Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
ชม
11
บท

แม้ไม่มีสิทธิ์ก็อยากรัก แม้เป็นได้แค่ที่พักก็อยากดูแล ขอแค่ได้อยู่ใกล้กันเท่านั้นพอ เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้เขาไม่เคยคิดเข้าไปวุ่นวายให้เธอรำคาญใจ แต่ในเมื่อแฟนเธอมันนอกใจแล้วทำไมเขาต้องยอมมัน! "เลิกกับมันสิ อยากได้อะไรจะยกให้" #พระเอกธงเขียว #รักเดียวใจเดียว #คลั่งรัก #ไม่มีนอกกายนอกใจ แนวแอบรักฟิลกู๊ดดราม่าน้อยกว่ามดกัด

บทที่ 1 Intro

“นายครับ” เสียงเรียกดังขึ้นไม่ไกล

ใบหน้าคมคายละสายตาจากทุกสิ่งรอบกายตวัดมองผู้มาใหม่ ให้ความสนใจกับสิ่งที่เขารอมาทั้งวัน

ซองสีน้ำตาลถูกวางลงตรงหน้า เขาเงยหน้ามองลูกน้องคนสนิทครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมคว้ามันมาเปิดออกอย่างเบามือ หยิบของด้านในออกมาอย่างใจเย็นและทะนุถนอมจนว่างเปล่า

ภาพหญิงสาววัยมหา’ลัย ใบหน้ารูปไข่ เรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติขับผิวขาวอมชมพู กำลังแย้มยิ้มให้บางสิ่งอย่างมีความสุข รอยยิ้มสดใสนั้นทำคนยิ้มยากเผลอยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

สวย...

ยิ่งโตยิ่งสวยไร้ที่ติ ทว่าติดตรงที่เธอมีเจ้าของหัวใจ

แต่จะโทษใครได้ ในเมื่อก่อนหน้าเธอเคยเฝ้ารอและพยายามตามหาเขามาโดยตลอด ทว่าเป็นตัวเขาเองที่ขี้ขลาด และเป็นฝ่ายเลือกหนีหายไปจากเธอนานหลายปี

ตอนนั้นพวกเรายังเด็ก จึงคิดอะไรโง่ๆ อย่างง่ายๆ ว่าสิ่งที่ทำเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว โดยไม่คิดถามความเห็นของเธอสักคำ สมควรแล้วที่ตอนนี้ต้องกลายมาเป็นฝ่ายเฝ้ามองเธออยู่ไกลจากอีกฟากโลก ทั้งที่อยากเจอกันใจแทบขาด

และรู้สึกผิดมาจนถึงทุกวันนี้

“แล้วเรื่องของมันล่ะ?”

“ยังไม่ชัวร์ครับนาย มันค่อนข้างระวังตัว แต่มีโอกาสเป็นอย่างที่นายคิดสูง หรือเราให้คนของคุณเจย์ช่วยอีกแรงดีมั้ยครับ? คนในพื้นที่น่าจะจัดการได้ง่ายกว่า”

“ไม่ต้อง กูยังไม่อยากให้ใครรู้”

ตึง!

“แต่กูต้องรู้!”

“เป็นเหี้ยอะไรไอ้ชา ลืมแดกยาระงับประสาท?” น้ำเสียงเย็นชาติดจะกวนเอ่ยถามด้วยความเอือมระอา

ยูนิกซ์ ปรายตามองเพื่อนสนิทอย่าง ชานนท์ ที่คล้ายกับจะเป็นหมาบ้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก ‘เป็นบ้าอะไรของมัน ถามดีๆ ไม่เป็นเหรอวะจะใส่อารมณ์ทำไม?’ แล้วถ้าจะมีใครต้องโกรธ คนนั้นควรเป็นเขามากกว่าหรือเปล่าที่โดนโวยวายตบโต๊ะใส่เสียงดัง

“ไอ้ยูมึงอย่ามากวนตีนกู”

“...”

