ไฟรักบัลลังก์ทมิฬ

ไฟรักบัลลังก์ทมิฬ

โอซิริส

5.0
ความคิดเห็น
41.8K
ชม
51
บท

" ราชินทร์" บุรุษหนุ่มสายเลือดไทย ถูกเหล่าทวยเทพแห่งดินแดนไอยคุปต์ให้ครอบครองตราสัญญลักษณ์กษัตริย์แห่ง อียิปต์โบราณ เขาถูกกลืนเข้าไปในกระแสธารแห่งประวัติศาสตร์อันไกลโพ้น เพื่อทำหน้าที่รวบรวมแผ่นดินอียิปต์ให้เป็นหนึ่งเดียว จากสามัญชน สู่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตกาล "ความรัก" ถูกลิขิตขึ้นในดินแดนแห่งมนต์ขลัง "ผิดหวัง" ด้วยรักเจ้าเพียงข้างเดียว "อำนาจ" แฝงเร้นมาพร้อมกับนวลนาง บทสรุปรักนี้จะลงเอยเป็นเช่นไร เมื่อรักหนึ่งพร้อมยอมพลี แต่อีกหนึ่งกลับหมายปองราชบัลลังก์!!

บทที่ 1 บทนำ

บทนำ

อาณาจักรอียิปต์ 3,100 ปี (1782-1570) ก่อนคริสตกาล

อียิปต์ ดินแดนแห่งเทพเจ้า ดินแดนแห่งความศรัทธาที่มีต่อเหล่าทวยเทพของชาวไอยคุปต์ ชาวไอยคุปต์โบราณต่างยึดมั่น และเชื่อว่าเทพเจ้าของพวกเขาคือที่พึ่งสุดท้าย ยามเมื่อแผ่นดินถึงคราวกลียุค อาณาจักรอียิปต์เมื่อครั้งบรรพกาล สมัยต้นราชวงศ์ได้รวบรวมอียิปต์เหนือและอียิปต์ใต้เป็นอาณาจักรเดียว และมีกษัตริย์ปกครองสืบต่อๆ กันมาอีกหลายราชวงศ์ ครั้นเมื่อถึงปลายยุคสมัยราชอาณาจักรกลาง ทั่วอาณาจักรต่างประสบความเดือดร้อนไปทุกที่ ผู้ปกครองหัวเมืองต่างๆ ภายในอาณาจักรอียิปต์ต่างลุกขึ้นต่อต้านกษัตริย์อีกครั้ง กล่าวกันว่ายุคนี้เป็นยุคเสื่อมของสมมุติเทพจากเทพเจ้า ฟาโรห์ซึ่งเป็นผู้ปกครองอียิปต์ ต่างหมดอำนาจอย่างสิ้นเชิง ต่างชาติไร้สิ้นความยำเกรงแต่อย่างใด เป็นยุคแห่งความไม่มีเสถียรภาพโดยแท้ เป็นยุคของการถูกรุกรานจากต่างชาติ บ้านเมืองถูกทำลายย่อยยับ พังพินาศไม่มีชิ้นดี

พวกฮิกซอส ซึ่งเชื่อกันว่ามาจากทางซีเรีย ต่างบุกเข้าอาณาจักรเพื่อเข้ามาท้าทายอำนาจของอียิปต์และกษัตริย์ซึ่งเป็นผู้ปกครอง พวกฮิกซอสเดินทัพโดยการขี่ม้าและรถม้า ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักในอียิปต์สมัยนั้น ต่างบุกข้ามมาทางด้านเหนือของแหลมไซนาย และตั้งฐานที่มั่นอยู่ที่ เทลอัด-เดบา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองเทนิส ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของดินดอนสามเหลี่ยม และเคลื่อนกำลังไปยังยอดของดินดอนสามเหลี่ยม อันเป็นจุดที่ทำให้เคลื่อนกำลังลงใต้ได้อย่างรวดเร็ว

