Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สามีท่านหย่ากับข้าเถอะ

สามีท่านหย่ากับข้าเถอะ

กะปอมพ่นไฟ

5.0
ความคิดเห็น
1.4K
ชม
69
บท

หยางซูมี่บุตรีคนโตแห่งจวนเสนาบดี จำต้องแต่งเข้ามาเป็นพระชายาของอ๋องทมิฬตามบัญชาของฮ่องเต้แต่ในเมื่อนางแต่งเข้ามา สามีเฉยชา ไม่สนใจนาง ทั้งยังแต่งชายารองเข้ามา ทำไมนางต้องเอาชีวิตไปผูกกับเขาด้วย

บทที่ 1 กองทัพพยัคฆ์ทมิฬ

บทที่ 1

กองทัพพยัคฆ์ทมิฬ

“คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ แย่แล้วเจ้าค่ะ”

เสียงสาวใช้ประจำตัวของคุณหนูใหญ่แห่งจวนเสนาบดีกรมคลัง ตะโกนลั่นไปทั่วทั้งจวน นางนั้นหาได้สนใจธรรมเนียมปฏิบัติอันควรของสาวใช้ไม่ ด้วยความตกใจปนตื่นตระหนกเมื่อได้รับข่าวสารจากภายนอก

“มีอะไร ไยต้องตะโกนเสียงดังด้วยเจินเจิน” เสียงสตรีหวานละมุนที่นั่งอยู่บนตั่งภายในเรือนของตนดังขึ้นมาด้วยความสงสัย

“คุณหนูเจ้าคะบ่าวไปตลาดมาเจ้าค่ะ ได้ยินพวกชาวเมืองพูดกันไปทั่วว่าแคว้นเซี่ยของเรามีชัยชนะเหนือแคว้นศัตรูได้แล้วเจ้าค่ะ” เสียงกระหืดกระหอบเอ่ยตอบกลับออกมา

“นี่ช่างเป็นข่าวดียิ่งนัก แล้วเหตุใดไยเจ้าถึงทำตัวดั่งมีข่าวร้ายด้วยเล่า”

“นอกจากบ่าวจะได้ยินข่าวดีที่แคว้นเราได้รับชัยชนะกลับมา แต่บ่าวยังได้ยินชาวเมืองเขาลือกันให้ทั่วว่าเมื่อท่านอ๋องทรงเสด็จกลับมา ฮ่องเต้จะทรงพระราชทานรางวัลเป็นสมรสพระราชทานให้กับท่านอ๋องเจ้าค่ะ”

“เจ้าคงไม่ได้หมายความว่า...” คิ้วเรียวดั่งคันศรเริ่มขมวดกันเป็นปม เมื่อสังหรณ์ในใจของนางกำลังร้องเตือนขึ้นมา

“คุณหนูคิดไม่ผิดหรอกเจ้าค่ะ บุตรีที่สามารถจะแต่งเข้าจวนของท่านอ๋องได้ หากนับดูในเมืองหลวงแล้วเห็นจะมีเพียงสตรีแค่สามคนเท่านั้นเจ้าค่ะ คุณหนูหม่าลี่เหมยแห่งจวนเสนาบดี คุณหนูจ้าวเหมยอิงแห่งจวนแม่ทัพ และคุณหนูหยางมี่ของบ่าวอย่างไรเล่าเจ้าคะ”

เจินเจินอธิบายให้เจ้านายสาวฟัง พร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

หยางซูมี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับตาขวากระตุกถี่ยิบ สังหรณ์ในใจของนางไม่คลาดเคลื่อนเลยแม้แต่น้อย ร่างบางได้แต่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนด้วยความกลัดกลุ้มใจ