“โอเค้ มึงจะไม่บอกใครก็ได้เว้ย แต่ต้องบอกกู! เพราะในมือมึงคือรูปน้องสาวกู! ” ชานนท์กระแทกเสียงฟึดฟัดไม่พอใจ มือกระชากเก้าอี้มานั่งจ้องหน้าเพื่อนสนิทตาเขม็ง

ทำไมเขาที่เป็นพี่ชายของคนในรูปจะไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องนี้ นี่มันเข้าข่ายรุกล้ำความเป็นส่วนตัวแล้วหรือเปล่า? เขาเป็นพี่ชายของเธอนะ แม้เราจะเป็นเพื่อนสนิทกัน

แต่มันจะมามีลับลมคนในแบบนี้กับเขาไม่ได้!

แม้ว่า จะเป็นคนอนุญาตให้ไอ้เพื่อนบ้านี่ส่งคนไปดูแลน้องสาวแทน ทั้งยังชะล่าใจ เรียกคนของตัวเองกลับทั้งหมด เพราะมั่นใจในตัวเพื่อนสนิท แต่เหมือนจะคิดผิด

ยูนิกซ์มันชักจะเหมือนโรคจิตในคราบคนดีเข้าไปทุกวัน

แต่เออ...มันเป็นคนดีนั่นแหละ แค่ ‘อาการหนัก’ ไปหน่อย

และถ้าให้เดา ตอนนี้น้องสาวของเขาคงจะกำลังเผชิญปัญหาอะไรบางอย่างอยู่ แถมคงไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นคนอย่างมันคงไม่ส่งมือขวาที่ไม่เคยให้อยู่ห่างจากตัวลงมือทำงานเอง

ขอทดไว้ก่อนเรื่องที่มันนั่งอมยิ้มอยู่กับรูปน้องสาวเขาน่ะ! ตอนนี้อยากรู้เรื่องที่มันกำลังทำโดยไม่บอกหรือปรึกษา ทั้งที่ตกลงกันไว้แล้วว่าจะแค่ส่งคนไปดูแลเท่านั้น!

“มึงไปจัดการที่เหลือ ทางนี้กูเคลียร์เอง”

“ครับนาย” เจฟบอร์ดีการ์ดคนสนิทพ่วงตำแหน่งเลขา ค้อมศีรษะให้นายทั้งสอง ก่อนแยกตัวออกไป ทิ้งให้สองเพื่อนรักที่ทำท่าเหมือนใกล้ฟัดกันเต็มทนอยู่ด้วยกันตามลำพัง

“คิดจะทำอะไรไอ้ยู มึงกำลังล้ำเส้นนะ”

“...”

“กูถามว่ามึงจะทำอะไร!”

“...”

“ไอ้สัตว์! อย่าทำนิ่งดิวะ งั้นกูเปลี่ยนคำถามใหม่” เมื่อเห็นเพื่อนรักยังทำหน้านิ่งไม่แยแส ชานนท์เลยต้องเปลี่ยนวิธีคาดคั้น แม้จะหัวร้อนปุดๆ แล้วก็ตาม “เกิดอะไรขึ้นกับพริกแกง” แอบเห็นมุมปากของคนหลังโต๊ะกระตุกนิดๆ ก่อนอีกฝ่ายจะพยักพเยิดหน้าให้เขาก้มหน้าดูบนโต๊ะอย่างใจเย็น

ไอ้เพื่อนเวร!

“มึงรู้จักมันมั้ย”

“พอรู้จัก ทำไม?” คนหัวร้อนเหลือบตามองรูปภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกเลื่อนมาตรงหน้า พลางเอ่ยตอบเสียงตึง

จริงอยู่ที่ช่วงสามสี่ปีมานี้เขาไม่ได้ส่งคนของตัวเองไปตามติดน้องสาว แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นละเลยจนไม่รู้จักหรือไม่ได้หาข้อมูลผู้ชายที่เข้ามาวอแวเธอ เพียงแต่ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปยุ่งก็เท่านั้น

พริกแกงเอาแต่คอยพูดถึงความดีเลิศของผู้ชายในรูปให้เขาฟังทุกวี่วัน จนบางครั้งก็นึกหมั่นไส้ อยากตัดสายทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด

“กูสืบเรื่องมันอยู่”

“?”

