ทางเดินใหม่ของหัวใจ

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

Viv Thauer

สมัยใหม่ | 1  บท/วัน
5.0
ความคิดเห็น
407.1K
ชม
228
บท

เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”

บทที่ 1 ครั้งนี้ คุณคงต้องรอตลอดไปแล้วล่ะ

มีข้อความหนึ่งเข้ามาพร้อมแนบรูปภาพมาหกรูป

เป็นภาพตะขอเสื้อในที่ติดอยู่ ภาพมือสองข้างที่จับกันแน่น ภาพผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ ภาพสะท้อนที่ไม่ชัดเจนในห้องน้ำ.....

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เวินอี่ถงถูกยั่วยุเช่นนี้

มือใหญ่ ๆ ที่จับมือของผู้หญิงอื่นเอาไว้แน่นจนแทบจะฝังเข้าไปในเนื้ออยู่แล้วข้างนั้น แค่เห็นแวบแรกเธอก็จำได้ทันทีว่าเป็นเจียงยวี่เหิง สามีของเธอที่แต่งงานกันมาสี่ปีแล้ว

เธอมองดูวันที่ในรูปภาพ ซึ่งมันตรงกับวันครบรอบแต่งงานของเธอและเขาพอดี

เจียงยวี่เหิงบอกเธอว่าจะฉลองด้วยกันในตอนเย็น แต่เขากลับขาดการติดต่อไปสามวันติดกัน ให้เพียงผู้ช่วยส่งข้อความมาบอกว่าเธอว่า เขาต้องไปทำงานนอกสถานที่กะทันหัน

ด่วนมาก

ด่วนมากจริง ๆ ด่วนจนรอไม่ไหวอีกแล้วสินะ

เธอหัวเราะเยาะออกมาก่อนจะออกจากหน้าต่างสนทนาไป แล้วก็หาเบอร์ใครคนหนึ่งในรายชื่อผู้ติดต่อและโทรออกไป

ทางปลายสายรับสายอย่างรวดเร็ว

“ถงถง......”

“รุ่นพี่ ฉันมีผู้สมัครที่จะมาทำวิจัยแบบปิดให้แล้วนะ”

“ใครเหรอ?”

“ฉันเอง”

คนทางปลายสายเงียบกริบ หลังจากผ่านไปสักพักเสียงต่อว่าที่อ่อนโยนของเวินอี่ถงก็ดังขึ้นมา “อย่ามาพูดเล่นมั่ว ๆ นะ เธอก็รู้กฎดีอยู่แล้วนี่ หากเข้าร่วมงานวิจัยแบบปิด ก่อนที่การทำวิจัยจะเสร็จสิ้นจะไม่สามารถออกไปไหนได้เลย แล้วก็ห้ามติดต่อกับโลกภายนอกด้วย ถึงขั้นที่ว่าหากกลายเป็นคนของทีมงานในโปรเจกต์แล้วจะต้องถูกระบุว่าเป็นบุคคลสูญหาย ข้อมูลทั้งหมดจะถูกปิดบัญชี จะต้องทำการลงทะเบียนตัวตนใหม่เท่านั้น เธอจะไม่ต้องการครอบครัว ไม่ต้องการเจียงยวี่เหิงแล้วเหรอ?”

เวินอี่ถงหันไปมองภาพแต่งงานบนผนัง

ความสุขในสายตาของทั้งสองคนแทบจะล้นทะลักออกมาอยู่แล้ว

คำสาบานของผู้ชายในรูปดังชัดเจนขึ้นมาในหัว ความทรงจำที่หวานชื่นในอดีตเหล่านั้น เวลานี้กลับกลายเป็นความขมขื่นไปซะแล้ว

“ฉันคิดดีแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะไปกรอกเอกสารที่พี่นะ”

หลังพูดจบเธอก็วางสายไป ไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายได้พูดโน้มน้าวเลย