หลังจากนั้นเพียงหนึ่งเดือน กองทัพของท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรงก็ได้เดินทางมาถึงเมืองหลวงแคว้นเซี่ย บุรุษร่างสูงใหญ่ในชุดเกราะสีดำเงาวาววับนั่งอยู่บนหลังอาชาสีขาว จะเป็นผู้ใดไปไม่ได้เขาคือ ท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรง ผู้บัญชาการทหารกองทัพพยัคฆ์ทมิฬ ผู้กุมกำลังพลทหารกว่าสองแสนนายที่สามารถเอาชนะแคว้นฉินได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่หกเดือนเท่านั้น

ตลอดสองข้างฝั่งถนนล้วนมีราษฎรชาวแคว้นเซี่ยออกมายืนรอต้อนรับกองทัพพยัคฆ์ทมิฬของท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรงกันอย่างล้นหลาม บ้างก็ตะโกนเรียกขานพระนามของท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรง บ้างก็พากันโยนดอกไม้ ทั้งยังมีหญิงสาวใจกล้าบางคนโยนผ้าเช็ดหน้ามาให้ ขณะที่เซี่ยเหวินหรงขี่ม้าผ่านหน้าไป ช่างน่าเสียดายที่สายตาคู่คมนี้ไม่ได้แยแสต่อสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย เพราะในใจของเขากำลังหนักอึ้งกับรางวัลที่เสด็จพี่ผู้เป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นเซี่ยจะพระราชทานให้เขาเสียมากกว่า ซึ่งรางวัลนี้เขาไม่ได้ปรารถนาเลยแม้แต่น้อย

เซี่ยเหวินหรงเดินทางมาเข้าเฝ้า ฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลง ยังท้องพระโรงของพระราชวัง ภายในท้องพระโรงล้วนเต็มไปด้วยบรรดาขุนนางที่มาเข้าเฝ้าเพื่อมาประชุมเช้ากันอย่างพร้อมเพรียงหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้

“กระหม่อมเซี่ยเหวินหรง ถวายพระพรฝ่าบาทขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น หมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ”

เซี่ยเหวินหรงก้าวเท้าออกมายืนข้างหน้าพร้อมกับคุกเข่าถวายพระพรฮ่องเต้เต็มพิธีการ

“รีบลุกขึ้นเร็ว รีบรายงานข่าวการศึกกับแคว้นฉินให้เจิ้นฟังเร็วเข้า”

เซี่ยเฟยหลงเอ่ยอย่างเร่งเร้า พระองค์นั้นอยากจะทรงทราบข่าวการศึกว่าแท้จริงนั้นเรื่องราวเป็นอย่างไรบ้าง แต่นอกจากอยากจะทรงทราบข่าวการศึก พระองค์ก็กำลังทรงรอคอยที่จะเอ่ยโอฐรีบพระราชทานรางวัลความดีความชอบให้กับน้องชายของพระองค์เสียมากกว่า แผนการทุกอย่างพระองค์ได้จัดเตรียมไว้หมดแล้ว เพียงรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ พระองค์จะทรงพระราชทานรางวัลให้กับน้องชายอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ทั้งในส่วนลึกของจิตใจพระองค์ยังทรงรู้สึกติดค้างกับน้องชายผู้นี้มากเหลือเกิน

“ทูลฝ่าบาทตามที่ม้าเร็วส่งสาสน์มาแจ้งก่อนหน้านี้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมตัดศีรษะของแม่ทัพแคว้นฉินได้สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ ยึดเอาดินแดนทางทิศเหนือที่อยู่ติดกับแคว้นเซี่ยของเรา หลังจากนั้นฮ่องเต้แคว้นฉินก็ได้ทรงยกธงขาวยอมแพ้ เนื่องจากแคว้นฉินขาดเสบียงที่ทหารของฝ่ายเราลักลอบเข้าไปเผาถึงในค่ายทหารแคว้นฉินได้สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ

ตอนนี้ทางแคว้นฉินกำลังเร่งจัดเตรียมคณะราชทูตเพื่อเดินทางมาเจรจาสงบศึก และชดใช้ค่าสินสงครามแก่แคว้นเซี่ยพ่ะย่ะค่ะ ทหารฝั่งเราบาดเจ็บกว่าพันนาย พิการห้าสิบนาย ตายในสนามรบอีกหนึ่งพันนาย รายนามชื่อของทหารกับรายละเอียดในส่วนที่เหลือ กระหม่อมจะเขียนฎีกาถวายพ่ะย่ะค่ะ”

