Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

เนื้อนวล

4.9
ความคิดเห็น
581.5K
ชม
59
บท

เมื่อองค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ถูกวางยาปลุกกำหนัดในคืนวันอภิเษกสมรส... จิรัชยาเป็นเพียงลูกของนางบำเรอของอัครมหาเสนาบดีประจำมหานครฟาดิลาห์ หน้าที่ของลูกนอกสมรสอย่างหล่อนก็คือคอยรับใช้ ฮันนา ว่าที่องค์สุลตาน่า ความทุกข์แสนสาหัสเดียวในใจของหล่อนก็คือการแอบหลงรักจ้าวผู้ครองแคว้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง แต่แล้วความฝันของหล่อนก็เป็นจริง เมื่อหล่อนได้นอนอยู่ใต้ร่างขององค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ แต่คืนนั้นมันเป็นคืนแต่งงานของเขากับฮันนา...! “ยังไม่รีบไสหัวลงไปจากเตียงอีกหรือ!” กายสาวบอบช้ำยังไม่ทันได้ขยับลงจากแท่นบรรทมก็ถูกเขาผลักไสแรงๆ จนกลิ้งตกลงมากองกับพื้นห้องไม่ต่างจากเศษขยะสกปรก น้ำตาแห่งความปวดร้าวไหลพรากออกมาราวกับสายฝน “หม่อมฉัน... ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉัน...” จิรัชยาพยายามจะอธิบาย แต่เสียงเกรี้ยวกราดขององค์สุลต่านแผดดังก้องขึ้นเสียก่อน หล่อนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว “เธอกล้ามากนะที่วางยาฉัน!” “หม่อมฉัน... ไม่รู้เรื่องนะเพคะ หม่อมฉัน... ไม่ได้ทำ...” หล่อนสะอื้นได้อย่างน่าเวทนา แต่ก็ไม่ได้รับความเมตตาจากชายผู้สูงศักดิ์เลยแม้แต่น้อย “ถ้าเธอไม่ได้ทำ งั้นก็คงเป็นแม่ของเธอสินะที่ทำ จิรัชยา!”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ในค่ำคืนที่เงามืดกลืนกินแสงสว่างรอบตัวจนหมดสิ้น แสงไฟจากพุ่มไม้ประดับที่ถูกปลูกเอาไว้เป็นแนวยาวส่องให้เห็นสองร่างที่กำลังกอดรัดกันนัวเนีย

ริมฝีปากของคนที่บังเอิญมาพบเห็นเผยอค้างเติ่ง ไม่ต่างจากดวงตาที่แทบจะถลนออกมากับภาพที่ได้เห็น แม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่ก็สามารถบอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าสองร่างนั้นคือผู้ใด

มือเรียวเล็กขาวสะอาดขององค์หญิง มารีอาห์ บิน ชารีฟ อัล ซานัล น้องสาวแท้ๆ ขององค์สุลต่าน ลูฟาส บิน ชารีฟ อัล ซานัล ผู้ปกครองนคร ฟาดิลาห์อันยิ่งใหญ่ไพศาล ยกขึ้นปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงอุทานด้วยความตกใจเล็ดลอดออกมา

ฮันนา ลูกสาวคนสวยของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย กำลังนั่งกอดจูบพลอดรักอยู่กับ ฮูเซ็น พี่ชายบุญธรรมของตนเอง

ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เพราะฮันนาคือว่าที่องค์สุลตาน่าแห่งนครฟาดิลาห์ ซึ่งจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสอันแสนยิ่งใหญ่กับเสด็จพี่ของหล่อนในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า

องค์หญิงมารีอาห์รีบเร้นตัวห่างออกไปอย่างระมัดระวัง ความตกใจยังคงอัดแน่นอยู่ภายในอก หากค่ำคืนนี้หล่อนไม่ได้ลอบหนีออกจากตำหนักเพื่อปลอมตัวไปเที่ยวนอกวัง หล่อนก็คงจะไม่บังเอิญมาเห็นเหตุการณ์น่าสะอิดสะเอียนในครั้งนี้ มือขาวสะอาดกำเข้าหากันแน่น และแน่นอนว่าหล่อนจะต้องนำเรื่องที่พบเจอไปบอกพี่ชายของตนเอง