ทันใดนั้นก็มีเสียงรถเบรกดังมาจากชั้นล่าง เจียงยวี่เหิงที่รูปร่างสูงชะลูดผลักประตูเดินเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วมาก มือใหญ่ ๆ ที่ขาวกระจ่างใสของเขากำลังดึงเนคไทสีดำออก แล้วก็เดินตรงไปยังห้องน้ำทันที

เสื้อแจ็กเก็ตถูกแขวนเอาไว้บนราวแบบส่ง ๆ กลิ่นน้ำหอมคอลเลกชันไฟเออร์ทูรุ่นใหม่ล่าสุดของวีอาร์เอฟุ้งกระจายไปทั่วขึ้นมา

เป็นกลิ่นที่แสดงถึงความร้อนแรงและความกระตือรือร้น

ไม่เหมือนเธอ ที่ดูจืดชืดเฉยชา

เจียงยวี่เหิงอาบน้ำอย่างรวดเร็ว แล้วก็ใส่ชุดคลุมอาบน้ำสีเทาเดินออกมา

เขารัดสายสายรัดเอวแบบหลวม ๆ เผยให้เห็นแผงหน้าอกที่กำยำและหน้าท้องที่ดูเซ็กซี่ ผมดำ ๆ ที่เปียกน้ำอยู่ห้อยลงมาตามธรรมชาติ ละอองน้ำทำให้แววตาคู่นั้นของเขาดูเข้าถึงยากและเย็นชามากยิ่งขึ้นไปอีก

เขาคือลูกชายคนโตของตระกูลเจียง ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกหรือด้านการเงิน เจียงยวี่เหิงก็มีเสน่ห์น่าดึงดูดไปหมดทุกอย่าง

แต่ความรู้สึกใจเต้นที่เคยมีในอดีต เวลานี้สำหรับเวินอี่ถงมันกลับกลายเป็นความรู้สึกขยะแขยงไปแล้ว

“เหม่ออะไรเหรอ น่าทึ่งขนาดนั้นเลยรึไง?”

เจียงยวี่เหิงโอบเอวเธอไว้อย่างเกียจคร้าน เสียงที่แหบพร่าของเขามีความเซ็กซี่มาก “คิดถึงผมอยู่เหรอ?”

ระหว่างที่พูด มือใหญ่ ๆ ของเขาก็ลูบไล้ตามแนวเอวของเธอไปด้านล่าง ผิวที่โดนลูบไล้ผ่านไปจึงเกิดการต่อต้านขึ้นมาโดยธรรมชาติ

เวินอี่ถงเบี่ยงตัวหลบทันที

มือของเจียงยวี่เหิงจึงค้างอยู่ในอากาศ ทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางพูดว่า

“ทำไมล่ะ โกรธผมเหรอ?”

เวินอี่ถงพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ เธอไม่อยากฉีกหน้าเขาให้ทะเลาะกัน เพราะมันไม่มีความหมายอะไร

เธอพยายามข่มความรู้สึกเจ็บปวดในใจเอาไว้ แล้วก็ก้มลงไปหยิบกล่องที่ใส่รหัสไว้จากตู้หัวเตียงส่งให้เขา

“ของขวัญสำหรับคุณค่ะ”

ข้างในคือข้อตกลงการหย่าที่เธอเซ็นไว้เรียบร้อยแล้ว นี่จะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เธอให้เขาแล้ว

“ต้องเดารหัสให้ถูกถึงจะสามารถเปิดได้”

เจียงยวี่เหิงมองอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาคิดว่าคงเหมือนของเล่นที่เธอเคยให้เพื่ออยากจะเอาใจเขาเหมือนในอดีต เขาจึงรับไปและวางไว้บนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอด และถูกคางไปมาบนไหล่เธอเบา ๆ

“คุณคือของขวัญที่ดีที่สุดของผมแล้วนะ”

เวินอี่ถงหลบเล็กน้อยโดยสัญชาตญาณ ทำเอาเขาถึงกับสตั๊น แต่ก็ยังหัวเราะออกมาเบา ๆ อยู่

“ผมงานยุ่งมากจนไม่ได้ฉลองวันครบรอบกับคุณเลย คุณโกรธใช่ไหม?”