ในการบุกเข้าอาณาจักรอียิปต์ในครั้งนี้ จุดประสงค์ของพวกฮิกซอส คือ ยึดอาณาจักรอียิปต์ที่กำลังเสื่อมถอยอยู่ในขณะนั้น ให้ตกมาอยู่ในกำมือ จนกระทั่งพวกฮิกซอสสามารถยึดครองอาณาจักรอียิปต์ได้เป็นผลสำเร็จและตั้งเมืองหลวงชื่อ อวารีส ครอบครองดินแดนส่วนเหนือของอียิปต์

นอกจากจะเกิดศึกสงครามซึ่งต่างชาติบุกเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งต้องสู้รบกับพวกฮิกซอสอยู่ตลอดเวลา ภายในอาณาจักรอียิปต์ ยังเกิดความระส่ำระสายไปถ้วนหน้า ด้วยเกิดสงครามแย่งชิงความเป็นใหญ่เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้ปกครอง นั้นก็คือตำแหน่งฟาโรห์ ทั้งพระและขุนนาง ต่างแตกแยกขาดความสามัคคี ด้วยต้องการแย่งชิงอำนาจเอาไว้อยู่กับฝ่ายตน

อาณาจักรอียิปต์ในยุคดังกล่าว อ่อนแออย่างไม่เคยปรากฏ เชื้อพระวงศ์ของอียิปต์ซึ่งกระหายในอำนาจ อำนาจรัฐของฟาโรห์ที่เมมฟิสสิ้นสุดลง บรรดานครรัฐต่างตั้งตนเป็นอิสระและทำสงครามรบพุ่งกันเอง ดินแดนแม่น้ำไนล์ที่เคยอุดมสมบูรณ์เกิดภัยแล้งติดต่อกันเป็นเวลานาน ฟาโรห์อ่อนแอเกินกว่าที่จะสร้างระบบชลประทานขึ้นมา แก้ปัญหาได้ ความอดอยากและภัยสงครามแพร่กระจายทั่วแผ่นดิน

ในที่สุดอียิปต์ถูกแบ่งเป็นสองเขต คืออียิปต์ใต้ ซึ่งอยู่ทางเหนือของเมมฟิสถูกปกครองโดยตระกูลหนึ่งจากเมืองเฮรักลีโอโพลิส (Herakleopolis) ส่วนอีกเขตหนึ่งคืออียิปต์เหนือที่อยู่ทางใต้ของเมมฟิสถูกปกครองโดยตระกูลจากเมืองธีบีส (Thebes) ซึ่งต่างฝ่ายพากันจัดตั้งให้มีฟาโรห์ขึ้นปกครองในดินแดนของตน ทั้งสองดินแดนมีจุดประสงค์อย่างเดียวกัน นั้นก็คือยึดครองดินแดนฝ่ายตรงข้ามให้มาเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม โดยมิใส่ใจพวกฮิกซอส ซึ่งได้ครอบครองดินแดนส่วนเหนือของอียิปต์แต่อย่างใด

หรือจะเป็นเพราะเทพเจ้าดลบันดาลให้อาณาจักรถึงคราวล่มสลายหรือจะทรงดลบันดาลให้เป็นอย่างอื่น ในตอนปลายใกล้สิ้นสุดของยุคอาณาจักรกลาง อำนาจของพวกฮิกซอสอ่อนแอลงและเสื่อมถอยซึ่งครอบครองดินแดนทางตอนเหนือของอียิปต์อยู่ในขณะนั้น จู่ๆ ฟาโรห์แห่งอียิปต์เหนือเสด็จสวรรคตอย่างมิรู้สาเหตุ ทำให้อียิปต์เหนือไร้สิ้นกษัตริย์ปกครอง บังเกิดความโกลาหลไปทุกหย่อมหญ้า