เซี่ยเหวินหรงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดังฟังชัดทุกถ้อยคำทั้งหมด เขาหมายอยากจะให้ทุกคนในท้องพระโรงแห่งนี้ตระหนักได้ว่า สงครามครั้งนี้แม้ว่าแคว้นเซี่ยจะได้รับชัยชนะกลับมา แต่ก็ต้องสูญเสียทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน

“ดียิ่งนัก ครั้งนี้เจ้าทำผลงานไว้ได้ดีมาก ทหารทุกนายที่พลีชีพและเสียสละเพื่อแคว้นเซี่ย เจิ้นจะมอบรางวัลและตอบแทนความเสียสละครั้งนี้ของพวกเขาทุกคนอย่างเหมาะสมแน่นอน วันพรุ่งนี้เจิ้นจะจัดงานเลี้ยงเพื่อฉลองชัยชนะในครั้งนี้ เจ้ารีบกลับไปเตรียมตัวเถอะ”

เซี่ยเหวินหรงเมื่อเอ่ยถวายรายงานจบ ได้กลับไปยืนยังตำแหน่งของตนเอง เซี่ยเฟยหลงและขุนนางต่างถกราชการเช้ากันต่อไป หลังจากที่ประชุมเช้าเสร็จ เซี่ยเหวินหรงได้เดินทางไปขอเข้าเฝ้าไทเฮามู่อิงฮวา พระราชมารดาของฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลง และเป็นพระมารดาเลี้ยงของเขาด้วย

เซี่ยเหวินหรงนั้นถือกำเนิดมาจากฮ่องเต้รัชกาลก่อนกับพระสนมเอกเว่ยกุ้ยเฟย พระมารดาของเซี่ยเหวินหรงสิ้นพระชนม์ตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 5 หนาวเท่านั้น มู่อิงฮวาที่ ณ เวลานั้นดำรงตำแหน่งฮองเฮาได้ทูลขอกับฮ่องเต้ขอรับเซี่ยเหวินหรงมาเลี้ยงดูคู่กันกับเซี่ยเฟยหลงซึ่งในเวลานั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาทแล้ว

เซี่ยเหวินหรงอายุห่างกับเซี่ยเฟยหลงถึง 15 ปี ทำให้เซี่ยเฟยหลงอดจะเอ็นดูน้องชายคนนี้ไม่ได้ เช่นเดียวกับเซี่ยเหวินหรงเองก็มีความรักความผูกพันกับเซี่ยเฟยหลงและมู่อิงฮวามากเช่นกัน ทุกครั้งที่เขากลับมาจากสนามรบจะต้องแวะเวียนไปเยือนยังตำหนักหย่งเหิงซึ่งเป็นที่ประทับของไทเฮามู่อิงฮวาเสมอ

“ท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรงมาขอเข้าเฝ้าเพคะ”

นางกำนัลหน้าตำหนักหย่งเหิงเอ่ยคำรายงาน เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของตำหนัก จึงได้ทูลเชิญเสด็จเซี่ยเหวินหรงให้เข้าไปยังด้านในทันที

ภายนอกของตำหนักหย่งเหิงตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์จากทั่วทั้งแคว้น งดงามดั่งสวนสวรรค์ก็ไม่ปาน ด้านหลังยังมีสระน้ำขนาดเล็กที่มีปลาตัวน้อยหางสีสวยสดงดงามที่ได้รับมาจากต่างแดน ร่มเงาของตำหนักมีต้นท้อที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วทั้งตำหนัก กล่าวได้ว่าตำหนักหย่งเหิงนั้นถูกรังสรรค์ให้งดงามดุจดั่งสวนบุปผาสวรรค์ก็ไม่ผิดนัก

