Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ขย้ำรักเด็กเลี้ยง

ขย้ำรักเด็กเลี้ยง

จินต์พิชา

5.0
ความคิดเห็น
3.3K
ชม
35
บท

สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน

บทที่ 1 ทดแทนบุญคุณ

ควันสีดำลอยออกมาจากปล่องเล็กเหนือเมรุเผาศพ ทางด้านล่างมีเด็กสาวคนหนึ่งใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาเธอกำลังมองควันไฟที่ลอยออกไปและไม่นานมันก็สลายไปกับอากาศเหมือนกับความรู้สึกของตนเองตอนนี้ที่มันกำลังแหลกสลาย ยายพิกุลได้จากเธอไปแล้วมันเป็นการจากที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้

เด็กสาวอาศัยอยู่กับคุณยายมาตั้งแต่จำความได้ส่วนมารดาของเธอนั้นเสียชีวิตไปเมื่อห้าปีก่อนเธอมีความสุขดีกับคุณยายในบ้านหลังเล็กๆ ยายของเธอมีอาชีพทำขนมหวานขายที่ตลาดในตัวอำเภอส่วนเธอก็ตื่นแต่เช้าช่วยคุณยายทำขนมก่อนจะไปเรียนหนังสือ

ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาคุณยายของเธอมีอาการป่วยเมื่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ได้รับข่าวร้ายว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกและอาจจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ในตอนนั้นเธอแอบหวังว่าสิ่งที่คุณหมอบอกอาจจะเป็นแค่การพูดเพื่อให้เธอทำใจเพราะบางคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้หลายปีแต่มันก็เป็นจริงอย่างที่คุณหมอบอก คุณยายของเธอป่วยอยู่ไม่ถึงหกเดือนก็จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ ตอนนี้บัวบงกชหรือบัวเด็กสาววัย 16 ปีกำลังรู้สึกเคว้งคว้างเป็นอย่างมากเธอไม่รู้ว่าอนาคตจากนี้จะเป็นยังไงต่อในเมื่อไม่มียายแล้ว

งานศพของคุณยายจัดอย่างเรียบง่ายมีพิธีสวดแค่สองคืนจากนั้นก็มีพิธีเผาศพโดยผู้ใหญ่บ้านและคนในหมู่บ้านต่างช่วยกันจัดพิธีศพให้

หลังจากพิธีเผาศพเสร็จแล้วชาวบ้านก็เดินทางกลับตอนนี้ในศาลาวัดมีเธอผู้ใหญ่บ้านและคุณป้าข้างบ้านและอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอกำลังนั่งปรึกษากับเธียรธวัชและชุติมาเลขาของเขาซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพเพื่อจะมารับตัวบัวบงกชไปอยู่ด้วย

ตอนที่ป่วยยายของเธอได้โทรศัพท์ไปขอร้องชายหนุ่มว่าถ้าหากเธอเป็นอะไรไปก็อยากจะให้เธียรธวัชเข้ามาช่วยดูแลหลานสาวแต่ชายหนุ่มไม่คิดว่าเหตุการณ์ทุกอย่างมันจะเร็วขนาดนี้

ตอนที่ยายพิกุลโทรศัพท์ไปเขาตอบตกลงคุณยายอย่างไม่ลังเลเพราะแต่ก่อนนั้นยายพิกุลเคยทำงานที่บ้านของเขาและเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กเมื่อมีอะไรที่จะพอตอบแทนท่านได้ชายหนุ่มก็ยินดีจะตอบแทน

ระหว่างที่คุณยายป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลชายหนุ่มก็มีโอกาสได้มาเยี่ยมอยู่หนึ่งครั้งและก็เคยเจอกับบัวบงกชมาแล้ว

เมื่อวันที่คุณยายพิกุลเสียชีวิตผู้ใหญ่บ้านจึงเปิดจดหมายที่ยายฝากไว้ตั้งแต่รู้ตัวว่าป่วยเมื่ออ่านแล้วก็โทรศัพท์ไปบอกเธียรธวัชตามคำสั่งเสียของยายพิกุลที่เขียนไว้

“ผู้ใหญ่คิดว่ายังไงล่ะคะ” อาจารย์ที่ปรึกษาของบัวบงกชถามผู้ใหญ่บ้านที่รู้จักทั้งบัวบงกชและคุณยายพิกุลเป็นอย่างดี