“ขอเถอะ อย่าทำหน้างง มันดูโง่”

“ไอ้เหี้ยยู!”

“เสียงมึงนี่น่ารำคาญฉิบหาย”

“อย่ามาทำเนียนเปลี่ยนเรื่อง บอกมา กูอยากรู้”

“เหรอ? ถ้าอยากรู้ก็รอ” คำพูดคล้ายจะกวนประสาทกัน ทว่าสิ่งที่คนพูดน้อยอย่างยูนิกซ์อยากสื่อออกไปคือ ‘เรื่องนี้ต้องละเอียดรอบคอบและใช้เวลา เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน’

แต่ไม่พูดหรอก มันเหนื่อย

“รอ รอ รอ รอ! ห่าเอ๊ย แล้วเมื่อไหร่กูจะรู้!”

“เมื่อกูแน่ใจ” มองเพื่อนอย่างท้อใจ บอกปัดเสียงเนิบนาบอย่างนึกรำคาญ ชานนท์เป็นแบบนี้ไง เขาถึงไม่อยากบอกอะไร

ใจร้อน เอาอารมณ์เป็นที่ตั้งอยู่เหนือเหตุผลตลอด

อีกอย่าง เขารู้สึกหมั่นไส้เพื่อนตัวดีอยู่ในใจ เพราะก่อนหน้ามันมัวแต่แจ้นตามง้อเมียจนลืมน้องไปชั่วขณะ ทีตอนนี้เสือกมาตีโพยตีพาย ไม่พอยังมาโวยวายอยากรู้อยากเห็น น่าทุบฉิบหาย

ทว่าไม่บอกก็ไม่ได้ เพราะถ้าวันนั้นไม่มีมัน เขาอาจไม่มีกำลังใจใช้ชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ขอบอกแง้มๆ ให้มันอึดอัดใจแทนก็แล้วกัน คราวหลังจะได้รู้ว่าอย่าละเลยเธออีก!

“นานมั้ย”

“หลังกูกลับไทย”

“ฮะ!” คนฟังถึงกับหูผึ่งตาโตหายโมโหเป็นปลิดทิ้ง เรื่องน้องสาวก็อยากรู้ แต่เรื่องที่คนหน้าตายมันจะกลับไทยน่าตกใจกว่า

รู้จักกันมาตั้งแต่เกิด ไอ้เพื่อนเกลอคนนี้ไม่เคยพูดถึงเรื่องกลับบ้านเกิดแม่สักครั้ง ขนาดพ่อมันออกปากขอให้ไปช่วยดูธุรกิจมันยังปฏิเสธอย่างไม่ไยดี พอวันนี้กลับพูดออกมาหน้าตาเฉย

แสดงว่าต้องเกิดเรื่องบางอย่างที่ไทยจริงๆ

“กูไปด้วย”

“ไม่ต้องเสือก”

“อ้าวๆ พูดดีๆ ครับ นั่นน้องกูนะเว้ย!”

“ไปแล้วมึงทำอะไรได้? เรื่องตัวเองจัดการเรียบร้อยแล้ว?”

“กะ...ก็ยัง แต่กูเป็นห่วงน้อง”

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกูจัดการเอง ตัวเล็กก็น้องกูเหมือนกัน”

“คิดแค่น้องจริงเหรอเพื่อน...” ชานนท์หรี่ตาแสยะยิ้มร้าย พลางเอ่ยหยอกเย้าอย่างรู้ทันกัน คบกันมาตั้งนาน เรื่องของคนชอบเก๊กหน้านิ่ง ทั้งที่ใจเหลวยิ่งกว่าน้ำน่ะ เขารู้ดีกว่าใคร ไหนจะที่มันนั่งยิ้มกับรูปน้องสาวเขาอีก มองจากนอกโลกยังรู้ว่าคิดไม่ซื่อแต่ตีมึน

“...”

“แน่นะ? ถ้าได้มึงเป็นน้องเข...”