ภายใต้ความอัปยศ และความอับอายที่เกิดขึ้นจากการถูกต่างชาติเข้ามายึดครอง จะจบสิ้นลงเมื่อใดกันเล่าเมื่ออียิปต์เหนือในขณะนี้ตกอยู่ในภาวะลำบาก กลายเป็นเป้าหมาย จากศึกในคืออียิปต์ใต้ และศึกจากพวกต่างชาติคือฮิกซอส ซึ่งพยายามแสดงศักดาว่าอำนาจยังมิเสื่อมถอย พยายามเข้ายึดครองอียิปต์เหนือและโจมตีอียิปต์อยู่เป็นระยะๆ โดยอียิปต์เหนือไม่มีทางหลีกเลี่ยง ประชาชนเริ่มตื่นตระหนก เนื่องจากมิรู้ชะตากรรมในอนาคต

สิ่งเดียวที่จะช่วยได้ในเวลานี้ คือศรัทธาแห่งเทพเจ้า เทพเจ้าของพวกเขาเท่านั้นที่กลายเป็นส่วนรวมจิตใจของประชาชน อียิปต์เหนือต้องมีกษัตริย์ปกครอง และเป็นกษัตริย์ที่จะนำพาพวกเขาผ่านพ้นภัยพิบัติร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้นี้ให้หมดไป รวมถึงรวบรวมแผ่นดินให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง แต่กษัตริย์ของเขาคือใคร จึงจะสามารถนำความสงบและความยิ่งใหญ่ของอียิปต์เมื่อครั้งอดีตให้หวนกลับคืนมา จะสมหวัง หรือจะต้องเผชิญชะตากรรม ในเมื่อสิ่งที่รอคอยอยู่ข้างหน้า มันคือความหายนะของแผ่นดินซึ่งกำลังก้าวเข้ามาเยือน

เมืองซาวิเย็ท-เอล-อารยัน

วิหารร้างเทพเจ้าอาเมน

เสียงสวดจากบรรดานักบวช รวมแล้วเกือบ 30 ชีวิต ซึ่งต่างพากันมารวมตัวที่วิหารเทพเจ้าอาเมน ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกโชนและบรรดาเครื่องหอมต่างๆ กลิ่นกำยานหอมลอยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ สามารถทำให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดให้เบาบางลงไปได้บ้าง แต่เหมือนมิได้ทำให้เหล่านักบวชทั้งหมดนั้น คลายความวิตกจากสีหน้าที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดจากทางใบหน้าของแต่ละคน เสียงสวดโหยหวนดึงระงมฟังแล้วน่าสะพรึงกลัว หากเผอิญมีคนที่ผ่านไปมาในบริเวณนั้น ได้มาฟังเสียงสวดในขณะนี้ ไม่มีใครที่ได้ฟังแล้วจะไม่ขนลุกจนตั้งชัน

เสียงสวดของเหล่านักบวช ดังติดต่อกันอยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่จะค่อยๆ สงบลงอย่างช้าๆ จนกลายเป็นความเงียบ ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจที่พ่นออกมา ฉับพลันวัตถุประหลาดบางอย่างลอยคว้างพุ่งออกจากวิหารเทพเจ้าอาเมนทันที แสงสีทองเรืองรองหมุนรอบเหนือวิหารเทพเจ้าอาเมน ก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นเหนือท้องฟ้าพร้อมหมุนรอบตัวเองไปมาอย่างรวดเร็ว แสงเรืองรองที่เห็นเป็นประกายเริ่มค่อยๆ สว่างวาบขึ้นมาทีละน้อย ท่ามกลางพระจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งเต็มไปด้วยเมฆหมอกปกคลุม มองดูอึมครึม ก่อนจะค่อยๆ ลอยเคลื่อนผ่านออกไปจากพระจันทร์อย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ เหลือเพียงแสงประหลาดที่ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ยังคงลอยเด่นและหมุนรอบตัวเองด้วยความรวดเร็ว คล้ายกำลังมองหาอะไรบางอย่าง