เขาหอมแก้มเธอ หลังปล่อยเธอออก เขาก็เดินไปที่ราวเสื้อเพื่อหยิบกล่องสี่เหลี่ยมใบหนึ่งออกมาเปิดตรงหน้าเธอ

“ชอบไหม?”

ข้างในเป็นปิ่นปักผมหยกแกะสลักด้วยทองคำสไตล์โบราณ เป็นงานฝีมือที่ดีเทลละเอียดมาก

“ผมตั้งใจประมูลมาให้คุณโดยเฉพาะเลยนะ คุณชอบของแบบนี้ที่สุดเลยไม่ใช่รึไง? ลองปักดูสิ”

น้ำเสียงของเขามีความบงการเล็กน้อย แต่ก็แฝงไปด้วยความเอาใจใส่

เวินอี่ถงจึงเคยหลงใหลเขาได้ง่าย ๆ

คนในเมืองหวินทุกคนต่างรู้กันดีว่า เจียงยวี่เหิงรักภรรยาเท่าชีวิต

เวินอี่ถงก็เคยคิดเช่นนั้นเหมือนกัน

ถ้าไม่ใช่เพราะรูปที่นอนอยู่ในมือถือพวกนั้น เธอก็คงจะเซอร์ไพรส์มากจริง ๆ

หญิงสาวลูกครึ่งวัยยี่สิบต้น ๆ ยกคอขึ้นอย่างเย้ายวน ผมยาวลอนใหญ่ของเธอถูกปิ่นปักผมยึดไว้อย่างหลวม ๆ เผยให้เห็นคอที่สวยงามและมีรอยจูบอยู่ด้านบนเต็มไปหมด

“มีชิ้นเดียวในโลกเลยนะ ไม่ชอบเหรอ?”

ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาลูบผมยาว ๆ ที่นุ่มสลวยของเธอ

มือที่ด้านนิด ๆ ของเขาสัมผัสผ่านผิวของเธอไป ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาเล็กน้อย

เวินอี่ถงอดทนจนถึงขีดสุด เธออยากจะหยิบปิ่นปักผมนั้นปักเข้าไปตรงหัวใจของเขามาก

เธอเงยหน้าขึ้น แววตาของเธอดูเย็นชาไม่ได้ดูอบอุ่นเหมือนเช่นเคยอีกแล้ว

“มีแค่ชิ้นเดียวในโลกจริง ๆ น่ะเหรอ?”

ชายหนุ่มใจสั่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขามักจะรู้สึกอยู่ตลอดเลยว่าผู้หญิงตรงหน้านี้ดูไม่ปกติยังไงก็ไม่รู้ ตอนที่แววตาเขาเริ่มเคร่งขรึมขึ้น หญิงสาวก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนและพูดว่า

“ถ้ามีเพียงชิ้นเดียวจริง ยังไงฉันก็ต้องชอบอยู่แล้วสิคะ”

เธอยกมือขึ้นมาปิดกล่องลง

“คืนนี้ฉันมีงานที่ยังทำไม่เสร็จอีก คุณนอนก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอฉัน”

เธอหยิบกล่องออกจากอ้อมแขนของเขา แล้วก็เดินไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย

เนื่องจากชุดคลุมอาบน้ำของเขาเปิดอ้าออก เขาจึงเริ่มรู้สึกเย็นขึ้นเรื่อย ๆ แต่เจียงยวี่เหิงกลับรู้สึกว่างเปล่าอย่างไรก็ไม่รู้

คืนนี้เวินอี่ถงดูแปลกมากจริง ๆ

เขามองไปที่กล่องใส่รหัสบนโต๊ะ ทันใดนั้นเขาก็สงบสติอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็ว

ไม่มีใครในโลกนี้รู้ดีไปกว่าเขาอีกแล้วว่าเวินอี่ถงรักเขามากแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่มีทางทิ้งเขาไปแน่นอน

ไม่มีทาง!