เรือนร่างสูงใหญ่ราวๆ หกฟุตสามนิ้วก้าวออกมาจากห้องประชุม ใบหน้าหล่อจัดเคร่งเครียดไม่ต่างจากทุกครั้ง ดวงตาสีสนิมรียาวหรี่แคบมองเรือนร่างอรชรของน้องสาวที่มาดักรออยู่ถึงหน้าห้องประชุมด้วยความแคลงใจ

หลังจากที่บิดาและมารดาสิ้นพระชนม์ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ตั้งแต่เขาอายุได้เพียงแค่สิบห้าปี ทิ้งให้เขาต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่นั่นก็คือการปกครองนครฟาดิลาห์ และก็ดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวนั่นก็คือเจ้าหญิง มารีอาห์ผู้แสนซุกซน

“วันนี้ไม่มีเรื่องสนุกอะไรให้เจ้าทำแล้วหรือ เจ้าถึงได้ดั้นด้นมาหาพี่ถึงห้องประชุมน่ะ มารีอาห์”

มารีอาห์ฉีกยิ้มประจบประแจง ก่อนจะเดินเข้าไปกอดแขนล่ำสันของพี่ชาย “หม่อมฉันคิดถึงเสด็จพี่นี่เพคะ”

“เจ้าอย่ามาปากหวานเลย มีอะไรก็ว่ามา”

“แหม เจ้าพี่น่ะ ทำไมรู้ทันหม่อมฉันเสมอเลยเพคะ” องค์หญิงแสนงามกล่าวกับพี่ชายด้วยความหมั่นไส้ พร้อมกับทำจมูกย่นใส่ “เสด็จพี่ฉลาดในการมองคนเสมอ แต่ว่าทำไมถึงมองฮันนาไม่ออกเพคะ”

“เจ้าพูดแบบนี้อีกแล้วนะ มารีอาห์” น้ำเสียงของลูฟาสเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย

“ก็หม่อมฉันรู้จักนิสัยนางดียังไงล่ะเพคะ”

คนเป็นพี่ชายดันร่างน้องสาวออกห่าง และจ้องลึกเข้าไปในดวงตาหวานซึ้งของหญิงสาว “เจ้าน่ะไม่ชอบนาง เพราะเจ้าเป็นเพื่อนกับน้องสาวขี้อิจฉาของนาง อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะมารีอาห์”

มารีอาห์ได้ยินผู้เป็นพี่ชายกล่าวถึงเพื่อนของตนเองแบบนั้นก็อดที่จะกางปีกปกป้องไม่ได้ “เสด็จพี่ตรัสแบบนี้ไม่ถูกต้องนะเพคะ จินนี่ไม่ได้เป็นคนขี้อิจฉาสักหน่อย มีแต่ถูกพี่สาวขี้ริษยารังแกเสียมากกว่า”

มารีอาห์ทำหน้าไม่พอใจ เพราะหล่อนยังจำรอยฟกช้ำที่ต้นแขนของจิรัชยาได้เป็นอย่างดี

“เจ้าน่ะหูเบารู้ไหม มารีอาห์”

“เสด็จพี่นั่นแหละเพคะที่พระกรรณแสนเบาหวิว ฮันนาทูลอะไรหน่อยก็ทรงหลงเชื่อ ทั้งๆ ที่ทุกคนในวังนี้ก็รู้กันทั้งนั้นว่า ฮันนาและแม่ของนางกลั่นแกล้งจินนี่กับแม่เสมอ”

ลูฟาสส่ายหน้าไปมา ชื่อของจิรัชยาทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมองตลอดเวลา กลีบปากอิ่มเต็มที่ดูหนาเกินไปเล็กน้อย ปลายจมูกโด่งเชิด และท่าทางสงบเสงี่ยมเจียมตัวที่หล่อนมักจะแสดงออกมา ซึ่งเขารู้ทันว่ามันก็แค่ภาพลวงตาเท่านั้น