ภายในวิหารร้างเทพเจ้าอาเมน

ร่างสูงของนักบวชร่างหนึ่งซึ่งคล้ายจะเป็นหัวหน้าของนักบวชทั้งหมด เริ่มขยับตัวพร้อมค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อทั้งหมด ต่างพากันสวดคาถาโบราณเสร็จสิ้น พร้อมเงยหน้าจ้องมองนักบวชแต่ละคนที่อยู่ในบริเวณ พร้อมเอื้อมมือเปิดหีบ ที่ทำจากหินอะลาบาสเตอร์ เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในหีบดังกล่าว พร้อมกับเสียงของนักบวชหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้กันร้องถามออกมา ด้วยความไม่แน่ใจทันที

“ท่านคาเจม! สิ่งนี้จะช่วยพวกเราได้จริงหรือ หากมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด อาณาจักรอียิปต์มิต้องถึงกาลล่มสลาย ทั้งพวกข้ารวมไปถึงตัวท่านและประชาชนในอาณาจักร จะไม่เหลือแผ่นดินให้อยู่อีกต่อไปแล้วนะขอรับ”

คำถามของนักบวชหนุ่ม บ่งบอกถึงความคิดภายในใจ เหล่านักบวชที่เหลือเมื่อได้ยินคำถามดังกล่าว ต่างเงยหน้ามองหัวหน้านักบวชของพวกตนพร้อมสายตาที่บ่งบอกถึงความไม่แน่ใจเช่นเดียวกัน ท่ามกลางคำถามมากมายที่อยู่ภายในดวงตาของแต่ละคู่ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวหน้านักบวชของพวกเขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันดัง

“พวกเจ้าและข้า ต่างมารวมตัวกันที่วิหารเทพอาเมนเพื่ออะไรกัน!” หัวหน้านักบวช พูดพร้อมจ้องมองหน้านักบวชแต่ละคนอย่างไม่ละสายตา ก่อนจะหันร่างกลับไปพร้อมเงยหน้ามองรูปปั้นเทพเจ้าอาเมน พร้อมใช้มือโรยผงกำยานลงไปในเปลวไฟเพื่อกระจายกลิ่นหอม และให้เปลวไฟลุกโชนอยู่ตลอดเวลา ก่อนกล่าวกับเหล่านักบวชต่อไป

“การที่ตัวข้าและพวกเจ้าทั้งหมด ซึ่งมาจากทั่วทุกสารทิศต่างมารวมตัวกันที่วิหารเทพเจ้า ก็เพื่อมาสวดอ้อนวอนต่อเหล่าทวยเทพ ให้อาณาจักรของพวกเราผ่านพ้นหายนะร้ายที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ไปให้ได้ไม่ใช่รึ ศรัทธาต่อเหล่าทวยเทพ จะส่งผลในสิ่งที่พวกเราต้องการ พวกเจ้าและข้าต่างมีเวทมนตร์ที่ไม่มีใครล่วงรู้ แม้กระทั่งสังฆราชซูกาฟาห์ ยังไม่รู้ว่าทั้งข้าและพวกเจ้าต่างมีอำนาจลี้ลับซึ่งเทพเจ้าทรงประทานให้ เหตุใดพวกเจ้าจึงมาตั้งคำถามเช่นนี้กับข้าอีก”

คำตอบของหัวหน้านักบวชคาเจม ทำเอาเหล่านักบวชที่ยืนฟังอยู่ในขณะนั้น ต่างตกอยู่ในความเงียบทันที ด้วยพวกตนล่วงรู้ดีว่า อำนาจลี้ลับที่พวกเขามีอยู่นั้นล้วนได้มาจากเทพเจ้าซึ่งพระองค์ประทานให้ ก่อนจะตั้งใจฟังเมื่อหัวหน้านักบวชของพวกเขาเอ่ยอธิบาย สิ่งที่อยู่ภายในหีบดังกล่าว