มือถือในชุดคลุมอาบน้ำสั่นอย่างต่อเนื่อง

เขาหยิบขึ้นมาดู ความร้อนแรงของสิ่งที่อยู่ในโทรศัพท์ก็ยั่วยวนจนทำให้ลูกกระเดือกของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาทันที

เขานั่งลงบนเตียงและตอบกลับไปสองสามประโยคก่อนจะลบข้อความทิ้ง จากนั้นก็โยนมือถือและล้มตัวลงนอนลงบนเตียง

กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่คุ้นเคยอบอวลอยู่รอบตัว ช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลายและหลับไปได้อย่างรวดเร็ว

ในห้องทำงาน เวินอี่ถงถ่ายรูปปิ่นปักผมหยกส่งให้ร้านรับซื้อสินค้าลักชัวรี

“ช่วยขายให้ฉันโดยเร็วที่สุดค่ะ”

จากนั้นเธอก็ส่งเลขบัญชีไป

“โอนเงินเข้าบัญชีนี้นะคะ”

มันคือบัญชีส่วนรวมของสถาบันวิจัยนั่นเอง

ของสกปรกแบบนี้ ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

……

เช้าวันรุ่งขึ้น

เมื่อเจียงยวี่เหิงตื่นขึ้น เวินอี่ถงก็แต่งตัวเสร็จแล้ว

เขาเท้าแขนดันตัวขึ้นมา แล้วก็กวักมือเรียกเธอ

เสียงตอนเพิ่งตื่นของเขาเบามาก อีกทั้งยังอ่อนโยนจนน่าหลงใหลอีกด้วย

“มากอดหน่อยสิ”

เวินอี่ถงที่กำลังติดกระดุมอยู่ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็สูดลมหายใจลึก ๆ และเงยหน้าขึ้น สายตาของเธอดูเฉยเมยและสงบนิ่งมาก

“ที่สถาบันวิจัยมีเรื่องด่วน ฉันต้องรีบไปที่นั่นเลยทำอาหารเช้าไม่ทัน คุณจัดการเอาเองก็แล้วกันนะ”

หลังพูดจบ เธอก็หยิบกระเป๋าถือแล้วค่อยหันหลังอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป เธอไม่ได้หันกลับมามองอีกเลยเช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ไม่มีผิด

มือของเขาค้างอยู่กลางอากาศ ความรู้สึกว่างเปล่าผุดขึ้นมาอีกครั้ง เขาอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นนวดขมับ

ในอดีตไม่ว่าจะยุ่งมากแค่ไหน เวินอี่ถงก็จะเตรียมอาหารเช้าเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ เมื่ออาหารกำลังอุ่น ๆ ซึ่งอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดแล้วเธอก็จะมาปลุกเขา แล้วก็มากอด มามอนิ่งคิสเขา ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ขาวใสของเธอมันเหมือนแมวน้อยที่กำลังออดอ้อนและอ่อนโยนไม่มีผิด

แล้ววันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกัน

“ถงถง”

วินาทีที่เปิดประตูออก เสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง เวินอี่ถงรู้สึกเหมือนมีมือใหญ่ ๆ มาฉีกอกเธอออกอย่างแรงอย่างไรอย่างนั้น เธอเจ็บจนแม้แต่การหายใจก็ยังเบาลงมาก

เธอหันไปมอง แววตาเธอดูสงบนิ่งอย่างมาก

“มีอะไรเหรอคะ?”