ฮันนาโชว์รอยเขียวช้ำให้เขาดูหลายครั้ง รอยฟกช้ำที่ฮันนาบอกว่าถูกจิรัชยารังแก

“พี่ว่าเจ้าถูกหลอกแล้วละ มารีอาห์”

“หม่อมฉันทูลเสด็จพี่ตามความจริงเพคะ ฮันนาน่ะไม่ได้สวยและแสนดีอย่างที่นางแสดงออกมาให้เจ้าพี่ทอดพระเนตรหรอกเพคะ”

ลูฟาสแค่นยิ้มหยัน “พี่ว่าเพื่อนของเจ้ามากกว่าที่ไม่ได้แสนดี และน่าสงสารอย่างที่พยายามเสแสร้งแสดงออกมา”

“เสด็จพี่เพคะ... ทำไมตรัสแบบนี้ล่ะเพคะ”

ลูฟาสกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างเบื่อหน่าย และยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามปราม

“เจ้าหยุดพูดก่อนเถอะ พี่ปวดหัว”

“แต่ว่า...”

“ถ้าหากการที่เจ้ามาดักรอพี่ที่หน้าห้องประชุมแบบนี้ คือแค่จะมาใส่ร้ายใส่ไฟฮันนา และก็ยกยอเพื่อนรักของเจ้าให้พี่ฟังละก็ พี่ไม่ว่างฟังหรอกนะ มารีอาห์”

“มันไม่ใช่อย่างนั้นเพคะเสด็จพี่”

“แล้วมันอย่างไหน”

“เอ่อ...” มารีอาห์หยุดพูดเล็กน้อย เพื่อตั้งหลัก หล่อนจะต้องเรียบร้อยคำพูดให้ดี เพราะลูฟาสเชื่อมาเสมอว่าฮันนาเป็นหญิงงามแสนดีราวกับนางเอกในนิยาย

“เจ้ามีอะไรก็ว่ามา แต่ถ้าไม่มี พี่จะไปแล้วนะ”

“เดี๋ยวเพคะเสด็จพี่” มือเล็กของมารีอาห์รีบคว้าแขนล่ำของพี่ชายเอาไว้

“คือ เมื่อคืน...”

ดวงตาสีสนิมหรี่แคบมองใบหน้าหวานอ่อนเยาว์ของผู้เป็นน้องสาวนิ่ง อย่างรอคอยฟัง

“หม่อมฉันออกไปนอกวัง...”

“นี่เจ้าหนีออกไปเที่ยวเล่นอีกแล้วหรือ มารีอาห์!”

“เอ่อ หม่อมฉันยอมรับผิดเพคะ เสด็จพี่ค่อยด่าว่าหม่อมฉันทีหลัง แต่ได้โปรดฟังเรื่องที่หม่อมฉันจะเล่าก่อน”

กรามแกร่งของลูฟาสขบกันแน่น ดวงตาสีสนิมมืดดำเพราะไม่พอใจกับการกระทำของน้องสาว เขาต้องใช้ความอดทนสูงเลยทีเดียวกว่าจะยืนนิ่งรอฟังคำพูดต่อไปของมารีอาห์ได้

“งั้นก็รีบพูดมาให้จบ โดยเร็ว”

มารีอาห์หน้าซีดเผือด คิดอยู่แล้วว่าจะต้องถูกตำหนิ หรือดีไม่ดีอาจจะถูกทำโทษด้วยการกักบริเวณ แต่กระนั้นหล่อนก็ต้องเสี่ยงพูดออกมา เพราะหล่อนไม่ต้องการให้ผู้เป็นพี่ชายได้ภรรยาเป็นคนไม่ดี มีราคีมลทิน

“คือ... ตอนกลับมา หม่อมฉันพบเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังพลอดรักกันอยู่ท้ายอุทยานเพคะ”