“สิ่งที่พวกเจ้าเห็นอยู่ในหีบนี้ คือตราสัญลักษณ์กษัตริย์แห่งอียิปต์โบราณ ตกทอดมาตั้งแต่ราชอาณาจักรเก่า แฝงเร้นไปด้วยอำนาจลึกลับอันมากมายมหาศาล ตราสัญลักษณ์จะนำผู้ที่จะเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรอียิปต์มาหาพวกเรา และจะเป็นผู้นำอียิปต์ผ่านพ้นหายนะเลวร้ายนี้ไปจนได้ อียิปต์ของเราจะกลับมายิ่งใหญ่และรุ่งเรืองอีกครั้ง ไม่ต้องเผชิญกับพวกที่คอยแย่งชิงหวังครอบครองอำนาจที่พวกมันไม่สมควรที่จะได้รับอีกต่อไป” นักบวชคาเจม กล่าวพร้อมหันกลับไปมองตราสัญลักษณ์กษัตริย์ ที่อยู่ในหีบตรงหน้า

หีบอะลาบาสเตอร์ สีขาวขุ่นเปิดอ้าออกกว้าง เผยให้เห็นตราสัญลักษณ์กษัตริย์ จากราชอาณาจักรเก่า ซึ่งทำมาจากทองคำทั้งหมด มีลักษณะเป็นพระศอ ตราสัญลักษณ์มีรูปร่างเป็นวงกลมทำด้วยทองคำและงูใหญ่ขดตัวล้อมรอบตราสัญลักษณ์นั้นซึ่งตีทองคำแท้ให้เป็นแผ่นแกะลวดลายสัญลักษณ์ของกษัตริย์อียิปต์ ตรงกลางมีอักขระโบราณคล้ายเป็นประโยคบางอย่างกำกับอยู่ภายใน แต่มันมีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ตราสัญลักษณ์กษัตริย์ซึ่งครอบอยู่ด้านบนหายไป เหลือเพียงส่วนที่เหลือซึ่งเป็นชิ้นส่วนด้านล่างที่ยังคงอยู่

สายตาของเหล่านักบวชต่างมองมาที่หัวหน้ากลุ่มของพวกตนเป็นตาเดียวกัน เมื่อเหตุการณ์ประหลาดซึ่งเพิ่งผ่านพ้นไปทันทีที่จบบทสวดคาถาโบราณเมื่อครู่ที่ผ่านมา ทำให้ตราสัญลักษณ์ของกษัตริย์อียิปต์ซึ่งเป็นชิ้นส่วนด้านบน จู่ๆ ลอยละลิ่วพุ่งทะยานออกจากวิหารเทพเจ้าอาเมนขึ้นสู่ท้องฟ้าต่อหน้าต่อตาของเหล่านักบวชทั้งหมด ก่อนจะได้ยินเสียงของนักบวชหนุ่ม หนึ่งในนั้นเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ผลของมัน

“ท่านคาเจม ท่านจะล่วงรู้ได้อย่างไร ว่าผู้ใดคือผู้ครอบครองตราสัญลักษณ์กษัตริย์ที่อยู่ในหีบตรงหน้านี้ขอรับ และอีกนานเพียงใด ผู้ที่ถูกกำหนดจากเทพเจ้าจึงจะปรากฏตัว มิมีสัญญาณบอกจากเทพเจ้าให้พวกเราได้ล่วงรู้ก่อนบ้างหรือขอรับ อีกอย่างหากสังฆราชซูกาฟาห์ ล่วงรู้พิธีกรรมของพวกเราในเวลานี้ ต้องหาวิธีขัดขวางและกำจัดสิ่งที่เรารอคอยอย่างแน่นอน ท่านซูกาฟาห์ แม่นยำในการดูดวงดาวมิใช่หรือขอรับ” คำถามของนักบวชหนุ่ม ทำเอานักบวชคาเจมถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมหันกลับไปมองเหล่านักบวช ก่อนจะกล่าวในสิ่งที่ตนกังวลเช่นเดียวกัน

