ฉันเปิดเผยว่าสามีนอกใจในงานวิวาห์

ฉันเปิดเผยว่าสามีนอกใจในงานวิวาห์

Kyra Vex

5.0
ความคิดเห็น
82
ชม
24
บท

มัตเตโอ โรมาโน่ คู่หมั้นของฉันนอกใจ คลาร่า หลุยส์ คนรักของเขา ส่งคลิปมาท้าทายฉัน ในคลิป มัตเตโอกับคลาร่ากอดจูบกันอย่างเร่าร้อน เพื่อน ๆ ของเขาตะโกนเชียร์เสียงดัง “พวกเธอเหมาะสมกันมาก แต่งงานกันตรงนี้เลย” พ่อแม่ของมัตเตโอจับมือของคลาร่าพูดว่า “เธอคือคุณนายโรมาโน่เพียงคนเดียวที่เรายอมรับ” ฉันหัวเราะเยาะออกมา แล้วโทรหาพ่อที่เป็นหัวหน้ากลุ่มมาเฟีย “ช่วยติดต่อทีมให้หนูหน่อย หนูมีแผนจะไลฟ์สด” “ได้ เงื่อนไขคือลูกกลับไปถึงอิตาลี กลายเป็นราชินีแห่งกลุ่มอาชญากรรมบรูคส์”

บทที่ 1

คู่หมั้นของฉัน มัตเตโอ โรมาโน นอกใจฉัน

ชู้รักของเขา คลาร่า หลุยส์ ส่งวิดีโอท้าทายมาให้ฉันดู

ในวิดีโอ มัตเตโอและคลาร่าจูบกันอย่างร้อนแรง เพื่อน ๆ ของเขาตะโกนเชียร์เสียงดังว่า “พวกเธอเหมาะสมกันมาก แต่งงานกันตรงนี้เลย!”

พ่อแม่ของมัตเตโอจับมือคลาร่าและพูดว่า “เธอคือผู้หญิงคนเดียวที่เราเห็นด้วยให้เป็นคุณนายโรมาโน”

ฉันหัวเราะเบา ๆ แล้วโทรหาพ่อของฉันที่เป็นหัวหน้าแก๊งอาชญากรรม “ช่วยติดต่อทีมงานให้ฉัน ฉันมีแผนถ่ายทอดสด”

“ได้ แต่เงื่อนไขคือเธอต้องกลับไปอิตาลีและเป็นราชินีคนใหม่ของกลุ่มอาชญากรรมบรู๊คส์”

……

“โอ้พระเจ้า เธอช่างมีความสุขจริง ๆ นะ”

“อิจฉาอิซาเบลล่าจังที่ได้ความรักจากคุณโรมาโน”

เสียงฝูงชนดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่ฉันกลับรู้สึกอึดอัดที่อก กลางพรมแดง มัตเตโอคุกเข่าข้างเดียว ชูแหวนฝังเพชรสีแดง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรักราวกับในโลกนี้มีแค่ฉันคนเดียว

ฉันมองเขา ในใจเดือดดาลด้วยความโกรธที่ไม่อาจระงับได้

รูปและวิดีโอที่คลาร่าส่งมายังคงอยู่ในโทรศัพท์ของฉัน การท้าทายของเธอเหมือนมีดทิ่มแทงใจจนเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก ฉันอยากจะขว้างโทรศัพท์ใส่หน้ามัตเตโอและถามเขาว่าจริง ๆ แล้วเขาคิดว่าฉันเป็นอะไร

แต่มันไม่พอ!

การซักถามอย่างบ้าคลั่งไม่สามารถทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นจากการถูกเหยียดหยามได้

! มัตเตโอ คลาร่า ฉันจะให้พวกเขาจ่ายราคา!

“อิซาเบลล่า เธอจะแต่งงานกับฉันไหม?” มัตเตโอถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

ฉันยิ้มเล็กน้อยซ่อนความโกรธไว้ในดวงตา “ฉันยินดี”

เสียงเชียร์ดังขึ้นทันที เสียงปรบมือดังก้อง แหวนเย็นเยียบสวมเข้าที่นิ้วของฉัน เขากอดฉันแน่นและจูบฉันอย่างลึกซึ้งท่ามกลางเสียงโห่ร้องของฝูงชน ฉันพยายามไม่ให้ตัวเองรู้สึกแย่ พยายามนึกถึงช่วงเวลาที่เราตกลงคบกัน

นั่นคือฤดูร้อนเมื่อห้าปีก่อน ความรักในสายตาของมัตเตโอเหมือนบ่อน้ำลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด เขาสาบานว่าจะรักฉันตลอดชีวิต แต่ที่จริงแล้ว “ตลอดชีวิต” ของเขากลับสั้นแค่ห้าปี