เซี่ยเหวินหรงก้าวเท้าเดินเข้าไปยังตำหนักที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ขาที่กำลังก้าวไปยังห้องโถงของตำหนักที่ประดับไปด้วยแจกัน และปะการังสีเลือดต้องหยุดชะงักลงชั่วครู่ ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปอย่างมั่นคง

“ถวายพระพรเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ ขอพระองค์ทรงพระเจริญพันปี พัน พันปีพ่ะย่ะค่ะ”

มู่อิงฮวาที่กำลังนั่งสนทนากับสตรีงดงาม จำต้องหยุดชะงักลงเมื่อพบว่าผู้ใดที่เพิ่งเข้ามาใหม่ พระนางรีบลุกจากเก้าอี้ไม้เดินเข้าไปประคองร่างสูงของเซี่ยเหวินหรงให้ลุกขึ้นยืน ทั้งยังส่งพระเนตรดุมองมาอย่างไม่พอใจนัก

“จะต้องมากพิธีไปไยเจ้าเด็กคนนี้นี่ กลับมาได้เสียทีไม่คิดถึงแม่บ้างเลยหรืออย่างไร แล้วนี่เจ้าบาดเจ็บตรงที่ใดบ้างหรือไม่ขอแม่ดูหน่อย”

มู่อิงฮวารัวคำถาม แล้วจับร่างสูงหมุนตัวไปมาพลางทอดพระเนตรสำรวจดูเพื่อมองหาบาดแผล

“ลูกทำให้เสด็จแม่ต้องทรงเป็นห่วงแล้ว ขอทรงโปรดลงพระอาญาด้วยพ่ะย่ะค่ะ” เซี่ยเหวินหรงเอ่ยเสียงทุ้มเข้ม นัยน์ตาทอประกายความอบอุ่นออกมา

“เจ้ากลับมาไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แม่จะแนะนำฮวาเอ๋อร์ให้เจ้ารู้จัก”

มู่อิงฮวาทอดพระเนตรไปทางหลานสาว มู่เหลียนฮวาคือบุตรสาวคนโตของน้องชายพระนาง มู่เหลียนฮวาเป็นสตรีที่มีรูปโฉมงดงามอ่อนหวาน กิริยามารยาทก็เรียบร้อยเหมาะสมที่จะแต่งเข้ามาเป็นพระชายาเอกของเซี่ยเหวินหรงเป็นที่สุด ติดเพียงทั้งสองยังไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน มู่อิงฮวาจึงตั้งปณิธานที่จะเป็นผู้เฒ่าจันทราสักครั้ง

“หม่อมฉันมู่เหลียนฮวาถวายพระพรท่านอ๋องเพคะ”

มู่เหลียนฮวายอบกายลงคารวะ พลางช้อนสายตาหวานมองเซี่ยเหวินหรงด้วยความเขินอาย ใบหน้างดงามแดงก่ำด้วยความขัดเขิน นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรง ไม่นึกว่าท่านอ๋องจะเป็นบุรุษที่น่าเกรงขาม และหล่อเหลาถึงเพียงนี้

“ลุกขึ้นเถิดคุณหนูมู่ ลูกไม่ทราบว่าเสด็จแม่มีแขก เช่นนั้นไว้คราวหน้าลูกค่อยมาเข้าเฝ้าเสด็จแม่ใหม่ ทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”

เซี่ยเหวินหรงเข้าใจพระประสงค์ของไทเฮาดี เขาปรายสายตาคมดุมองท่าทางของมู่เหลียนฮวาด้วยความเบื่อหน่าย จากนั้นจึงรีบหันไปทูลลาไทเฮา ไม่รอให้พระนางทรงอนุญาตเขาก็เดินจากไปไกลลิบแล้ว