“ข้าไม่รู้! แต่อย่างน้อยกษัตริย์แห่งเทพเจ้าจะต้องมีบางอย่างที่แปลกไปกว่าผู้อื่นแน่นอน ข้ามั่นใจเช่นนั้น ส่วนซูกาฟาห์จะล่วงรู้การทำพิธีในวันนี้หรือไม่ พวกเจ้าไม่ต้องกังวล วิหารแห่งนี้ห่างไกลจากเมืองหลวง ดวงดาวในทิศทางที่ซูกาฟาห์ใช้อ่านดวงดาว มิได้อยู่ในเส้นทางที่มันอ่านได้ ข้าล่วงรู้ดี และเพราะเหตุนี้ ข้าจึงเลือกที่จะทำพิธีกรรมในวิหารเทพอาเมน เพราะในที่ลับมักถูกค้นหาแต่ในสถานที่แห่งนี้ มักถูกปล่อยทิ้งร้างไร้สิ้นผู้ใดเหลียวแลมาเนิ่นนาน มิมีผู้ใดคาดเดาได้อย่างแน่นอน” นักบวชคาเจม พูดพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างแรง ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“ถึงแม้ว่าซูกาฟาห์จะดูดวงดาวได้อย่างแม่นยำ ข้อนั้นข้าไม่เถียงแต่มิได้หมายความว่า ซูกาฟาห์จะมีอำนาจที่เทพเจ้าทรงประทานให้เหมือนข้าและพวกเจ้าที่อยู่ในนี้ เท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ซูกาฟาห์มันก็กระหายอยากที่จะขึ้นสถาปนาเป็นฟาโรห์อยู่ทุกวันไม่เคยเว้น เพียงแต่มันไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะขึ้นสถาปนาได้ จึงทำได้แค่เป็นผู้สำเร็จราชการแทน แต่เชื่อเถอะว่าคนอย่างมันต้องหาช่องทางทุกอย่าง เพื่อมันจะได้อำนาจดั่งตามที่มันต้องการอย่างแน่นอน” นักบวชคาเจม พูดพลางก้าวเดินไปข้างหน้า พร้อมหยุดยืนอยู่ด้านหน้าบริเวณรูปปั้นของเทพเจ้าอาเมน พลางเงยหน้ามองท้องฟ้าเพื่อสังเกตปรากฏการณ์บางอย่าง

“พระจันทร์เต็มดวงแล้ว! ตราสัญลักษณ์กษัตริย์กำลังเดินทางไปยังทิศทางที่ไม่มีใครล่วงรู้ อียิปต์ยังไม่ถึงกาลวิบัติ” หัวหน้านักบวชเอ่ยออกมาด้วยความยินดี พร้อมหันกลับไปบอกพวกของตน

“ตราแห่งกษัตริย์กำลังเดินทางไปในที่ไม่มีใครพบและไม่มีใครล่วงรู้ได้ พิธีกรรมในวันนี้คือความหวังสุดท้ายของอียิปต์ และดูเหมือนว่า อียิปต์ของเรายังไม่ถึงคราวอับจน กษัตริย์ที่เหมาะสมของพวกเรามีตัวตน” นักบวชคาเจม บอกกล่าวกับเหล่านักบวชตรงหน้า ใบหน้าที่ตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา ขณะนี้เริ่มมีสีหน้าของความหวังอย่างเห็นได้ชัด

“พวกเจ้าจงมองขึ้นไปเบื้องบน สัญลักษณ์กษัตริย์หยุดอยู่กับที่แล้ว นั้นหมายถึงนิมิตที่ดีของอียิปต์ ตราแห่งกษัตริย์คงล่วงรู้แล้วว่า กษัตริย์ของอียิปต์อยู่ที่ใด” นักบวชคาเจม กล่าวพร้อมก้าวเดินออกไปจากวิหารร้าง ใบหน้ายังแหงนมองสัญลักษณ์แห่งกษัตริย์ที่อยู่บนท้องฟ้า ดวงตายังคงจ้องมองไม่กะพริบ ตามติดด้วยเหล่านักบวชทั้ง 30 ชีวิต ต่างเดินตามออกมาด้านนอกวิหารอย่างพร้อมเพรียงกัน ทันใดนั้นเอง

“พรึ่บ!”