เขาจ้องเธออยู่หหลายวินาที แต่ก็ยังมองไม่เห็นถึงความผิดปกติใด ๆ เขาจึงได้แต่คิดว่าเขาคงคิดมากไปเอง

“ต่อให้จะยุ่งแค่ไหนก็อย่าลืมกินข้าวนะ ตอนกลางคืนก็อย่านอนดึกล่ะ โปรเจกต์จินน่ายมีปัญหานิดหน่อย ช่วงหลายวันนี้ผมเองก็ยุ่งมากเหมือนกัน คุณไม่ต้องรอผมนะ”

“โอเคค่ะ”

เวินอี่ถงยิ้มให้เขา

ภายใต้แสงยามเช้า แววตาของเธอเปล่งประกายขึ้นมา ราวกับเป็นสาวน้อยที่ทำให้หวั่นไหวได้ตั้งตั้งแรกเห็นในตอนเจอกันครั้งแรกอย่างไรอย่างนั้น

เขารู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย น้ำเสียงก็อ่อนโยนขึ้นมากอีกด้วย

“หลังเคลียร์งานในช่วงนี้เสร็จ ผมจะพาคุณไปเที่ยวที่เกาะเจียงซินสักสองสามวันแล้วกันนะ จะได้ชดเชยช่วงฮันนีมูนไปด้วยเลย”

เวินอี่ถงรู้สึกว่าบาดแผลในใจของเธอยิ่งเจ็บลึกมากขึ้นไปอีก เหมือนมีเลือดไหลออกมาไม่หยุดอย่างไรอย่างนั้น

ในอดีต ตอนที่พวกเขาเตรียมงานแต่งงานกัน เวินอี่ถงเคยวางแผนเส้นทางท่องเที่ยวเอาไว้มากมาย เธอสัญญากับเขาว่า ในวันครบรอบแต่งงานของทุก ๆ ปี พวกเขาจะต้องไปฮันนีมูนกันสักที่หนึ่ง ความรักจะได้ยืดยาว แล้วก็ใครก็ห้ามเปลี่ยนไปทั้งนั้น

แต่หลายวันก่อนหน้านี้ เจียงยวี่เหิงกลับพาผู้หญิงคนอื่นไปที่เกาะเจียงซิน แถมรูปภาพที่พวกเขานัวเนียกันบนเตียงก็ยังอยู่ในมือถือของเธออีกด้วย

เธอก้มหน้าลงพลางตอบกลับไปเบา ๆ ว่า “โอเคค่ะ รองานเสร็จก่อนแล้วกันค่ะ”

หลังพูดจบ เธอก็หันหลังเดินออกจากประตูไปทันที

แววตาของเธอไร้ซึ่งความอบอุ่นไปโดยสิ้นเชิง

น่าเสียดาย เจียงยวี่เหิง ครั้งนี้ คุณคงต้องรอตลอดไปซะแล้วล่ะ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

ลิขิตหงส์ฟ้าชะตารัก แคว้นเว่ย

ลิขิตหงส์ฟ้าชะตารัก แคว้นเว่ย

白玉 ไป๋อวี้
3.9

หลี่เหมยลี่ นักธุรกิจสาวร่างท้วม เจ้าของฉายา ‘เจ้าแม่เงินล้าน!’ ได้หลุดเข้าไปเป็นตัวละครในนิยายที่เธอเพิ่งอ่านจบ และกลายเป็นหนึ่งในคนที่จะต้องถูกตัวร้ายอันดับหนึ่งอย่าง เว่ยเหวินจิ้ง ทรราชผู้ล่มแคว้น ส่งไปเป็นเมียน้อยพระเอก!! นางจึงต้องงัดทุกความสามารถ ใช้ทุกกลยุทธ์ที่มีเพื่อเอาตัวรอดจากการเป็นเครื่องมือในครั้งนี้… ‘โลกจริงมันช่างง่ายดาย… แต่การมีชีวิตรอดในโลกนิยายนี่สิ! มันช่างยากเย็นยิ่งนัก’ *นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากจินตนาการและความชอบส่วนตัวของไรท์เท่านั้น มิได้อิงหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นจริงหรือประวัติศาสตร์แต่อย่างใด ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ* นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณ อีโรติค NC20+ นะคะ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