“แล้วเจ้าเห็นไหมว่าใคร”

“เห็นเพคะ” มารีอาห์ช้อนตาขึ้นมองหน้าพี่ชาย “และก็เห็นชัดเจนเสียด้วย”

“งั้นเจ้าก็บอกพี่มาเสียทีสิว่าใคร เพราะการแสดงความรักกันในที่สาธารณะเยี่ยงนั้น แม้จะเป็นในยามค่ำคืน แต่ก็มีความผิดทางอาญา พี่จะได้เรียกคนพวกนั้นมาลงโทษ”

“ฮันนากับพี่ชายบุญธรรมของนาง ฮูเซ็น เพคะ”

สีหน้าของลูฟาสเต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความพิศวง

“เจ้ารู้ไหมว่าพูดอะไรออกมา มารีอาห์”

“หม่อมฉันพูดความจริงเพคะ และหม่อมฉันก็ยืนยัน นอนยันได้เลยว่าเป็นนางและพี่บุญธรรมของนางจริงๆ”

แทนที่พี่ชายของหล่อนจะเชื่อ เขากลับแค่นยิ้มหยัน ก่อนจะโต้ตอบออกมา

“พี่ว่าผู้หญิงที่เจ้าเห็นน่าจะเป็นเพื่อนรักของเจ้ามากกว่านะ มารีอาห์”

“เสด็จพี่หมายถึงอะไรเพคะ” มารีอาห์ไม่เข้าใจสิ่งที่พี่ชายตอบกลับมาเลย

ลูฟาสจ้องหน้าน้องสาว ก่อนจะเค้นเสียงเล็ดลอดไรฟันขาวสะอาดออกมา

“นี่เจ้าเป็นเพื่อนรักกับจิรัชยาได้ยังไงกัน ถึงไม่รู้ว่านางแอบคบหากับพี่ชายบุญธรรมของตัวเอง”

มารีอาห์อ้าปากค้างเติ่ง ก่อนจะส่ายหน้าดิก “ไม่จริงเพคะ จินนี่ไม่ได้คบหากับฮูเซ็น ฮันนาต่างหากล่ะเพคะ หม่อมฉันเห็นกับตาจริงๆ นะเพคะเสด็จพี่”

“เลิกทำให้พี่กับฮันนาแตกแยกกันได้แล้วละมารีอาห์” ลูฟาสบอกน้องสาวอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “เพราะยังไงซะ ในนครฟาดิลาห์ก็มีเพียงฮันนาคนเดียวที่เหมาะสมที่จะเป็นองค์สุลตาน่าของพี่ และที่สำคัญ พี่มีใจให้นาง”

“เสด็จพี่เพคะ... แต่นางไม่เหมาะสมกับเสด็จพี่ด้วยประการทั้งปวงนะเพคะ”

“แล้วเจ้าคิดว่าใครเหมาะสมกับพี่ล่ะ เพื่อนรักของเจ้าอย่างนั้นหรือ มารีอาห์”

“เพคะ จินนี่เป็นคนดี นางสวย และนางก็นิสัยดีมากๆ”

“แต่พี่เกลียดนาง”

“เสด็จพี่น่ะ ทำไมทรงตรัสแบบนี้เพคะ” มารีอาห์ทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่พี่ชายอย่างไม่พอใจ แต่ลูฟาสกลับไม่สนใจจะฟังอะไรอีก เขาโบกมือไล่

“เจ้ากลับตำหนักได้แล้ว อย่ามายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของพี่อีก เพราะถึงยังไง ฮันนาก็คู่ควรกับพี่ที่สุด”

“แต่นางลักลอบคบหากับฮูเซ็นนะเพคะ”

ลูฟาสมองน้องสาวอย่างอ่อนอกอ่อนใจนับครั้งไม่ถ้วน “แล้วเจ้าก็เลิกใส่ร้ายนางได้แล้ว เพราะพี่ไม่เชื่อหรอก”

“เสด็จพี่”

“เจ้าไปได้แล้ว”