ท้องฟ้าในตอนกลางคืนขณะนี้ บริเวณทางทิศเหนือ ปรากฏแสงสว่างเจิดจ้ามองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น แสงนั้นส่องแสงสว่างค่อยๆ ลามเลียไปทั่วทะเลทรายเบื้องล่าง วิหารร้างเทพเจ้าอาเมนถูกแสงสว่างสาดกระทบจนมองไม่เห็นว่าอะไรเป็นอะไร ทั่วบริเวณเบื้องล่างขาวโพลนไปจนทั่ว ตามติดด้วยเสียงดังสนั่นสนั่นหวั่นไหวดังมาจากท้องฟ้าเบื้องบนอย่างมิเคยปรากฏมาก่อน

“ตูม!”

แสงสว่างเจิดจ้าจากตราแห่งกษัตริย์บัดนี้หายลับไปกับตา ทันทีที่เสียงดังสนั่นหวั่นไหวปรากฏขึ้น สัญลักษณ์แห่งกษัตริย์เลือนหายไปจากท้องฟ้า เหลือไว้เพียงความว่างเปล่าและความเงียบที่เข้ามาเยือน เหมือนกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ตราแห่งกษัตริย์กำลังเดินทางไปสู่ทิศทางใดไม่มีใครรู้ อำนาจและความลี้ลับจากมนตราแห่งอียิปต์โบราณ กำลังมุ่งตรงไปยังเป้าหมาย สู่ทิศทางอันยาวไกลยากที่ใครจะคาดคิด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ โอซิริส

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

แม่ทูนหัวโคตรเลิศ

แม่ทูนหัวโคตรเลิศ

Isolde Marsh
5.0

ในฐานะที่เธอมีทรัพย์สินนับพันล้านและเป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ โดยรัฐบาล เฉียววานก็ถูกจัดสรรพ่อแม่ให้ในที่สุด แต่ไม่คาดคิด เธอถูกขับออกจากครอบครัวถึงสามครอบครัว การฝึกฝนความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องก็ล้มเหลวซ้ำๆ จนกระทั่งเธอถูกตระกูลฮั่วรับอุปการะ เฉียววานที่น่าสงสารถูกพ่อแม่บุญธรรมทุ่มเงินให้ตามใจ แสดงความรักอย่างสุดโต่งจนดูเหนือจริง ทำให้บางคนอิจฉาจนบ้าคลั่ง ปล่อยข่าวลือว่า "เฉียววานไม่มีความสามารถใดๆ เลย ต้องอาศัยการทำตัวน่าสนสารเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตระกูลฮั่ว!" แต่วันถัดมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศยืนต้อนรับด้วยตัวเอง “ศาสตราจารย์เฉียว ห้องแล็บของคุณเตรียมพร้อมแล้ว” มหาเศรษฐียื่นสัญญาให้ “บอส รายงานการเงินปีนี้กำไรเพิ่มขึ้น 300%!” องค์กรแฮกเกอร์นานาชาติก็เกิดความวุ่นวาย “พี่ใหญ่ ถ้าคุณไม่ออนไลน์ ระบบการเงินจะล่มแล้ว” เมื่อความลับของเฉียววานถูกเปิดเผยทีละอย่าง ทั้งโลกออนไลน์ก็เดือดดาล กู้ซือหาน ผู้ทรงอำนาจและเย็นชาแห่งเมืองจิง จู่ๆ ก็จับเธอไว้ที่มุมกำแพง นิ้วของเขาลูบไล้ริมฝีปากของเธอเบาๆ “คุณนายกู้ เล่นสนุกมากพอหรือยัง? ถึงเวลากลับบ้านไปมีลูกได้แล้ว” เฉียววานหน้าแดงก่ำ “ใคร ใครจะไปมีลูกกับคุณล่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ และหยิบบัตรดำวงเงินไม่จำกัดใส่มือเธอ “มีลูกคนหนึ่ง จะมอบเกาะส่วนตัวให้ให้หนึ่งเกาะ”