“จากการที่อ่านจดหมายของคุณยายแล้วผมคิดว่ามันก็เป็นผลดีกับหนูบัวนะ เธอจะได้มีโอกาสร่ำเรียนเพราะถ้าหากอยู่ที่นี่ก็อยู่คนเดียว มันก็น่าเป็นห่วงอยู่มากบ้านของยายก็ไม่ได้แข็งแรงแน่นหนาอะไรอีกทั้งหนูบัวยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย”

“แต่บัวไม่อยากไปจากที่นี่นะคะผู้ใหญ่บัวขออยู่ที่นี่ได้ไหม”

“ถ้าหนูจะอยู่คนเดียวในบ้านหลังนั้นครูว่ามันค่อนข้างจะอันตรายนะ แถวนี้ก็ไม่มีหอพักให้นักเรียนอยู่ด้วยสิ” อาจารย์ที่ปรึกษาพูดด้วยความเป็นห่วงลูกศิษย์

“ผมถามคุณหน่อยนะครับคุณเธียรถ้าคุณพาหนูบัวไปอยู่ที่กรุงเทพคุณจะให้เธออยู่ที่ไหน อยู่บ้านหลังเดียวกับคุณหรือเปล่า ขอโทษนะครับที่ผมต้องถามเพราะหนูบัวเป็นผู้หญิงและคุณก็เป็นผู้ชายถ้าต้องไปอยู่บ้านหลังเดียวกันผมก็เกรงว่ามันจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่”

“บ้านของผมไม่ได้มีผมอยู่คนเดียวหรอกครับยังมีน้องสาวของผมอยู่อีกด้วย แต่ผมคิดว่าถ้าบัวยอมเข้าไปเรียนที่กรุงเทพจริงๆ ผมอยากให้เธอเรียนที่โรงเรียนประจำนะครับ เพราะบ้านของผมมันค่อนข้างไกลจากโรงเรียนอีกอย่างการอยู่โรงเรียนประจำก็เธอจะทำให้เธอมีเพื่อนด้วย”

“ครูเห็นด้วยกับคุณนะการที่ให้บัวไปอยู่โรงเรียนประจำบัวจะได้มีเพื่อนใหม่ๆ และจะได้ไม่ต้องเหงา”

“แล้วบัวต้องอยู่ตลอดเลยเหรอคะ”

“ไม่หรอก ช่วงปิดเทอมหรือวันหยุดก็กลับมาอยู่ที่บ้าน”

“ครูว่ามันก็ดีนะ วันธรรมดาหนูก็อยู่โรงเรียนกับเพื่อนๆ พอวันหยุดก็กลับมาใช้ชีวิตข้างนอกหวังว่าคุณเธียรคงมีเวลาไปรับเธอนะคะ”

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอกครับผมจะรับเธอกลับมาอยู่ที่บ้านตามที่โรงเรียนกำหนดครับ ตั้งแต่ที่คุณยายติดต่อไปผมก็ให้เลขาดูไว้หลายโรงเรียน แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้บัวเป็นคนตัดสินใจอีกทีว่าอยากจะเรียนที่โรงเรียนไหน”

“คุณเธียรคะบัวว่าโรงเรียนประจำค่าใช้จ่ายมันจะต้องแพงมากๆ แน่เลยบัวเรียนโรงเรียนวัดใกล้ๆ บ้านก็ได้นะคะ”

“ไม่ได้นะบัว คุณยายเธอสั่งเสียไว้ว่าอยากให้เธอได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดและฉันก็รับปากคุณยายเธอไว้แล้ว” เธียรธวัชไม่อยากเป็นคนผิดคำพูดที่ให้ไว้กับคุณยายพิกุลอีกอย่างเขาก็รู้สึกเอ็นดูบัวบงกชอยู่มาก

“ผมถามหน่อยนะครับคุณเธียรทำไมคุณถึงยอมจะรับบัวไปเป็นเด็กในปกครองครับทั้งๆ ที่คุณไม่ใช่ญาติของบัวเลย” ผู้ใหญ่บ้านถามเพราะเท่าที่รู้ยายพิกุลไม่เคยมีญาติที่ไหนญาติทางพ่อของบัวก็ไม่ได้ติดต่อกัน

“เพราะยายพิกุลเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กครับ พ่อกับแม่ผมทำงานยุ่งมากๆ ถ้าผมไม่มียายพิกุลช่วยเลี้ยงดูผมก็คงแย่เหมือนกัน พอตอนนี้ผมพอจะตอบแทนท่านได้ผมก็ยินดีจะทำครับ”

“แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายล่ะ ถ้าเรียนโรงเรียนเอกชนแบบนั้นค่าใช้จ่ายต้องแพงมากๆ เงินที่คุณยายได้จากกองทุนฌาปนกิจหมู่บ้านมันก็ไม่มากเท่าไหร่”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ผมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของบัว ส่วนเงินที่บัวได้จากคุณยายก็ให้บัวเก็บไว้ใช้เป็นการส่วนตัว”

“แต่บัวยังไปอยู่กับคุณตอนนี้ไม่ได้หรอกนะคะ มันยังไม่ปิดเทอมเลยนะคะ ถ้าบัวเข้าไปเรียนกลางเทอมแบบนี้คงเรียนไม่ทันเพื่อนค่ะ”

“ฉันจะให้เธอเรียนที่นี่จนจบเทอมจากนั้นเทอมสองก็ค่อยย้ายเข้าไปเรียนในกรุงเทพระหว่างนี้คงต้องฝากคุณครูกับผู้ใหญ่บ้านและคุณป้าช่วยดูแลบัวก่อนได้ไหมครับ”

“ได้ค่ะ ป้าจะคอยดูแลให้บ้านป้ากับบัวก็อยู่ติดๆ กัน” ป้าจวนที่เป็นเพื่อนบ้านของบัวบงกชรีบรับปาก

“แต่ถ้าบัวไม่อยากจะอยู่ที่บ้านหนูจะไปอยู่กับครูที่บ้านพักครูก็ได้นะ”

“ขอบคุณค่ะครูแต่บัวอยู่ได้ค่ะ”

“ถ้ามีอะไรหนูโทรหาครูได้ตลอดนะบัว”

“ขอบคุณค่ะครู”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จินต์พิชา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

Berne Beer
4.9

หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

คุณธิดา
5.0

นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ขย้ำรักเด็กเลี้ยง
1

บทที่ 1 ทดแทนบุญคุณ

03/04/2025

2

บทที่ 2 ต้องปรับตัว

03/04/2025

3

บทที่ 3 เพื่อนใหม่

03/04/2025

4

บทที่ 4 ผู้ปกครองใจดี

03/04/2025

5

บทที่ 5 จะมีแฟนตอนเรียนจบ

03/04/2025

6

บทที่ 6 เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่

03/04/2025

7

บทที่ 7 คำสัญญา

03/04/2025

8

บทที่ 8 รู้สึกเกร็ง

03/04/2025

9

บทที่ 9 ไม่เหมือนเดิม

03/04/2025

10

บทที่ 10 ไม่ผิดที่จะชอบใครสักคน

03/04/2025

11

บทที่ 11 ไม่ใช่เด็กแล้ว

03/04/2025

12

บทที่ 12 แค่ไม่ลืมก็ดีใจแล้ว

03/04/2025

13

บทที่ 13 อย่าคิดเกินเลย

03/04/2025

14

บทที่ 14 ยืนยันคำเดิม

03/04/2025

15

บทที่ 15 แค่นี้ก็ดีใจแล้ว

03/04/2025

16

บทที่ 16 จะไม่พูดเรื่องเงินอีก

03/04/2025

17

บทที่ 17 วันพิเศษ

03/04/2025

18

บทที่ 18 ใครอยู่ในใจเธอมาก่อน

03/04/2025

19

บทที่ 19 รู้สึกดีมาก

03/04/2025

20

บทที่ 20 เมาเหล้าหรือเมาสวาท nc

03/04/2025

21

บทที่ 21 เธอเป็นของฉันคนเดียว nc

03/04/2025

22

บทที่ 22 ไม่คิดจะรับผิดชอบใช่ไหม

03/04/2025

23

บทที่ 23 ไม่อยากพูดถึงมันอีก

03/04/2025

24

บทที่ 24 จะเอายังไงกันแน่

03/04/2025

25

บทที่ 25 จะเอายังไงกันแน่

03/04/2025

26

บทที่ 26 ฉันหมายถึงทั้งตัว nc

03/04/2025

27

บทที่ 27 เธอก็แค่นอนเฉยๆ nc

03/04/2025

28

บทที่ 28 แค่รักก็พอ

03/04/2025

29

บทที่ 29 เธอไม่อยากมีลูกกับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ

03/04/2025

30

บทที่ 30 เขาซ่อนใครไว้

03/04/2025

31

บทที่ 31 ไม่รู้จะตอบยังไง

03/04/2025

32

บทที่ 32 อึดอัด

03/04/2025

33

บทที่ 33 คิดถึงนะ nc

03/04/2025

34

บทที่ 34 เด็กเลี้ยงเร่าร้อน nc

03/04/2025

35

บทที่ 35 ตอนจบ

03/04/2025