มารีอาห์อ้าปากจะพูดต่อ แต่ผู้เป็นพี่ชายตัดสินใจเดินหนีไปเสียเอง

“เสด็จพี่นะ ทำไมไม่เชื่อกันบ้างเลย” องค์หญิงผู้สูงศักดิ์ถอนใจแรงๆ อย่างกลัดกลุ้ม

“แล้วนี่เราจะทำยังไงดี ถึงจะช่วยให้เสด็จพี่ไม่หลงกลผู้หญิงร้ายกาจอย่างฮันนา”

มารีอาห์ก้าวเดินกลับตำหนัก ตลอดทางก็พยายามขบคิดหาทางออกให้กับพี่ชาย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังคิดไม่ออก

หล่อนถอนใจออกมาแรงๆ

“คิดไม่ออก ทำยังไงดีนะเนี่ย”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เนื้อนวล

ข้อมูลเพิ่มเติม
เธอคือของหวง

เธอคือของหวง

โรแมนติก

5.0

เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา

คุณหมอทำไมร้าย

คุณหมอทำไมร้าย

โรแมนติก

5.0

นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี

อาจารย์แซ่บไม่ไหว

อาจารย์แซ่บไม่ไหว

โรแมนติก

5.0

ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม

เด็กเลี้ยงของภาวินทร์

เด็กเลี้ยงของภาวินทร์

โรแมนติก

5.0

พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"

ยัยตัวร้ายของท่านประธาน

ยัยตัวร้ายของท่านประธาน

โรแมนติก

5.0

เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."