ไม่กี่สัปดาห์ก่อนงานแต่งงาน คู่หมั้นของฉัน ลืมฉันไปคนเดียว

ไม่กี่สัปดาห์ก่อนงานแต่งงาน คู่หมั้นของฉัน ลืมฉันไปคนเดียว

Gavin
5.0

งานแต่งงานของฉันกับอีธาน รัตนภาคิน เหลืออีกแค่ไม่กี่สัปดาห์ เจ็ดปีที่ผ่านมา ฉันมั่นใจเหลือเกินว่าอนาคตของเราจะสมบูรณ์แบบ แต่แล้ว อีธานก็อ้างว่าตัวเอง “ความจำเสื่อมเฉพาะส่วน” จากอุบัติเหตุที่ศีรษะ เขาจำทุกคนได้หมดยกเว้นฉัน ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาจำได้ จนกระทั่งได้ยินวิดีโอคอลของเขา “โคตรอัจฉริยะเลยว่ะ” เขาโอ้อวดกับเพื่อน อาการความจำเสื่อมของเขาเป็นแค่เรื่องโกหก เป็น “ใบเบิกทาง” ให้เขาได้ไปไล่ตามโคลอี้ วรินทร์ทิพย์ เน็ตไอดอลชื่อดังก่อนแต่งงาน หัวใจฉันแหลกสลาย แต่ก็แสร้งทำเป็นเชื่อต่อไป ฉันต้องทนเห็นเขาจีบโคลอี้อย่างเปิดเผย ทนดูรูปเซลฟี่เย้ยหยันของพวกเขาสองคน เขาหัวเราะเยาะความทุกข์ของฉัน และเลือกที่จะไปดูแลโคลอี้ที่แกล้งเจ็บป่วย หลังจากอุบัติเหตุที่เขาเป็นคนก่อ เขาทิ้งฉันที่บาดเจ็บไว้ข้างหลัง แล้วเลือกส่งโคลอี้ไปโรงพยาบาลก่อน เขายังพยายามจะตัดฉันออกจากความช่วยเหลือทางการเงินอีกด้วย ทำไมคู่หมั้นของฉันถึงกลายเป็นปีศาจที่เลือดเย็นและเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้ การหักหลังของเขาทำลายความทรงจำดีๆ ทุกอย่างจนหมดสิ้น ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่ที่ไปเชื่อใจคนโหดร้ายไร้หัวใจแบบนั้น ความหน้าด้านของเขาทำให้ฉันโลกหมุน แต่ฉันจะไม่ยอมเป็นเหยื่อของเขา แทนที่จะแตกสลาย แผนการอันเยียบเย็นก็ก่อตัวขึ้นในใจ ฉันจะทิ้งตัวตนเดิม แล้วกลายเป็นโอลีเวีย จันทรวงศ์ ฉันจะหายตัวไป ทิ้งเขา ทิ้งอดีต และทิ้งแหวนหมั้นของเขาไว้ข้างหลังตลอดกาล เพื่อทวงอิสรภาพของฉันกลับคืนมา

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.8

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ไฟรักบัลลังก์ทมิฬ
1

บทที่ 1 บทนำ

02/01/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ 1

02/01/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ 2

02/01/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ 3

03/01/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ 4

03/01/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ 5

03/01/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ 6

04/01/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ 7

04/01/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ 8

04/01/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ 9

04/01/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ 10

06/01/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ 11

06/01/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ 12

07/01/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ 13

09/01/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ 14

10/01/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ 15

11/01/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ 16

11/01/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ 17

13/01/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ 18

14/01/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ 19

14/01/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ 20

16/01/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ 21

16/01/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ 22

17/01/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ 23

17/01/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ 24

18/01/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ 25

20/01/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ 26

21/01/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ 27

21/01/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ 28

23/01/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ 29

24/01/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ 30

25/01/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ 31

27/01/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ 32

28/01/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ 33

28/01/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ 34

30/01/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ 35

30/01/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ 36

31/01/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ 37

01/02/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ 38

03/02/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ 39

04/02/2022