มาเฟีย​'จ้าว'ชีวิต  [ Mafia’s King ] SET : Romance Of Mafia 2nd

มาเฟีย​'จ้าว'ชีวิต [ Mafia’s King ] SET : Romance Of Mafia 2nd

รุ่งอรุโณทัย
4.4

“สวัสดีครับ” เภสัชกรวัยกลางคนที่ประจำเค้าเตอร์ขายยาทักทายลูกค้าทั้งสอง “ผมต้องการยาคุมกำเนิด” อดัมแจ้งสิ่งที่ต้องการโดยทันที น้ำฟ้าหันไปมองคนข้างกายที่ยังกุมมือเธอด้วยดวงตาที่เบิกกว้างจนดวงตาสีน้ำตาลเข้มแทบจะหลุดออกจากเบ้าตา “ครับ” เภสัชกรขานรับพร้อมกับหันหลังหยิบสิ่งที่ลูกค้าตรงหน้าต้องการ ด้วยแววตาที่เรียบเฉย “คุณครับ...คุณคิดว่าเธอคนนี้ควรใช้เวลากับผมเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดหรือแค่ยี่สิบแปดวันเท่านั้นเหรอครับ” คำพูดของอดัมสร้างความฉงนไม่เข้าใจให้กับเภสัชกรตรงหน้าอย่างมาก “เอ่อ...ขอโทษครับ...ผมไม่เข้าใจ” “ก็เธอคนนี้...คนที่ยืนอยู่ข้างๆผม...เธอเข้าใจว่าผมจะให้เธออยู่กับผมเพียงแค่ปริมาณยาคุมกำเนิดที่ผมให้เธอกิน” อดัมพูดต่อโดยที่สายตาของเขายังคงจ้องอยู่ที่เภสัชกรเท่านั้น แต่กลับเป็นเภสัชกรที่ย้ายสายตามามองคนที่ถูกกล่าวถึง และตอนนี้เภสัชกรก็เห็นใบหน้าเธอซับสีเลือดอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้นเมื่อได้ยินประโยคคำพูดของคนข้างๆเธอ “เข้าใจแล้วครับ...ทั้งร้านผมมียาตัวนี้อยู่น่าจะหนึ่งลังและในหนึ่งลังนั้นมีอยู่สี่ร้อยกล่องครับ...คุณจะเหมาหมดเลยมั้ยครับ” เภสัชกรวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าชายตรงหน้าหลายปีนัก SET : Romance Of Mafia เรื่องราวต่อเนื่องกันมา.... ลำดับที่ 1 ; จังหวะรักมาเฟีย [ Mafia’s Rhythms Of Love ] ลำดับที่ 2 ; มาเฟีย​'จ้าว'ชีวิต [ Mafia’s King ] ลำดับที่ 3 ; 'ลูกไม้'มาเฟีย [ Heir Of Mafia ] ลำดับที่ 4 ; นางฟ้ามาเฟีย [ Mafia’s Fairy ] ลำดับที่ 5 ; จอมใจมาเฟีย [ Mafia’s Beloved ]

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ทางเดินใหม่ของหัวใจ
1

บทที่ 1 ครั้งนี้ คุณคงต้องรอตลอดไปแล้วล่ะ

25/07/2025

2

บทที่ 2 เด็กยั่วโมโห

05/08/2025

3

บทที่ 3 งั้นฉันก็คงต้องหาพี่ชายดี ๆ สักคนบ้างแล้ว

06/08/2025

4

บทที่ 4 ช่วยเป็นพี่ชายที่แสนดีให้ฉันหน่อยได้ไหม แค่คืนเดียว

07/08/2025

5

บทที่ 5 หยอกล้อต่อหน้าต่อตา

08/08/2025

6

บทที่ 6 เขาจูบคุณรึเปล่า

09/08/2025

7

บทที่ 7 เป็นรุ่นบางพิเศษ พวกเราลองกันหน่อยไหม

10/08/2025

8

บทที่ 8 เขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติเลยแม้แต่นิดเดียว