หลังจากขอแต่งงานสำเร็จ มัตเตโอก็รีบร้อนเตรียมงานแต่ง เขาทำทุกอย่างเอง ตั้งแต่การ์ดเชิญถึงชุดแต่งงาน ราวกับว่าเขาเป็นคู่หมั้นที่สมบูรณ์แบบ

ฉันมองดูเขาวุ่นวายอยู่กับงาน ในใจหัวเราะเบา ๆ หากไม่ใช่เพราะข้อความในโทรศัพท์เตือนฉัน เขาอาจจะสามารถหลอกทุกคนได้จริง ๆ

——“เธออย่าอ่อนไหวไปเลย มัตเตโอแค่รักฉันมากกว่า”

ข้อความจากคลาร่าปรากฏขึ้นซ้ำ ๆ ด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า เหมือนตั้งใจจะกระตุ้นฉัน

ฉันบีบโทรศัพท์แน่น บังคับตัวเองให้ใจเย็น

“เครื่องประดับที่สั่งทำมาถึงร้านแล้ว ฉันไปดูด้วยกันนะ” มัตเตโอจูบแก้มฉันแล้วพูดว่า “ฉันจะช่วยเธอเลือกอีกสองชุด”

ฉันไม่ปฏิเสธคำเชิญของมัตเตโอในการไปช้อปปิ้ง

ผู้จัดการร้านยินดีนำสร้อยคอจากตู้เซฟมาเชิญฉันลองใส่

ฉันยิ้มอย่างสง่างาม และลองเทียบกับกระจก โดยมองมัตเตโอผ่านหางตา ความสนใจของเขาทั้งหมดอยู่ที่โทรศัพท์ นิ้วของเขาเลื่อนบนหน้าจออย่างรวดเร็ว

“อันนี้เป็นไงบ้าง?” ฉันตั้งใจขัดจังหวะเขา

มัตเตโอมองแวบหนึ่งอย่างรีบเร่ง “ดีนะ เหมาะกับเธอ…”

โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นอีกครั้ง

มัตเตอขมวดคิ้ว รีบหาข้ออ้าง “ที่รัก งานแต่งมีปัญหานิดหน่อย ฉันต้องรีบกลับไป”

“ฉันไปด้วย” ฉันวางสร้อยลง มองเขา

“ไม่ต้องหรอก ไกลเกินไป” เขาปฏิเสธทันที น้ำเสียงเร่งรีบเล็กน้อย “ฉันไม่อยากให้เธอต้องเหนื่อย”

ฉันรู้สึกหนาวที่อก แต่ก็ยังยิ้ม “งั้นเธอรีบไปเถอะ”

เขาจูบหน้าผากฉันอย่างอ่อนโยน “เลือกอันที่เธอชอบ ฉันจะกลับมาเซอร์ไพรส์เธอ”

ฉันพยักหน้า ส่งเขาออกไปอย่างเร่งรีบ เมื่อแผ่นหลังเขาหายไปจากสายตา รอยยิ้มของฉันก็จางลง

ผู้จัดการร้านเดินเข้ามาถามอย่างกระตือรือร้น “จะลองแบบอื่นอีกไหม?”

“ไม่ต้องค่ะ” ฉันส่ายหน้า น้ำเสียงเย็นชา

เมื่อออกจากร้านเครื่องประดับ โทรศัพท์ของฉันสั่นอีกครั้ง

ภาพหน้าจอใหม่ปรากฏขึ้น :

คลาร่า: “ฉันคิดถึงเธอจนเจ็บที่อก”

มัตเตโอตอบ: “ที่รัก ฉันกำลังจะไป”

ลมหายใจฉันสะดุด นิ้วมือเย็นชา

คลาร่าทิ้งข้อความไว้ว่า “เธออย่าใส่ใจเลย เขาแค่สนใจฉันมาก ”

ฉันกำโทรศัพท์แน่น พยายามกดความเจ็บปวดที่อก แล้วเปิดรายชื่อผู้ติดต่อ ค้นหาเบอร์ที่เข้ารหัส

สูดลมหายใจลึก ๆ ฉันกดปุ่มโทรออก

“ฮัลโหล?” เสียงทุ้มต่ำและทรงอำนาจจากอีกฝั่งของสายโทรศัพท์ ทำให้รู้สึกกดดัน

“ช่วยติดต่อทีมงานถ่ายทอดสดให้ฉัน” ฉันพูด

หลังจากความเงียบชั่วครู่ เสียงหัวเราะเย้ยหยันแว่วมา

“เธอเป็นใคร ถึงกล้าสั่งให้หัวหน้าครอบครัวอาชญากรรมบรู๊คส์ในอิตาลีทำงานให้เธอ?”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