้องปกป้องหัวใจที่เธอหวงแหน หญิงสาวต้องเอาตัวเข้าแลกกับข้อเสนอจากผู้ชายที่เธอเคยรัก กลายเป็นเมียเก็บที่ถูกบีบคั้นบังคับด้วยพันธะสัญญาทั้งถูกทรมานให้เจ็บปวดทั้งกายใจ...ซึ่งเธอต้องเก็บงำความลับบางอย่างไว้ไม่ให้เขารู้ ไอสวรรค์ (หนูไอซ์) หัวใจดวงน้อย สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่สำหรับมนัสวี เธอไม่อาจบอกใครได้ว่าหัวใจดวงนี้คือจิตวิญญาณแห่งความรักที่เกิดจากการหลอมรวมระหว่าง เธอ และ เขา

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว
1

บทที่ 0 บทนำ ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว

05/03/2025

2

บทที่ 1 วางแผนหนีวิวาห์

05/03/2025

3

บทที่ 2 ถูกจับได้

05/03/2025

4

บทที่ 3 พี่ชายไม่เข้าใจน้อง

05/03/2025

5

บทที่ 4 หาหนทางหนีวิวาห์อีกครั้ง

05/03/2025

6

บทที่ 5 พี่ชายผู้สง่างาม ช่วยข้าหนีว่าที่สามีที

05/03/2025

7

บทที่ 6 หนีไม่พ้นอีกแล้ว

05/03/2025

8

บทที่ 7 วางแผนใหม่ ไม่ยอมแพ้หรอก

05/03/2025

9

บทที่ 8 ท่านแม่ทัพคู่หมั้นท่านหนีไปอีกแล้ว!

05/03/2025

10

บทที่ 9 บังเอิญจังเจอพี่ชายรูปงามอีกแล้ว

05/03/2025

11

บทที่ 10 ข้าเป็นสาวใช้ในจวนแม่ทัพ

05/03/2025

12

บทที่ 11 เลื่อนขั้นมาเป็นสาวใช้พี่ชายผู้สง่างาม

05/03/2025

13

บทที่ 12 ทำไมหัวใจนางเต้นเร็วจัง...

05/03/2025

14

บทที่ 13 อยู่มาตั้งนานยังไม่เจอว่าที่คู่หมั้นคนนั้น

05/03/2025

15

บทที่ 14 นางจะถอนหมั้นกับแม่ทัพผู้นั้น

05/03/2025

16

บทที่ 15 ความจริงเปิดเผยพี่ชายสือโถวคนนั้นคือ...

05/03/2025

17

บทที่ 16 ไม่หนีวิวาห์อีกแล้ว

05/03/2025

18

บทที่ 17 บทส่งท้าย ภรรยาของท่านแม่ทัพคือข้าเอง

05/03/2025

19

บทที่ 18 ตอนพิเศษ พยานรักของแม่ทัพจางเหว่ยกับฮูหยินน้อย

05/03/2025