คนในความลับ

คนในความลับ

โรแมนติก

5.0

เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ได้ยินเสียงฉันไหม

ได้ยินเสียงฉันไหม

Star Attraction
4.4

เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

สนพ. อิ่มรัก
4.8

ปลัมน์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ถูกแม่สั่งให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะกัน พลอยหยก ออกไปจากชีวิตน้องชายของเขา แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงคราวของตัวเอง เขากลับกันเธอออกจากชีวิตตัวเองไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีเธอ ----------------------- “ปวดแผลจัง สงสัยต้องนอนพัก คุณล่ะทำอะไรตั้งหลายอย่างผมว่านอนพักก่อนดีกว่ามั้ย” เขาเอ่ยเมื่อพลอยหยกกลับจากเอาทุกอย่างไปล้างในทะเลเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่คุณนอนก็ดี เดินไกลกว่าทุกวันแล้วค่ะ” พลอยหยกเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยเดินมาคอยประคองให้เขานอนลงได้อย่างสะดวก โดยมีเสื้อชูชีพสองตัววางซ้อนกันเป็นหมอนให้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้วเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขาที่หล่อเหลากว่าทุกวัน ยิ่งเขาจ้องมองมาหาด้วยแล้วก็ยิ่งเกิดอาการประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก “คุณนอนพักก่อนดีกว่านะแกว จะได้มีแรงไว้สู้กับการสอยมะพร้าวไง” มือข้างขวาของเขารั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน แถมยังออกแรงกดบังคับให้เธอโน้มกายลงไปหาพื้นข้างๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บแผลอยู่บ้างแขนข้างขวาของเขาก็ยังมีเรี่ยวแรงมาพอที่จะหยัดตัวให้นอนตะแคงไปหาเธอ ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่เขาเดาว่าคงจะแดงเพราะความอายที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นแน่ และเขาก็ช่วยให้ห้วงเวลาที่เธอคงจะอึดอัดนั้นสั้นลงด้วยการก้มลงไปหาริมฝีปากนุ่มช้าๆ มอบจุมพิตอันแผ่วเบาให้เจ้าของริมฝีปากที่ไม่ได้ขัดขืนใดๆ อีกทั้งยังโอบกอดตัวเขาไว้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ใบหน้าสวยก็แหงนเงยขึ้นเพื่อให้เขาได้ดอมดมปลายคาง ลำคองามระหงอย่างสะดวก ก่อนจะกลับขึ้นไปดูดดื่มริมฝีปากอีกวาระ แขนข้างซ้ายที่เคยเจ็บบัดนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว และใช้มันยกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะถลกบราเซียออกจากสองบัวงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่ใคร่ถนัดนักเขาเลยเลื่อนมือขวาลงมาช่วยด้วยการถลกเสื้อยืดขึ้น โดยเจ้าของเสื้อคอยให้ความร่วมมือพยุงกายขึ้นจากพื้น แล้วแอ่นอกให้กับอุ้งปากอุ่นของเขาได้ลิ้มลองอย่างไม่หวงแหน แม้ใจจะบอกตัวเองว่าต้องห้ามเขา แต่พลอยหยกก็ไม่อาจจะทำได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นสุขใจจนลืมทุกอย่างเพียงเพราะมีเขาอยู่แนบชิดขณะนี้ จนไม่อาจจะผลักไสเขาไปไหนได้นอกจากยินยอมพร้อมใจให้เขาได้เชยชมเพื่อชดเชยความสุขสมที่พึงมีด้วยกันนับตั้งแต่วันได้นอนแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ปลัมน์ก็ไม่คิดจะห้ามตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่ถุงยางอนามัยติดตัว และไม่แคร์ด้วยว่าเธอคืออดีตคนรักของหลานชาย ด้วยหัวใจไม่อาจจะหักห้ามความต้องการทั้งทางกายและทางใจได้อีกต่อไปแล้ว ผ่านมาหลายค่ำคืนที่เขามีสติล้วนแล้วแต่เป็นการกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ สำหรับเขาแล้ว แผงอกเปลือยทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันเนิ่นนานกว่าปลัมน์จะค่อยๆ เลื่อนมือขวาลงไปหาหน้าท้องแบนราบจนพานพบตะขอกางเกงยีนส์ เขาใช้เวลาปลดไม่นานพอๆ กับการรูปซิปออก แล้วส่งนิ้วเรียวเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มนวลนอกแพนตี้สีหวานที่ชวนให้หลงใหลจนเขาปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไปเลยขั้นที่เกินจะควบคุมได้อีกต่อไป ไม่แตกต่างจากพลอยหยกนักที่เป็นสุขใจเกินคณากับการมีเขามาแนบชิดอยู่อย่างนี้ สองฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขาอย่างลืมตัว ริมฝีปากนุ่มก็จูบตอบเขาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ก็ตามที แต่การถูกเขามอบจุมพิตให้บ่อยครั้งก็คือเป็นความคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับอุ้งปากอุ่นของเขาที่กำลังครอบครองปลายยอดชูช่อประหนึ่งรอให้เขามาเยี่ยมเยือนก็ไม่ปาน แผ่นหลังนุ่มแทบไม่ติดพื้นใบมะพร้าวเมื่อเธอเผลอแอ่นกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ดูดดื่มอย่างสะดวก เธอรับรู้ได้ว่ากายเขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือบางเผลอออกแรงบีบตรงหัวไหล่ซ้ายของเขาเพราะความเจ็บร้าวไปทั่วกายจากความต้องการที่จะมีเขาเข้าครอบครอง “แกว! ตัวผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเขาแหบพร่าอยู่ใกล้ๆ หู ก่อนจะซอกไซ้ปลายจมูกไปกับซอกคอระหงแล้วเลื่อนลงไปหาอกอวบอิ่ม อ้อยอิ่งอยู่กับปลายยอดอีกข้างอย่างหลงใหลอีกครั้ง พลอยหยกรับรู้ถึงความต้องการของเขาได้ตรงสะโพกผายตึงเมื่อความแข็งแกร่งของเขาส่งสัญญาณมาหาโดยไม่ต้องบอกกล่าวทางวาจาเพราะด้วยภาษาทางกายแจ้งอย่างชัดเจนกว่าเรียบร้อยแล้ว “คุณปลัมน์คะ!” พลอยหยกส่งเสียงติดๆ ขัดๆ ไปหาเขา สองมือบางก็พยายามจะดันอกเขาออกอย่างยากลำบาก “แกว! อย่าห้ามผมเลยนะ เราต่างก็ต้องการกันและกัน อย่าสนใจอะไรอีกเลยนะ” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอนมาให้ขณะพรมจูบไปตามผิวกายขาวและกำลังเลื่อนต่ำลง พลอยหยกต้องพยายามสะกัดกลั้นความรู้สึกวาบหวานเอาไว้และพยายามใช้สองแขนหยัดกายให้ลุกขึ้น “คุณปลัมน์คะ! ฟังสิคะ” “บนเกาะนี้มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า และไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องติดอยู่นี่ไปเป็นปีๆ ก็ได้ ถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงไม่พ้นต้องทำเรื่องนี้ด้วยกันอยู่ดี แล้วจะให้ผมรออะไรอีกแกวคุณอยากให้ผมลงแดงตายเพราะต้องการคุณหรือไง” แต่ก็ถูกกายกำยำเขาทาบทับไว้ ส่วนมือขวาที่ใช้การได้ก็กำลังเลื่อนขอบกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกผายตึง “แต่เสียงนั่นค่ะ คุณฟังสิคะ” แม้จะเป็นเสียงแห่งความช่วยเหลือกำลังมาถึง แต่ปลัมน์ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และอยากฆ่าคนที่กำลังมาด้วย เพราะมันไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย “คุณหูฝาดไปเอง ผมไม่เห็นได้ยินอะไรสักนิด” เขางับยอดบัวงามไว้ในอุ้งปากแล้วดูดดื่มอย่างหิวกระหายและควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ “คุณปลัมน์คะ แต่เสียงนั่นใช่เสียงเครื่องบินหรือเปล่าคะ ฉันได้ยินค่ะ คุณฟังสิคะ”