11/08/2025

9

บทที่ 9 คืนเสื้อให้เขา

12/08/2025

10

บทที่ 10 ต่ออายุสัญญาสิทธิบัตรงั้นเหรอ

13/08/2025

11

บทที่ 11 กระชากผมเธอ แล้วตบหน้าเธอไปฉาดใหญ่

13/08/2025

12

บทที่ 12 ขึ้นรถผิดคัน

13/08/2025

13

บทที่ 13 เขาเป็นคนเลวตั้งแต่แรกแล้ว

13/08/2025

14

บทที่ 14 ยังอยากจะใช้ฟรีต่องั้นเหรอ

13/08/2025

15

บทที่ 15 เขาจะตรวจสอบรายชื่อเอง

13/08/2025

16

บทที่ 16 ทุกคนคือตัวช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

13/08/2025

17

บทที่ 17 คุณยังอยากจะช่วยมือที่สามด้วยตัวเองอยู่ไหม?

13/08/2025

18

บทที่ 18 บังคับเธอ

13/08/2025

19

บทที่ 19 ไล่ซู่เป้ยเอ๋อร์ออกจากบริษัทเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง!

13/08/2025

20

บทที่ 20 คุณคิดว่าตัวเองนั้นสำคัญมากเกินไปรึเปล่า?

13/08/2025

21

บทที่ 21 พี่คะ พี่ พี่สุดยอดมากเลย

13/08/2025

22

บทที่ 22 เธอนั่งคร่อมอยู่บนต้นขาของฮั่วยวีเฉิง

13/08/2025

23

บทที่ 23 มันคือเรื่องเข้าใจผิดจริง ๆ

13/08/2025

24

บทที่ 24 ต้องบอกเลยว่า เจริญหูเจริญตาเป็นอย่างมาก

13/08/2025

25

บทที่ 25 เขาคิดว่าสิ่งที่พูดกับเธอวันนี้ฟังดูรุนแรงไปหน่อย

13/08/2025

26

บทที่ 26 ขวางรถ!

13/08/2025

27

บทที่ 27 อยากหายไปจากโลกของผู้ชายคนนั้นอย่างสิ้นเชิง

13/08/2025

28

บทที่ 28 เขารู้แล้วเหรอ?

13/08/2025

29

บทที่ 29 ส่งคนสะกดรอยตาม

13/08/2025

30

บทที่ 30 เขาไม่สมควรได้รับมัน

13/08/2025

31

บทที่ 31 โอ้ ขยะต่างชาติ!

13/08/2025

32

บทที่ 32 ในรายชื่อไม่มีเธอ!

13/08/2025

33

บทที่ 33 เปลี่ยนแผน

13/08/2025

34

บทที่ 34 เธอไม่ได้บอบบางขนาดนั้น

13/08/2025

35

บทที่ 35 ถามเธอว่าทำไมถึงไม่กลับบ้าน

13/08/2025

36

บทที่ 36 ไอ้พวกโรคจิต เหม็นยิ่งกว่าท่อระบายน้ำซะอีก!

13/08/2025

37

บทที่ 37 มือที่สามมาโวยวายกับเธอ

13/08/2025

38

บทที่ 38 ควรจะบอกลาอดีตแม่สามีสักหน่อย

13/08/2025

39

บทที่ 39 เวินอี่ถงจะได้รับผลกรรมงั้นเหรอ?

13/08/2025

40

บทที่ 40 ภาพอันเย้ายวนเกินจะต้านทานของเธอผุดขึ้นมาในหัว

13/08/2025