มู่เหลียนฮวาได้แต่ยืนค้างในท่าทำความเคารพ นัยน์ตาหวานเบิกตามองด้วยความตกตะลึง นี่ท่านอ๋องทรงรังเกียจนางจนต้องรีบเร่งจากไปเลยอย่างนั้นหรือ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเสียหน้าและไม่พอใจ มู่อิงฮวาเองก็คาดไม่ถึงว่าเซี่ยเหวินหรงจะรีบจากไปเร็วถึงเพียงนี้ พระนางเองก็ทรงรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยแต่จะให้ทำอย่างไรได้เล่า ในเมื่อตัวคนก็ไม่อยู่ให้ตำหนิเสียแล้ว

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

ฟาร์มสุข

ฟาร์มสุข

พนิดา
5.0

เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร

บทรักมาเฟียร้าย

บทรักมาเฟียร้าย

จิรัฐติกาล
5.0

“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สามีท่านหย่ากับข้าเถอะ
1

บทที่ 1 กองทัพพยัคฆ์ทมิฬ

09/04/2025

2

บทที่ 2 สมรสพระราชทาน

09/04/2025

3

บทที่ 3 วาสนาของหยางซูมี่

09/04/2025

4

บทที่ 4 คำสัญญา

09/04/2025

5

บทที่ 5 งานมงคล

09/04/2025

6

บทที่ 6 คืนเข้าหอมีค่าดั่งทองพันชั่ง

09/04/2025

7

บทที่ 7 มู่เหลียนฮวา

09/04/2025

8

บทที่ 8 พบหน้าไทเฮา

09/04/2025

9

บทที่ 9 กลับบ้านเดิม

09/04/2025

10

บทที่ 10 ธิดาเทพลี่จิน

09/04/2025

11

บทที่ 11 โทสะของพระชายาชินอ๋อง

09/04/2025

12

บทที่ 12 ชำระหนี้แค้น

10/04/2025

13

บทที่ 13 พระชายารอง

10/04/2025

14

บทที่ 14 กลับเมืองหลวง

10/04/2025

15

บทที่ 15 ไม่อาจยอมรับ

10/04/2025

16

บทที่ 16 เอาคืน

10/04/2025

17

บทที่ 17 ค่ำคืนร้อนระอุ

10/04/2025

18

บทที่ 18 ทะเลสาบมรกต

11/04/2025

19

บทที่ 19 เจียงซูหนี่

11/04/2025

20

บทที่ 20 สาดโคลน

11/04/2025

21

บทที่ 21 ลงดาบ

11/04/2025

22

บทที่ 22 คำสั่งห้ามของชินอ๋อง

11/04/2025

23

บทที่ 23 การปะทะกันของสาวงาม

11/04/2025

24

บทที่ 24 ความหวังดีของมู่ไทเฮา

11/04/2025

25

บทที่ 25 ลอบสังหาร

12/04/2025

26

บทที่ 26 หุบเหวหมอกมรณะ

12/04/2025

27

บทที่ 27 การสูญเสีย

12/04/2025

28

บทที่ 28 หมู่บ้านป่าหมอก

12/04/2025

29

บทที่ 29 พบเจอ

12/04/2025

30

บทที่ 30 ข่าวดีของเถาซูเม่ย

12/04/2025

31

บทที่ 31 ข่าวร้ายของหม่าลี่เหมย

13/04/2025

32

บทที่ 32 พลิกผัน

13/04/2025

33

บทที่ 33 คำตัดสินของฮ่องเต้

13/04/2025

34

บทที่ 34 โดนหลอก

13/04/2025

35

บทที่ 35 บิดาของบุตรในท้องลี่จิ่น

13/04/2025

36

บทที่ 36 ผู้อยู่เบื้องหลัง

13/04/2025

37

บทที่ 37 กอดครั้งสุดท้าย

14/04/2025

38

บทที่ 38 เริ่มต้นใหม่

14/04/2025

39

บทที่ 39 งานเลี้ยงจวนตระกูลมู่

14/04/2025

40

บทที่ 40 แผนร้ายของหญิงงาม

14/04/2025