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

บัวยั่วเพลิง

บัวยั่วเพลิง

นลพรรณ
5.0

"คุณจะทำอะไร" บัวบูชา ถามเสียงตื่น ถ้าเขายังรังแกกันอีก เธอจะสู้จนขาดใจ หากสิ่งที่เขาบอกนั้นทำให้หญิงสาวชะงัก ไม่มั่นใจว่าได้ยินถูกหรือเปล่า "ผมจะใส่กางเกงให้คุณ" "ไม่ต้อง ฉันไม่ให้คุณใส่" "นั่งนิ่งๆ เถอะ" แม็กซ์เวล ดึงข้อเท้าขาวสะอาดทั้งสองข้างเข้าหาตัวเอง จนเธอร้องวี้ด ถลารูดไปบนโซฟา แล้วยันกายขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล ขณะที่คนตัวใหญ่ตั้งหน้าตั้งตาจะสวมกางเกงยีนให้โดยไม่สนใจว่าเธออยู่ในสภาพไหน กระทั่งกางเกงยีนกระชับเรือนร่างถูกดึงผ่านสะโพกผายตึงและก้นงามงอนได้สำเร็จ มือแข็งแรงจึงรูดซิบแล้วติดกระดุมให้เป็นขั้นตอนสุดท้าย... ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ โดยที่สายตายังจับอยู่ที่ผลงานตัวเองอย่างพอใจ "เสร็จสักที ตอนถอดไม่เห็นยากอย่างนี้เลย"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1

25/02/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2

25/02/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3

25/02/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4

25/02/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5

25/02/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6

25/02/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7

25/02/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

25/02/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9

25/02/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10

25/02/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11

28/02/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12

28/02/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13

28/02/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14

28/02/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15

28/02/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16

28/02/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17

28/02/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18

28/02/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19

28/02/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20

28/02/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21

28/02/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22

28/02/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23

28/02/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24

28/02/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25

28/02/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26

28/02/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27

28/02/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28

28/02/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29

28/02/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30

28/02/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31

28/02/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32

28/02/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33

28/02/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34

28/02/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35

28/02/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36

28/02/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37

28/02/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38

28/02/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39

28/02/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40

28/02/2022