“ถ้ามึงยังไม่หุบปาก เลิกพ่นคำไร้สาระออกมา เรื่องที่คุยไว้กูขอยกเลิก”

“เฮ้ยๆ ยูเพื่อนรัก ใจเย็นดิวะ อย่าเพิ่งงอนกูดิเฮ้ย”

“ไม่ได้งอน กูพูดจริง” ร่างสูงว่าเสียงเรียบ ยันตัวลุกขึ้นยืน ปรายตามองคนหน้าเหวอเล็กน้อย

ไม่รู้ผีตัวไหนเจาะปากเพื่อนคนนี้ ถึงชอบพูดจาเลอะเทอะระคายหูชวนหงุดหงิดทุกครั้ง ขืนคุยกันต่ออาจได้วางมวยกัน ฉะนั้นเขาควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เดินออกไปจากตรงนี้ ก่อนที่ความอดทนอันน้อยนิดจะหมดลง

ไม่เข้าใจ คนนิสัยเสียชอบโหวกเหวกโวยวายไม่สนใจใครแบบมัน ทำไมถึงมีน้องสาวน่ารักแบบเธอได้?

ต่างกันราวฟ้ากับขุมนรก

“ไอ้ยู” ชานนท์เรียกคนที่กำลังจะหนีเสียงอ่อน “กูจะไม่ก้าวก่าย ไม่เข้าไปวุ่นวาย ขอแค่มึงรับปากกูได้มั้ยว่ายัยแสบจะปลอดภัย น้องกูจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยวะ?” คราวนี้คนขี้กวนยอมอ่อนลง ด้วยความรู้สึกผิดกับเรื่องในอดีตตีตื้นขึ้นมาจุกอก

ไม่ใช่เขาไม่รักน้องสาว ไม่ใช่กลัวเพื่อนไม่ช่วยเหลือ แต่ที่ยอมก็เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งจนพังเหมือนครั้งนั้น

ความคิดเองเออเองของเขา มันเคยทำร้ายคนที่รักถึงสองคน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเรื่องราวอาจไม่ลงเอยอย่างตอนนี้

ตอนนั้นด้วยความกลัวน้องเสียใจ ถึงเลือกไม่ตอบอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่พริกแกงเฝ้าถาม เขาไม่อยากเห็นน้ำตาน้อง จนลืมคิดไปว่าไม่มีใครไม่เคยผ่านความผิดหวัง ความเสียใจ และความเจ็บปวด

แม้กระทั่งผู้ชายเพอร์เฟกต์ตรงหน้ายังหนีไม่พ้น มันถึงเข้าใจและเข้มแข็งมาจนทุกวันนี้

“ไม่รับปาก แต่กูจะทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับพริกแกงให้ดีที่สุด มึงไม่ต้องห่วง”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เมอร์รี่เมล

ข้อมูลเพิ่มเติม
First ไดอารี(ที่)รัก

First ไดอารี(ที่)รัก

วัยรุ่น

5.0

"เอาแบบนี้นะ ถ้าตัวเล็กหยุดร้อง พี่สัญญาว่าครั้งหน้าถ้าเราได้เจอกัน หากหนูเจ็บหรือเสียใจพี่จะคอยอยู่ข้าง ๆ จนกว่าจะหายดี จากนั้นเราสองคนค่อยไปหาของอร่อยกินกัน ดีมั้ย^^" "ดีค่ะ พี่สัญญากับหนูแล้วนะ ห้ามผิดคำพูดนะคะ" "อื้ม สัญญาครับ" เราทั้งคู่เกี่ยวก้อยทำสัญญาด้วยรอยยิ้ม แต่คนให้คำมั่นหายไปไม่หวนกลับ นั่นเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวที่เราได้เจอกัน เขาจะลืมฉันไปหรือยัง? เขาจะจำคำสัญญาของเราได้หรือเปล่า? เขาจะรู้บ้างไหมความอบอุ่นที่เขามอบให้ มันหยั่งลึกฝั่งแน่นในความทรงจำของเด็กคนนี้ ฉันยังหวัง... หวังว่าสักวัน เราจะได้พบกันอีกสักครั้ง

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